ระบบใช้จ่ายตอนที่202
บทที่ 202: การประชุมตระกูล (ตอนที่4)
ปัญหา คือ หงต้าหลี่สามารถพูดถูไถได้อย่างเต็มที่และเขาก็ทำได้ดี หลังจากพูดไปแบบนั้น หงต้าหลี่มองไปที่หงเจียนหยี่และหงอันเปาแล้วยิ้ม เขาพูดว่า "ผมรู้ว่าสิ่งที่ลุงเจียนหยี่พูดนั้น มันก็จริง พวกเราไม่สามารถเพิกเฉยต่อกฎของตระกูลได้ ผมก็รู้ว่ามันไม่ดีที่ผมขอลาการประชุมในครั้งนี้ ดังนั้นผมจึงตัดสินใจที่จะเข้าร่วมประชุม ผมขอโทษสำหรับสิ่งที่เกิดขึ้น ที่ทำให้พี่ชายอันเปาลื่นล้ม แต่ผมขอสาบานกับพระเจ้า ผมไม่มีแรงพอที่จะทำร้ายเขาจนล้มได้แน่นอน”
หงอันเปาโกรธและดุดัน "แก!" หงต้าหลี่ทำหน้าต้าไร้เดียงสาและพูดว่า “จริง ๆ นะพี่อันเปา ผมไม่มีทางที่จะทำให้พี่ลื่นล้มได้ แม้ว่าเราจะชนกัน แต่ผมก็ต้องเป็นคนที่ลื่นล้มแทนอยู่ดี ใช่ไหมล่ะ?”
เหตุผลของหงต้าหลี่นั้นน่าเชื่อกว่าการบันทึกสดเสียอีก
ญาติสิบถึงสิบเอ็ดคนไม่เชื่อว่าหงต้าหลี่ทำหงอันเปาลื่นล้มได้
อันที่จริงหงเหว่ยหมุนลูกบอลในมือและเขาก็พยักหน้า “ต้าหลี่พูดถูก อัยยา อันเปา หลานต้องระมัดระวังมากกว่านี้ ถ้าหลานทำให้ต้าหลี่ลื่นล้มกับพื้นและหากเกิดอะไรขึ้นกับต้าหลี่ ลุงหงเหว่ยกูคงจะไม่มีวันให้อภัยหลาน”
แม้ว่าหงเหว่ยจะยิ้มกว้างตั้งแต่ปากจรดหู แต่เขาก็เข้าใจสถานการณ์นี้ได้ดี
ได้ยินว่าจากหงเหว่ยเป็นผู้อาวุโสคนที่สอง หงอันเปาก็เหงื่อแตก "โอ โอเค ผมเข้าใจแล้ว" ในขณะนั้นเขาทำได้แค่กำหมัด เขาปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ได้ดี หงอันเปาก็ได้เดินไปหาหงต้าหลี่เพื่อที่จะขอโทษ “ต้าหลี่ ก่อนหน้านี้ฉันเข้าใจนายผิดไป ได้โปรดอย่าถือโทษโกรธฉันเลยนะ เป็นความผิดของฉันเองที่ประมาท ฉันจะระมัดระวังตัวให้มากกว่านี้ ฮ่า ฮ่า ๆ”
หงต้าหลี่แสยะยิ้มและมองทุกคนอย่างเป็นมิตร “พี่อันเปา ไม่ต้องซีเรียสหรอก ในอนาคตผมก็ยังคงต้องให้พี่อันเปาดูแล ร่างกายของผมอ่อนแอ ผมทำได้แค่ขอให้พี่อันเปาคอยช่วยเหลือ”
หงอันเปาฮึดฮัดอย่างไม่พอใจและหันกลับมาโดยไม่พูดอะไร
เมื่อเห็นว่าหงต้าหลี่แสดงละครเก่ง หงเจียนหยี่ก็โกรธมากจนมุมปากของเขากระตุก เขากลอกตาและความคิดก็แวบเข้ามาในใจของเขา หงต้าหลี่ไม่ควรล้อเลียนแบบนี้ จากนั้นเขาก็มองไปที่ญาติ ๆ ที่อยู่รอบ ๆ ตัวหงต้าหลี่และไล่ให้ออกไป "พี่ใหญ่ เนื่องจากนี้เป็นเรื่องเข้าใจผิด เราลืม ๆ ไปเถอะ แต่เรายกโทษให้คนของต้าหลี่ไม่ได้ ต้องให้พวกเขาออกมาขอโทษ"
หงตูให้โอกาสหงต้าหลี่ เขาให้ความสำคัญกับต้าหลี่ ตั้งแต่ต้าหลี่ยังเด็ก แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าทุกคนจะได้ความรักแบบเดียวกัน เขาหันกลับมาทันทีและมองไปที่หวังหมิงหยูและคนอื่น ๆ และพูดอย่างเย็นชาว่า “ต้าหลี่เป็นหลานที่รักของฉัน แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าฉันจะให้โอกาสขนาดนั้น ในวันนี้คุณเหยียบย่ำคฤหาสน์ตระกูลหง ถ้าฉันไม่ทำอะไรเลย คนอื่น ๆ ก็จะดูแคลนตระกูลหง มีอะไรจะพูดไหม!?”
หงต้าหลี่เรียกร้อง “ปู่ครับ มันร้ายแรงขนาดนั้นเลยเหรอ? พวกเขาแค่พยายามจะช่วยผม ท่านปู่ให้โอกาสพวกเขาได้ไหมครับ? คือว่าผมสัญญาว่าผมจะเคารพและเชื่อฟังท่านปู่ทุกอย่างเลยครับ!”
หงตูเคาะหัวของหงต้าหลี่เบา ๆ และส่ายหัว “เด็กน้อย นี้ไม่ใช่เรื่องที่จะเมินเฉยได้”
หวังหมิงหยูและคนอื่น ๆ ยืนจ้องมองอีกคน ลี่เนียนเหว่ยเดินเข้ามาหาและโค้งคำนับผู้อาวุโสหงตู เธอพูดเบา ๆ ว่า “วันนี้ถือว่าเป็นความผิดของพวกเราค่ะ ถ้าท่านอาวุโสต้องการลงโทษพวกเรา ฉันยินดีรับผิดชอบทั้งหมดค่ะ” เธอเป็นหนี้ทุกอย่างกับหงต้าหลี่ ตราบใดที่หงต้าหลี่ยังโอเค เธอก็ไม่ได้รังเกียจอะไร
เมื่อเห็นลี่เนียนเหว่ยยื่นตัวไปข้างหน้า คนที่เหลือก็ก้าวออกมาพร้อมเธอและโค้งคำนับพร้อมยอมรับผิด หวังหมิงหยูพูดว่า “ผู้อาวุโสใหญ่ครับ ตราบใดที่ท่านนายน้อยไม่เป็นไร ท่านสามารถลงโทษพวกเราได้ตามที่ท่านต้องการได้เลยครับ พวกเรายอมรับผิดครับ”
การพูดแบบนั้น บ่งบอกเป็นนัยว่าทุกคนเต็มใจที่จะรับการลงโทษ
ขณะที่หงตูกำลังจะพูด ชายชราก็โผล่ออกมาจากฝูงชนและหัวเราะเบา ๆ “เพื่อนหง เราไม่ได้พบกันมาห้าสิบปีแล้ว อารมณ์ของนายยังไม่เปลี่ยนเลยนะ ฮิฮิ”
หงตูมองไปที่ชายชราอย่างระมัดระวังและตกตะลึง “นายคือหวังต้าหมิง!?”
เมื่อได้ยินคำอุทานของหงตู หงเจียนหยี่รู้ว่าเขากำลังพบเจอปัญหา
หวังต้าหมิงหัวเราะและเข้าไปหาหงตูและกอดเขา "ใช่ ฉันเอง นายยังเหมือนเดิมเลยนะ ฮ่าฮ่า ห้าสิบปีผ่านไป ไวเพียงพริบตา สมัยนั้นที่เราอยู่ในสนามรบ เราแบ่งปันทั้งน้ำอาหารและกระสุน นายยังจำครั้งที่ฉันโดนกระสุนลูกหลงได้ไหม? นายเป็นคนบังกระสุนให้ฉันด้วยนิ!”
หงตูหัวเราะในขณะที่เขากอดกัน “ฮ่าฮ่า เพื่อนยาก! ตลอดหลายปีที่ผ่านมานายหายไปเลย นายไม่เคยมาเยี่ยมฉันเลย”
หวังต้าหมิงเม้มริมฝีปาก “ฉันไม่กล้ามาที่นี้ ดินแดนที่อยู่เหนือประตูนี้ไม่สามารถวัดได้! ถ้าท่านนายน้อยต้าหลี่ไม่ประสบปัญหา ฉันคงไม่มาที่นี่ แล้วก็ นายเองตั้งใจจะช่วยหลานตัวแสบคนนี้ไม่ใช่เหรอ? เห็นแก่หน้าฉัน ให้โอกาสเขาหน่อยได้ไหม? คิดว่ายังไง?”
หงตูยิ้มในขณะที่กอดหวังต้าหมิง “ไหน ๆ นายมาที่นี่แล้ว ฉันจะไม่ให้เกียรตินายได้ยังไง? เราควรจะเป็นครอบครัวเดียวกันตามกฎของตระกูลหง การที่พวกเขาเข้ามาในคฤหาสน์โดยพลการก็ทำให้พวกเขาถูกจำคุกเป็นเวลา 3 ถึง 10 ปี สำหรับคดีร้ายแรง แต่ฉันจะปล่อยนายไป แต่จำคุก 3 เดือน มันจะไม่เกิดขึ้น ถ้าไม่ทำลายข้าวของแบบนี้”
หวังต้าหมิงครุ่นคิดถึงเรื่องนี้และทำได้เพียงพยักหน้า "สามเดือน ก็จริงที่เราทำลายประตูคฤหาสน์ การติดคุก 3 เดือนก็น่าจะพอ เนียนเหว่ยและหมิงหยู พวกเธอคิดว่ายังไง?”
ลี่เนียนเหว่ยและคนอื่น ๆ มองหน้ากันแล้วพูดว่า “เราจะปล่อยให้ท่านผู้อาวุโสตัดสินใจครับ/ค่ะ”
หงต้าหลี่กระทืบเท้าด้วยความโกรธ "ปู่กำลังคิดอะไรอยู่? ปู่จะขังคนของผม 3 เดือนได้ยังไง!? ถ้าผมเป็นนายพลแล้วไม่มีกองทัพ ผมจะอยู่ยังไง? ผมขอปฏิเสธ!"
ในขณะที่เขากระทืบเท้าด้วยความโกรธ กีเซอร์หวังดึงเขาออกมาข้าง ๆ และกระซิบว่า “ดูสถานการณ์ของท่านหงตูก่อนครับ ถ้าเขาไม่ลงมือทำ จะมีใครเคารพเขาในอนาคตไหม? เชื่อผมสักครั้ง ตอนนี้ฟังเขาก่อน หลังจากนี้พวกเราจะแก้ไข ทนไว้ก่อน โอเคไหม?”
ตอนนี้หงต้าหลี่หงุดหงิดมาก "ฉันโกรธมาก" แต่เขาก็เป็นกลาง เขารับฟังผู้อื่นและรู้ว่ากีเซอร์หวังพูดถูก คนอื่นร้องเรียนปัญหาที่พวกเราก่อและบังคับให้ท่านอาวุโสตัดสินใจ จึงไม่มีข้อแก้ตัวใด ๆ ที่พวกเขาจะหลุดพ้นโทษได้ เขาพยักหน้าอย่างไม่เต็มใจและพูดว่า “เอาล่ะ ฉันจะฟังพวกนายสักครั้งและฉันจะอดทนก็ได้!”
“ฮ่าฮ่า นายน้อยต้าหลี่เข้าใจสักทีที่จะรับฟังผู้อื่นแล้ว” กีเซอร์หวังยิ้มและกลับไปข้าง ๆ หงตู “เพื่อนหง เราไปดื่มด้วยกันไหม?”
"ได้สิ" หงตูวางมือบนไหล่ของหวังต้าหมิงและมองไปที่ลี่เนียนเหว่ยพลางเหลือบมองไปที่เธอ “เธอคือลี่เนียนเหว่ยสินะ? ฉันเคยได้ยินเกี่ยวกับเธอพอสมควร หลาน ๆ ในครอบครัวหงชอบร้องเพลงของคุณ เธอเป็นคนน่ารัก อ่อนโยนและปฏิบัติต่อต้าหลี่เราดีจริง ๆ ไม่เลวเลย ไม่เลว”
ลี่เนียนเหว่ยยิ้ม “ขอบคุณค่ะ ท่านผู้อาวุโสสำหรับคำชมของท่าน”
หงตูพยักหน้าและมองไปที่หวังหมิงหยูและคนอื่น ๆ “ส่วนนายคือหวังหมิงหยู? โชเฟอร์ของเหว่ยกูใช่ไหม? เอ่อ มาคฤหาสน์ของต้าหลี่ กล้าหาญมากเลยนะ”
หวังหมิงหยูมีเหงื่อออกทั่วหน้าผาก เขาตอบอย่างรวดเร็วว่า “ไม่ ไม่ครับ ผมทำตามหน้าที่ครับ”
หงตูพยักหน้า "ฮ่าฮ่า การจงรักภักดีต่อเจ้านาย นั่นเป็นสิ่งที่ดี แต่สองเรื่องนี้มันแตกต่างกัน การปกป้องเจ้านายของคุณสมควรได้รับการยกย่อง แต่การทำลายข้าวของในคฤหาสน์สมควรได้รับการลงโทษ”
หวังหมิงหยู: “ผมเข้าใจครับ ทุกคนก็เข้าใจเช่นกัน”
หงตูพูดเบา ๆ “เอาล่ะ พอได้แล้ว พวกเธอออกไปก่อน”
ลี่เนียนเหว่ยและคนอื่น ๆ ที่เป็นผู้ติดตามรักษาความปลอดภัย หงต้าหลี่วิ่งตามพวกเขาไปพร้อมกับถังมู่ซิน หงตูตะโกนว่า "หลานตัวแสบ ทำไมถึงตามพวกเขาออกไป? รีบกลับมานี้!”
หงต้าหลี่ตอบขณะที่วิ่งว่า “คืนนี้ผมจะไปนอนกับพวกเขา ปู่ ผมจะมาหาปู่วันพรุ่งนี้เช้า!”
หงตูพูดอย่างช่วยไม่ได้ “ไอ้หลานตัวแสบ! ดูมันสิ วิ่งตามพวกเขาเหมือนลิงเลย”
หวังต้าหมิงหัวเราะและพูดว่า “ฮ่าฮ่า ท่านนายน้อยต้าหลี่เป็นที่รักของทุกคน นั่นเป็นเหตุผลที่เราเต็มใจที่จะติดตามเขา”
หงตูหันกลับมาและโบกมือ “เอาละ โอเค โอเค ทุกคนกลับไปพักผ่อนเถอะ เราจะประชุมตระกูลใหม่ เวลา 14.00 น. ในวันพรุ่งนี้แทน”
ทุกคนตอบกลับ "รับทราบ!"
“กลับไปเตรียมของที่จำเป็น” ผู้อาวุโสทั้งสาม ได้แก่ หงตู หงเหว่ยและหงหยิงก็ได้เดินออกจากห้องประชุมไป หงตูกวักมือเรียกหวังต้าหมิงในขณะที่เขากำลังเดินจากไป หงตูหัวเราะก่อนที่เขาจะพูดว่า “ต้าหมิง มานี่ ไปดื่มกัน สักแก้วสองแก้ว อัยยา เพื่อนรัก ตอนที่เราสงครามร่วมต่อสู้กัน เหลือกี่คนที่ยังมีชีวิตอยู่เหรอ? นายต้องบอกข่าวให้ฉันฟังบ้างสิ!”
หวังต้าหมิงถอนหายใจ "เหลือไม่กี่คนเอง เราอายุแปดสิบกว่าแล้วนะ คนแก่พวกนั้นก็แก่กว่าเรา พวกเขาส่วนใหญ่กลายเป็นเถ้าถ่านกันหมดแล้ว”
ไม่นานนักพวกเขาสองสามคนก็มาถึงโรงน้ำชาที่ผ่อนคลายภายในคฤหาสน์ ขณะที่พวกเขานั่งเก้าอี้ คนรับใช้ก็ได้ยกน้ำชาหยูเฉียนหลงจิงมาให้พวกเขาที่โต๊ะน้ำชา หงตูรินชาให้หวังต้าหมิงแล้วยิ้ม “ต้าหมิง หลายปีที่แล้วนายไม่ได้มาเยี่ยมเลยนะ นายเป็นยังไงบ้าง? เราผ่านอะไรมาด้วยกันก็เยอะ อย่ามองว่าฉันเป็นคนแปลกหน้าสิ”
นี้ก็เกือบห้าสิบปีแล้วที่เราต่อสู้ในสงคราม“หวังต้าหมิงดื่มชา”ตอนนี้มันเป็นอดีตไปแล้ว อย่าพูดถึงเลย ตอนนี้พวกเราจะเดินเท้าเข้าหลุมศพกันแล้ว คิดยังไงถึงมาถามตอนนี้? นายน้อยต้าหลี่มีความคิดที่ดี ผู้ที่ติดตามก็ต่างเป็นสุข"
หงเหว่ยหัวเราะ “แล้วจู่ๆเปลี่ยนไปคุยเรื่องต้าหลี่ได้ยังไง?”
หวังต้าหมิงหัวเราะและพูดว่า “ก็เขาเป็นเด็กที่แปลกจริง ๆ นอกจากที่ฉันฝึกสอนศิลปะการต่อสู้แล้ว ฉันยังทำงานในร้านตัดผมเล็ก ๆ เพื่อหารายได้มากินเหล้า เมื่อวันก่อนตอนที่ฉันขี่สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า ฉันเผลอทำกระจกมองหลังรถของนายน้อยต้าหลี่หลุด แต่เขาไม่ได้เรียกร้องค่าตอบแทนใด ๆ เลย”
หงตูหัวเราะเสียงดังและพูดว่า “หลานตัวแสบคนนี้ เขาเป็นตัวของตัวเองและเป็นอาเสี่ยน้อยอัจฉริยะ เป็นเรื่องปกติที่เขาจะไม่เรียกร้องค่าเสียหายใด ๆ แล้วเกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้นล่ะ?”
การแสดงออกของหวังต้าหมิงก็ตื่นเต้นขึ้นมาทันทีและรีบพูดว่า “ฉันก็หนี ด้วยความรีบร้อน ฉันทำกระจกมองหลังของนายน้อยต้าหลี่แตก”
พรู้ดดด หงตูไม่ทันได้ตั้งตัว เขาพ่นชาออกมา “มันต้องเป็นโชคชะตาแน่นอน”