ระบบใช้จ่ายตอนที่165
บทที่ 165: เริ่มต้นการเป็นอาเสี่ย
ผู้คุมเรือนจำเซาเจียนหลงทักทายหงต้าหลี่อย่างสุภาพและพูดด้วยรอยยิ้ม "ท่านนายน้อยต้าหลี่ ผมขอทราบชื่อของนักโทษที่ท่านกำลังตามหาได้ไหมครับ? ผมจะให้เขามาหาท่าน"
“อืม.. นักโทษชื่อหลิงมู่เฟิง คนที่มาเยี่ยมชื่อหลิงเสี่ยวหยี่ ช่วยตรวจสอบหน่อย” หงต้าหลี่พูด
เซาเจียนหลงพยักหน้าอย่างสุภาพและหยิบชาหลงจิงออกมาจากใต้โต๊ะทำงาน เขาพูดว่า "ท่านนายน้อยต้าหลี่ โปรดดื่มชารอก่อนนะครับ ผมขอตรวจสอบสักครู่"
หงต้าหลี่โบกมือและพูดว่า "ให้ทิปเงินเขา 5000" ชายผู้ติดตามโยนเงินกองหนึ่งออกมาทันทีและนับมันอย่างระมัดระวัง
“หลิงมู่เฟิง?” เซาเจียนหลงพึมพำชื่อด้วยความสงสัย "ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา ผมไม่เคยได้ยินชื่อนักโทษคนนี้ที่เข้ามาในคุกนะครับ ท่านนายน้อยต้าหลี่ โปรดรอสักครู่ ผมขอถามคนอื่นก่อน"
หลังจากพูดจบ เซาเจียนหลงก็วิ่งออกไปข้างนอกห้องและโทรหาใครสักคน
"โอ้ โอ้ อ๊ะ อ๊ะ ไอ้บ้าเอ้ย!" หลังจากดุคนที่อยู่อีกฟากหนึ่งของสาย เขาก็วิ่งกลับมาอย่างรวดเร็วและรายงานหงต้าหลี่พร้อมกับเหงื่อไหลลงหน้าผากของเขา "ท่าน ท่านนายน้อยต้าหลี่ครับ มีชื่อนักโทษคนนี้อยู่ที่นี้จริงครับ ผมไม่ทราบเลยว่าเกิดเรื่องเช่นนี้มาก่อน มีคนพาเขาไปที่ห้องขัง 205 โดยไม่แจ้งให้ผมทราบ"
หลังจากพูด เซาเจียนหลงก็รู้สึกว่าเขาแทบจะล้มทั้งยื่น
ถ้าเป็นคนอื่น เขาคงโกหกเรื่องนี้ได้
อย่างไรก็ตามหลิงมู่เฟิงเป็นบุคคลที่หงต้าหลี่อยากเห็น นี้กลายเป็นปัญหาใหญ่แล้ว ในเวลานี้เซาเจียนหลงได้แต่ประณามคนที่ทำเรื่องนี้ หลังจากท่านนายน้อยต้าหลี่จากไป บางทีเขาอาจจะต้องระบายอารมณ์ด้วยการยิงใครสักคน
นี้คือห้องขัง 205 ห้องที่มีเพียงนักโทษที่ถูกตัดสินจำคุกนานกว่า 20 ปี ไอ้บ้าที่ไหนกล้าส่งเด็กไปที่นั่น?!
แม้ว่าหงต้าหลี่จะไม่ทราบถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเรือนจำนี้ แต่เขาก็สัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่ผิดปกติ หงต้าหลี่พูดขึ้นมาว่า "อืม คนบ้าที่ไหนกันกล้าทำเรื่องแบบนี้ ห้องขัง 205 สินะ ห้องขังแบบนี้คงจะย้ายไปไหนไม่ได้สินะ? เรียกนักโทษที่ฉันต้องการมาพบฉันภายในห้านาที ไม่งั้นฉันคงจะต้องจัดการเองทุกอย่าง"
ถังมู่ซินยังพูดอีกว่า “โชคดีที่เรามาทันเวลา ไม่งั้นพี่เสี่ยวหยี่คงเสียใจแน่!”
ฟังน้ำเสียงของหงต้าหลี่แล้ว รู้ได้เลยว่าตอนนี้หงต้าหลี่โกรธมากและผลที่ตามมาก็ร้ายแรงมาก! เซาเจียนหลงวิ่งออกไปอย่างหมดหวังราวกับว่าชีวิตของเขาขึ้นอยู่กับมัน หลังจากนั้นไม่นานก็จะได้ยินเสียงคำรามตามทางเดิน “หลิวยู ไอ้เศษสวะ มาพบฉันเดี๋ยวนี้! ภายในห้านาที!”
ห้านาทีดูเหมือนจะไม่นานเกินไปหรือสั้นเกินไป
อย่างไรก็ตามเห็นได้ชัดว่าไม่มีใครกล้ามาช้า เพราะอาจถูกทำโทษได้ถ้ามาช้า
ดังนั้นภายในเวลาไม่ถึงสามนาที หลิวยูที่ตกใจและหน้าซีดก็ถูกนำตัวเข้าไปในห้องขัง ผู้คุมเรือนจำเซาเจียนหลงที่นั่งอยู่บนเก้าอี้หนังหมุนได้ ยืนเหมือนนักเรียนที่รอรับคำดุจากอาจารย์ของเขาที่ด้านข้างแทน
หงต้าหลี่มองไปที่หลิวยูที่กำลังหวาดกลัวและพูดว่า "ฉันจะให้เวลาแกสามนาที แกจงอธิบายทุกอย่างที่เกิดขึ้นให้ฉันฟังหน่อย ไม่อย่างนั้นก็เตรียมบอกครอบครัวของแกให้เตรียมงานศพไว้ได้เลย อย่าคิดว่าฉันแค่ทำให้กลัว ฉันกล้าทำตามที่ฉันพูดไป”
ตั้งแต่เขาตัดสินใจที่จะเล่นใหญ่ในวันนี้ หงต้าหลี่ก็ไม่จำเป็นต้องสุภาพอะไร
การเป็นคนดีนั้นยาก แต่การเป็นคนชั่วนั้นง่าย
หลังจากฟังคำพูดของหงต้าหลี่ หลิวยูก็คุกเข่าลงพร้อมกับพูดเสียงดัง เขาพูดทั้งน้ำตา ว่า "ท่านนายน้อยต้าหลี่ครับ ท่านนายน้อย ได้โปรดช่วยผมด้วย! ผมไม่รู้จริง ๆ ว่าเขาเป็นเพื่อนของท่านนายน้อย! ผมยังเด็ก ผมไม่อยากตาย!" เมื่อเขาพูดออกมา เขาก็รู้แล้วว่าเขากำลังจะเผชิญหน้ากับหงต้าหลี่ลูกชายคนเดียวของตระกูลหงหงเหว่ยกู เขามีอิทธิพลและมีอำนาจมาก ไม่มีใครสามารถที่จะต่อต้านเขาได้!
หงต้าหลี่หรี่ตามองและพูดว่า "อย่าพูดน่ารำคาญถึงเรื่องไร้สาระ แกรู้ดีว่าฉันอยากรู้เรื่องอะไร"
ร่างกายของหลิวยูดูเหมือนจะหมดแรงและล้มลงกับพื้น เขาพูดขณะที่ร้องไห้ว่า "ผมจะเล่า! ผมกำลังจะเล่าครับ! เมื่อสี่วันก่อนตอนที่ผมเพิ่งเลิกงาน ผมได้รับโทรศัพท์จากหัวหน้าใหญ่จากหัวหน้าใหญ่จากรัฐมนตรี เขาบอกให้ผมจัดการคนที่ชื่อหลิงมู่เฟิง เขาไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับเหตุผลจริง ๆ และผมก็ไม่กล้าถาม หลังจากวางสายไป ผมก็ได้รับเงิน 10,000 หยวน ผมจำเป็นต้องโกหกจริงๆ! ผมไม่ได้เป็นคนต้นคิดเรื่องนี้นะครับ หัวหน้าใหญ่ของคณะรัฐมนตรีเป็นบุคคลที่ผมไม่สามารถรุกรานได้ ดังนั้นผมจึงได้แต่พาหลิงมู่เฟิงไปคุก 205 ผมสาบานว่าผมไม่ได้ทำอย่างอื่นนอกเหนือจากนี้ครับท่านนายน้อยต้าหลี่!”
"หัวหน้าใหญ่คณะรัฐมนตรี" หงต้าหลี่หยิบมือถือของเขาขึ้นมา "ลุงหวังช่วยฉันหาข้อมูลเกี่ยวกับคณะรัฐมนตรีที!"
คนขับรถหวังหมิงหยูพูดว่า "ได้ครับ ท่านนายน้อยโปรดรอสักครู่นะครับ"
ในไม่ช้าหวังหมิงหยูก็โทรกลับมา “คณะรัฐมนตรีโซไซตี้เป็นแก๊งขนาดกลางที่ตั้งอยู่ที่ถนนด้านในของเมืองเทียนจิง อิทธิพลและอำนาจของพวกเขาอยู่ในระดับปานกลาง และปกติแล้วพวกเขาจะไม่สร้างเรื่องให้กับเรา”
หงต้าหลี่จึงถามว่า "พวกมันเป็นพันธมิตรกับใคร? คนพวกนี้คงจะไม่สร้างความเดือดร้อนให้น้องชายของเสี่ยวหยี่โดยไม่มีเหตุผลหรอกนะ?”
"นั่นก็จริง" หวังหมิงหยูครุ่นคิดสักพักและพูดว่า "ท่านนายน้อยครับ เราสามารถจัดการได้ครับ ผมจะให้คนไปตรวจสอบหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้"
"ได้"
หงต้าหลี่วางสายโทรศัพท์ เขายิ้มและพูดว่า "ดูเหมือนว่าคราวนี้เราจะต้องจัดการเรื่องใหญ่กันแล้วสินะ"
หลิวยูกลัวแทบตายในขณะที่คนอื่น ๆ กลัวจนตัวแข็ง
สิ่งที่เกิดขึ้นมันอยู่ภายใต้การดูแลของพวกเขา หากเกิดปัญหา เขาก็จะโดนด้วย เซาเจียนหลงได้แต่สาปแช่งหลิวยูและบรรพบุรุษของเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่าในใจถึง 18 ครั้ง ถ้าไม่ใช่เพราะหงต้าหลี่ยังคงอยู่ที่นี้ เขาก็คงพุ่งไปเตะหลิวยูแล้ว
หงต้าหลี่ยืนขึ้นเดินไปหาหลิวยูและมองไปที่ชายหนุ่มที่คุกเข่ากับพื้น หงต้าหลี่หยิบเงินสองร้อยดอลลาร์จากกระเป๋าสตางค์ของผู้ติดตามแล้วโยนลงไปที่พื้น "ค่ารักษาพยาบาลของแก"
"ค่ารักษาพยาบาล?" หลิวยูรู้สึกตกตะลึงอย่างเห็นได้ชัด
"เอ่อ.." หงต้าหลี่เกาจมูกของเขา “หักขามันซะ”
ไม่นานหลังจากนั้นผู้ติดตามชายสามคนก็ก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับแสยะยิ้มและยัดเงินเข้าไปในเสื้อของหลิวยู จากนั้นพวกเขาก็จับแขนหลิวยูและลากเขาออกไป หลังจากนั้นไม่นานก็จะได้ยินเสียงร้องไห้ด้วยความหวาดกลัวอยู่ด้านนอก
เมื่อพูดถึง..หากใครต้องการเป็นอาเสี่ยที่แสนอัจฉริยะ ผู้นั้นต้องมีความเด็ดขาดในการฆ่า ถ้าปล่อยให้ผู้ติดตามไม่ทำงานทำการอะไรเลย แล้วจะจ้างมาคุ้มกันเพื่ออะไร?
ดังนั้นหงต้าหลี่จึงรู้สึกว่าการตัดสินใจของเขาในวันนี้จำเป็นจริง ๆ บางทีควรจะเรียกมันว่า "พื้นฐานการเป็นอาเสี่ยมั้งนะ?"
ตอนนี้เรื่องราวก็พอประติดประต่อแล้ว หงต้าหลี่มองไปที่เซาเจียนหลงที่ยืนอยู่ข้าง ๆ และรอให้เขาพูดอะไรสักอย่าง แต่พอเขาไม่พูดอะไร หงต้าหลี่เลยพูดออกมาว่า "ไม่เอาน่า อย่าทำหน้าซีดแบบนั้นสิ สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ไม่ใช่ความผิดของนายหรอกนะ ไปเถอะ พาฉันไปดูเขาที ฉันสงสัยจังว่าตอนนี้เขาเป็นยังไงบ้าง"
เมื่อได้ยินเช่นนี้ร่างกายของเซาเจียนหลงก็เริ่มสั่นเทา
หลิวยู ไอ้สารเลวคนนี้ กลับกล้าขังหลิงมู่เฟิงในห้องขัง 205 ทั้งรวบเขาไว้กับกลุ่มผู้กระทำความผิดอย่างหนักอีก
ในตอนนี้เซาเจียนหลงทำได้เพียงขอความช่วยเหลือจากพระเจ้าในสวรรค์ หวังว่าหลิงมู่เฟิงจะไม่ถูกทำร้ายรุนแรงเกินไป ไม่อย่างนั้นเขาไม่รู้ว่าท่านนายน้อยต้าหลี่จะทำอะไรกับพวกเขา หากเกิดเหตุการณ์เลวร้ายขึ้นจะไม่มีใครปกป้องเขาได้อีกต่อไป
เมื่อนึกถึงแบบนี้ เซาเจียนหลงก็รีบถามว่า “ท่านนายน้อยต้าหลี่ครับ สภาพแวดล้อมในห้องขังไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ทำไมไม่ให้ผมเชิญนักโทษออกมาแทนล่ะครับ?”
หงต้าหลี่โบกมือและพูดว่า “ไม่ต้องทำถึงขนาดนั้น ฉันอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในห้องขัง 205 บ้างน่ะ”
เมื่อเห็นว่าหงต้าหลี่ยืนกรานที่จะไป เซาเจียนหลงจึงไม่กล้าคัดค้าน
หงต้าหลี่เป็นผู้เหนือกว่า การไม่ขัดคำสั่งย่อมเป็นความคิดที่ดีอยู่แล้ว
ไม่ถึงสองก้าวจากห้องขังก็มีเงาพุ่งเข้ามาหาหงต้าหลี่ นั้นคือหลิงเสี่ยวหยี่ เมื่อหลิงเสี่ยวหยี่เห็นหงต้าหลี่ เธอก็น้ำตาไหล เธอพูดในขณะที่ร้องไห้ว่า "ท่านนายน้อยค่ะ ฉัน.. น้องชายของฉัน เขา.. ฮือฮือ"
"ไม่เป็นไร เห็นไหมว่าฉันอยู่ที่นี่แล้ว" หงต้าหลี่จับมือหลิงเสี่ยวหยี่และปลอบโยนเธอ “ไม่ต้องห่วง มีฉันอยู่ทั้งคน ทุกอย่างจะต้องเรียบร้อย”
ถังมู่ซินหัวเราะอยู่ข้าง ๆ “พี่เสี่ยวหยี่ พี่จะไม่เป็นไร หงต้าหลี่น่ะเก่งมากเลยนะ!”
“แต่งานวันเกิดของท่านนายน้อย..” หลิงเสี่ยวหยี่ยังคงกังวลเล็กน้อย “เวลาใกล้จะถึงแล้ว เราจะทำยังไงดี?”
"ไม่ต้องสนเรื่องนั้น เราต้องแก้ปัญหาเรื่องนี้ก่อน" หงต้าหลี่โบกมือและพูดว่า "ไปกันเถอะ!"
พวกเขาเข้าไปในอาคารที่กักขังผู้ต้องขังอย่างรวดเร็ว
โดยรวมชั้นแรกยังค่อนข้างปกติ โดยทั่วไปนักโทษที่นี่ไม่ได้ชั่วร้ายเกินไป ดังนั้นบรรยากาศจึงไม่ได้แย่ขนาดนั้น แน่นอนว่านี่เป็นเพียงชั้นแรกเท่านั้น แผนผังของอาคารนี้มีห้องอยู่คนละด้านของทางเดิน ดังนั้นแสงจากทางเดินจึงไม่เพียงพอและต้องเปิดในช่วงกลางวัน คุณภาพของไฟก็ไม่ได้แน่ สภาพแวดล้อมก็ไม่ได้ดูมืดเกินไป
อย่างไรก็ตามบนชั้นสองนั้นแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง
ไฟกะพริบและแรงดันไฟฟ้าไม่คงที่ หลอดไฟกะพริบเป็นระยะ ๆ มันเหมือนกับโคมไฟบนถนนสู่โลกใต้พิภพที่ทำให้คนที่เดินผ่านรู้สึกกลัว
ชั้นสองเป็นชั้นที่พวกอาชญากรหนัก ส่วนใหญ่เกิดจากการก่อม็อบจนทำร้ายผู้อื่นได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
อย่างน้อยหลิวยูก็ไม่ได้อยู่ไกลเกินไป หากหลิงมู่เฟิงถูกส่งไปยังเรือนจำชั้นสามเพื่อกักขัง จุดจบของเขาคงไม่ง่ายเหมือนการหักขาสองข้าง
ทุก ๆ ห้าเมตรทั้งสองข้างของทางเดิน คือ ประตูเหล็กที่เย็นเฉียบ ประตูเหล็กมีช่องตะแกรงสำหรับผู้คุมเพื่อตรวจสอบสถานการณ์ภายในห้องขัง
จากนั้นพวกเขาก็ได้เดินลุกเข้าไปเรื่อยๆ
พอพวกนักโทษเห็นผู้คุมเรือนจำเซาเจียนหลง ทันใดนั้นพวกมันก็หัวเราะและพูดด้วยเสียงแหบ ๆ ว่า “สวัสดีผู้คุมเซา จะปล่อยพวกเราเมื่อไหร่?”
เซาเจียนหลงอารมณ์ไม่ดี พอเป็นแบบนี้ เขาจึงระเบิดออกมาด้วยความโกรธ แต่แล้วพอเขามองกลับไปที่หงต้าหลี่ที่กำลังเดินอยู่ข้างหน้าเขา เขาจึงต้องอดทนและพูดว่า "ครั้งหน้าเราค่อยคุยกัน"
นักโทษประหลาดใจ “วันนี้เกิดอะไรขึ้นกับผู้คุมเซา? ทำไมวันนี้คุยง่ายจังว่ะ” อีกคนพูดว่า "เฮ้ ดูนั้น ๆ นายน้อยคนนั้นคงมีอิทธิพลมาก มีสาวสวยเยอะแยะติดตามเขาด้วยแฮะ!" คนในเรือนจำต่างอิจฉา "เอาจริง ๆ นะ ชีวิตโคตรไม่ยุติธรรมเลย ไม่ต้องมองพวกแม่งหรอก ยิ่งมองก็ยิ่งทุกข์ นอนไม่หลับอีก”
บางคนถึงกับตะโกนว่า “ผู้คุมเซา คุณช่วยเอาบุหรี่เข้ามาหน่อยได้ไหม? ถ้าครอบครัวของฉันมาเยี่ยม ฉันสัญญาว่าจะขอให้พวกเขาตอบแทนคุณสิบเท่า!”
ใครจะรู้ว่าหลังจากที่หงต้าหลี่ได้ยินสิ่งที่นักโทษพูด จู่ ๆ เขาก็ชะงักกึก หลังจากที่เขาคิดเรื่องนี้ เขาก็รีบสั่งผู้ติดตามของเขา "ซื้อบุหรี่สิบมวน บางทีมันอาจมีประโยชน์ในอนาคต"