ระบบใช้จ่ายตอนที่203
บทที่ 203: การประชุมตระกูล (ตอนที่5)
หวังต้าหมิงเมื่อได้ยินเรื่องนี้ เขาก็หัวเราะ "ใช่ไหมล่ะ? ตอนนั้นฉันไม่รู้เลยว่าเขาเป็นหลานชายของนาย ฉันรู้สึกว่านายน้อยต้าหลี่ดูเป็นคนดี เขาไม่มีมาดเหมือนลูกชายตระกูลที่มีอิทธิพลคนอื่น ๆ เขาเป็นมิตรและไม่ทำความเดือดร้อนให้ใคร หลังจากที่ได้พูดคุยกับเขาแล้ว ฉันก็คิดว่ามันก็ดีนะที่ได้ติดตามเขา การทำงานในร้านทำผมไม่ค่อยน่าสนใจ ความจริงก็คือฉันได้รับเงินจากเขาด้วย”
หงตูส่ายหัว “เด็กคนนี้โชคดีจริง ๆ ทำอะไรก็โชคดีไปหมด เขาเป็นคนมีดวงและคงสนุกสนานกับชีวิตของตนพอควร”
หงเหว่ยและหงหยิงต่างก็พยักหน้าพร้อมกัน
หวังต้าหมิงถอนหายใจ “ทุกคนบอกว่าเขาเป็นเด็กเกเรเอาแต่ใจ แต่ตอนที่ฉันเห็นเขา เขาเป็นคนฉลาด เขามีไหวพริบและไม่อยู่กับสิ่งเล็ก ๆ อีกทั้งเขายังมีทัศนคติที่ดี มีเมตตา ตามที่กล่าวไป เราต้องยอมให้คนอื่นใช้ประโยชน์จากพวกเขาในบางครั้งเพื่อให้ตัวเองมีความสุขกับชีวิต เราต้องเต็มใจที่จะสละบางสิ่งเพื่อจะได้ประโยชน์จากผู้อื่น ฉันเพิ่งเริ่มเข้าใจความหมายนี้เมื่ออายุมากขึ้นและเด็กคนนั้นก็รู้แล้ว”
หงตูตีต้นขาของเขาและหัวเราะหลังจากได้ยินสิ่งที่หวังต้าหมิงพูด "ฮ่าฮ่าฮ่า นี้คือสิ่งที่เกิดขึ้นสินะ เด็กคนนี้ค่อนข้างฉลาด ไม่อย่างนั้นฉันคงไม่ให้ความสำคัญกับเขามากขนาดนี้”
หวังต้าหมิงยิ้ม “ทำไมนายคิดว่าทุกคนรอบตัวเขาถึงดีกับเขาล่ะ?” ทันใดนั้นเขาก็ได้ถามว่า "เมื่อพูดไปอย่างนี้ ฉันรู้สึกว่านายไม่ค่อยเป็นมิตรกับคู่พ่อลูกตรงนั้นเลยนะ ทำไมถึงเป็นแบบนั้นล่ะ?"
หงตูถอนหายใจและพูดว่า “นายหมายถึงเจียนหยี่และลูกชายของเขาใช่ไหม? ทั้งเจียนหยี่และเหว่ยกูเป็นลูกชายของฉัน ฉันเลี้ยงดูพวกเขาทั้งสองมาเป็นอย่างดี น่าเสียดาย แม้ว่ามังกรจะมีลูกชายเก้าคน แต่ละคนก็จะแตกต่างกันไป เหว่ยกูเป็นคนใจกว้างและมีเมตตา เจียนหยี่กลับตรงกันข้ามกันโดยสิ้นเชิง เขาเป็นคนขี้น้อยใจและเอาแต่ใจ ในอดีตเหว่ยกูเก่งทางธุรกิจมากกว่า ดังนั้นฉันจึงให้เงินทุนแก่เขามากขึ้นเพื่อให้เขาได้เล่นและได้ศึกษา แต่เจียนหยี่กลับไม่พอใจ เขาโกรธในเรื่องเล็กน้อยแบบนี้”
“ลูกชายของเขา อันเปามีนิสัยเหมือนกับพ่อของเขา พวกเขาทั้งสองไม่เคยยอมคน พวกเขาเอาแต่ใจและยังขี้เหนียว เฮ้อ ไม่มีอะไรที่ฉันสามารถทำได้ มันยากที่จะเข้าใจพวกเขา เพราะพวกเขาเป็นแบบนั้นเสมอมา”
นี่เป็นเรื่องครอบครัวของพวกเขาและไม่ใช่สิ่งที่หวังต้าหมิงควรจะเข้าไปยุ่ง ดังนั้นเขาจึงเปลี่ยนเรื่อง "ใช่ นายพูดถูกเลย มันก็จริง การที่เป็นเสือดาวจะให้เปลี่ยนเป็นอย่างอื่นมันคงยาก ไม่แปลกใจที่นายเอ็นดูต้าหลี่ เรื่องครอบครัวเป็นเรื่องยากที่จะแก้ไข ฉันเองก็มีปัญหาเหมือนกัน เห็นไหมว่าฉันมีลูกศิษย์ เขาต้องการที่จะท้าทายฉันเพื่อดูว่าใครจะแข็งแกร่งกว่า แต่พวกเราทั้งสองคนก็ไม่สามารถเอาชนะอีกฝ่ายได้ ท้ายที่สุดเขาพูดว่าเราควรลองสร้างสถานการณ์เพื่อดูว่าคนไหนดีกว่า ฉันกังวลว่าศิษย์ของฉันจะสร้างปัญหาให้กับต้าหลี่น่ะสิ”
หงตูพยายามนึกและก็อุทานขึ้นมาว่า “ลูกศิษย์ของนาย? กองทัพวานรเหรอ?”
หวังต้าหมิงพูดว่า “ใช่แล้ว นั่นคือเขา ชื่อของเขา คือ หมีเหล็ก เขาได้ฝึกฝนและผลักดันร่างกายให้เชี่ยวชาญในทักษะ เขามีกล้ามเนื้อที่เป็นดั่งเสื้อกั๊กเหล็ก ด้วยความสัตย์จริง เขาไม่สามารถเอาชนะฉันได้ แต่ถ้าฉันใช้มือเปล่า มันก็ไม่ง่ายเลยที่จะตอบโต้เขาได้เช่นกัน เมื่อมีทักษะป้องกันถึงระดับหนึ่งแล้ว พวกเขาสามารถหาจุดอ่อนอื่น ๆ ของผู้ใช้ได้ ฉันกังวลว่าเขาอาจจะทำร้ายต้าหลี่”
หงตูส่ายหัวและพูดว่า “หวังว่าจะไม่มีอะไรเลวร้ายเกิดขึ้นนะ ร่างกายของต้าหลี่ไม่ค่อยแข็งแรง เขาไม่ควรเจออะไรแบบนี้”
“ฉันรู้ นี่คือสาเหตุที่ฉันจงใจรับศิษย์อีกคนมา เขาชื่อ มู่ซีเซียว หวังว่าเขาจะได้ช่วยเหลืออะไรได้บ้าง” หวังต้าหมิงหัวเราะ “เราจะทำในสิ่งที่ทำได้และจะทำให้ดีที่สุด นี้คือทั้งหมดที่เราทำได้ในตอนนี้”
หงหยิงซึ่งอยู่ข้าง ๆ พวกเขาก็ให้คำแนะนำ "เอ่อคือว่า… ท่านทั้งสองคนหยุดพูดเรื่องที่น่าหดหู่แบบนี้ได้แล้วนะครับ ดื่มน้ำชากันเถอะ ตอนนี้เราควรพักผ่อนกันดีกว่า"
…
ในห้องพักที่กว้างขวางแห่งหนึ่งของที่ดินตระกูลหง หงอันเปากำลังโกรธ เขาเหวี่ยงหมอนไปมาด้วยความโกรธ เขาพูดอย่างฉุนเฉียวว่า “โมโหจริงโว้ย! แม่งเอ้ย! ทำไมทุกคนถึงเข้าข้างไอ้ต้าหลี่ขนาดนั้น? ทำไม? ฉันด้อยกว่ามันตรงไหน?”
หงเจียนหยี่ขมวดคิ้ว “อันเปา ต้าหลี่ก็อยู่ในการชิงตำแหน่งทายาทรุ่นใหม่ในตระกูลนะ ลูกมั่นใจแค่ไหนที่จะชนะต้าหลี่? เมื่อไม่นานมานี้ต้าหลี่กำลังคลุกคลีอยู่กับงานบางอย่าง ดูเหมือนว่ามันจะทำได้ดีด้วย”
หงอันเปาบ่น “ไอ้ต้าหลี่เป็นคู่แข่งที่น่ารำคาญที่สุดของผมในตอนนี้เลย ผมคิดว่าตอนที่ผมหกล้มมันจะถูกตัดสิทธิ์ในวันนี้ ใครจะไปรู้ว่ามันจะมาเข้าร่วมประชุมด้วย คิดจะสละสิทธิ์อยู่ดี ๆ ก็กลับเปลี่ยนใจแบบนี้? และปู่ก็ดันเข้าข้างมันด้วย ปู่เมินเฉยกับการแสดงตลกของมัน ถ้าไม่อย่างนั้นมันคงถูกไล่ออกไปแล้ว แต่ลูกน้องของมันดันพังประตูเข้ามาซะก่อน”
หงเจียนหยี่พูดช้า ๆ ว่า “เอาล่ะ หยุดพูดได้แล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นมันเกิดขึ้นไปแล้ว ไม่มีอะไรที่จะต้องพูดถึงมันอีก พรุ่งนี้เป็นวันเลือกทายาทรุ่นใหม่ของตระกูล ทำให้ดีที่สุดก็พอ พ่อแอบดูบัญชีไว้แล้ว รางวัลที่ 1 จะได้รับเงินลงทุน 100 ล้าน รางวัลที่ 2 จะได้รับเงินลงทุน 80 ล้าน ถึงลูกจะไม่มีโอกาสชนะมากนัก แต่รางวัลที่ 3 จะได้รับเงิน 50 ล้าน นั่นก็ไม่น่าจะเป็นปัญหาสำหรับลูกนะ รางวัลสุดท้ายจะได้รับเงินประมาน 20 ล้าน มันต่างเกินไป ดังนั้นเราต้องพยายามให้มากกว่านี้!”
“ผมรู้ ผมได้เตรียมข้อเสนอสำหรับเครื่องดื่มชูกำลังกระทิงแดงของเราไว้แล้ว สิ่งที่ผมต้องทำ คือ นำเสนอให้ถูกต้องเมื่อถึงเวลาและทุกอย่างมันจะดีเอง”
“ใช่แล้ว ต้าหลี่ยังไม่มีข้อเสนอทางธุรกิจ ลูกมีโอกาสแล้วล่ะ”
"ผมรู้"
"ก็ดี ตอนนี้พักผ่อนเถอะ"
…
ณ ห้องคับแคบแห่งนี้
อาจเรียกได้ว่าเป็นห้องคับแคบ แต่หงตูไม่ได้ทำร้ายหวังหมิงหยูหรือคนอื่น ๆ พวกเขาอยู่ที่เกสต์เฮาส์สองชั้นหลังใหญ่ที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ในเกสต์เฮ้าส์มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ไม่มีใครออกไปได้ แต่มันก็เป็นสถานที่ที่ค่อนข้างสะดวกสบาย
หงตูบอกว่ามันเป็นรางวัลสำหรับการปกป้องเจ้านายอย่างต้าหลี่ของพวกเขาอย่างซื่อสัตย์ แต่เป็นการลงโทษที่พวกเขาทำลายข้าวของ การกักขังคือการลงโทษและสภาพแวดล้อมที่งดงามเป็นรางวัล
ถังมู่ซินนั่งอยู่บนเตียงพูดอย่างโกรธ ๆ ว่า “ต้าหลี่ พวกเขาจะคัดเลือกทายาทรุ่นใหม่ในวันพรุ่งนี้แล้วนะ ทำไมนายถึงไม่กังวลอะไรเลย?” เด็กสาวที่มีความสามารถและเป็นธรรมคนนี้รู้สึกกังวลแทนหงต้าหลี่
แน่นอนว่าเธอแค่พูดเรื่องที่ผ่านมาเมื่อกี้ ไม่น่าเป็นไปได้ที่หงต้าหลี่จะเปลี่ยนทัศนคติของเขาเพราะคำพูดของเธอ เว้นแต่ดวงอาทิตย์ขึ้นจากทิศตะวันตก
ตามที่คาดไว้หงต้าหลี่ก็นอนหนุนตักลี่เนียนเหว่ยเหมือนเดิม เขาไม่แสดงอาการเครียดอะไรเลย ทั้ง ๆ ที่การประชุมตระกูลกำลังจะมาถึง เขานอนแทะเมล็ดทานตะวันอย่างสบาย ๆ แล้วพูดพร้อมกับหัวเราะว่า “ฉันไม่ได้วางแผนที่จะเข้าร่วมการแข่งขันอยู่แล้ว ทำไมฉันต้องกังวลด้วยล่ะ?”
ถังมู่ซินก็ได้พูดขัดหงต้าหลี่ “แต่… แต่…” อย่างไรก็ตามลี่เนียนเหว่ยเข้าใจ เธอยิ้มและพูดว่า “ท่านนายน้อยไม่ได้เป็นคนเห็นแก่ตัว เขาไม่สนใจชื่อเสียงหรือโชคลาภ ดังนั้นเขาไม่จำเป็นต้องกังวลค่ะ ซินซิน ท่านหญิงไม่ต้องกังวลนะคะ ไม่มีอะไรให้กังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้เลยค่ะ”
ถังมู่ซินคิดและตระหนักว่าไม่มีอะไรที่เธอสามารถทำได้ เธอจึงนั่งลง "ก็จริง"
คราวนี้หงต้าหลี่ก็ได้พูดว่า “จริง ๆ แล้วฉันไม่ได้กังวลอะไรเลย ในทางกลับกัน เนียนเหว่ยและคนอื่น ๆ จะออกจากที่นี่ได้หลังจากต้องอยู่ที่นี้สามเดือน! แล้วฉันจะทำอะไรในช่วงสามเดือนนี้ละ?”
เมื่อเธอได้ยินคำบ่นของหงต้าหลี่ ดวงตาของถังมู่ซินก็สว่างขึ้น "ฉันคิดออกแล้ว! ต้าหลี่ นายพูดว่าถ้านายสามารถชนะและครอบครองตำแหน่งได้ นายจะไม่ได้รับประโยชน์อะไรบ้างเลยเหรอ?”
เมื่อได้ยินเช่นนั้นหงต้าหลี่ก็ลุกขึ้นนั่งทันที เขาพูดอย่างมีความสุข “เอ๊ะ? ฉันคิดว่า เธออาจจะคิดถูกจริง ๆ บอกฉันมาสิ ฉันควรทำยังไง?”
ถังมู่ซินคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ในใจของเธอก็ว่างเปล่า “นายควร…ช่างเหอะ ฉันไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกัน แค่ปล่อยมันไปตามนั้น”
“เอิ่ม…” ขณะที่หงต้าหลี่กำลังฟังและทุกคนกำลังคิดไอเดียดี ๆ อยู่ จู่ ๆ โทรศัพท์มือถือของหงต้าหลี่ก็ดังขึ้น หงต้าหลี่หยิบมันขึ้นมาดูที่หน้าจอและใบหน้าของเขาก็มีรอยยิ้ม เขารับโทรศัพท์ "สวัสดีครับพ่อ พ่ออยู่ไหน? ผมมาถึงที่นี่แล้ว”
ในอีกด้านหนึ่งของสาย หงเหว่ยกูหัวเราะเบา ๆ “ต้าหลี่ทุกอย่างโอเคไหม? ก่อนหน้านี้พ่อไม่ได้บอกลูกเกี่ยวกับการประชุมตระกูล เพราะพ่อไม่ต้องการให้ลูกกังวล สิ่งที่ลูกต้องทำก็แค่เดินไปห้องประชุม ไม่ต้องกังวลนะ มีใครรังแกลูกหรือเปล่า?”
หงต้าหลี่ตอบอย่างชัดเจน "ไม่! พวกเขาโชคดีมากกว่าที่ผมไม่รังแกพวกเขา พ่อจะมาที่นี่เมื่อไหร่เหรอ?”
หงเหว่ยกูพูดจากปลายสายว่า “พ่อน่าจะไปถึงตอนเย็นวันพรุ่งนี้ มีประชุมสำคัญสองสามอย่างที่พ่อต้องเข้าร่วมประชุมที่บริษัท การประชุมสำหรับตระกูลใหญ่รุ่นพ่อคือวันมะรืนนี้ พ่อเลยไม่ไปวันนี้ ลูกดูแลตัวเองด้วยนะ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นให้โทรหาพ่อทันทีนะ เข้าใจไหม?”
หงต้าหลี่เกาจมูก "ผมเข้าใจแล้วครับ" เขาวางแผนที่จะถามเกี่ยวกับเกณฑ์การเลือกทายาทรุ่นใหม่ แต่หลังจากคิดบางอย่างได้ หงต้าหลี่เลยตัดสินใจว่าไม่มีอะไรที่จะต้องถาม เขาไม่มีเวลาเตรียมตัวแล้ว แม้ว่าเขาจะรู้ก็ตาม อะไรที่เขาไม่รู้ ก็จะไม่ทำให้เขาเดือดร้อน “ที่นี่ดีมาก ไม่ต้องกังวลนะ พ่อ”
หงเหว่ยกูเตือนเขาอีกครั้ง "โอเค พักผ่อนเถอะ จำไว้ว่าอย่าเถียงผู้ใหญ่ ไปหาเรื่องพวกนั้นก็เหมือนเสียเวลาเปล่า”
"โอเค ผมเข้าใจแล้ว!"
ฉันจะไม่เถียงกับใคร ฉันจะทำตัวเป็นปกติแล้วให้ทุกคนต่อสู้กันเอง
หลังจากวางสาย หงต้าหลี่ก็ยักไหล่ “โอเค สำหรับตอนนี้ ทุกคนอยากทำอะไรก็ทำเลย ฉันจะไปนอนพัก”
ดังนั้นทุกคนจึงกลับไปที่ห้องเพื่อพักผ่อน
มันช่างเป็นคืนที่เงียบสงบ
…
เช้าวันรุ่งขึ้น ญาติ ๆ ครอบครัวอื่น ๆ ทุกคนตื่นแต่เช้าเพื่อเตรียมเอกสารสำหรับการประชุมโดยหวังว่าจะได้เปรียบคนอื่น ๆ และได้รับเงินทุนสำหรับการลงทุนธุรกิจของตัวเองมากขึ้น อย่างไรก็ตาม หงต้าหลี่ยังนอนหลับต่อ
หงต้าหลี่ลืมตาขึ้นอย่างหงุดหงิดและสำรวจรอบ ๆ ตัว “กี่โมงแล้ว…โอ้ นี่ไม่ใช่บ้านฉันนิ”
เขาเงยหน้าขึ้นมองนาฬิกาเคลือบทองที่แขวนอยู่บนผนังแล้วพลิกกลับไปบนเตียง “แค่เก้าโมงสามสิบนาทีเองเหรอ ฉันของีบต่ออีกหน่อยละกัน อ่า พอไม่ใช่บ้านตัวเองแล้วหลับดีแบบนี้ ขอนอนต่ออีกหน่อยแล้วกัน…”
ขณะที่เขากำลังเตรียมตัวจะกลับไปนอนต่อก็ได้ยินเสียงคนเคาะประตูห้องของเขา เสียงของถังมู่ซินร้องเรียก “ต้าหลี่ตื่นเร็ว ไปทานอาหารเช้ากัน หลังทานอาหารเช้าเสร็จ เราต้องเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการประชุมตระกูลตอนบ่ายสองวันนี้!”
ประชุมตระกูล? หงต้าหลี่สับสนอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นเขาก็จำได้
เขามาที่นี่เพื่อเข้าร่วมการประชุมตระกูลหรืออะไรสักอย่าง เฮ้อ เขาไม่อยากเข้าร่วมประชุมเลยจริง ๆ การประชุมที่แสนน่าเบื่อไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับอาเสี่ยอย่างเขาเลย พวกเขาทุกคนเข้าร่วมประชุมโดยไม่มีหงต้าหลี่ก็ได้ นอกจากนี้ต้าหลี่รู้ตัวดีว่าเขาสร้างความสับสนเมื่อวานนี้และทำให้หลายคนไม่พอใจในที่ประชุม
หงต้าหลี่จึงตอบอย่างเรียบเฉยว่า “ฉันไม่ไป…”
ถังมู่ซินพูดว่า "นายคิดอะไรอยู่? รีบ ๆ ตื่นเร็ว หลังจากกินข้าวเสร็จ ไปเดินเล่นข้างนอกกันเถอะ”
หงต้าหลี่ลุกขึ้นอย่างเฉื่อยชาและเปลี่ยนเสื้อผ้า “โอเค ฉันกำลังไป หยุดเร่งฉันสักที…”