ระบบใช้จ่ายตอนที่175
บทที่ 175: เหมืองถ่านหิน? เหมืองเหล็ก? บ่อน้ำพุร้อน?
โยเทียนเฮามองหงต้าหลี่ตั้งแต่หัวจรดเท้า "ติดตาม?! ฉันเป็นหัวหน้าแก๊งคณะรัฐมนตรีโซไซตี้ ทำไมฉันต้องไปติดตามคนอื่ยด้วย!”
ไม่น่าแปลกใจเลยที่เขาจะดูซึม ๆ เขาเป็นหัวหน้าแก๊งคณะรัฐมนตรีโซไซตี้ที่สามารถเรียกลมเรียกฝนได้ แต่ตอนนี้เขาถูกเอาเปรียบและโดนทำร้าย เขารู้สึกอายที่ต้องทำตามผู้ชนะอย่างหงต้าหลี่ เขาไม่สามารถแก้แค้นเด็กสาวคนนั้นได้และไม่มีอะไรที่เขาจะสามารถทำได้กับนายน้อยคนนี้เช่นกัน
หงต้าหลี่มองขึ้นไปบนฟ้าและพูดว่า “จริง ๆ แล้วการติดตามฉัน มันก็ไม่ได้แย่นะ นายเองก็เห็นแล้วนิ ฉันจะให้รถนายนั่งโดยเฉพาะและนายก็จะได้รับเงินเดือนประมานหมื่นหยวน และไม่มีอะไรบังคับเลย เราให้อิสระ และถ้ามีอะไรเกิดขึ้น ฉันจะจัดการเอง อัยยา ดูเหมือนว่าฉันจะเสียเปรียบซะมากกว่าแฮะ”
โยเทียนเฮาไม่ได้โง่ ก่อนที่หงต้าหลี่จะกลับคำพูดของเขา โยเทียนเฮาก็ตอบตกลงทันที “ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว ฉันรับข้อเสนอ!”
มู่ซีเซียวตกตะลึง "เอ้าเวร! ทำไมนายยอมรับข้อเสนอง่าย ๆ งี้?!”
โยเทียนเฮาพูดว่า “ฉันอาจเป็นไอ้โง่ถ้าไม่รับข้อเสนอ! มีรถให้ใช้โดยเฉพาะ เงินเดือนหมื่นหยวน ให้อิสระและได้รับการคุ้มครองจากนายน้อย ฉันจะหาข้อเสนอดี ๆ แบบนี้ได้อีกที่ไหน! คิดว่าฉันโง่รึไง!”
มู่ซีเซียวถามด้วยความสงสัย “ดูเหมือนจะไม่ร้อนเงินเลยนะ ไม่ใช่ว่าเมื่อกี้บอกว่าเป็นหัวหน้าแก๊งค์เหรอ?”
ถึงคราวที่โยเทียนเฮาเป็นผู้ต้องสงสัย "ใช่แล้ว แต่ฉันไม่ได้บอกว่าจะไม่ริบเงินพวกนายนิ!”
“....” มู่ซีเซียวรู้สึกเหมือนถูกชกด้วยตรรกะของโยเทียนเฮา
ไม่นานมานี้พวกเขาพยายามที่จะฆ่ากัน เพียงพริบตากลับกลายเป็นว่าพวกเขาเป็นพันธมิตรกันแล้ว?!
เนื่องจากหงต้าหลี่ได้พูดไปแล้ว ไม่มีทางที่เขาจะกลับคำพูดของตัวเอง "อืม ก็ดี นายจะต้องติดตามฉันไปพร้อมกับลูกน้องของนาย เมื่อฉันกลับมา ไว้ฉันจะมอบรถให้นายแบบคันนั้น“หงต้าหลี่ชี้ไปที่รถเพลย์แองเจิ้ลที่จอดอยู่ห่างออกไป”ต่อจากนี้นายอยู่ภายใต้การดูแลของฉัน แล้วก็ต้องดูดีด้วย เสี่ยวหยี่..“หงต้าหลี่เรียกเสี่ยวหยี่จนติดเป็นนิสัย แต่เสี่ยวหยี่ไม่ได้อยู่ที่นี้และเขาก็รู้สึกสลดใจเล็กน้อย”ช่างเถอะ รออีกสองวัน ลูกน้องอันดับหนึ่งของฉันไม่ได้อยู่ที่นี่ ตอนนั้นค่อยว่ากัน”
ไม่ใช่เหตุผลที่หงต้าหลี่โกรธขนาดนี้ เสี่ยวหยี่เป็นเหมือนมือซ้ายและมือขวาของเขา หงต้าหลี่เป็นคนขี้เกียจ การแนะนำของเขามันง่าย แต่มันเป็นเรื่องที่น่าปวดหัวที่ต้องจัดการเองและจัดการเรื่องต่าง ๆ เอง หงต้าหลี่รู้สึกสับสนเมื่อเขาคิดถึงมัน “ยังไงก็เถอะ ฉันจะมอบหมายงานแรกให้นาย ค้นหาว่าบิ๊กเฮดล้านกงหัวโตสารเลว หรืออะไรสักอย่าง ฉันอยากเห็นว่ามันตายแล้วหรือยังมีชีวิตอยู่!”
โยเทียนเฮาตอบอย่างเด็ดเดี่ยว “รับ รับทราบ เข้าใจแล้ว! ผมจะอัปเดตท่านทราบเองเมื่อผมรู้ โอ้ จะให้ผมเรียกท่านว่ายังไงดี? หรือให้เรียนว่าท่านนายน้อย?”
“เรียกว่าท่านนายน้อยก็ได้” ผู้ติดตามชายหนุ่มที่อยู่รอบ ๆ หงต้าหลี่ รู้ว่าหงต้าหลี่ชอบอะไร “ถือว่าเป็นคำทักทายที่ดี”
โยเทียนเฮาก็ได้เปลี่ยนตัวเองทันที “จากนี้ไปผมจะติดตามท่านนายน้อย!”
หงต้าหลี่หักนิ้วของเขา “อืม ไม่เลว ให้ทิปเงิน 10,000 หยวน เอาล่ะ ติดตามฉันมา ฉันจะไปงานวันเกิดของฉัน ฉันไม่รู้จะให้นายทำอะไร บางทีพ่อฉันอาจจะคิดออกก็ได้ ไปกันเถอะ!”
เรือสำราญแยงซีในทะเลสาบเฟิงหยวน
ตอนนี้เป็นเวลาสองทุ่มครึ่ง แขกที่มาถึงหน้างานเริ่มหมดความอดทน แต่พวกเขาเพิ่งได้รับข่าวว่าหงต้าหลี่กำลังจะมาแล้ว แขกที่มาร่วมงานได้ยินว่าหงต้าหลี่ไปช่วยลูกน้องของเขา ดังนั้นพวกเขาจึงหงุดหงิดน้อยลง ในทุกวันนี้มีคนหนุ่มสาวไม่มากนักที่จะดูแลลูกน้องตัวเองได้ดีแบบนี้
ส่วนแขกที่ไม่อดทน ในฐานะเจ้าภาพหงเหว่ยกูก็รู้สึกสบายใจมากขึ้น
“พี่ถัง การวิจัยการแพทย์ของพี่เป็นยังไงบ้าง?” หงเหว่ยกูนั่งอยู่บนโซฟาในห้องโถงของห้องเรือกับถังรุยชี เขายิ้มและพูดว่า “เมื่อเร็ว ๆ นี้ดูเหมือนว่าถังมู่ซินจะสนุกกับต้าหลี่มาก เด็กสองคนนี้ถือว่าเป็นคู่รักที่สนิทสนมกันมากจริง ๆ”
“บริษัทก็พัฒนาไปอย่างช้า ๆ ส่วนเรื่องเด็ก ๆ ตราบใดที่พวกเขาสนุกสนานก็ดีแล้ว” ครอบครัวของถังรุยชีและหงเหว่ยกูมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งตั้งแต่สมัยรุ่นปู่ทวด ถังรุยชีดีใจที่ได้ยินหงเหว่ยกูพูด แม้ว่าถังรุยชีกับถังมู่ซินจะเตรียมปฏิเสธการแต่งงานหลังผ่านวิกฤตบริษัทได้ แต่นั่นเป็นเพราะนิสัยของหงต้าหลี่ ท้ายที่สุดแล้วไม่มีใครปรารถนาให้ลูกสาวของตัวเองแต่งงานกับลูกชายอัจฉริยะที่ไร้ความสามารถ
โชคดีที่การถลุงเงินของต้าหลี่นั้นไม่เลวร้าย และได้กำไร อย่างน้อยเงินก็ไม่ได้หายไปเปล่า ๆ สิ่งที่ถังรุยชีต้องการนั้นง่ายมาก หงเหว่ยกูมีครอบครัวใหญ่และดำเนินธุรกิจขนาดใหญ่ ตราบใดที่หงต้าหลี่ไม่ใช่คนงี่เง่าก็จะโอเคที่เขาใช้จ่าย เขากังวลเกี่ยวกับสุขภาพของหงต้าหลี่มาก เขารีบกระซิบถามว่า “เหว่ยกู ฉันได้ยินมาว่าสุขภาพของต้าหลี่ดีขึ้นแล้วงั้นเหรอ?”
เรื่องนี้เป็นความลับ แต่ถังรุยชีไม่ใช่คนนอกและเขาเชื่อ ดังนั้นหงเหว่ยกูจึงไม่ได้ปิดบังความจริง “พี่ถังพูดตามตรง ฉันรู้ว่าคุณกำลังคิดอะไรอยู่ แต่ผมก็เข้าใจ เธอคือเลือดเนื้อเชื้อไขของพี่ ในเมื่อพี่อยากถาม ผมก็จะเล่าให้ฟัง”
หงเหว่ยกูขยับเข้าไปใกล้หูของถังรุยชีและกระซิบว่า “เร็ว ๆ นี้สุขภาพของต้าหลี่ดีขึ้นมาก แม้ว่าเขาจะไม่ได้วิ่งและกระโดดมากนัก แต่ถ้าพี่อยากจะได้หลานสาวหรือหลานชายก็ไม่น่าจะเป็นปัญหา!” เมื่อเขาพูดจบ เขาก็ขยิบตาให้ถังรุยชี แม้แต่คนตาบอดก็สามารถบอกความหมายที่เหว่ยกูพูดได้
ถังรุยชีประหลาดใจ "พูดจริงเหรอ? เหว่ยกู อย่าโกหกฉัน! ลูก ๆ ของเราเข้ากันได้ดี บอกตามตรง สิ่งที่ฉันกังวลมากที่สุดคือสุขภาพของต้าหลี่ คงไม่มีใครอยากให้ลูกสาวเป็นม่ายหรือไม่มีลูกใช่ไหม? ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นนะ”
เหว่ยกูยิ้มในขณะที่เขาพูดว่า “ทำไมผมต้องโกหกเรื่องนี้ด้วยล่ะ? ผมจำได้ว่าผมไม่เคยโกหกเรื่องอะไรแบบนี้นะ?”
ถังรุยชีก็รู้สึกยินดีที่ได้ยินแบบนั้น “ฮ่าฮ่า เยี่ยมมาก ดีมาก! ซินซินของฉันคือลูกสาวคนเดียวที่มีค่าที่สุดสำหรับฉัน ฉันไม่ยอมแม้แต่จะชี้นิ้วหรือด่าเธอ เธอเป็นผู้หญิงที่ฉลาด วันนี้ต้าหลี่ก็ทำได้ดี เขาแข็งแกร่งกว่าเมื่อก่อนมาก ปล่อยให้พวกเขาเล่นต่อไป พี่คิดว่าไง?”
ในตอนแรกถังรุยชีวางแผนที่จะปฏิเสธการแต่งงานแบบคลุมถุงชน แต่นั่นก็เป็นเพราะหงต้าหลี่มีร่างกายที่อ่อนแอและใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่ายมากเกินไป ตอนนี้แม้ว่าหงต้าหลี่จะใช้จ่ายไปมาก แต่เขาก็โชคดี ไม่มีอะไรที่เขาเล่นจนเสียเงินเปล่า สุขภาพของเขาดีและมันก็ไม่มีอะไรที่สำคัญไปกว่านี้ ดังนั้นจึงไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธการแต่งงาน นั่นจะเป็นจุดจบที่สมบูรณ์แบบสำหรับทั้งสองครอบครัว ความสุขเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด
หงเหว่ยกูอารมณ์ดีอย่างเห็นได้ชัด “ฮ่าฮ่า แน่นอน! ฉันรู้ว่าพี่รักซินซิน พ่อแม่ทุกคนก็ต้องเข้าใจ ต้าหลี่ของผมเองนั้นได้เติบโตแล้ว แม้ว่าสิ่งที่เขากำลังเล่นอาจจะไม่ได้กำไรมากนัก แต่อย่างน้อยก็ไม่เสียเปล่า ผมไม่สามารถสัญญาอะไรได้มากนัก แต่การที่ผมตัดสินใจให้เงินต้าหลี่นั้น มันต้องสำเร็จแน่ ดังนั้นอย่ากังวลไปเลย”
ถังรุยชีหายใจเข้าลึก ๆ “ใช่ เราเป็นพ่อแม่ของพวกเขา เพราะฉะนั้นมันก็เป็นเหตุผลที่ฉันตัดสินใจแบบนี้”
"อัยยา ไม่ต้องขอบคงขอบคุณอะไรหรอก บรรพบุรุษของเรารู้จักกันดีและเราเองก็เป็นเพื่อนกันมาช้านาน อย่าพูดแบบนั้นเลย“ทั้งสองครอบครัวจริงใจต่อกันและไม่รู้สึกอึดอัดที่พูดคุยถึงเรื่องลูก ๆ ของพวกเขา และมันจะแตกต่างจากเดิมมาก หากหงต้าหลี่กลายมาเป็นลูกเขยในอนาคต หงเหว่ยกูพูดว่า”พี่ถังบอกได้เสมอเลยนะหากพี่ต้องการความช่วยเหลือเกี่ยวกับบริษัทของพี่ ผมมีองค์กรที่รับผิดชอบด้านการพัฒนายาอยู่ ก่อนหน้านี้ใช้ในการพัฒนายาเพื่อดูแลสุขภาพของต้าหลี่ ตอนนี้ต้าหลี่คงไม่ต้องการมัน ผมสามารถให้เป็นของขวัญของพี่ได้”
ถังรุยชีส่ายหัว “นั่นดีมากและฉันก็อยากได้จริง ๆ แต่ขอคิดดูก่อนนะ ต้าหลี่สามารถทำอะไรก็ได้ เที่ยวเล่นข้างนอกสบายโดยที่นายไม่ต้องกังวล เพราะคนนอกรู้ว่าสุขภาพของต้าหลี่แย่ใช่ไหม?
“แต่เมื่อนายมอบองค์กรให้ฉัน คนอื่น ๆ ก็จะเริ่มสงสัย และถ้าใครพยายามทำร้ายต้าหลี่จนทำให้คุณเสียสมาธิจากการทำงาน มันก็คงไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก ธุรกิจครอบครัวของนายมีขนาดใหญ่และอาจไม่ล้มง่าย ๆ แต่ถ้ามันล้มลง นายจะทำอะไรได้ยาก และคนอื่น ๆ ก็คงไม่ให้โอกาสนายด้วย เรื่องนี้เราคงต้องระมัดระวังมากขึ้น”
เมื่อได้ยินสิ่งที่ถังรุยชีพูด หงเหว่ยกูก็พยักหน้าและพูดว่า “จริงสิ ผมมีความสุขมากเกินไปและไม่ได้คิดถึงเรื่องนั้นเลย เราจะทิ้งสิ่งต่าง ๆ ไว้แบบนี้ก็ได้ แต่หากพี่ถังต้องการความช่วยเหลือ โปรดบอกผมมาเลย ขอแค่พี่บอก ผมพร้อมที่จะช่วยพี่เสมอ”
"โอเค ไว้ฉันต้องการฉันจะเรียกนายล่ะกัน"
เมื่อการสนทนาสิ้นสุดลง ทันใดนั้นก็มีคนวิ่งเข้ามาและมองไปรอบ ๆ ห้องโถง เมื่อเขาเห็นหงเหว่ยกู เขาก็วิ่งเข้ามากระซิบข้างหู
เมื่อเขาจากไป หงเหว่ยกูก็อุทานว่า “จริงหรือ?”
ชายคนนั้นพูดเสียงเบา “ใช่ครับ เป็นเรื่องจริง”
"โอเค ฉันเข้าใจแล้ว คุณออกไปก่อน” หงเหว่ยกูโบกมือและชายคนนั้นก็จากไป
“เกิดอะไรขึ้น งานด่วนเหรอหงเหว่ยกู?” ถังรุยชีอยากรู้อยากเห็นเมื่อเขาเห็นการแสดงออกของหงเหว่ยกู
"งานนี้น่าสนใจนะ" หงเหว่ยกูไม่ได้กังวลที่จะซ่อนตัวใด ๆ เนื่องจากไม่มีใครอยู่รอบ ๆ “พี่รู้เกี่ยวกับวงนอกของภูเขาเทียนจิงไหม? ที่ดินที่ฉันซื้อให้ต้าหลี่น่ะ”
“ใช่ มีอะไรเหรอ?” ถังรุยชีงงงวย “อย่าบอกนะว่าเจอเหมืองทอง?”
“ฮ่าฮ่า ไม่ได้โชคดีขนาดนั้น ยิ่งไปกว่านั้น หากพวกเขาพบเหมืองทองคำ ก็จะต้องส่งมอบที่ดินผืนนั้นให้รัฐอยู่ดี” หงเหว่ยกูหัวเราะในขณะที่เขาพูดว่า “แต่จะยังไงก็เถอะ นี่ต้องขอบคุณต้าหลี่นะ”
ถังรุยชีรู้สึกตื่นเต้น หงต้าหลี่เป็นคนที่น่าทึ่ง ดูเหมือนทุกอย่างจะเกี่ยวข้องกับเขา “แล้วต้าหลี่ล่ะ? พบเหมืองถ่านหิน? เหมืองเหล็ก? บ่อน้ำพุร้อน?
"ไม่ใช่" หงเหว่ยกูยิ้ม เขาพูดว่า “ต้าหลี่ชอบสถานที่นั้น ดังนั้นฉันจึงซื้อที่ดินนั้นไว้ แต่ฉันไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้น บางทีเขาอาจคิดว่ามันสกปรกเกินไป เขาเลยจ้างคนมาทำความสะอาดสถานที่
"มันไม่มีอะไร เพียงแค่ใช้เงินเพื่อแลกกับความสุขของเขา ฉันจึงปล่อยให้เขาทำ แต่เดาสิว่าเกิดอะไรขึ้น?”
ถังรุยชีถามว่า “พบซากปรักหักพังโบราณ? ของเก่า?”
“ฮ่าฮ่า ไม่มีเลย ผมเองก็.. ผมไม่แน่ใจ” หงเหว่ยกูพูดว่า “มีคนพบช่องถ้ำใกล้ยอดเขา ตอนแรกรูถ้ำมีขนาดเล็ก คนงานจึงไม่ได้สนใจอะไรมากนัก แต่พวกเขาเก็บกวาดขยะและไม่มีอะไรทำ พวกเขาจึงตัดสินใจเข้าไปในถ้ำเพื่อสำรวจ ตอนนี้ยังไม่รู้เลยว่าข้างในจะเป็นของมีค่าขนาดไหน!”