ระบบใช้จ่ายตอนที่161
บทที่ 161: คอสเพลย์
หลิวหมิงซินพูดในใจ.. ถ้าฉันเชื่อนากย็โง่แล้ว! ฉันยังจำได้ว่าเว็บไซต์ร้านหนังสือตุรกีของหมิงเฉิงก็ถูกปิดตัวลงเพราะนาย ความคิดนี้แล่นเข้ามาในใจของเขา แต่เขาไม่สามารถพูดออกมาดัง ๆ ได้ สิ่งที่หลิวหมิงซินทำได้ คือ เตือนตัวเองให้ระวังตัวให้มาก แต่ไม่ว่าเขาจะระมัดระวังแค่ไหนก็ไม่มีทางที่เขาจะคาดเดาสิ่งที่หงต้าหลี่วางแผนไว้ เขาทำได้เพียงพยายามอย่างเต็มที่เพื่อไปเดินต่อไป “ฉันจะโพสต์ข้อความในเกมเพื่อโฆษณา นายน้อยต้าหลี่ตั้งใจจะทำอะไรเหรอ?”
หงต้าหลี่พูดว่า "มันง่ายมาก นายต้องพูดถึงเรื่องที่เรามีศูนย์ฝึกทักษะเล่นเกมและเพื่อให้แน่ใจว่านายได้ตั้งค่าเซิร์ฟเวอร์เกมโดยเฉพาะแล้ว อืม จะต้องมีผู้คนจำนวนมากมารวมตัวและรอชมแน่นอน นายเป็นอัจฉริยะอยู่แล้ว นายพอจะคิดออกไหม?"
หลิวหมิงซินฉลาดจริง ๆ เขาคิดตามอย่างรวดเร็ว “อืม นั่นเป็นความคิดที่ไม่เลวเลย เราจะได้เซิฟเวอร์เกมที่มีผู้เล่นระดับมืออาชีพและขายตั๋วเพื่อให้คนมาเข้าชมได้ นั่นจะทำให้เราได้กำไร นอกจากนี้เรายังสามารถโฆษณาและเพิ่มความนิยมของเกมได้อีกด้วย ฉันจะประกาศรางวัลเป็นเงินสำหรับการต่อสู้ ซึ่งมันน่าจะดึงดูดผู้คนได้ไม่น้อย”
หงต้าหลี่ยกนิ้วให้เขา "เยี่ยมจริงๆ นายนี้ฉลาดแฮะ! งั้นเราจะจัดการต่อสู้แบบทีมและการต่อสู้แบบเดี่ยว ผู้เล่นที่แข็งแกร่งที่สุดในการต่อสู้แบบเดี่ยวในแต่ละเซิร์ฟเวอร์จะได้รับ 50,000 หยวน อันดับที่สองและสามจะได้รับ 30,000 หยวน อันดับสี่ถึงหกจะได้ 20,000 หยวน อันดับที่เจ็ดถึงสิบ 10,000 หยวน และ 1,000 หยวนสำหรับอันดับ 1-50 และ 500 หยวนสำหรับอันดับ 1-100 การต่อสู้แบบทีมจะเกิดขึ้นโดยมีผู้เล่น 5 คนและเงินรางวัลจะเพิ่มเป็นสองเท่า ฉันจะเป็นสปอนเซอร์งานนี้เอง”
หลิวหมิงซินสูดลมหายใจเข้า เขารู้สึกไม่สบายใจ “นายน้อยต้าหลี่มันจะดีเหรอ? ฉันได้รับประโยชน์ทั้งหมดเลยนะ แต่นายเป็นสปอนเซอร์งาน ฉันเริ่มรู้สึกแย่แฮะ”
หงต้าหลี่ทุบโต๊ะ “ถ้าอย่างนั้น 50-50 ก็จบใช่ไหม? การแข่งขันจะจัดขึ้นที่สนามกีฬาทิศตะวันตกสี่แยกวงเวียน ฉันจะติดตั้งหน้าจอขนาดใหญ่สองสามจอและเงินค่าตั๋วฉันจะจัดการเอง โอเคไหม?”
เมื่อได้ยินว่าหงต้าหลี่เต็มใจที่จะเสนอ 50-50 แบ่งกำไรกัน หลิวหมิงซินก็รู้สึกดีขึ้นมาก "โอเค ตกลง" เขาคำนวณบางอย่าง หากตั๋วราคาใบละสิบหยวน สนามกีฬาทิศตะวันตกสี่แยกวงเวียนสามารถรองรับคนได้ 50,000 คนได้อย่างสบาย ๆ ซึ่งเงินทั้งหมดจะได้ในการขายตั๋วประมาน 500,000 หยวน ดูเหมือนว่าหงต้าหลี่จะได้กำไรไม่มาก ไม่ว่ายังไงก็ตามในตอนนี้เขาไม่มีปัญหาในการจัดเตรียมสนาม การโฆษณาควรมีประสิทธิภาพมาก ดังนั้นข้อตกลงนี้อาจถือได้ว่าหลิวหมิงซินเป็นฝ่ายชนะ
แม้ว่าเขาจะยังไม่แน่ใจถึงแรงจูงใจที่แท้จริงของหงต้าหลี่ แต่ก็พอจะรู้เหตุผล หากเขาเรียกเก็บเงินค่าตั๋วเพิ่มขึ้นเล็กน้อย เขาก็สามารถทำกำไรได้มากขึ้น ท้ายที่สุดแล้วหงต้าหลี่ไม่จำเป็นต้องมีเงินทุนมากมาย
เท่าที่เขาได้ยินมาก่อน หงต้าหลี่พึมพำกับตัวเอง “สถานที่นี้ดูเหมือนจะเล็กไปหน่อย ฉันควรทำโฆษณาและโฆษณาบนสถานีโทรทัศน์เทียนจิง ไม่อย่างนั้นมันจะดูไม่ตรงกับสโลแกน 'ต้าหลี่ผลิตอะไรต้องดีที่สุด'”ซินซิน" หงต้าหลี่ตะโกนเรียกถังมู่ซิน “เธอมีไอเดียอะไรไหม? การแข่งขันนี้ดูจะธรรมดาเกินไป”
ถังมู่ซิน: “นายเป็นอาเสี่ยที่มีความสามารถนิ ฉันคิดไม่ออกหรอกว่าจะเสนออะไร”
“เอ่อ.. ฉันกำลังคิด มันไม่ดีเลย ถ้างานมันเล็กเกินไป” หงต้าหลี่มองไปรอบ ๆ และทันใดนั้นก็เห็นปกแผ่นเกม ดวงตาของเขาก็เปล่งประกายขึ้นมาทันที "วะฮะฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า! ฉันคิดออกแล้ว ฉันนี้คืออาเสี่ยที่แสนจะอัจฉริยะจริง ๆเลย!"
ถ้าหงต้าหลี่บอกว่าเขามีไอเดียเจ๋ง ๆ มันต้องเป็นไอเดียที่เจ๋งแน่นอน "มันคืออะไร มันคืออะไร?" ถังมู่ซินอยากรู้อยากเห็น "บอกเรามานะ เร็ว ๆ!"
หงต้าหลี่ก็แซวว่า “ซินซิน เธออยากเห็นอะไรที่มันมหัศจรรย์ไหม? มันจะต้องน่าทึ่งมากแน่!”
ถังมู่ซินครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งและทันใดนั้นก็เห็นปกแผ่นเกม "มหัศจรรย์? หมายความว่ายังไง? ต้าหลี่ ห๊ะ นี้นายอยากให้ฉันแต่งตัวเป็นตัวละครในเกมเนี่ยนะ?”
"คอสเพลย์?!" หลิวหมิงซินเข้าใจทันที เขาคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้และเห็นด้วยกับหงต้าหลี่ มันเป็นไอเดียที่ยอดเยี่ยม "นายน้อยต้าหลี่ ฉันประทับใจนายมาก นายมีความคิดที่เจ๋งมาก"
หงต้าหลี่พูดอย่างภาคภูมิใจว่า “ฉันก็แค่พูด ๆ ไปเท่านั้น พวกเราจะมีงานคอสเพลย์สุดอลังการด้วย!”
นี้จะต้องเป็นการแข่งขันเกมครั้งแรกที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
หลิวหมิงซินเริ่มคิดอะไรบางอย่าง จากนั้นเหงื่อของเขาก็เริ่มไหลออกมา
ตอนที่หงต้าหลี่พูดเรื่องงานกับเขา เขาก็สงสัยว่าความตั้งใจที่แท้จริงของหงต้าหลี่คืออะไร เขาคิดเรื่องนี้มาเกือบครึ่งวันแล้ว แต่ก็คิดไม่ออก เขาแทบจะเป็นบ้า ในขณะที่เขาขึ้นรถ เขายังคงครุ่นคิดถึงแรงจูงใจของหงต้าหลี่
แต่เขาคิดอะไรไม่ออก
บางครั้งมนุษย์ก็เป็นเช่นนี้ ยิ่งคิดอะไรไม่ออกก็จะยิ่งกังวลมากขึ้นเท่านั้น ยิ่งกังวลมากเท่าไหร่ก็จะยิ่งไม่มั่นคง
เมื่อคิดมากก็อาจจะทำให้หลิวหมิงซินผมหงอกได้ ไม่ว่าเขาจะคิดมากแค่ไหน อย่างไรแล้วเขาก็ได้ผลประโยชน์ หงต้าหลี่มาพร้อมกับความคิดและเงิน สิ่งที่เขาต้องทำคือใช้ประโยชน์จากความนิยมเพียงเล็กน้อยและหมุนเวียนเงินเพิ่มขึ้น ในความคิดของหงต้าหลี่ การเพิ่มขึ้นไม่กี่เปอร์เซ็นต์หมายถึงรายได้นับล้านถึงหลายสิบล้าน
หงต้าหลี่ไม่มีเหตุผลที่จะทำให้เขาได้ผลประโยชน์ขนาดนี้
ดังนั้นหลิวหมิงซินจึงครุ่นคิดในที่ทำงานที่บ้านหรือในขณะที่เขากินอาหารและยังฝันถึงเรื่องนี้ในขณะนอนหลับ
เขาใช้เวลาสามวัน ผมของหลิวหมิงซินเกือบจะเปลี่ยนเป็นสีขาวจากการคิดทบทวนแล้วทบทวนอีก ในที่สุดเขาก็ได้ข้อสรุปที่ทำให้เขาตกใจ ที่หงต้าหลี่ทำทั้งหมดนี้เพื่อถลุงเงินงั้นเหรอ?
ความจริงก็คือหลังจากหลิวหมิงซินคุยในวันนั้น ถังมู่ซินก็ถามหงต้าหลี่ในคำถามเดียวกัน หงต้าหลี่มองเธอราวกับว่าเธอเป็นคนโง่ “เราอยู่ด้วยกันมาตั้งนาน เธอยังไม่เข้าใจอีกเหรอ? ฉันแค่อยากจะถลุงเงิน”
หงต้าหลี่ได้แต่แสดงสีหน้าเคืองๆให้กับถังมู่ซิน
อาคาร Sangle ชั้น 16 สำนักงาน CEO
หงเหว่ยกูถือท่อยาสูบของเขาในขณะที่มองลงไปที่ผู้คนเดินเบียดกันรอบ ๆ “การก่อสร้างอาคารเรียนเป็นอย่างไรบ้าง? เรามีเอกสารที่ได้รับการอนุมัติทั้งหมดหรือยัง? แล้วหาอาจารย์ชุดแรกได้หรือยัง?”
เลขานุการของเขาตอบด้วยความเคารพในขณะที่กำไฟล์ "ท่านซีอีโอหง เอกสารที่ส่งมาทั้งหมดได้รับการอนุมัติแล้วและพบอาจารย์ชุดแรกที่ให้ความรู้เกี่ยวกับรากฐานการสอนต่าง ๆ แล้ว แต่ท่านนายน้อยต้าหลี่ไม่ได้ระบุว่าเขาต้องการให้โรงเรียนนี้เป็นแบบไหน ดังนั้นผมไม่ได้หาอาจารย์ที่มาสอนมากนัก"
หงเหว่ยกูครุ่นคิดและพูดว่า "ก็จริง นั่นคงเป็นความผิดพลาดของฉันเอง ต้าหลี่เรียกโรงเรียนนี้ว่า วิทยาลัยหลานเซี่ยน ฉันคิดว่าเขาคงหมายถึงทางการวิจัยทางเทคโนโลยีโดยเน้นที่การพัฒนาเว็บไซต์ นายสามารถขยายตรงจุดนั้นได้ อย่างไรก็ตาม ติดตามผลในด้านอื่น ๆ ของโครงการนี้ด้วย เอาตามที่นายเห็นว่าจำเป็นเลย เราจะทิ้งส่วนที่เหลือไว้ให้ต้าหลี่ตัดสินใจเอง"
“โอเคครับ ซีอีโอหง” เลขาถามอีกครั้ง “ว่าแต่จะตั้งที่วงรอบนอกของภูเขาเทียนจิงเหรอครับ?
หงเหว่ยกูหัวเราะเบา ๆ "ใช่! เพราะมันดูเหมือนจะเป็นสถานที่ที่เหมาะสมที่สุดแล้ว เจ้าลูกเกเรดูเหมือนจะเป็นคนขี้เบื่อตลอดเวลา ที่จริงบางอย่างที่เขาซื้อมานั้นก็ไร้ประโยชน์ อย่างไรก็ตามผืนดินที่วงเวียนรอบนอกของภูเขาเทียนจิงนั้นงดงามและพื้นที่โดยรอบนั้นก็ใหญ่พอที่จะสร้างโรงเรียนได้ เมื่อถึงเวลา เราจะมีห้องปฏิบัติการวิจัยของหลินหยูหยินมาร่วมกับเรา มันไม่ใช่ความคิดที่แย่เลยที่จะพัฒนาจนให้มันไปควบคู่กับการวิจัยด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี"
เลขาของเขาถอนหายใจและแสดงความตกใจ "เข้าใจแล้วครับ ท่านนายน้อยต้าหลี่ช่างหาวิธีที่น่าตื่นเต้นและคาดไม่ถึงได้มากมายจริงๆ ก่อนหน้านี้ก็ก่อสร้างบึงน้ำที่ภูเขาเหลียงเสร็จสมบูรณ์แล้วและที่ทะเลสาบเฟิงหยวนก็เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนอีกด้วย ผมในตอนแรกยังคิดว่าเราควรสร้างบ้านหลังเล็ก ๆ มากกว่าคฤหาสน์เสียอีก"
หงเหว่ยกูเป็นคนที่ฉลาดด้านธุรกิจ “ฮ่าฮ่า ใช่แล้ว หากเราคิดถึงความคิดของหงต้าหลี่แล้ว บางทีเขาก็ไม่ได้เลวร้ายนัก” หงต้าหลี่คงคิดติดตลกกับบึงน้ำบนภูเขาเหลียงและเขาก็รู้สึกได้ว่าความคิดของเขานั้นน่าสนใจ “ไม่เพียงแต่เราควรสร้างบ้านเพิ่ม เมื่อถึงวันเกิดหงต้าหลี่แล้ว เราน่าจะขุดพื้นที่รอบ ๆ เนินเขาใกล้ทะเลสาบเฟิงหยวนและปล่อยให้ทะเลสาบท่วมถึงด้านล่างของเนินเขา ล้างขยะออกจากทะเลสาบและหาเรือไม้ที่ดูมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ ฟังดูแล้วก็ดูดีมากเลยใช่ไหม?”
เลขาของเขาไม่สามารถปฏิเสธได้ว่ามันเป็นความคิดที่ดีทีเดียว "ใช่ครับ ถึงตอนนั้นเราก็ทำเป็นรีสอร์ทธรรมชาติก็ได้ นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับน้ำที่ไหลผ่านของภูเขาเหลียง พวกเขาสามารถเดินทางไปที่นั่นได้โดยเรือย้อนยุคและรับประทานสเต็กและไวน์มากมายกับเพื่อน ๆ เราสามารถปักธงขนาดใหญ่เป็นจุดท่องเที่ยวต่าง ๆ และปล่อยให้นักท่องเที่ยวได้เที่ยวรอบ ๆ ทะเลสาบด้วยเรือพักผ่อน น่าจะเป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวแน่นอน”
หงเหว่ยกูหัวเราะอย่างเต็มที่ "ฮ่าฮ่าฮ่า ฟังดูแล้วมันก็ดีนะ ใช่ ไปซื้อที่ดินด้านในและรอบ ๆ ภูเขาเทียนจิง ฉันรู้สึกว่าต้าหลี่ของเราจะมีไอเดียอื่น ๆ อีก แม้ว่าฉันจะไม่รู้ว่ามันจะเป็นยังไงก็เถอะ แต่ฉันแน่ใจว่ามันจะต้องเป็นอะไรที่น่าตื่นเต้นแน่"
เลขาของเขารีบตอบว่า "ครับ"
จู่ๆ หงเหว่ยกูก็ถามว่า "โอ้ ใช่แล้ว กีเซอร์หวัง ช่างทำผมคนนั้นเป็นยังไงบ้าง?"
เลขาของเขาไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดีเมื่อเอ่ยถึงกีเซอร์หวังที่แปลกประหลาด "กีเซอร์หวัง กีเซอร์หวังทำได้ดีมากเลยครับ เขาเป็นโค้ชศิลปะการต่อสู้มืออาชีพมาก มีข้อเสนอมากมายจากทีมผู้ผลิตรายอื่นที่เสนอ 1000 หยวนต่อวันเพื่อให้เขากำกับฉากแอ็คชั่น แต่เขาปฏิเสธพวกเขาทั้งหมดโดยให้เหตุผลว่าท่านนายน้อยต้าหลี่ไม่ได้เห็นชอบด้วย เขามีทักษะจริงๆ ผมแน่ใจเลยว่าตอนที่เขายังเด็ก เขาอาจจะเป็นหนึ่งในผู้ชายที่แข็งแกร่งมาก"
หงเหว่ยกูไม่รู้ว่าจะร้องไห้หรือหัวเราะดี "ฮ่าฮ่า เรามีคนที่ได้ค่าจ้างเดือนละ 5,000 แต่ไม่ยอมรับเงินวันละ 1,000 หยวนอยู่ด้วยแฮะ ลูกของฉันไปหาคนแบบนี้ได้ตลอดเลยนะ”
เลขาจึงพูดว่า "ใช่ครับ ซีอีโอหง โรงเรียนเทคโนโลยีที่ต้าหลี่ต้องการเปิดนี้เราจะทำอย่างไรกับการรับคนเข้าครับ? เราควรมองหานักเรียนหรือ.. "
หงเหว่ยกูพูดช้า ๆ ว่า "เกี่ยวกับการรับนักเรียน ฉันได้คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว ต้าหลี่ไม่ได้มีเจตนาที่จะแสวงหาผลประโยชน์จากโรงเรียนนี้ตั้งแต่แรก ฉันไม่ได้ตั้งความหวังไว้มากกับการแสวงหาผลกำไรจากโรงเรียนนี้ เราจะเปิดรับสมัครนักเรียนจากพื้นที่ชนบทที่ยากจน รอจนกว่าโรงเรียนจะสร้างเสร็จ โอ้ เรามีประมาณการค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างเท่าไหร่เหรอ?"