ระบบใช้จ่ายตอนที่158
บทที่ 158: จางกงหยาง
ในเวลาเดียวกัน ชูจงฉินก็กำลังถูกสัมภาษณ์จากกลุ่มผู้สื่อข่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า "คุณชูครับ คุณมีอะไรจะพูดเกี่ยวกับการที่คุณได้อันดับที่ 5 ในเวทีรายการฉันเป็นนักร้องหรือไม่? รู้สึกกดดันมากไหมครับ?”
ชูจงฉิน: "อืม ผมก็โอเคนะ ทุกคนที่เข้าร่วมการแข่งขันนี้ พวกเขาต่างมีทักษะและความเชี่ยวชาญมาก บางครั้งหากทำผลงานได้แย่ลง ก็จะได้อันดับที่ต่ำลงเช่นกัน ดังนั้นผมต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการฝึกฝนและปรับเปลี่ยนตัวเองครับ”
ผู้สื่อข่าวอีกคนถามว่า “แล้วคุณชู คุณคิดว่าในสเตจต่อไปที่จะถึงนี้ คุณจะได้อันดับที่หนึ่งอีกครั้งหรือไม่?”
ชูจงฉิน: "ผมมั่นใจนะ หลังจากที่ผมอยู่ในวงการดนตรีมานาน ผมก็ยังมีรากฐานของผมอยู่ ผมไม่สามารถปล่อยให้รุ่นน้องส่องแสงแพรวพราวคนเดียวได้หรอก”
เขาพูดอย่างมั่นใจ แต่เมื่อการสัมภาษณ์จบลง ชูจงฉินก็รีบวิ่งไปหาหงต้าหลี่และพูดว่า "ท่านนายน้อยครับ ช่วยผมด้วย! คู่แข่งในรายการฉันเป็นนักร้องน่ากลัวเกินไป ผมหล่นไปอยู่อันดับที่ 5 แล้ว! นายน้อยครับ ผมไม่หวังว่าจะได้ที่หนึ่ง แต่อย่างน้อยก็ไม่อยากตกรอบ! ไม่งั้นผมคงขายหน้าแย่!"
ไม่น่าแปลกใจที่ชูจงฉินจะกังวลมาก ถ้าเป็นคนอื่นอาจจะไม่กังวลเท่าเขา แต่มีคู่แข่งบางคนเข้าร่วมเพื่อแสดงความเคารพเขา หากเขาถูกคัดออกง่าย มันจะเป็นเรื่องน่าอายสำหรับเขาแน่นอน
"ใช่ ฉันรู้นานแล้ว" หงต้าหลี่เกาจมูก “นายคิดว่าฉันไม่รู้ว่านายกำลังคิดอะไรอยู่เหรอ? ให้ฉันพูดก่อน ฉันจะไม่ทำอะไรสกปรก ๆ ในการที่จะช่วยนายหรอกนะ ถ้านายคิดจะขอให้ฉันควบคุมผู้ชมเหมือนในช่วงแรกนั่น มันเป็นไปไม่ได้เลยและมันก็ไม่มีความหมายอะไรด้วยที่จะทำแบบนั้น ฉันถามนายแค่นี้ ในระหว่างสเตจที่สาม นายมีความสามารถพอไหมที่จะได้อันดับ 1 ใน 4 ?”
“อย่างน้อยอันดับสี่สินะครับ?” ชูจงฉินคิดสักพักและยืนยัน "ถ้าผมใช้เพลงที่มั่นใจที่สุดและเรียบเรียงใหม่อย่างถูกต้องและฝึกฝนสักสองสามวันก็ไม่น่าจะมีปัญหา! แต่ถึงแม้จะไม่ใช่ปัญหา แต่ผมก็กลัวว่าผู้ชมจะไม่ชอบอยู่ดี!"
หงต้าหลี่แสยะยิ้มและพูดว่า "ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องนั้นหรอก ขอแค่นายไม่ได้ที่โหล่ คงไม่มีปัญหาอะไรใช่มั้ย?
"ครับ แน่นอนครับ" แต่ชูจงฉินยังคงมีคำถามบางอย่าง “แต่สเตจที่สี่ จะมีผู้แข่งขันที่เหลือ..”
หงต้าหลี่พูดด้วยความมั่นใจว่า “ฉันสัญญาว่านายจะไม่ตกรอบ โอ้ ตอนนี้เราขาดคน ๆ หนึ่ง นายพอจะรู้จักใครไหม? ฉันต้องการใครสักคนที่ดีพอ ๆ กับเจียงหยู”
ชูจงฉินตกใจอย่างเห็นได้ชัด “ท่านยังต้องการนักร้องที่มีความสามารถมากกว่านี้อีกเหรอครับ!? ท่านนายน้อยครับ ถ้าท่านพบคนที่มีความสามารถ ท่านจะเชิญเขามาร่วมรายการสินะครับ? เจียงหยูได้เซ็นสัญญากับท่านแล้วหรือยังครับ? ทำไมไม่ใช้โอกาสนี้ในการดูแลเธอให้ดีล่ะครับ” เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ เขาอยู่บนเรือลำเดียวกับหงต้าหลี่และคิดแบบเขาจริง ๆ แน่นอนว่าเขาก็มีเหตุผลของตัวเอง ใครกันที่จะเต็มใจจะปะทะกับคู่ต่อสู้ที่ทรงพลัง?
"สัญญาคือสัญญา การแข่งขันคือการแข่งขัน" หงต้าหลี่กะแอมในลำคอ "มีใครที่พอจะมีความสามารถและน่าสนใจไหม? รีบคิดด่วนเลย!"
"งั้นขอผมคิดสักครู่ครับ" ชูจงฉินคิดสักพักและก็ตัดสินใจได้ ทันใดนั้นดวงตาของเขาก็สว่างขึ้นและพูดว่า "จางกงหยาง จางกงหยาง เขาไม่เลวเลยครับ! ท่านนายน้อย ท่านสามารถตามหาเขาได้เลย!"
“จางกงหยาง?” หงต้าหลี่ไม่เคยได้ยินชื่อเสียงของเขามาก่อน เขาถามจางไกโดยตรงว่า "พี่สาวไก จางกงหยางเป็นคนแบบไหน?"
จางไกค่อนข้างรู้เกี่ยวกับเรื่องในวงการบันเทิงและตอบโดยไม่ต้องคิด ว่า "ฉันกำลังจะแนะนำเขาให้ท่านนายน้อยรู้จักเลยค่ะ จางกงหยางเดบิวต์ค่อนข้างเร็ว แต่บุคลิกของเขาค่อนข้างจะดื้อรั้นและไม่ชอบให้ใครมาบังคับ ดังนั้นในตอนนี้จึงไม่มีใครเต็มใจที่จะดูแลเขา เขาจึงไม่ได้รับความนิยมและไม่เป็นที่รู้จักในตอนนี้ แต่ในแง่ของทักษะการร้องเพลงนั้น แน่นอนว่าเขาอยู่ในอันดับต้น ๆ และเก่งพอ ๆ กับเจียงหยูค่ะ นอกจากนี้ภาพลักษณ์ของเขาก็ไม่ได้แย่ด้วย”
"อ้อ เข้าใจแล้ว ก็ถือว่าดี" หงต้าหลี่ตัดสินใจแล้ว “ไปตามตัวเขามา! ไปติดต่อเขา จากนั้นก็ลงข่าวออนไลน์ว่าเราพบคู่แข่งที่แข็งแกร่งที่จะเข้าร่วมการแข่งขัน อย่าลืมเก็บไว้เป็นความลับ”
"รับทราบค่ะ" จางไกครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งและถามว่า "แต่ท่านนายน้อยค่ะ ตอนนี้ความนิยมในรายการฉันเป็นนักร้องของเราสูงมาก นักร้องที่มีชื่อเสียงและเป็นที่นิยมจำนวนมากต้องการเข้าร่วมรายการของเราโดยไม่ต้องการค่าตัวค่ะ ท่านคิดว่า..."
หงต้าหลี่ไม่ได้สนใจ “ขอให้พวกเขารอ ผู้ที่ได้รับความนิยมมากเกินไปมักจะอารมณ์รุนแรงและไม่ยอมฟังเรา นอกจากนี้พวกเขายังผูกติดสัญญากับบริษัทอื่น ๆ ไม่มีความสำคัญอะไรมากสำหรับเรา แม้ว่าพวกเขาจะมาร่วมรายการก็ไม่มีประโยชน์ ทั้งตอนนี้เราไม่ได้ขาดความนิยม ฉันไม่ต้องการพวกเขา”
จางไกและชูจงฉินต่างก็ถอนหายใจพร้อมกัน
ความใจกว้างและการมองการณ์ไกลของท่านนายน้อยคนนี้ไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาจะยอมรับได้
ถ้านี่เป็นรายการแสดงอื่น ๆ และมีคนดังหลายคนยินดีที่จะเข้าร่วมฟรี คนที่จัดงานคงจะดีใจและรอการต้อนรับของคนดังไม่ไหวใช่ไหมล่ะ? แต่สำหรับท่านนายน้อยแล้วนั้น เขาไม่สนใจและปฏิเสธพวกเขาโดยตรง
แต่ความสามารถและความแข็งแกร่งของท่านนายน้อย เขาจะใช้จ่ายเงินเพื่อให้ได้ผลที่ดีที่สุดในการทำบางอย่างหรือไม่ทำเลย
หากรายการ "ฉันเป็นนักร้อง" ผลิตโดยบริษัทอื่น ก็คงแค่ได้รับความนิยม แต่ในมือท่านนายน้อย เขาทุ่มเงินเป็นจำนวนมากเพื่อสร้างรายการค้นหาความสามารถที่มีคะแนนผู้ชมมากกว่า 5%
เป็นเรื่องจริงที่การมองการณ์ไกลและความแข็งแกร่งมันเป็นความสามารถเฉพาะตัวของเขาเท่านั้น
ไม่กี่วันต่อมาในโลกโซเชียลก็กลับมาคึกคักอีกครั้ง!
หลี่เสี่ยวมีความสามารถในการร้องเพลงที่แข็งแกร่งที่สุดได้ถูกคัดออกจากรายการ "ฉันเป็นนักร้อง" แน่นอนว่ามูลค่าสุทธิของหลี่เสี่ยวเพิ่มขึ้นไม่น้อยและที่สำคัญกว่านั้นหลี่เสี่ยวก็ได้เซ็นสัญญากับไกเหว่ยเอนเตอร์เทนเมนท์ด้วย!
มันแสดงให้เห็นถึงอะไรงั้นเหรอ? ในรายการ "ฉันเป็นนักร้อง" พวกเขาได้แข่งขันกันอย่างเต็มที่โดยใช้ทักษะของตัวเองและไม่ใช้วิธีสกปรก! แม้แต่นักร้องก็ร้องด้วยเสียงของตัวเอง แล้วไหนละวิธีสกปรก? นอกจากนี้ผู้ชมไม่ได้เป็นคนโง่ หลี่เสี่ยวคิดว่าเขาทำได้ไม่ดี อาจเป็นเพราะเขาเครียดเกินไป ดังนั้นเขาจึงตกรอบ
ในตอนนี้ผู้ชมต่างชื่นชมและชอบความเป็นธรรมของรายการ "ฉันเป็นนักร้อง" ที่ผลิตโดยบริษัทไกเหว่ยเอนเตอร์เทนเมนท์และตอนนี้ผู้คนต่างก็คิดกันอยู่ว่าใครจะกลายเป็นแชมป์ ซึ่งเป็นคำถามที่ติดเทรนด์ในโลกออนไลน์ไปแล้ว
ในเวลานี้บริษัทไกเหว่ยเอนเตอร์เทนเมนท์ราวกับปาระเบิดลงไปในหม้อต้มน้ำเดือด!
คู่แข่งที่แข็งแกร่งจะเข้าร่วมการแข่งขันสําหรับสเตจที่สาม!
ชื่อของนักร้องถูกเก็บเป็นความลับ! อายุของนักร้องถูกเก็บเป็นความลับ! รู้แค่ว่าเขาเป็นนักร้องชาย นอกเหนือจากนั้นถูกเก็บเป็นความลับทั้งหมด!
เป็นเวลาสองวันแล้วที่หัวข้อนี้ได้รับความนิยมและพูดถึงนักร้องชายลึกลับ แม้แต่ในเว็บไซต์ Xinhai Weibo ยังถกเถียงประเด็นนี้ ประเด็นที่ถกเถียงกันติดเทรนด์และมีคนดันข้อความถึง 100,000 กว่าข้อความหรือมากกว่าหัวข้อที่สองด้วยซ้ำ
นั่นยังไม่หมด สถานีโทรทัศน์เทียนจิงมีอัตราผู้ชมอย่างต่อเนื่องกว่าที่ผ่านมาและเกินความคาดหมายถึง 5.4 % แล้ว แต่ละครที่ผลิตโดยบริษัทหัวเหว่ยเอนเตอร์เทนเมนท์กลับไม่มีใครดู เพราะในช่วงนี้ผู้ชมต่างติดเป็นนิสัยเฝ้ารอดูแต่รายการ "ฉันเป็นนักร้อง" ก่อนที่จะไปนอนกัน
มีผู้คนเข้าเว็บไซต์ So Cool กันอย่างต่อเนื่องและเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในตอนแรกของหนังสั้นไม่คาดคิด! มียอดวิวเกิน 30 ล้านและเป็นยอดวิวที่ติดท็อปสองที่มาแรงที่สุด ในส่วนของรายการฉันเป็นนักร้องก็มียอดวิวเกิน 40 ล้าน ซึ่งติดท็อปอันดับหนึ่ง และสําหรับคอนเสิร์ตของลี่เนียนเหว่ยก็มียอดวิว ทำลายสถิติทะลุ 60 ล้านวิวไปแล้ว
หงต้าหลี่ไม่กังวลกับสิ่งที่เกิดขึ้นในโลกออนไลน์ ในตอนนี้เขาแค่มองไปรอบ ๆ ในชั้นแรกของอาคารเฉินหุย
เมื่อเขากำลังอุ้มเคลตินและขึ้นชั้นแรกมา เขาก็ได้ยินเสียงสุนัขเห่า โชคดีที่มีเอฟเฟค "สัตว์เป็นเพื่อนที่ดีที่สุด" อยู่ หงต้าหลี่เลยผ่านชั้นแรกได้อย่างง่ายดาย แต่สิ่งนี้กลับสร้างความหวาดกลัวให้กับคนดูแลสัตว์ที่ถูกว่าจ้างให้ดูแลพวกมันมาก
แม้ว่าผู้คนยังคงเรียกหงต้าหลี่ว่า "อาเสี่ยน้อยที่แสนอัจฉริยะ" แต่ผู้คนก็ไม่ได้เรียกหรือดูถูกเขาเหมือนเมื่อก่อน มันไม่ง่ายเลยที่จะถลุงเงินให้เป็นศิลปะแบบเขา ดังนั้นเมื่อคนเลี้ยงสัตว์เห็นหงต้าหลี่อุ้มเสือน้อยและเข้ามาพร้อมกับถังมู่ซิน,หลินซี่ฉวนและผู้ติดตามทั้งเก้าของเขา เขาก็เดินมาหาและทักทายอย่างสุภาพ "สวัสดีครับท่านนายน้อย!"
หงต้าหลี่มองไปรอบๆ "อ้ะ ดีๆ พวกคุณทําได้ดี โอ้ ดูพวกนี้สิ พวกมันน่ารักมากเลย พวกมันดูดีและแข็งแรงมาก ฮ่าฮ่า! ให้ทิปเงินทุกคน คนละ 3,000 หยวน!"
"ขอบคุณครับท่านนายน้อย!" พวกเขารู้สึกขอบคุณมาก นี้ละคืออาเสี่ยน้อยที่แท้จริง เขาคือตำนาน เขาทั้งเก่งและมีเมตตามาก แค่เดินมาหาก็ให้เงิน 3,000 หยวนต่อคน! ชั้นนี้มีสุนัขอย่างน้อย 40 ตัว ดังนั้นเขาใช้จ่ายหลายร้อยหลายพันหยวนกับที่นี้แน่นอน
แต่ถึงแม้ว่านี่จะเป็นสิ่งที่หัวหน้าคนดูแลคิดในใจ เขาก็ไม่ได้คิดว่าหงต้าหลี่เป็นคนงี่เง่า ในการเป็นหัวหน้าคนดูแลที่นี้ เขาเป็นคนที่ชอบสัตว์ตัวเล็ก ๆ บางทีสวรรค์อาจชอบไอ้หนุ่มคนนี้ เพราะเขาเองก็ช่วยเหลือสัตว์มามากมาย
หงต้าหลี่ไม่ได้สนใจว่าหัวหน้าคนดูแลจะคิดยังไง สิ่งที่เขากังวลจริง ๆ คืออนาคตของสัตว์พวกนี้ "เฮ้ หัวหน้าคนดูแล พวกมันตัวเล็กและน่ารักมาก แต่เราก็ไม่สามารถเลี้ยงดูพวกมันได้ตลอด นายพอจะมีความคิดดีๆบ้างไหม?" เมื่อหงต้าหลี่พูดไปแบบนั้นแล้ว เขาลูบหัวสุนัขพันธุ์เชาเชาและแกล้งมัน "โอ้ เจ้าตัวเล็กของฉัน มันอยากเลียฉันด้วย ฮ่าฮ่า"
ที่ด้านข้างของเขา ถังมู่ซินและหลินซี่ฉวนรู้สึกตื่นเต้นจนไม่เป็นตัวของตัวเอง พวกเธอลูบสุนัขตัวนึงและก็ลูบสุนัขตัวอื่น ๆ เพราะสุนัขทั้งหมดฉีควัคซีนและทำความสะอาดแล้ว พวกเขาสามารถลูบหรือเล่นกับสุนัขเหล่านี้ได้มากเท่าที่ต้องการ
หัวหน้าคนดูแลได้คิดทบทวนมาสองสามวันที่ผ่านมา "เอ่อ.. ท่านนายน้อยครับ ผมมีข้อเสนอแนะ คือ เราจะดูแลพวกมันจนกว่ามันจะโตและสวยงาม จากนั้นเราน่าจะมอบสุนัขและแมวเหล่านี้ให้คนที่รักสัตว์ ที่จริงพวกมันเลี้ยงง่าย เพียงแค่ให้อาหารพวกมันเป็นเวลาและเอาใจใส่ ถึงแม้ว่าพวกมันจะเป็นสุนัขจรจัดและแมวจรจัด แต่พวกมันก็ไม่ทำร้ายหรือทำลายข้าวของ
"ความคิดดี โอเค ตัดสินใจแล้ว “หงต้าหลี่คิดในขณะที่พยักหน้าและพูดว่า”ยกหน่วยงานมาที่นี่ ตรวจสอบว่าพวกมันมีโรคหรือไม่ โอ้ ใช่ ตัดแต่งโกนขนพวกมันและทำความสะอาดด้วยความร้อน ฉันกลัวว่าพวกมันอาจจะไม่ได้อาบน้ำทำความสะอาดและมีเห็บหมัดได้ นอกจากนี้ตรวจสอบให้แน่ใจว่าพวกมันได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว และฝึกให้พวกมันไม่ไปกัดคนอื่นตอนที่พวกมันออกไปข้างนอกด้วย"