ตอนที่แล้วระบบใช้จ่ายตอนที่149
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไประบบใช้จ่ายตอนที่151

ระบบใช้จ่ายตอนที่150


 บทที่ 150: หลินซี่ฉวน

นี่เป็นข้อได้เปรียบอย่างมาก เขาเหมือนได้รับพลังส่งถึงหน้าประตูบ้านของเขา หงต้าหลี่เลยสั่งเคลตินไปว่า "จุ๊ฟ พี่สะใภ้ในอนาคตของแกสิ!"

จากนั้นเคลตินก็เลีย

ทุกคนมองไปที่เคลติน ถังมู่ซินไม่กลัวเคลตินอีกต่อไป เธอพูดว่า "จั๊กกะจี๊! ต้าหลี่ ฉันขออุ้มมันบ้างได้ไหม? มันดูเชื่องจริง ๆ ดูไม่อันตรายเลย"

"ได้สิ" หงต้าหลี่ยื่นเคลตินให้ถังมู่ซินได้อุ้ม "เธออุ้มมันไปก่อนนะ ฉันเหนื่อยล่ะ ขอพักก่อน"

เมื่อเคลตินอยู่ในอ้อมแขนของเธอ และทันใดนั้นหงต้าหลี่ก็ตะโกนว่า "มีโจรโผล่แล้ว รีบซ่อนตัวเร็ว!"

จากนั้นเคลตินก็มุดหัวของมันไปที่อกของถังมู่ซิน ทําให้ใบหน้าของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดง "นายมันร้ายกาจ! นายและเคลติน ทั้งสองร้ายกาจมาก! นี้มันบ้าไปแล้ว นี้ใช้ประโยชน์เคลตินกับฉันเหรอ!"

หงต้าหลี่พูดว่า "มันเป็นตัวเมีย ฉันเช็คดูแล้ว มันไม่นับว่าเป็นการเอาเปรียบเธอหรอกนะ"

ถุ้ย!

วันนี้ที่ทิศตะวันตก สี่แยกวงเวียน ผู้คนต่างตื่นตระหนก

"แม่ ดูนั่น นั่นมันลูกเสือตัวเล็กนิคะ!" เด็กหญิงตัวเล็ก ๆ อายุประมาณสี่ขวบชี้ไปที่เคลตินที่เดินอยู่ข้างขาของหงต้าหลี่ "น่ารักมากเลย มันเป็นเสือจริง ๆเหรอคะ?!"

"นั่นมัน..." คนเป็นแม่ถึงกลับเหงื่อออก "นั้นมันเสือตัวเป็น ๆ นี้ เขาเอามาได้ไงเนี่ย"

เคลตินมองไปทิศทางของพวกเขาและส่งเสียงร้องดัง แต่ก็เดินต่อ มันดูสง่าและแข็งแรงมาก

"จริง ๆ ด้วย มันเป็นเสือ อ๊าาาาา!!!" คนเป็นแม่เกือบตกใจจนหัวใจวาย เธอรีบคว้าตัวลูกของเธอและวิ่งหนีไป "เร็ว ออกไปจากตรงนี้เลย ระวังมันจะขย้ำเรานะ!"

"มันไม่ทําอย่างนั้นหรอกค่ะ แม่ดูลูกแมวตัวเล็ก ๆ สีขาวนั้นสิ มันนั่งอยู่บนหัวเสือตัวนั้น มันน่ารักจะตาย!" สาวน้อยพูดออกมาราวกับว่าเธอเหมือนค้นพบทวีปใหม่และพยายามจะไปหามัน "แม่คะ หนูอยากไปดูพวกมันใกล้ ๆ ได้ไหมคะ?"

"ก็ได้" บนหัวของเสือมีลูกแมวนั่งอยู่ด้านบน มันคงไม่น่ากลัวหรอกมั้ง "แต่…. อึก งั้นลูกรออยู่ตรงนี่ก่อนนะ

"ได้ค่ะแม่" เด็กน้อยพยักหน้ารับรู้อย่างเชื่อฟัง

คนเป็นแม่เดินเข้าไปหาหงต้าหลี่อย่างระมัดระวังและถามเขาในระยะห่างสองเมตร ว่า "เอ่อ... ท่านนายน้อยคะ ลูกของดิฉันอยากเห็นลูกเสือตัวเล็กของท่าน คือจะว่าอะไรไหมคะถ้าเราเข้าไปดูมันใกล้ๆ?”

สิ่งนี้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าความรักของมารดาเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่และกล้าหาญที่สุดในจักรวาล ในช่วงเวลาปกติแบบนี้การเผชิญหน้ากับหงต้าหลี่เห็นได้ชัดว่าคงมีแต่คนบ้า หากเป็นคนธรรมดา พวกเขาก็จะอยู่ห่างหงต้าหลี่มากที่สุด แต่ตอนนี้เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกสาวของเธอ เธอจึงได้รวบรวมความกล้าทั้งหมดทั้งชีวิตออกมา

โชคดีที่หงต้าหลี่เป็นสุดยอดอัจฉริยะในการถลุงเงินที่สุดในโลก เขาไม่ใช่คนเลวร้ายขนาดนั้น "โอ้ ได้ ถ้าเธออยากดู ก็ให้เธอเข้ามาดูเลย แต่จำไว้ว่าเธอต้องอ่อนโยนกับมันนะ"

เมื่อได้ยินหงต้าหลี่พูดแบบนั้น เธอหันหลังไปและโบกมือเรียกลูกของเธอ "ลูกรัก มานี่ มาดูลูกเสือน้อยเร็ว!"

"ค่ะ แม่!" สาวน้อยวิ่งมาหาหงต้าหลี่อย่างไว จากนั้นเธอก็นั่งยองๆและขยับเข้ามาหาเคลตินทีละนิด หลังจากนั้นไม่นานในที่สุดเธอก็ก้าวไปตรงหน้ามัน สาวน้อยก้มหัวและมองไปที่เคลติน เธอลังเลที่จะจับมัน เธอค่อย ๆ เอามือเล็ก ๆ ของเธอสัมผัสมันอย่างระมัดระวังบนขนของเคลติน

เพราะหงต้าหลี่มีเอฟเฟคจากภารกิจ "สัตว์คือเพื่อนที่ดีที่สุด" ทำให้เคลตินเชื่องกว่ากว่าสุนัขตัวอื่น ๆ มาก ที่จริงแล้วเธอหลับตาขณะลูบหัวของมันด้วยมือเล็ก ๆ ของเธอ

"คิกคิก แม่คะ มันเชื่องมากเลย!" เด็กน้อยมีความสุขมากจนหัวเราะออกมา คนเป็นแม่เห็นว่าเธอมีความสุขและรู้สึกว่านี่เป็นโอกาสที่หายาก ดังนั้นเธอจึงเอาโทรศัพท์ของเธอออกมาอย่างรวดเร็วและถ่ายภาพนี้ไว้

ถังมู่ซินแอบดึงแขนเสื้อหงต้าหลี่ "ต้าหลี่ เคลตินเชื่องจริง ๆ นายสอนให้มันเชื่องได้ยังไง?"

ถ้าเป็นคนอื่นตอบคําถามนี้ มันก็เป็นเรื่องยากที่จะตอบ แต่สําหรับหงต้าหลี่มันเป็นแค่เค้กชิ้นเล็ก ๆ ง่ายมากที่จะตอบ “เพื่อนตัวนี้ก็อยากจะเป็นนักถลุงเงินเหมือนกัน ใช่ไหม เจ้าเสือน้อย เรียกได้ว่าเสือตัวนี้ได้รับอิทธิพลและนิสัยมาจากฉันยังไงล่ะ”

ถังมู่ซิน: "....."

และทันใดนั้นการเดินเล่นของหงต้าหลี่ก็ทำให้เป็นจุดดึงดูดของเด็กเล็กในบริเวณใกล้เคียงนี้ เห็นได้ชัดว่าเสือตัวเล็กและน่ารักตัวนี้อนุญาตให้คนอื่นสัมผัสมันและมันก็ไม่โกรธพวกเขา เด็กจำนวนมากมายจึงพยายามขอพ่อแม่ของเขาให้ปล่อยพวกเขาไปเล่นกับเสือตัวนี้ สักพักหงต้าหลี่และกลุ่มของเขาก็ถูกล้อมรอบด้วยผู้คนจํานวนมาก

โชคดีที่นี่คือดินแดนของเขา คนเหล่านี้มักจะเห็นเขาเดินเล่นกับสุนัขรอบ ๆ แถวนี้ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ได้มาขอลายเซ็นและถ่ายภาพอยู่แล้ว

ตอนนี้ทุกคนสนใจและจับจ้องไปที่ลูกเสือน้อยน่ารักเคลติน

ในขณะเดียวกันก็มีเสียงชัตเตอร์ถ่ายภาพเคลตินไม่หยุด

ในตอนนี้หงต้าหลี่รู้สึกพอใจมากทีเดียว เขารู้สึกเหมือนเป็นจักรพรรดิที่กำลังตรวจตราดินแดนของเขา

ในขณะที่ผู้คนกำลังถ่ายรูปกับเคลติน ทันใดนั้นหงต้าหลี่ก็เห็นเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ อยู่ไกล ๆ เธอโผล่ออกมาจากมุมหนึ่งและมองฝูงชน เธออายุประมาณ 13 ถึง 14 ปี ใบหน้าของเธอเปื้อนเป็นรอยดำจากสิ่งสกปรกต่าง ๆ เธอดูหวาดกลัว เมื่อเธอเห็นหงต้าหลี่มองมาที่เธอ เธอก็ถอยหลังกลับด้วยความกลัวทันทีและก้มหัวลง

"เด็กผู้หญิงคนนั้นเป็นอะไร?" หงต้าหลี่มองอีกครั้งด้วยความอยากรู้อยากเห็น หลังจากที่เด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนนั้นถอยหลังและซ่อนตัว เธอแอบโผล่หัวออกมาอีกครั้ง เธอมองไปที่เคลตินซึ่งรายล้อมไปด้วยเด็ก ๆ ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความปรารถนา

"หืม? เธออยากดูเคลตินด้วย แต่ไม่กล้ามาเหรอ?“เนื่องจากเขาชอบความสนุก เขาจึงคิดจะทำอะไรสักอย่าง หงต้าหลี่พูดจบก็ได้สั่งผู้ติดตามคนหนึ่งทันทีว่า”ไปพาเด็กคนนั้นมาที่นี่"

"ไม่มีปัญหาครับ!" ผู้ติดตามชายหนุ่มเป็นมืออาชีพอย่างแท้จริง เขาวิ่งด้วยความเร็วแสง 100 เมตรและพาเด็กผู้หญิงกลับมาในสิบวินาทีหรืออาจจะแปดวินาที

เมื่อเธออยู่ต่อหน้าเขา หงต้าหลี่ค่อย ๆ เอามือจับใบหน้าของเธออย่างระมัดระวัง แม้ว่าจะมีสิ่งสกปรกมากมายบนใบหน้าของเด็กผู้หญิง แต่ดวงตาของเธอก็ดำสนิทและมีชีวิตชีวา เห็นได้ชัดว่าเธอไม่ได้ดูเหมือนขอทานธรรมดา ๆ เลย

"เธอชื่ออะไร?" หงต้าหลี่สูดจมูก “ทำไมไม่กล้ามาเข้ามาเล่นกับมันล่ะ?”

"หนู ชื่อ หลินซี่ฉวน" เด็กหญิงตัวเล็กพูดด้วยเสียงที่คมชัด เมื่อเธอพูด ฟันของเธอนั้นมีสีขาวสดใสและแวววาว ซึ่งมันดูต่างจากรูปลักษณ์ภายนอกของเธอโดยสิ้นเชิง

เมื่อเธอพูดชื่อของเธอออกมา หลินซี่ฉวนก็ได้บีบนิ้วของหงต้าหลี่เบา ๆ และพูดว่า "พี่ชาย หนูไม่มีเงินเลย ช่วย ช่วยปล่อยหนูไปได้ไหม?”

เมื่อเธอพูดอย่างนั้น หงต้าหลี่ก็รู้สึกตลกกับสิ่งที่เธอพูด "ทำไมทำเหมือนกับฉันจะมาขโมยเงินเธออย่างนั้นล่ะ เธอจะกลัวฉันทำไม? แล้วทำไมตัวเธอถึงได้สกปรกมอมแมมอย่างนี้ละ? พ่อแม่ของเธออยู่ไหน? ทำไมพวกเขาไม่ดูแลเธอ? ให้ฉันไปส่งที่บ้านไหม?”

"หนูไม่อยากกลับบ้าน" หลินซี่ฉวนกลอกตาไปมา ทันใดนั้นริมฝีปากของเธอก็แบนลง ดวงตาของเธอก็เต็มไปด้วยน้ำตา “พ่อของหนูขายหนูให้กับพวกคนรวยให้เป็นเจ้าสาวของลูกของพวกเขา หนูแอบวิ่งออกมากลางทางและตอนนี้หนูก็ไม่แน่ใจว่าจะไปไหนได้บ้าง หนูไม่ได้กินอะไรมาหลายวันแล้ว”

เด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนนี้หนีออกจากบ้านและมาลงเอยที่เมืองหลวงเทียนจิงเนี่ยนะ?

เป็นการเดินทางที่น่าอัศจรรย์เสียจริง หงต้าหลี่ถามว่า "แล้วเธอมาที่นี่ได้ยังไง? บอกฉันได้ไหม? ถ้าเธอบอกฉัน ฉันจะซื้อซาลาเปาและซุปให้เธอกินเอง”

"จริงเหรอ?" หลินซี่ฉวนดูเหมือนจะไม่เชื่อหูของเธอ แต่เมื่อเธอเห็นว่าหงต้าหลี่สามารถนำเสือออกมาบนท้องถนนได้ อย่างไรแล้วเขาก็คงไม่กลับคำพูด ทันใดนั้นเธอก็พูดเบา ๆ ว่า "หนูแอบซ่อนตัวอยู่ในหีบในช่องเก็บของของรถบัสคันใหญ่น่ะ หนูง่วงมากแล้วก็เผลอหลับไป พอตื่นมา ฉันก็มาอยู่ที่นี้แล้ว”

ซ่อนอยู่ในหีบที่อยู่ในช่องเก็บของของรถบัสคันใหญ่และเธอก็ตื่นขึ้นมาอยู่ที่นี่แล้ว?

สำหรับเด็กน้อยอายุเท่านี้แล้ว นอนได้มากสุดก็คงประมาณสิบชั่วโมง ซึ่งก็คงทำให้เด็กน้อยคนนี้มาถึงตรงจุดนี้

ในขณะที่เขากำลังงง ก็มีรถบัสคันเล็กแล่นผ่านมา หลินซี่ฉวนชี้ไปที่โลโก้บนรถบัสและพูดว่า "รถบัสนี้ไงที่มีโลโก้แบบนี้"

หงต้าหลี่มองไปที่รถและเข้าใจทันที เฮอร์ริเคนเดลิเวอรี่

เข้าใจล่ะ เด็กน้อยคนนี้คงคิดว่าตัวเองเป็นพัสดุและส่งจดหมายมาที่นี่

แม้ว่าเธอจะพูดออกมาเช่นนั้น แต่หงต้าหลี่ก็ไม่ได้โง่ จริง ๆ แล้วเขาไม่ใช่ว่าจะไม่เคยได้ยินมาก่อนว่ามีคนเคยส่งจดหมายถึงตัวเองในฐานะพัสดุ แต่จากรูปลักษณ์ต่าง ๆ ในตอนนี้เด็กผู้หญิงคนนี้คงพบเจอกับอุปสรรคมาแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นยังไง สิ่งที่ควรทำในตอนนี้คือพาเธอไปทานอาหารก่อน แล้วค่อยคิดหาวิธีสืบประวัติของเธออย่างลับ ๆ พื้นหลังของหงต้าหลี่นั้นก็มีอำนาจและฐานะ ดังนั้นเขาจึงต้องระวัง เพราะอาจเป็นเรื่องได้หรืออาจจะมีคนมาลอบทำร้ายเขาหรือครอบครัวของเขาได้

ดังนั้นหงต้าหลี่จึงขอให้ผู้ติดตามแยกย้ายกันไปที่ร้านอาหารใกล้ ๆ

ในตอนนี้หงต้าหลี่ก็มีหน้ามีตาในสังคม เขาคงไม่กินที่ร้านอาหารเล็ก ๆ แบบนี้แน่นอน แต่เหตุผลของเขาค่อนข้างง่าย: หลังจากอดอาหารมาเป็นเวลานาน การที่คนท้องกินของมัน ๆ มากเกินไปก็คงจะไม่ดี ดังนั้นเธอจึงต้องกินซาลาเปาและผักธรรมดาเพื่อปรับสภาพร่างกายก่อน จากนั้นอีกประมาณสองวัน เขาจะให้เธอกินอาหารที่ดีกว่านี้

หลังจากเข้าไปในร้านอาหารเล็ก ๆ แล้วผู้ติดตามก็จัดการทุกอย่างให้ ในเวลาเดียวกันหงต้าหลี่ก็แอบสั่งให้ผู้ติดตามคนหนึ่งตรวจดูรอบ ๆ บริเวณใกล้เคียงเพื่อสอบถามความเป็นมาของหลินซี่ฉวน เขามีฐานะร่ำรวยและไม่เหมือนใคร ดังนั้นเขาจึงต้องมั่นใจในความปลอดภัยของตัวเองให้มาก

ส่วนทางด้านหลินซี่ฉวน เธอกำลังกินอาหารอยู่ ผู้ติดตามชายกลับมาหาเร็วมาก เขาเข้ามาหาหงต้าหลี่และพูดเบา ๆ ว่า "เด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนนี้เดินเล่นแถวนี้มานานมากแล้วประมาณครึ่งเดือนได้ครับ ผู้คนมากมายที่นี้เคยให้อาหารเธอมาก่อน แต่ก็ไม่ชัดเจนว่าเธอมาจากไหน"

ครึ่งเดือนนั่นคือช่วงที่ฉันเพิ่งมาถึงโลกนี้

หากคำนวณตามเวลาแล้ว เด็กผู้หญิงตัวเล็กคงจะไม่สามารถอยู่รอดได้ด้วยตัวคนเดียว หรือว่าเธอหาโอกาสมาเจอกับเขา แต่นั้นมันก็ไม่น่าเป็นไปได้

หลังจากกินขนมปังสองก้อนและซุปผักธรรมดาที่หงต้าหลี่ซื้อให้เธอ หลินซี่ฉวนก็ลูบท้องของเธออย่างมีความสุข "หนูอิ่มแล้ว ขอบคุณนะพี่ชาย!“เมื่อเธอพูดจบ เธอก็ลุกขึ้นยืนเพื่อออกไป แต่หงต้าหลี่ดึงเธอกลับมาและพูดว่า”อะไรล่ะเนี่ย เธอจะรีบไปไหน?"

เมื่อหงต้าหลี่พูดจบหลินซี่ฉวนที่ตอนนี้กำลังมีความสุขก็ฉีกยิ้มทันที “พี่ชาย ทำไมไม่ปล่อยหนูไปล่ะ? พี่จะรังแกหนูเหรอ?”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด