ระบบใช้จ่ายตอนที่156
บทที่ 156: บ้าบิ่นใจกว้าง
โอ้ เรื่องนี้สินะ พูดง่าย ๆ ก็คือหลังวันเกิดปีที่ 18 ปีของฉัน ฉันจะกลายเป็นสมาชิกหลักของตระกูล ดังนั้นฉันต้องเริ่มทำธุรกิจและหารายได้ แต่ฉันจำเป็นต้องถลุงเงินเสมอ ไม่น่าแปลกใจที่พ่อและแม่จะเป็นห่วงฉัน
โชคดีที่ยังไม่เกิดเรื่องเลวร้ายในตอนนี้ ทุกอย่างที่ฉันถลุงเงินไปนั้นได้รับเงินมาไม่น้อย ไม่จำเป็นต้องกลัวเลย ฉันจะต้องทำตัวเหมือนปกติและไม่สนใจว่าคนอื่นจะคิดยังไงกับฉัน แต่มันจะดูไม่เหมือนกับฉันใช้เงินของคนอื่นเหรอ?
"สิบล้านเหรอครับ?" หงต้าหลี่คิดอยู่พักหนึ่ง “นั่นเป็นเงินจำนวนไม่น้อย พ่อมีคำแนะนำอะไรให้ผมไหม?”
"ฮิฮิ ฉันขอแนะนำให้แกทำใหัมันยิ่งใหญ่! ยิ่งใหญ่ที่สุด!“หงเหว่ยกูพูดอย่างภาคภูมิใจว่า”ฉันอยากให้คนทั้งโลกได้รู้ว่าต้าหลี่ของฉันโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว! แกเป็นอิสระแล้ว! ไม่ใช่เด็กอย่างที่เคยเป็น! ดังนั้นครั้งนี้มันต้องยิ่งใหญ่และน่ามหัศจรรย์ และมันจะดีมาก ถ้าพวกเขาจะจดจำไม่มีวันลืม!"
โอเค นี่คือพ่อของฉันจริง ๆ เขาไม่เกลียดที่จะให้คนทั้งโลกรู้ว่าตอนนี้ฉันเป็นผู้ใหญ่แล้ว ดูเหมือนว่าฉันจะต้องโปรโมทตัวเองว่าเป็นอาเสี่ยน้อย เป็นสุดยอดอาเสี่ยที่ยิ่งใหญ่! ไม่เลวเลย!
แต่เมื่อคิดดี ๆ แล้ว การจัดวันเกิดที่ยิ่งใหญ่แบบนี้ต้องมีประโยชน์อะไรสักอย่าง อย่างน้อยก็ทำให้คนอื่นรู้ว่าฉันสำคัญกับหงเหว่ยกูแค่ไหน นี่อาจเป็นความตั้งใจจริงของเขา สำหรับฉัน เขาไม่ได้กังวลว่าเขาจะต้องใช้จ่ายเท่าไหร่ เขาแค่ต้องการให้คนอื่นมองว่าเขาคิดยังไงกับฉัน
ในวันเกิดครบ 18 ปีของฉันนี้ จุดมุ่งหมายจริงของพ่อ คือ แสดงทัศนคติของตัวเองให้เห็นว่าคิดกับฉันยังไง!
เมื่อนึกได้แบบนี้ หงต้าหลี่ก็ยิ้ม เขาอาจจะไม่เก่งเรื่องอื่น ๆ แต่นั่นก็ไม่ได้รวมถึงการถลุงเงิน นี่คือความสามารถพิเศษของเขา! เขาพูดทันทีว่า "พ่อ ผมคิดแผน รับรองไว้แล้ว พวกเขาต้องตกตะลึงแน่!”
หงเหว่ยกูยิ้มและพูดว่า "โอ้? เล่าให้ฟังหน่อย”
ดวงตาของหงต้าหลี่เปล่งประกายเหมือนดวงดาว "พ่อ เรามีเรือสำราญของครอบครัวเราไหม?"
"แกหมายถึงจะจัดงานวันเกิดบนเรือสำราญใช่ไหม?" หงเหว่ยกูลูบคางของเขา “เรามีหนึ่งลำมั้ง ก็ไม่เลวนะ ฉันจำได้ว่ามันประมาณ 80,000 ถึง 95,000 ตัน หรือ 88 ล้าน 96 ล้านหว่า? ฉันจำไม่ได้จริง ๆ แฮะ”
"เอ่อ" หงต้าหลี่หดหู่เล็กน้อย "มีใหญ่กว่านี้ไหมครับ?"
“เอาใหญ่กว่านี้อีกเหรอ?” หงเหว่ยกูถามแปลก ๆ “จริงสินะ งานวันเกิดจะต้องยิ่งใหญ่ที่สุด ฉันเองก็คิดว่ามันเล็กไปหน่อย”
"เอ่อ ผมคิดว่าผมยังอธิบายไม่ชัดเจน" หงต้าหลี่แสยะยิ้มและพูดว่า "ผมกำลังคิดจะย้ายเรือสำราญไปที่ทะเลสาบเฟิงหยวนและจัดงานวันเกิดในนั้นน่ะครับ"
หงเหว่ยกู: "....."
หลานรุยซี: "....."
พวกเขาสองคนมึนงงอยู่พักหนึ่งก่อนที่หงเหว่ยกูจะหัวเราะเสียงดัง เขาตบไหล่หงต้าหลี่และพูดว่า "แกเป็นลูกของฉันจริงๆแฮะ แกนี้บ้าบิ่นจริง ๆ! มองการณ์ไกล! ใจกว้าง! เอาล่ะ ตัดสินใจแล้ว!"
เขาลุกขึ้นยืนอย่างตื่นเต้นและเดินไปรอบ ๆ ในห้องนั่งเล่น “ใช่แล้ว การล่องเรือสำราญในทะเลสาบเฟิงหยวนเป็นความคิดที่ยอดเยี่ยม มันจะทำให้พวกนั้นตกใจแน่! ตัดสินใจได้แล้ว! แต่เรือสำราญของเราใหญ่เกินไป แถมการหาเรือลำเล็กก็ดูไม่เหมาะด้วย”
หลานรุยชียิ้มและพูดว่า "จะว่าไป ฉันจำได้ว่าฉันเห็นข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่นะ"
เธอวางเคลตินลงบนพื้นและเดินเข้าไปในห้องทำงานและค้นหาเอกสาร หลังจากนั้นไม่นานเธอก็อ่านหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่ง "เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาฉันบังเอิญเห็นข่าวเกี่ยวกับชุดเรือสำราญทองคำ พวกเขาใช้เรือสำราญทองคำโดยทดสอบในน่านน้ำและได้รับการออกแบบอย่างเคร่งครัดตามมาตรฐานเรือสำราญในมหาสมุทรแล้ว แต่ละลำมีราคา 30 ล้านหรือมากกว่านั้น เรือมีความยาว 130 เมตร กว้าง 24 เมตร สูง 6 ชั้น มีห้องพักทั้งหมด 200 ห้องรวมทั้งห้องรับรอง ห้องหรูหรา ห้องสวีทสุดหรูและห้องประชุม สามารถรองรับคนได้สูงสุดถึง 570 คน เป็นเรือสำราญหรูขนาดใหญ่รุ่นที่ห้า"
หลังจากแนะนำเรือ หลานรุยชีก็ได้ยื่นรูปในหนังสือพิมพ์ให้หงเหว่ยกูดู "ที่รักคิดว่ายังไงกับเรือลำนี้?"
"ไม่เลว ไม่เลวเลย!" ดวงตาของหงเหว่ยกูสว่างขึ้นทันที “ต้าหลี่จะใช้เรือลำนี้จัดงานวันเกิดของเขา! ฉันจะโทรชื้อเรือเลย”
ตอนนี้เขาตัดสินใจแล้วว่าจะจัดงานวันเกิดให้หงต้าหลี่บนเรือทองคำลำนี้
หลังจากพูดคุยรายละเอียดเพิ่มเติม ทันใดนั้นวังหมิงหยูก็กลับมารายงาน เขาก้มเคารพและรายงานว่า "ท่านผู้ชายครับ ผมได้ตรวจสอบเขาแล้ว"
หงเหว่ยกู: "โอเค บอกฉันมา"
วังหมิงหยูพูดว่า "หลินหยิงอี้คนนี้มีลูกสาวชื่อหลินซี่ฉวนจริง ๆ ครับ เขาเป็นนักธุรกิจที่ซื่อสัตย์และมีแฟรนไชส์ร้านอาหารเป็ดย่าง ชื่อร้านว่าหลินเป็ดย่างรสเลิศ ธุรกิจถือได้ว่าไม่เลวและสินทรัพย์รวมของเขาประมาณ 20 ล้านหรือมากกว่านั้น อย่างไรก็ตามส่วนใหญ่เป็นสินทรัพย์ถาวร เช่น ร้านอาหาร เป็นต้น ดังนั้นสินทรัพย์ของเขามีเพียงประมาณสามล้านหรือมากกว่านั้น ตามที่คิดไว้ เขาไม่ได้เป็นคนที่เลวร้ายและเขาเป็นคนที่ซื่อสัตย์และตรงไปตรงมา เขาไม่เคยทำตัวแย่กับคนอื่นเลย แม้ว่าธุรกิจของเขาจะขยายตัวมากแล้วก็ตาม โดยรวมแล้วถือว่าเขาเป็นคนดีครับ”
"ดีมาก" เมื่อรู้ข้อมูลของหลินหยิงอี้แล้ว หงเหว่ยกูก็รู้สึกผ่อนคลาย เขายิ้มและพูดว่า“ดูเหมือนว่าต้าหลี่ของเราจะมีโชคกับผู้หญิงอยู่บ้าง เขาสามารถหาผู้หญิงที่สวย ๆ แบบนี้ได้จากข้างถนนด้วยแฮะ”
หลานรุยชียิ้มและสะกิดหงต้าหลี่ "เจ้าลูกคนนี้ ฉันเห็นว่าหลินซี่ฉวนนิสัยดีเลยช่วยเลี้ยงดูเธอในฐานะลูกบุญธรรม แกคิดว่ายังไง?"
หงต้าหลี่เกาจมูก “แม่ เธอจะเป็นน้องสาวของผมเหรอ?”
"เธอไม่ได้อยู่ในสายเลือด แกจะกลัวอะไร" หลานรุยชียิ้มและพูดว่า "ฉันรอแกมีหลานให้ฉันอยู่ ฉันรับเลี้ยงหลานชายหลานสาวได้สบาย พ่อแกและฉันคิดชื่อสำหรับพวกเขาไว้แล้ว ถ้าเป็นผู้ชาย จะเรียกว่า หงต้าลอง ถ้าเป็นผู้หญิง จะเรียกว่า หงเสี่ยวเฟิง"
เมื่อเห็นแม่ของเขาคิดไปไกลแล้ว หงต้าหลี่ก็ยอมจำนน “ผมจะไปนอนแล้ว ถ้าเรายังคุยต่อ แม่ก็จะพูดถึงหลานชายซ้ำแล้วซ้ำเล่าอีก”
“โอ้ อาเสี่ยน้อยของเราอายเหรอ? ฮิฮิ” แม้แต่ดวงตาของหลานรุยชีก็ยิ้มเช่นกัน “คงจะวิเศษมากถ้าครอบครัวของเรามีลูกมีหลานสี่ชั่วอายุคนและอยู่ร่วมกัน แต่ถ้างี้เจ้าลูกคนนี้คงต้องเจ้าชู้มากแน่!”
หงเหว่ยกูหัวเราะเสียงดังและพูดว่า "ดูคุณพูดสิ คุณทำให้ต้าหลี่กลัวไปแล้วรึเปล่าเนี่ย? ไปพักผ่อนเถอะ ฉันต้องไปหาหลินหยิงอี้พรุ่งนี้เช้า“ในขณะที่เขาพูดเช่นนั้น เขาก็สั่งวังหมิงหยูว่า”หมิงหยูส่งคนไปเฝ้าบ้านหลินหยิงอี้และสอดแนมเขา ดูว่าหลินซี่ฉวนหนีออกจากบ้านจริง ๆ หรือเปล่า หรือถูกส่งมาที่นี่โดยเจตนา ดูว่าเขากังวลจริงไหม แล้วค่อยกลับมารายงานฉัน”
"ได้ครับ ท่านผู้ชาย" วังหมิงหยูตอบทันที
เขตเมืองเทียนจิง ทิศตะวันออก บ้านหลินหยิงอี้
พ่อของหลินซี่ฉวน หลิงหยิงอี้อายุประมาณ 40 ปี ปกติเขาจะมีท่าทางเรียบร้อย แต่ตอนนี้ใบหน้าของเขามุ่งร้ายและคำราม “บ้าเอ้ย! ชาติหมา! กล้าดียังไงลักพาตัวฉวนฉวนของฉัน! ฉันจะฆ่ามัน! ฆ่ามัน! จากนั้นเขาก็ขว้างทุกอย่างที่อยู่ในสายตาและมองอย่างน่ากลัว
แม่ของหลินซี่ฉวนค่อนข้างอวบ ผิวของเธอขาวมากและเธอค่อนข้างสวย แต่ตอนนี้ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความวิตกกังวลและดวงตาของเธอก็แดง เธอนั่งอยู่ที่นั่นโดยก้มศีรษะลงและสูดลมหายใจเข้า เธอร้องไห้ เธอร้องว่า “พี่หลิน หยุดปาข้าวของได้แล้ว คุณกำลังทำลายข้าวของในบ้าน รีบหาทางทำอะไรสักอย่างเถอะ”
เธอร้องไห้เสียใจ เห็นได้ชัดว่าเรื่องนี้ทำให้ครอบครัวเป็นกังวลมาก
เงินห้าล้านไม่ใช่จำนวนน้อย ๆ สำหรับพวกเขา พวกเขาเป็นคนที่แทบจะไม่ได้อยู่ในอันดับของสังคมชนชั้นสูง
หลินหยิงอี้ตะโกน “คิดอะไรอยู่? ฉันคิดทุกอย่างแล้ว แต่ฉันยังขาดเงินอีกหนึ่งล้าน รู้ไหมว่าฉันพยายามแค่ไหน ฉันทำอะไรได้บ้าง? ฉันควรจะทำยังไง? ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับซวนซวนของฉัน ฉันจะอยู่ต่อไปอย่างไร!”
แม่ของหลินซี่ฉวนร้องไห้อีกครั้งและพูดว่า "ถ้าไม่มีจริง ๆ ไม่มีวิธีอื่นแล้วก็แค่ขายบ้านหลังนี้ มันน่าจะพอ" ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นการช่วยฉวนฉวนนั้นสำคัญกว่า เพราะเธอคือลูกสาวของเรา
"ขายบ้านเหรอ?" หลินหยิงอี้เสียงสั่น “ถ้าขายบ้าน เราจะไปอยู่ที่ไหน? แต่ถึงเราจะขายบ้านไป เงินมันก็ไม่พอออยู่ดี” พอพูดแบบนี้ เขาก็ตบตัวเองแรง ๆ "มันเป็นความผิดของฉันทั้งหมด! มันเป็นความผิดของฉัน! ทำไมฉันต้องบังคับให้เธอเรียนตั้งแต่เช้าจรดค่ำด้วย!”
"มันใช่เรื่องที่จะพูดในตอนนี้ไหม" แม่ของหลินซี่ฉวนร้องไห้และพูดว่า "ถึงเราจะไม่มีเงิน แต่เราก็ยังหาเงินได้นะ ซวนซวนหน้าตาดีมาก ถ้าคนที่ลักพาตัวพวกนั้นทำอะไรเธอ เราต้องช่วยเธอก่อนไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น!”
"ฉันรู้" หลินหยิงอี้นั่งโซฟาและเกาผมของเขาอย่างรุนแรง "รอให้ฉันไปดูซวนซวนพรุ่งนี้ก่อนเถอะ เฮ้อ"
ขณะที่หลินหยิงอี้และภรรยาของเขากำลังกังวลอยู่ ก็มีเงาอยู่ข้างนอกประตู มีคนกำลังบันทึกทุกอย่างไว้แล้วค่อย ๆ เดินกลับออกไป
คืนนั้นพวกเขานอนไม่หลับ
เช้าตรู่ของวันที่สองหลินหยิงอี้ลุกจากเตียงและแต่งตัวเรียบร้อย เขาหายใจเข้าลึก ๆ และมองไปที่ภรรยาของเขาที่เพิ่งหลับไป ก่อนที่เขาจะออกจากบ้าน เขาพึมพำ “เฮ้อ หวังว่าสวรรค์จะอวยพรให้เรา แม้ว่าฉันจะต้องสละชีวิต ฉันก็จะช่วยฉวนฉวนให้ได้”
เมื่อเขาพูดจบ เขาก็ปิดประตูเบา ๆ
ภรรยาของเขาก็น้ำตาไหลลงมา เธอร้องไห้อย่างเงียบ ๆ
หลังจากออกจากบ้าน หลินหยิงอี้ก็ขึ้นรถและตรงไปยังสี่แยกวงเวียนเมืองเทียนจิง ทิศตะวันตก เมื่อเร็ว ๆ นี้มีผู้คนมาเที่ยวที่นี้และเป็นที่นิยมมาก เย่ไหลเซียงถูกระบุไว้อย่างชัดเจนบนเครื่องนำทางรถยนต์ ประกอบกับว่าช่วงนี้ยังไม่มีรถจำนวนมากบนท้องถนน แต่เช้านี้หลินหยิงอี้ก็มาถึงทางเข้าเย่ไหลเซียงภายในครึ่งชั่วโมงเท่านั้น
เย่ไหลเซียงยังไม่ได้เปิดในตอนนี้ แต่ก็มีรถโซแองเจิ้ลจอดอยู่ที่ประตูแล้ว แม้ว่าหลินหยิงอี้จะมีฐานะค่อนข้างร่ำรวย แต่การซื้อรถแบบนี้ที่มีราคาสูงถึง4-5ล้านเป็นสิ่งที่เขาไม่กล้าแม้แต่จะจินตนาการ ดังนั้นเขาจึงอดไม่ได้ที่จะมองไปที่รถโซแองเจิ้ล
ในขณะที่เขากำลังมองไปที่รถ ก็มีผู้ชายสองคนลงจากรถโซแองเจิ้ลและเดินตรงมาหาเขา
“แค่มองดูรถจะทำให้ฉันถูกฆ่าไหมเนี่ย?” ขณะที่หลินหยิงอี้กำลังคิดเรื่องนี้ ก็มีคนหนึ่งในนั้นเคาะหน้าต่างรถของเขา “คุณหลินหยิงอี้?”
"ใช่ ผมเอง" พวกคุณคือ.. " หลินหยิงอี้ตกใจเล็กน้อย ไม่แน่ใจว่าเป้าหมายของพวกเขาคืออะไร
“เจ้านายของเราอยากพบคุณ เกี่ยวกับลูกสาวของคุณ หลินซี่ฉวน” ทั้งสองคนไม่ได้พูดอะไรเพิ่มเติมและเดินกลับหลังจากพูดจบ
หลินหยิงอี้รู้สึกว่าวันนี้มีอะไรแปลก ๆ เขาเดาไม่ออกเลยว่าเกิดอะไรขึ้น ถึงแม้คนที่ลักพาตัวลูกสาวเขาไปจะมีฐานะสูงขนาดไหน ถึงแม้ว่าเขาจะต้องเข้าไปในถ้ำมังกร ยังไงเขาก็ต้องเอาลูกสาวคืนมาให้ได้