ระบบใช้จ่ายตอนที่204
บทที่ 204: การประชุมตระกูล (ตอนที่6)
หงต้าหลี่อาบน้ำและแต่งตัว เมื่อเขาออกมาจากห้องและไปที่ห้องอาหาร คนอื่น ๆ ก็รอเขาอยู่แล้ว ลี่เนียนเหว่ยพูดพร้อมรอยยิ้มว่า “นายน้อยค่ะ ตรงนี้ค่ะ มาทานอาหารกันค่ะ ท่านนายน้อย”
หงต้าหลี่นั่งลงและหยิบตะเกียบขึ้นมา “โอเค คราวหน้าไม่ต้องรอฉันนะ ฉันตื่นนอนเมื่อไหร่ก็กินตอนนั้นล่ะ”
ถังมู่ซินตักอาหารให้หงต้าหลี่ “นั่นคงต้องรอรอบหน้า วันนี้เป็นวันสำคัญ วันนี้นายต้องกินเยอะ ๆ นะ ไม่รู้ว่าการประชุมจะใช้เวลานานเท่าไหร่ อย่าหิวระหว่างการประชุมล่ะ”
หลังจากทานอาหารแล้ว ถังมู่ซินยังคงเตือนหงต้าหลี่ “ต้าหลี่ นายต้องพูดให้น้อยลงนะหลังจากที่นายเข้าไปข้างในเมื่อวาน ฉันเห็นได้ว่าญาติ ๆ พี่น้องของนายไม่ชอบนายเลย รักษาตัวนายเอาไว้ อย่าให้นายหน้าแตกไปกว่านี้ เผื่อว่าพวกเขาจะทำให้นายลำบากทีหลัง”
ลี่เนียนเหว่ยพยักหน้าเห็นด้วย "ใช่ค่ะ ท่านนายน้อย ท่านนายน้อยได้รับการยกย่องเสมอ ไม่น่าแปลกใจที่คนอื่น ๆ จะอิจฉา พวกเขาไม่มีเหตุผลที่พวกเขาอิจฉา ดังนั้นท่านนายน้อยต้องระวังเป็นพิเศษนะคะ”
หงต้าหลี่หัวเราะอย่างเมินเฉยและพูดว่า “ไม่ต้องกังวล ฉันจะงีบหลับอยู่แล้วตอนที่เข้าไปข้างใน ฉันจะไม่สู้พวกเขาแน่นอน ปล่อยให้พวกเขาพูดในสิ่งที่เขาอยากพูดเถอะ ฉันจะแสร้งทำเป็นว่าฉันไม่ได้ยินอะไรเลย คิดว่าโอเคไหมล่ะ?”
เมื่อเห็นว่าหงต้าหลี่เห็นด้วยกับเธอ ถังมู่ซินก็พูดอย่างมีความสุขว่า “ใช่แล้ว นายคิดดีแล้ว ต้าหลี่รับฟังคำแนะนำของคนอื่น นายนี้ดีกว่าก่อนหน้านี้เยอะเลยนะ!”
“มันแน่นอนอยู่แล้ว!”
ลี่เนียนเหว่ยและคนที่เหลือถูกกักขังในห้องและไม่สามารถออกจากที่นั่นได้ หงต้าหลี่และถังมู่ซินไม่ได้อยู่ภายใต้ข้อบังคับ แต่พวกเขาก็ไม่มีที่ไปอยู่ดี ดังนั้นหลังทานอาหารเช้าเสร็จ พวกเขาพักและเล่นไพ่ป๊อกและเล่นไพ่แลนด์ลอร์ดกับคนอื่น ๆ คนในกลุ่มต่างหัวเราะและสนุกสนานกันจนถึงบ่ายโมงครึ่ง ถังมู่ซินดูเวลา เธอก็ได้เก็บไพ่ทั้งหมดแล้วร้องเรียกว่า "ต้าหลี่เกือบถึงเวลาแล้ว นายระมัดระวังตัวด้วยนะ"
หงต้าหลี่เกาจมูก "ไม่มีปัญหา ฉันจะนอนจนกว่าการประชุมจะจบลง และเมื่อฉันกลับมาตอนดึก ไว้พวกเรามาเล่นกัน!”
ทุกคนเห็นด้วย "โอเค!"
หงต้าหลี่ตัดสินใจที่จะนอนในที่ประชุม เขาเดินออกจากประตูเพื่อไปยังห้องประชุม
ขณะที่เขาเดินออกมาคนเดียว หงต้าหลี่ก็คิดถึงสถานการณ์ของเขา ครอบครัวของเขามีใครหลายคนที่อิจฉาตาร้อน เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ผู้คนจะพูดถึงเขา คราวนี้เขาจะต้องพยายามไม่สร้างปัญหาใด ๆ และต้องผ่านการทดสอบให้ได้ ตามคุณสมบัติที่พวกเขาตั้งไว้ หวังว่าปู่หงตูจะอารมณ์ดี ปู่ก็อาจจะปล่อยคนของเขาได้
เขานึกถึงช่วงเวลาที่เขาอยู่ที่ทิศตะวันตกสี่แยกวงเวียนโดยมีผู้ติดตามทั้งเก้าเดินตามหลังเขาที่กำลังเดินจูงสุนัขพันธุ์ทิเบตัน โอ้ มันจะยิ่งใหญ่แค่ไหน
แต่ตอนนี้เขาอยู่คนเดียว เมื่อเปรียบเทียบสถานการณ์ทั้งสองแล้ว หงต้าหลี่รู้สึกไม่สบายใจ
ในไม่ช้าเขาก็ได้เดินเข้ามาในอาคารที่คุ้นเคย นั่นคือห้องประชุมขนาดใหญ่ที่ใช้จัดประชุมตระกูล
เขายังคงอยู่ห่างจากประตูหลัก เมื่อเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยดึงประตูให้เปิดออกและร้องเรียกหงต้าหลี่ “ท่านนายน้อยต้าหลี่มาแล้ว เชิญครับท่าน”
ดูเหมือนว่าความวุ่นวายที่เขาทำไปเมื่อวานนี้มีข้อดีอย่างน้อยข้อหนึ่ง ญาติ ๆ จำเขาได้อย่างง่ายดาย
หงต้าหลี่พยักหน้าและเดินเข้าไปในห้องประชุม
การประชุมตระกูลหงถือเป็นเรื่องใหญ่ ไม่มีใครในตระกูลกล้าที่จะพูดเบา ๆ และทุกคนมาถึงก่อนเวลาเพื่อรอการเริ่มต้นประชุม แม้แต่คนที่พึ่งมาถึงตอนเช้า หงต้าหลี่น่าจะเป็นคนแรกและคนเดียวที่เข้ามาช้า
ขณะที่เขาเข้ามาในห้องประชุมก็ได้ยินเสียงเบา ๆ พูดขึ้นมาว่า
“ต้าหลี่มาแล้ว เขามาสายมากและเขาก็พึ่งมาถึงที่นี่ เขาทำเกินไปแล้ว เขาคงไม่ได้อยากจะเข้าร่วมการประชุมจริงจัง”
“ดูเหมือนว่าเขาไม่มีความมั่นใจในตัวเองเลย แม้ว่าเขาจะมาเร็ว แต่เขาก็ไม่มีอะไรเตรียมตัวมาด้วย ดังนั้นเขาก็เลยมาช้าสินะ”
“โคตรเสียเวลาเลย ถ้าเป็นฉัน แม้ว่าฉันจะไม่ใช่คนที่มาคนแรก แต่อย่างน้อยฉันก็ต้องอยู่ในสามอันดับแรก”
“ถ้าฉันเกิดในครอบครัวเขา ฉันจะต้องได้ที่หนึ่งแน่”
หงต้าหลี่มองไปรอบ ๆ ห้องประชุมที่เต็มไปด้วยผู้เข้าร่วมอย่างน้อยสามร้อยคน โต๊ะก็เต็มไปหมด คนเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นสมาชิกที่อายุน้อยกว่าคนในครอบครัวที่อายุต่ำกว่าสามสิบปี แต่ก็มีสมาชิกที่มีอายุมากกว่าจำนวนมากที่ดูเหมือนพวกเขามาที่นี่เพื่อร่วมกับลูก ๆ
มันไม่ยากที่จะเข้าใจว่าทำไม การประชุมตระกูลหงครั้งนี้จะตัดสินจำนวนเงินที่พวกเขาจะได้รับสำหรับปีหน้า
คนใดที่โดดเด่นในตระกูลจะสามารถมีเงินทุนก้อนโต ในธุรกิจยิ่งลงทุนด้วยเงินทุนมากเท่าไหร่ ผลตอบแทนก็ยิ่งสูง การลงทุนหนึ่งแสนหยวนอาจสร้างรายได้ให้คุณสามหรือสี่หมื่นภายในหนึ่งปี การลงทุนหนึ่งล้านหยวนจะให้ผลตอบแทนห้าถึงหกแสนภายในหนึ่งปี ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อมีคนหลายร้อยล้านเข้ามาเกี่ยวข้องนั่นอาจหมายถึงรายได้ปีละหลายล้านหรือหลายสิบล้าน ใครล่ะจะไม่อยากได้ ใครจะกล้าปฏิเสธ?
ในห้องประชุมนี้มีคนคุ้นเคยค่อนข้างเยอะ คนแรกที่หงต้าหลี่เห็น คือ มู่หยูซี พี่สาวที่น่ารัก ซึ่งเขาพบเธอตอนที่ทะเลสาบเฟิงหยวนตอนที่เดินจูงสุนัข ใบหน้าของมู่หยูซีนั้นสวยงามและดูเหินห่างเหมือนเดิม เธอกำลังมองเขาอย่างไม่แยแส มู่หยูซีเป็นนักธุรกิจอัจฉริยะที่หาได้ยากในตระกูลรุ่นนี้ ดังนั้นเธอจึงนั่งใกล้แท่นด้านหน้าที่สุด
หน้าคุ้น ๆ อีกคนที่ดูเด็ก ๆ เขาอายุสิบแปดปี เขาดูหล่อ แต่สายตาของเขาเย็นชาและยิ้มอย่างเหยียดหยาม นั่นคือหงอันเปาที่อยู่กับมู่หยูซี สถานะของเขาต่ำกว่ามู่หยูซีและเขานั่งอยู่ในกลุ่มวัยรุ่น ทุก ๆ ครั้งเขาจะชี้ไปที่หงต้าหลี่และหัวเราะอะไรบางอย่าง เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้พูดอะไรดี ๆ แน่
หงอันเปาต่อต้านหงต้าหลี่ทุกครั้งที่มีโอกาสนั่งใกล้มู่หยูซี เขาจ้องมองที่หงต้าหลี่อย่างโกรธแค้น เขากัดฟันแน่นและมองด้วยสายตาอาฆาต น่าเสียดายที่เขาไม่มีความกล้าเหมือนหงต้าหลี่และไม่กล้าสร้างสถานการณ์อะไรอีก
แต่ก็ไม่เป็นไร คนอย่างหงต้าหลี่เก็บความโกรธไว้ได้เสมอ มาตีได้เลย ถ้ากล้าพอ
หงต้าหลี่ยิ้มและกระดิกนิ้วเล่นอย่างเงียบ ๆ นั่นทำให้หงอันเปาโกรธจนเขาต้องงอหัวลงและระงับความโกรธ แต่นี่คือห้องโถงประชุมขนาดใหญ่ หากทั้งสองคนเริ่มต่อสู้กันจะทำให้ทั้งคู่ถูกตัดสิทธิ์ออกจากการเลือกทายาทรุ่นใหม่ของตระกูล
หงต้าหลี่มองอย่างเหยียดหยาม การที่หงต้าหลี่มองแบบนั้น เขากล้าไม่น้อยเลย
มีอีกหลายคนที่อยู่แถวหน้า ด้วยออร่าและท่าทางที่มั่นใจในตัวเองของพวกเขา พวกเขาน่าจะเป็นผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่มีพรสวรรค์ มีแนวโน้มว่าพวกเขาจะอยู่ในอันดับต้น ๆ ในระหว่างการประชุมตระกูลนี้
ไม่น่าแปลกใจเลยที่ตระกูลหงสามารถเติบโตเป็นอาณาจักรได้ขนาดนี้ ไม่ต้องคำนึงถึงสมาชิกรุ่นเก่า แค่ดูจากข้อเท็จจริงที่ว่าสมาชิกรุ่นน้องเริ่มต้นธุรกิจก่อนเวลา ก็ทำให้ได้เปรียบอย่างไม่เป็นธรรม เห็นได้ชัดว่ารุ่นใหม่สามารถทำกำไรได้เกินคาด
สถานการณ์เป็นเช่นนั้น ในขณะที่หงต้าหลี่ประทับใจ แต่ก็ทำให้เขารู้สึกตลก
ที่นี่พวกเขาทุกคนต่างเป็นคู่แข่งกันทั้งหมด พวกเขาต่างแข่งขันกัน แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้ต่อสู้กันถึงขั้นฆ่ากันตาย แต่ก็เป็นไปได้ว่าคนที่ชนะก็จะได้รับมากกว่าคนที่แพ้
ด้านนอกห้องประชุม ทุกคนดูเป็นมิตรกัน แต่ก็อาจมีการแทงข้างหลังได้
ทำไมถึงคิดแบบนั้น? แล้วมันเกี่ยวอะไร?
หงต้าหลี่หัวเราะและเลือกที่นั่งด้านหลัง เมื่อนั่งลงแล้ว เขาก็หยิบโทรศัพท์ออกมาและเริ่มอ่านนวนิยาย เขาเตรียมตัวมาดี เขานำเสื้อเชิ้ตแขนยาวมาโดยเฉพาะ มันเป็นวิธีที่ดีที่เขาเอาเสื้อเชิ้ตมาเป็นหมอนเพื่องีบหลับในตอนที่เขาง่วงหลังจากอ่านนิยาย
เขาอ่านนิยายไปได้สักพัก เขาก็ได้ยินเสียงวุ่นวาย จากนั้นเสียงของพิธีกรก็ดังขึ้น "ถึงเวลาแล้วค่ะ ท่านอาวุโสทั้งสามคนมาถึงแล้ว”
เมื่อได้ยินคำประกาศ ทุกคนที่มาร่วมงานก็ลุกขึ้นยืนอย่างวุ่นวาย หงต้าหลี่มองข้ามไปและเห็นผู้อาวุโสทั้งสาม หงตู,หงเหว่ย และ หงหยิง ที่กำลังเข้ามาอย่างยิ่งใหญ่และนำผู้ติดตามกว่ายี่สิบคนเข้ามาด้วย
ทุกคนต่างส่งเสียงปรบมือกึกก้อง
“ทุกคนอยู่ที่นี่หมดแล้วใช่ไหม?” ปู่หงตูยกมือขึ้นและนั่งลง ก่อนที่จะพูดว่า “ทุกคนนั่งได้”
ทุกคนนั่งลง
เมื่อหงตูและคนอื่น ๆ นั่งลงแล้ว พิธีกรก็ประกาศเสียงดัง “การประชุมเพื่อคัดเลือกทายาทที่โดดเด่นที่สุดจะเริ่มขึ้นแล้ว”
พร้อมกับเสียงประทัดด้านนอกการประชุมตระกูล การประชุมหาทายาทตระกูลหงรุ่นใหม่ได้เริ่มขึ้นแล้ว
ถึงคราวที่ผู้อาวุโสหงตูจะกล่าวสุนทรพจน์ สุนทรพจน์ของเขาดำเนินต่อไปประมาณสิบนาที กระตุ้นให้ลูกหลานเตรียมตัวเสนอธุรกิจที่พวกเขาทำ ตระกูลจะไม่ทุ่มทุนให้ลูกหลานที่เต็มใจทำงานหนักได้อย่างไร หงต้าหลี่ก้มหน้าอ่านนิยายของเขาอย่างเงียบ ๆ และได้ยินเพียงเศษเสี้ยวของเสียงเท่านั้น
เมื่อผู้อาวุโสหงตูพูดจบก็ถึงตาที่ผู้อาวุโสคนที่สองหงเหว่ยพูดบ้าง หงเหว่ยพูดกระชับมากขึ้น คำพูดของเขาใช้เวลาเพียงนาทีเดียว สิ่งนี้ทำให้ลูกหลานยอมรับในตัวเขา
หลังจากนั้นผู้อาวุโสคนที่สามหงหยิงได้ประกาศเริ่มการคัดเลือกทายาทที่โดดเด่นที่สุดของตระกูล นั่นเป็นสัญญาณการเริ่มต้นของเหตุการณ์จริง
กล่าวได้ว่าการประชุมตระกูลครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นการแข่งขันที่ดุเดือด แต่ยังเป็นทางการอีกด้วย แม้แต่หงต้าหลี่ก็พักฟังผู้อาวุโสพูด แม้ว่าเขาจะไม่สนใจในการประกาศ แต่เขาก็ยังเป็นสมาชิกของตระกูลหงและอย่างน้อยก็ควรรู้ว่าเหตุการณ์จะดำเนินต่อไปอย่างไร ...
จากนั้นเขาก็เห็น…เลขาสาวหน้าตาดียืนอยู่ด้านข้าง เธอติดไมโครโฟนไว้ที่หูของเธอและประกาศว่า “หงเทียนหยัง ทายาทผู้เข้าชิงคนแรกของเรา”
“หงเทียนหยัง อายุ 23 ปี อยู่ในอันดับที่ 36 ในปี 2556 ได้รับเงินลงทุนสองล้าน โครงการปัจจุบัน: โรงแรมระดับกลาง 1 แห่ง,ยิมออกกำลังกาย 1 แห่ง และ โรงอาบน้ำ 1 แห่ง สถานะการลงทุน: โรงแรมลงทุน 700,000 ผลตอบแทนประจำปี: 420,000 ยิมออกกำลังกายลงทุน 300,000 ผลตอบแทนต่อปี: 170,000 โรงอาบน้ำลงทุน 660,000 ผลตอบแทนต่อปี: 390,000 เงินที่เหลือทั้งหมดถูกนำไปใช้ส่วนตัว ผลลัพธ์: ผลตอบแทนประจำปีได้ 49% เทียบเท่ากับการเพิ่มขึ้น 12% ของมูลค่าทั้งหมด โปรดแสดงความยินดีให้แก่หงเทียนหยัง ที่ตอนนี้เขาได้เสนอธุรกิจของเขาด้วยครับ”
หงต้าหลี่เงียบ เขาไม่ได้พูดอะไรและฟังเงียบ ๆ เขาไม่ควรดูถูกสมาชิกในตระกูลของเขา แม้แต่คนที่อยู่ในอันดับที่ 36 ก็สามารถทำกำไรสุทธิประจำปีได้ถึง 49% มันไม่ใช่ความสำเร็จเล็ก ๆ
เมื่อหงเทียนหยังลุกขึ้น หงต้าหลี่ก็รู้สึกโล่งอก จะว่าไปชายคนนี้ไม่ใช่พี่ชายผู้โชคร้ายที่หงหยูเฟยปาส้มใส่หน้าเหรอ?
หงเทียนหยังลุกขึ้นยืนและรายงานอย่างเคร่งขรึม เขาโค้งคำนับให้ทุกคนที่นั่งรอบ ๆ ก่อนจะพูดว่า: “ในปีที่จะถึงนี้ผมคิดอยากจะพัฒนาคลับส่วนตัวด้วยครับ”