ระบบใช้จ่ายตอนที่185
บทที่ 185: นี่คือบ้านของฉัน
"บนวงแหวนรอบนอกของภูเขาเทียนจิง!"
"ผู้กำกับหลิน ตอนนี้เนื้อเรื่องซับซ้อนกว่าเนื้อเรื่องเดิมมาก แต่รูปปั้นนางฟ้าที่ท่านนายน้อยพูดถึง.." ผู้จัดการยืนอยู่ตรงหน้าผู้อำนวยการหลินที่กำลังกินขนมและเขาก็รายงานอย่างระมัดระวัง “ตอนนี้ทุกอย่างพร้อมแล้วยกเว้นส่วนที่เกี่ยวกับสัตว์ตัวเล็กที่นำตัวละครเข้าไปในถ้ำ แต่ก็ไม่ใช่ปัญหา เราไม่ใช้สุนัขเพราะมันฝึกง่าย แต่เราต้องหาให้เจอในป่านี้ ถ้าเราเปลี่ยนเป็นสัตว์อื่น เราจะไม่สามารถฝึกมันได้ นอกจากนี้เรายังหาหยกที่ใหญ่พอสำหรับรูปปั้นไม่ได้ ทำไมเราไม่บอกท่านนายน้อยเปลี่ยนไปใช้รูปปั้น 3D แทน บางทีมันคงจะถูกและประหยัดเวลาด้วย”
“เฮ้อ คิดว่าฉันไม่อยากทำเหรอ?” หลินห่าวรู้สึกหดหู่ใจ "ถ้าเราใช้ 3D เป็นโมเดล สีพื้น ๆ ก็น่าจะพอแล้ว ท้ายที่สุดก็แค่สร้างให้เห็นแค่ใบหน้าของรูปปั้นนางฟ้า ตราบใดที่กล้องถ่ายภาพไม่ได้อยู่ใกล้เกินไปและการแสดงภาพมากเกินไป ก็สามารถทำได้อย่างง่ายดาย ใช้ 3D จะมีราคาประมาณ 10,000 หยวนเท่านั้น แต่นายน้อยไม่เห็นด้วย เขายืนยันว่าจะใช้ของจริง! หยกชิ้นใหญ่เช่นนี้ แม้ว่าเราจะหาเจอมันก็มีราคาไม่ต่ำกว่า 2-3 แสนหยวนและนั่นยังไม่รวมการแกะสลัก และการจะหาช่างแกะสลักระดับปรมาจารย์มาปั้นนั้นต้องใช้เงินอีกไม่รู้กี่แสนหยวน เขารู้ไหมว่าเงินจำนวนนี้ใช้ชื้ออะไรได้ตั้งหลายอย่าง?"
แต่พูดไปก็แค่นั้น หลินห่าวทำได้เพียงสะอื้นเกี่ยวกับเรื่องนี้
หงต้าหลี่ได้กล่าวแล้วว่าเขาจะจ่ายค่าใช้จ่ายทั้งหมดเอง ดังนั้นหลินห่าวจึงไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธเขา
"เฮ้อ" หลังจากถอนหายใจอีกครั้ง หลินห่าวก็ถามว่า "โอ้ จริงสิ นายเจอถ้ำของนางฟ้าหรือยัง? ตามที่ท่านนายน้อยบอก ต้องใช้ถ้ำจริงจะดีที่สุด เขาคงไม่เห็นด้วยกับการใช้ CG แน่นอน"
ผู้จัดการพูดว่า "ถ้ำน่ะไม่ใช่ปัญหา" เมื่อพูดถึงจุดนี้ เขาก็ทำตัวเหมือนขโมยและขยับปากไปใกล้หูของหลินห่าว “ฉันได้ยินมาจากคนงานเหล่านั้นว่าตอนที่พวกเขากำลังเคลียร์ขยะ ดินถล่มลงมาและเจอเข้ากับถ้ำ! มีคนงานเข้าไปดูแล้ว มีหินงอกหินย้อยเต็มไปหมด! เนื่องจากยังไม่ได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวและนี่คือที่ดินของท่านนายน้อย เราควรใช้โอกาสนี้และขอให้ท่านนายน้อยให้โอกาสเราได้ใช้ถ้ำนั้นในการถ่ายทำฉากนี้ ถ้ำนี้เหมือนกับบันดาลมาให้กับภาพยนต์ของเราจริง ๆ!”
"เอางั้นหรอ!?" หลินห่าวตื่นตระหนกทันที “ถ้ำนั้นอยู่ที่ไหน? ไปดูกันก่อนเผื่อเราจะได้เตรียมตัวกัน!”
"อยู่ข้างหน้าประมาณ 1 กิโลเมตร" ผู้จัดการพูดว่า "ทำไมเราไม่ไปดูกันเลยล่ะ?"
“ตอนนี้เป็นเวลาประมาณ 18.00 น.” หลินห่าวมองไปที่ท้องฟ้า “ช่างเถอะ ตอนนี้ปล่อยไปก่อน ไปเรียกเพื่อนอีกสองคนมากับเรา โอ้ ใช่ ถามเซอร์มู่และอาจารย์หวังด้วย พวกเขามีฝีมือกังฟู หากมีอันตรายใด ๆ พวกเขาสามารถจัดการได้ ไม่จำเป็นต้องโทรหาคนที่เหลือ พวกเราสี่คนไปกันเท่านี้ เตรียมอุปกรณ์ไฟฉายไปด้วย!”
“ตรงนี้ใช่ไหม?” หงต้าหลี่และคนที่เหลือนั่งบนรถของพวกเขาและตรงไปยังพื้นที่ด้านนอกของภูเขาเทียนจิง เมื่อพวกเขามาถึงสถานที่ ถังมู่ซินชี้ให้พวกเขาเห็นถ้ำ คนงานจำนวนมากมารวมตัวกันที่นั่นแล้วถือแผนที่และพูดบางอย่าง
หงต้าหลี่ไม่รู้จักพวกเขา เขายังขี้เกียจและไม่อยากรบกวนพวกเขาด้วย เขาและกลุ่มเพื่อน ๆ พุ่งตรงเข้าไปและถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหยุดไว้ “หยุดนะ พวกเธอมาจากไหน?”
"พวกเรา? เรามาจากไหนงั้นเหรอ?" หงต้าหลี่มองซ้ายและขวาอย่างแปลกประหลาด จากนั้นเขาก็เอานิ้วชี้ไปที่จมูกของตัวเอง "เราเป็นแค่นักเรียน เรื่องอื่นต้องบอกด้วยเหรอ?" เมื่อพูดเช่นนั้นเขาก็มองไปที่ลูกน้องของหงต้าหลี่และพูดว่า "โอ้ และอีก2-3คนตรงนั้นด้วย"
"กรุณากลับไปด้วยครับ" รปภ. หมดความอดทน "นี่ไม่ใช่สถานที่ที่เด็ก ๆ จะมาเล่นได้"
"เรื่องนั้น.." หงต้าหลี่รู้สึกโกรธจนถึงจุดที่จะระเบิดออกมา "ฉันคิดว่านายคงเข้าใจอะไรผิดนะ" เขาชี้ไปที่ป่าโดยรอบและภูเขา “นี่น่าจะเป็นที่ของฉัน”
"นี่..." แม้ว่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจะไม่รู้จักหงต้าหลี่ แต่จากพฤติกรรมของเขา เขาก็รู้ว่านี่คือคนที่เขาไม่สามารถรุกรานได้ เขาทำได้เพียงแค่เอาใจเขาและพูดว่า "ถ้าอย่างนั้น โปรดรอสักครู่ ผมจะไปตรวจสอบกับหัวหน้าของผมก่อน”
เมื่อพูดเช่นนั้น เขาก็วิ่งเข้าไปข้างในและตะโกนว่า "หัวหน้าจ้าวครับ หัวหน้าจ้าว มีใครไม่รู้มาที่นี่ครับ เขาบอกว่านี่คือที่ของเขาและต้องการเข้าไปดู ผมไม่กล้าตัดสินใจ ช่วยแนะนำหน่อยครับว่าต้องทำยังไง"
"พูดบ้าบออะไร ที่นี่เป็นพื้นที่ของชาติ!" เสียงที่เย่อหยิ่งดังออกมา "ไล่พวกเขาออกไปไว ๆ เลย!"
หงต้าหลี่แตะคางของเขาและพูดว่า "ฉันไม่คิดว่าฉันจะจำผิด ฉันแน่ใจว่าฉันซื้อที่นี่มา" เมื่อเขามองไปรอบ ๆ ก็ไม่มีถุงพลาสติกให้เห็น "ไม่น่าผิดพลาด สถานที่นี้เคลียร์ขยะออกหมดแล้ว นี่มันเกิดอะไรขึ้น?"
ในขณะนี้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยพูดอย่างระมัดระวังว่า "หัวหน้าของผมบอกว่าพวกเธอควรจะออกไปจะดีกว่าที่จะมาดูที่นี้ ผมไม่กล้าขัดคำสั่งจริง ๆ”
“แกทำงานยังไงของแกเนี่ย? แค่ไล่เด็กก็ทำไม่ได้เหรอไง?” ในขณะที่พูดอย่างนั้นชายหัวโล้นก็เดินออกมาจากฝูงชน ดูเหมือนเขาจะอายุประมาณ 40 ปีและถือแก้วน้ำไว้ในมือ เมื่อเขาเห็นหงต้าหลี่และกลุ่มเพื่อน ๆ ของเขา เขาก็พูดว่า "รีบกลับไปที่ของพวกแกเลยไป ฉันไม่สนใจหรอกว่าแกเป็นใคร สถานที่แห่งนี้ถูกชาติเวนคืน ไม่อนุญาตให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้า”
"นี่" หงต้าหลี่ค่อย ๆ พูดว่า "ที่นี่น่าจะเป็นบ้านของฉันนะ"
"อ้าว เธอเป็นลูกชายของหงเหว่ยกู หงต้าหลี่เหรอ?" กัปตันจ้าวมองเขาหัวจรดเท้า "ฉันรู้ว่านี่คือบ้านของเธอ แต่สถานที่แห่งนี้ได้รับการเวนคืนแล้ว มันอาจกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ดังนั้นจึงไม่ได้เป็นบ้านของเธออีกต่อไป รีบกลับบ้านไปเร็ว ๆ ฉันได้คุยกับพ่อของเธอแล้ว ฉะนั้นโปรดกลับไปเถอะครับ"
เพื่อนคนนี้รู้ว่าหงต้าหลี่เป็นลูกชายของหงเหว่ยกูและกล้าที่จะหยิ่งผยอง
ถูกต้องแล้ว ผู้ที่สามารถทำแบบนี้ได้มีอยู่สองประเภท
ประเภทที่หนึ่ง ไอ้พวกนี้เป็นคนปัญญาอ่อน
ประเภทที่สอง คือ ไอ้พวกนี้เป็นคนปัญญาอ่อนและยังเป็นคู่แข่งของตระกูลหง
จากสถานการณ์ปัจจุบัน น่าจะเป็นแบบประเภทที่สอง เพราะมีความเป็นไปได้มากกว่า
หงต้าหลี่ลูบคางของเขา “ถ้าฉันปฏิเสธล่ะ?”
“เธอไม่สามารถปฏิเสธได้หรอกนะ” หัวหน้าเจ้าพูดว่า "ฉันรู้ว่าสภาพร่างกายของเธอไม่ดี ถึงแม้ฉันไม่สามารถแตะต้องเธอได้ แต่มันจะเกิดปัญหากับพ่อของเธอนะ ฮิฮิ"
จุดยืนของเขาชัดเจนมาก เมื่อเขาพูดอย่างนั้น
เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้อยู่ข้างเดียวกับพวกเขาและเห็นได้ชัดว่าเขาเป็นคู่แข่งของตระกูลหง
ตอนนี้เขาแค่แสดงความแข็งแกร่งออกมา ความหมายของเขาเรียบง่าย เขามีคนอยู่ข้างหลังเพื่อคอยหนุนหลังเขาอยู่ แม้ว่าตระกูลหงจะเป็นองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ แต่หงต้าหลี่ก็ยังทำอะไรเขาไม่ได้!
ถ้าเป็นเศรษฐีคนอื่น ๆ พวกเขาจะหัวร้อนรีบลุกขึ้นและเตรียมตบหน้าเขา จากนั้นหัวหน้าจ้าวคนนี้จะหาทางเพื่อเอาชนะและทำให้เขาอับอาย นี่คือสิ่งที่เขียนไว้ในนวนิยายในชีวิตก่อนหน้าของหงต้าหลี่ โดยปกติแล้วเศรษฐีคนอื่น ๆ มักเป็นศัตรูกัน
แต่หงต้าหลี่ก็ไม่ได้โง่ขนาดนั้น
ในฐานะที่เป็นอาเสี่ยที่แสนอัจฉริยะที่มีความทะเยอทะยานและมีเป้าหมาย อันดับแรกหงต้าหลี่ต้องพิจารณาว่าคู่ต่อสู้ของเขามีจุดอ่อนหรือไม่ ดังนั้นเขาจึงหยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วโทรหาพ่อ "พ่อ พื้นที่ด้านนอกของภูเขาเทียนจิงมีคนมาครอบครองที่ดินของเราและพวกเขาก็ไม่ยอมให้ผมเข้าไปอะ"
เห็นได้ชัดว่าหงเหว่ยกูรู้ว่าพวกเขาเป็นใคร เขาลดเสียงลงและพูดว่า "อย่าไปสนใจพวกนั้นเลย รีบกลับบ้านก่อนเถอะ”
"อ่า ผมจะไม่ไปไหนทั้งนั้น" หงต้าหลี่แสยะยิ้มและถาม "ผมแค่อยากจะถามว่าพวกเขาซื้อที่ดินนี้หรือยัง?"
"โอ้? ยังไม่ได้ซื้อ" หงเหว่ยกูคิดอยู่พักหนึ่ง เขาไม่แน่ใจว่าหงต้าหลี่หมายถึงอะไร “พวกเขายังทำการสำรวจถ้ำใต้ดิน ในส่วนของราคานั้น เรายังเจรจากันไม่เสร็จ มีอะไรผิดปกติรึเปล่า?”
"โอ้ ยังเจรจาไม่เสร็จเหรอ?" หงต้าหลี่เกาจมูก "ผมคิดว่า หากการเจรจายังไม่สิ้นสุด ที่ดินผืนนี้ก็ยังคงเป็นของเรา ยังคงเป็นของครอบครัวเรา พวกเขาล่วงเกินทรัพย์สินส่วนตัวโดยที่เจ้าของยังไม่ได้อนุญาตสินะครับ?”
"เอ่อ แต่ว่า.." หงเหว่ยกูมึนงงอยู่พักหนึ่งก่อนที่เขาจะเข้าใจความหมายของหงต้าหลี่ “ลูกคือ.. ต้าหลี่ อย่าเพิ่งผลีผลาม ไปยุ่งกับพวกนั้นคงไม่ดีสักเท่าไหร่”
"ปกติ ผมไม่ผลีผลามหรอก" หงต้าหลี่พูดอย่างจริงจัง “อย่างไรก็ตาม ผมไม่แน่ใจว่าหยูหยินจะผลีผลามหรือเปล่า โฮ่ๆ ถ้าอย่างนั้นผมขอวางสายก่อนนะพ่อ”
"หยูหลิน?" หงเหว่ยกูวางโทรศัพท์และพึมพำ "ตอนนี้หยูหยินอยู่กับต้าหลี่เหรอ?"
เมื่อนึกถึง หงเหว่ยกูก็ตบต้นขาของเขาอย่างรุนแรงและหัวเราะดัง ๆ “สมกับเป็นลูกของฉัน! เยี่ยมไปเลย! เยี่ยมไปเลย! ฮ่าฮ่าฮ่า! ชูกวางหยาง ฉันไม่สามารถทำอะไรได้เลย แกส่งคนของแกและมายึดครองสถานที่นั้นไป แต่ฉันไม่คิดเลยว่าต้าหลี่จะพาหยูหยินมาด้วย ตอนนี้แกคงต้องระงับความโกรธของแกก่อนแล้ว เพราะไม่มีทางเลยที่แกจะทำอะไรหยูหยินได้ ฮ่าๆๆ!”
ขณะที่หงเหว่ยกูกำลังหัวเราะเสียงดังในห้องทำงานของเขา หัวหน้าจ้าวก็หัวเราะเสียงดังเช่นกัน "ฮ่า ๆ พวกเด็ก ๆ ทำไม พวกหนูอยากจะตีฉันเหรอ? ฉันเตือนแล้วนะ พวกเธอจะโดนหน่วยงานรัฐโจมตีและจะต้องโดนรับโทษตามกฎหมายของประเทศ เมื่อถึงเวลานั้น แม้แต่พ่อของแก หงเหว่ยกูก็ไม่สามารถช่วยได้!"
“ฉันไม่เคยบอกว่าจะทำอะไรนะ?”
ใบหน้าของหงต้าหลี่เต็มไปด้วยความไร้เดียงสา ดวงตาของเขาเปิดกว้าง “ลุงจ้าว ลุงคิดผิดแล้ว คนอ่อนแออย่างฉันจะใช้ความรุนแรงกับลุงได้ยังไง?” เมื่อพูดจบ เขาก็เดินจากไป "หยูหยิน ลุงคนนี้ขัดขวางไม่ให้เราเข้าไป เธอคิดว่าเราควรทำยังไงดี?"
"อ๋อ เข้าใจแล้ว" ทันใดนั้นร่างกายของหลินหยูหยินเปล่งเสียงโลหะเครื่องจักรที่กำลังเคลื่อนไหวและแขนขวาของเธอก็ถูกปกคลุมไปด้วยเครื่องจักรอย่างรวดเร็วด้วยชุดเกราะภายนอกของเธอ เธอพูดเบา ๆ ว่า "ล็อคเป้าหมายยืนยัน โจมตี"
ขณะที่เธอพูด พื้นที่ใต้เท้าของเธอก็ระเบิดออกและตัวเธอก็พุ่งไปข้างหน้า ในพริบตา แขนขวาของเธอก็กดเข้ากับหน้าอกของหัวหน้าจ้าว จากนั้นเสียงเย็นชาก็ดังขึ้น "30,000 โวลต์!"
จากนั้นพวกเขาก็ได้ยินเสียงดัง ซ่าๆ ของสิ่งที่ถูกไฟฟ้าดูด หัวหน้าจ้าวที่น่าสงสารกำลังยืนอยู่คล้ายกับตัวละคร "เฮย์ฮาจิ มิชิม่า" จากวิดีโอเกม "Tekken" จากชีวิตก่อนหน้าของเขา ที่หัวล้านตรงกลางและผมอยู่ด้านข้าง ตัวละครนั้นยอดเยี่ยมมาก!
เมื่อเห็นหัวหน้าจ้าวนอนตัวสั่นอยู่บนพื้น หงต้าหลี่ก็ถอนหายใจ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความไร้เดียงสา “เฮ้อ ทำไมลุงถึงไม่เปิดทางให้หยูหยินล่ะ? ลุงนี่แกว่งเท้าหาเสี้ยนจริง ๆ”