ระบบใช้จ่ายตอนที่206
บทที่ 206: การประชุมตระกูล (ตอนที่8)
“ทายาทผู้เข้าท้าชิงหมายเลข 108 หงต้าหลี่”
ผู้หญิงที่รับผิดชอบการออกอากาศที่โต๊ะประธานมองดูข้อมูลในมือของเธอและประกาศอย่างไม่แยแส “หงต้าหลี่ อายุ 18 ปี เพิ่งอายุครบ อันดับลูกหลานปี 2013: ไม่มี กำลังดำเนินโครงการดังต่อไปนี้: ไนท์คลับหนึ่งแห่ง โรงแรมสามแห่ง บ้านจัดสรรและอื่น ๆ” เธอไม่สามารถอ่านต่อได้อีกจนกระทั่งเสียงในตอนท้ายก็เธอพูดนุ่มนวลขึ้น “และมีสัตว์เลี้ยงทุกชนิดมีหลายตัว สุนัขจรจัดหลายตัว ได้ทำการซื้อภูเขาหนึ่งแห่ง,ทะเลสาบหนึ่งแห่ง ...
หลังจากนั้นใบหน้าของผู้หญิงคนนั้นก็เปลี่ยนเป็นสีแดงเพราะเธออาจจะกลั้นเสียงหัวเราะเอาไว้ ดังนั้นเธอจึงไปขอความช่วยเหลือจากผู้อาวุโสหงตูแทน “ท่านผู้อาวุโส ท่านแนะนำ…”
หลาน ๆ หลายคนเมื่อได้ยินก็หัวเราะ
“ฮ่าฮ่าฮ่า ๆ เขาสมควรถูกเรียกว่าอาเสี่ยหมายเลขหนึ่งของตระกูลเราจริง ๆ ตามที่คาดไว้ ใช้จ่ายได้โคตรเก่ง!”
“เฮ้อ เขาทำเรื่องน่าอายในตระกูลเราจริง ๆ เขาทำอะไรไม่คิดเลยนะ”
“ถ้าไม่ใช่เพราะเห็นแก่ผู้อาวุโสคนที่ห้า ฉันคิดว่าเขาคงเข้าห้องประชุมใหญ่นี้ไม่ได้ด้วย ซ้ำ”
“เฮ้อ ช่างเสียเปล่าที่เขามีภูมิหลังครอบครัวที่ดีเช่นนี้ ฉันไม่เข้าใจด้วยซ้ำว่าเขากลายเป็นคนแบบนี้ได้อย่างไร?”
“ใครจะรู้ชะตากรรมล่ะ ทุกอย่างมันไม่แน่นอนพอ ๆ กับสภาพอากาศ…”
แค่ก แค่ก! เมื่อได้ยินคำเยาะเย้ยและถอนหายใจของลูกหลานที่นินทามากมาย ใบหน้าของหงตูก็อดไม่ได้ที่จะเปลี่ยนเป็นสีแดง เขาไออย่างรุนแรงหนึ่งครั้งและในที่สุดเมื่อพวกเขาเงียบลง หงตูก็พูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมว่า “ต้าหลี่! ต้าหลี่! รีบลุกขึ้นมารายงานเดี๋ยวนี้!”
เขาเรียกเป็นครั้งแรก แต่ไม่มีใครยืนขึ้น เขาเรียกอีกสองครั้ง แต่ก็ยังไม่มีใครยืนขึ้น
เวลานี้ในห้องประชุมทั้งห้องเงียบลง ทุกคนก็ค้นหาไปทั่ว ทันใดนั้นลูกหลานก็ร้องอุทาน “เขาอยู่นี่!”
ทุกคนมองไปทางนั้นและหลังจากนั้นห้องประชุมทั้งห้องก็เงียบสนิท
เสียงเดียวที่ได้ยินคือเสียงกรนเบา ๆ ของหงต้าหลี่ “คร็ออก…คร๊อก…”
ทันใดนั้น แม้แต่หงตูก็กุมขมับ “นี่…นี่…”
ทันใดนั้นลูกหลานทุกคนก็หัวเราะออกมาโดยที่พวกเขาบางคนถึงกับหัวเราะจนหลังงอ และห้องประชุมทั้งห้องก็เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะที่แทบจะดังไปทั่วท้องฟ้า “ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!!!”
หงต้าหลี่: “คร๊อก…คร๊อก…”
หงเหว่ยกูไม่รู้ว่าจะร้องไห้หรือหัวเราะดี เขาต้องปลุกหงต้าหลี่ให้ตื่น แต่เขาก็รู้ว่าเขาควรปล่อยให้หงต้าหลี่หลับต่อไป ไม่เช่นนั้นเขาคงอายมาก เขาครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง จู่ ๆ เขาก็บอกผู้หญิงข้าง ๆ ที่รับผิดชอบร่วมงานว่า “ผมจำได้ว่ามีคนที่รับผิดชอบด้านการเงินของต้าหลี่อยู่ เธอเป็นผู้ติดตามของหงต้าหลี่ เธอชื่อว่าหลิงเสี่ยวหยี่ ผมได้ยินมาว่าเธอมีหน้าที่จัดการเรื่องทั้งหมดนี้ให้กับต้าหลี่ โทรหาเธอตอนนี้เลย”
"ได้ค่ะ" ผู้หญิงคนนั้นจากไปทันที อย่างไรก็ตามใบหน้าของเธอแดงมากขณะที่เธอเดินจากไป ในขณะที่ปิดปากแน่น เธอหัวเราะในขณะวิ่ง
“เอิ่ม!” หงตูกระแอมในลำคอ “เรื่องประจำวันของต้าหลี่ถูกจัดการโดยลูกน้องของเขา ทุกคนรอฟังกันก่อน”
ตอนนี้ผู้อาวุโสหงตูพูดแล้ว ลูกหลานก็ไม่กล้าที่จะทำอะไรเกินตัว อย่างไรก็ตามพวกเขายังคงสนทนากันด้วยเสียงเบา ๆ และหัวข้อของการสนทนาก็วนเวียนอยู่กับหงต้าหลี่ “เฮ้อ นี่คือการตัดสินครั้งสุดท้ายใช่ไหม?”
“จบแล้วแน่ ๆ ในตอนแรกเขามีโอกาสเล็กน้อย แต่ปัญหาอยู่ที่เขาซื้อบ้านจัดสรรจำนวนมาก บ้านจัดสรรพวกนี้จะเพิ่มมูลค่าได้มากแค่ไหนกัน?”
“ใช่ ๆ ฉันคิดว่าครั้งนี้เขาอาจจะล้มคนอื่นได้ เฮ้อ ชื่ออาเสี่ยอัจฉริยะบ้าบอ มันอาจจะอยู่กับเขาไปตลอดกาลแล้วแหละ”
ถ้าเป็นคนอื่นเขาคงจะขุดหลุมฝังตัวเองลงไปในตอนนั้น
อย่างไรก็ตามหงต้าหลี่หลับเร็วมาก “คร๊อก…คร๊อก…”
เขาไม่สนใจเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น แน่นอนว่าการประชุมประเภทนี้มีผลกับการสะกดจิตที่มีต่อเขา ก่อนหน้านี้เขาเกลียดการรายงานประเภทนี้มาก ยิ่งไปกว่านั้นมีคนมากกว่าร้อยคนในที่ประชุมและมันทำให้เขาได้รับการสะกดจิตที่น่าพึงพอใจ
เขาหลับไปทันทีและเขาก็ตื่น และตื่นขึ้นมาอีกครั้งหลังจากที่เขาหลับไป ...
หลังจากนั้นไม่นานประตูหลักของห้องประชุมใหญ่ก็ค่อย ๆ เปิดออกและหลิงเสี่ยวหยี่ก็เดินตามผู้หญิงที่เดินตามหาเธอเข้าไปในห้องประชุมใหญ่
ในห้องประชุม ณ เวลานี้ลูกหลานทุกคนกำลังกระซิบถึงหลิงเสี่ยวหยี่ หลายคนจำเธอไม่ได้และเมื่อเห็นเธอเข้ามาสักพัก ทุกสายตาก็หันไปหาเธอ …
หลิงเสี่ยวหยี่มองไปรอบ ๆ หลาน ๆ ในตระกูลหลายคนต่างเห็นอกเห็นใจและแน่นอนว่ายังมีอีกหลายคนที่รู้สึกเศร้าใจ
ไม่มีใครเต็มใจที่จะให้ความช่วยเหลือหรือสนับสนุน ตรงกันข้ามพวกเขามีความสุขที่ได้มองเหยียดเธอ
หลิงเสี่ยวหยี่สามารถรับรู้สถานการณ์ได้ส่วนใหญ่ เพียงแค่มอง
ดูเหมือนว่าพวกเขาทุกคนกำลังรอดูว่าท่านนายน้อยจะมีเรื่องตลกอะไรไหม เธอหัวเราะในใจ เธอไม่ได้พูดอะไรเพิ่มเติมและเดินเข้าไปในห้องแทบจะทันทีและทักทายผู้อาวุโสทั้งสามที่อยู่บนข้างหน้า “ดิฉันเป็นผู้ติดตามคนหนึ่งของท่านนายน้อยค่ะ ชื่อหลิงเสี่ยวหยี่ ยินดีที่ได้รู้จักท่านอาวุโสทั้งสามนะคะ”
เมื่อพูดจบ เสียงหัวเราะก็ดังขึ้นในห้องอีกครั้ง “ฮ่าฮ่าฮ่า จริง ๆ เธอกล้ายอมรับว่าเธอเป็นขี้ข้าของอาเสี่ยต้าหลี่คนนั้น ช่างน่าประหลาดจริง ๆ”
“ในเวลาแบบนี้และอายุเท่านี้ เธอกล้าที่จะประกาศว่าเธอเป็นขี้ข้าราวกับว่ามันเป็นสิ่งที่ดี…อย่างกับขนนกที่ร่วงมากองรวมกันเลยล่ะ”
“ไอ้โง่นั้นมีลูกน้องด้วยเหรอ? จะว่าไปต้าหลี่เป็นอาเสี่ย มันก็คงต้องมีสิ!”
เมื่อได้ยินสิ่งที่ลูกหลานของตระกูลหงพูดถากถาง หลิงเสี่ยวหยี่ก็เงียบและสงบสติในขณะที่เธอยิ้มและไม่มีท่าทางโกรธแม้แต่น้อย ขณะที่เธอยืนอยู่เงียบ ๆ และรอคำสั่งจากผู้ดำเนินงานเพื่อรายงานผล
หงตูจ้องมองไปที่เด็กสาวตรงหน้าเขาและแสดงความอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับสิ่งที่เธอเพิ่งพูด เขาไม่แน่ใจว่าเธอพูดจริงหรือไม่ที่บอกว่าเธอเป็น.. “ผู้ติดตามของท่านนายน้อย”
แค่ก แค่ก! หลังจากไออย่างรุนแรงสักพักและรอให้ทุกคนในห้องประชุมเงียบ หงตูพยักหน้าให้หลิงเสี่ยวหยี่และพูดว่า “คุณเสี่ยวหยี่ คุณน่าจะรู้เกี่ยวกับธุรกิจที่ต้าหลี่ลงทุนมากกว่าคนอื่นใช่ไหม? ไหนคุณลองอธิบายมาสิ”
“รับทราบค่ะ” หลิงเสี่ยวหยี่ยิ้มและโค้งคำนับให้หงตู หลังจากนั้นเธอก็รวบรวมความคิดของเธอและเริ่มรายงานเกี่ยวกับความสำเร็จในปัจจุบันของหงต้าหลี่
หลิงเสี่ยวหยี่มีความสามารถจริง ๆ ในฐานะที่เธอเป็นลูกน้องอันดับหนึ่งของหงต้าหลี่ เธอบอกรายละเอียดได้ดีมากในขณะที่เธอรายงานทุกอย่างที่หงต้าหลี่เริ่มก่อตั้งซื้อสิ่งต่าง ๆ “ท่านนายน้อยได้ซื้อไนท์คลับที่สี่แยกทิศตะวันตก เย่ไหลเซียง โดยที่ใช้เงินซื้อ 8 ล้านหยวนค่ะ” เมื่อได้ยินสิ่งที่เธอพูด ก็มีมืออาชีพเริ่มบันทึกเสียงเธอทันที
“อะแฮ่ม” หงตูพยักหน้าและถาม “แล้วผลประกอบการปีนี้ล่ะ? ขาดทุนหรือได้รับเงินไหม? เสียไปเท่าไหร่และได้รับผลกำไรเท่าไร?”
คำถามของเขาคือสิ่งที่ทุกคนกังวลอย่างที่พวกเขาคิด “มันจะไปมีกำไรได้ยังไง นั่นมันหงต้าหลี่นะเห้ย? ถ้าไม่ขาดทุนก็นับว่าโชคเข้าข้างแล้ว” นอกจากนี้ยังมีคนที่รอบรู้และแอบพูดว่า “หงต้าหลี่ไม่เคยประสบปัญหาใด ๆ เลย ฉันได้ยินมาว่าตอนนี้เย่ไหลเซียงเป้นที่นิยมจริง ๆ นะ”
หลิงเสี่ยวหยี่ยิ้มและพูดว่า “การหมุนเวียนของธุรกิจในปัจจุบันมีกำไรสุทธิ 50,000 หยวน กำไรสุทธิสำหรับรายปีประมาน 18 ล้านค่ะ”
หงตู: “…”
เมื่อหลิงเสี่ยวหยี่พูดอย่างนั้น คนที่อยู่ด้านล่างก็ตกตะลึงทันที
“นั่น…เป็นไปได้อย่างไร? กำไรสุทธิมากกว่า 200%? โกหกกันแล้ว!” มีแม้แต่คนที่ตะโกนออกมาอย่างสุดเสียง
“ไอ้บ้านั่นไม่ได้พยายามเลย เป็นไปได้อย่างไรที่จะได้ผลกำไรสูงขนาดนี้”
“ใช่ ๆ เราอยากให้ตรวจสอบปัญหานี้อย่างละเอียด!”
ในขณะเดียวกัน หงอันเปาก็หน้าซีดทันที
“นั่น…มันเป็นไปไม่ได้! มันมากเกินไปแล้ว! เย่ไหลเซียงมันควรที่จะย่อยยับสิ เป็นไปได้ยังไง บ้าไปแล้ว?!”
"เร็ว! ส่งคนตรวจสอบใบแจ้งยอดบัญชีด่วน! เร็ว ๆ ไป!" หงตูรู้สึกประหลาดใจเช่นกัน
หงต้าหลี่ซื้อเย่ไหลเซียงเพื่อถลุงเงินเท่านั้น แต่กลับได้กำไรมหาศาลขนาดนี้เลยงั้นเหรอ?
ประมาณห้านาทีต่อมาผู้ช่วยเหลือรีบโทรศัพท์เข้ามา หงตูกดปุ่ม "รับสาย" เจ้าหน้าที่ประเมินก็อุทานด้วยความประหลาดใจทางโทรศัพท์ “ท่านผู้อาวุโส มันเป็นความจริงครับ! เป็นเรื่องจริงทั้งหมด! ผมตรวจสอบบัญชี,ธนาคารบัญชี,ใบแจ้งยอดรายเดือน,บิลค่าใช้จ่าย มันเป็นความจริงทั้งหมด!”
ทุกคนต่างตกตะลึงทั้งหมด
นี่มัน…เรื่องจริงเหรอ?
หงตูมองไปทางหงต้าหลี่ที่กำลังหลับสนิท “คร๊อก…คร๊อก…”
หลังจากนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง หลิงเสี่ยวหยี่ก็ยิ้มและถามว่า “ท่านผู้อาวุโส ให้ดิฉันพูดต่อเลยไหมคะ?”
“พูดต่อ พูดต่อ!” แม้ว่าเขาจะเป็นผู้อาวุโส แต่หงตูก็อดไม่ได้ที่จะนั่งตัวตรง “ฉันกำลังฟังอยู่ พูดต่อเลย!”
“ท่านนายน้อยใช้เงิน 2.4 ล้านเพื่อซื้อเว็บไซต์นิยาย ซึ่งปัจจุบันรู้จักกันในชื่อเว็บไซต์จงเตียน รวมทั้งค่าธรรมเนียมในการโฆษณาและเงินเดือนของพนักงาน ซึ่งรวมมูลค่าการลงทุนทั้งหมดประมาณ 6 ล้าน” หลิงเสี่ยวหยี่พูดต่ออย่างช้า ๆ “มูลค่าการซื้อขายของธุรกิจในปัจจุบันอยู่ที่ 6 ล้านหยวนและมีกำไรสุทธิปีละ 720,000”
“นี่ยังปกติ ยังปกติ” หงตูชูถ้วยน้ำชาของเขาขึ้นและสูดลมหายใจ ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร อย่างน้อยก็ยังถือว่าเป็นเรื่องปกติ
ทุกคนที่อยู่ด้านล่างได้เรียนรู้บทเรียนของพวกเขาในครั้งนี้และไม่คิดที่จะเอะอะโวยวาย อย่างไรก็ตามยังมีคนจำนวนมากที่กระซิบนินทาอยู่
“นี่ยังถือว่าดี แต่อยู่ในระดับปานกลาง อย่างที่ฉันพูด เขาจะได้ผลลัพธ์ที่ดีทุกเรื่องได้อย่างไร จริงไหม?”
“นั่นก็จริง นี้ถือได้ว่าเป็นเรื่องธรรมดาเท่านั้น มูลค่าการลงทุน 6 ล้านและผลประกอบการ 720,000 หยวนต่อปีเทียบกับเย่ไหลเซียงไม่ได้ เพราะเย่ไหลเซียงได้ผลลัพธ์จากการที่เขาสร้างและพัฒนาได้ดีมาก่อนต่างหาก”
“ใช่แล้ว ใช่แล้ว เช่นเดียวกับที่ฉันพูด เขาไม่น่าจะโชคดีได้ตลอด
เมื่อได้ยินเช่นนั้น หงอันเปาก็ผ่อนคลายมากขึ้น
แม้แต่มู่หยูซีที่เป็นอัจฉริยะอันดับหนึ่งก็ถอนหายใจยาว ๆ ด้วยความโล่งอก
สำหรับการลงทุน 6 ล้านกำไรนี้ถือได้ว่าไม่ขาดทุน
ท้ายที่สุดถ้าพวกเขาทั้งหมดป่วยเหมือนกับคนที่มาจากเย่ไหลเซียง เธอก็ไม่มีความหมายที่จะเข้าร่วมอีกต่อไป เธอก็อาจจะเก็บของและหนีไป
แต่คราวนี้หลิงเสี่ยวหยี่ตั้งใจที่จะท้าทายอีกครั้ง “ในปัจจุบัน IP รายวันของเว็บไซต์จงเตียนมีมากกว่า 80,000 IP และหลายบริษัทต้องการที่จะขอโฆษณาบนเว็บไซต์ แต่ท่านนายน้อยปฏิเสธพวกเขาทั้งหมด”
เมื่อเธอพูดถึงจุดนี้ รอยยิ้มปีศาจก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธอ “โฆษณาเหล่านั้นมีมูลค่ารวมถึง 5.3 ล้านต่อปี หากไม่ส่งผลกระทบต่อการอ่านนิยายของผู้อ่านก็จะไม่เป็นปัญหาที่จะจำกัดจำนวนไว้ที่สองล้านคน”
พรู้ดดด!! หงตูพ่นน้ำชาออกมาทันที
นี้เป็นเพราะหงต้าหลี่ไม่ต่างการให้มีโฆษณาในเว็บไซต์ หากลงโฆษณา ต้าหลี่ก็สามารถทำเงินได้เพิ่มขึ้นเป็นกำไรมากกว่าสามล้านเลยด้วยซ้ำ?!