ระบบใช้จ่ายตอนที่133
บทที่ 133: คนร้ายชุมนุมกัน
ในขณะที่หงต้าหลี่และพวกพ้องของเขารีบลงบันได หลินหยูหยินก็ได้ขึ้นรถซูเปอร์สปอร์ตของเธอ เครื่องยนต์ดังคำรามและท่อไอเสียก็ติดประกายไฟ เพียงแค่สตาร์ทรถก็ทำให้ผู้คนถอยห่างออกจากตัวเธอ
แต่ด้วยความอยากรู้อยากเห็น ตอนนี้เป็นโอกาสเดียวเท่านั้นที่จะได้ดูการสร้างสรรค์ของเธอ หงต้าหลี่และพวกพ้องของเขาจึงไม่กังวลถึงความปลอดภัยอีกต่อไป อีกทั้งไม่น่าจะเป็นไปได้ที่หยูหยินจะโจมตีพวกเขา เพราะพวกเขายังไม่ได้โจมตีเธอ ทุกคนขึ้นรถแล้วตามหลังเธอไป เป็นฉากที่ดูอลังการงานสร้างมาก รถซุปเปอร์สปอร์ตของหลินหยูหยินอยู่ด้านหน้าตามด้วยรถเพลย์แองเจิ้ลสามคันและโซแองเจิ้ลหนึ่งคันที่อยู่ท้ายสุดของขบวนรถ
ผู้คนที่สัญจรไปมาก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ทุกคนก็ชี้ไปที่พวกเขาโดยพูดว่า "เร็ว ๆ ดูนั่นสิ พวกเขากำลังถ่ายทำหนังไซไฟกันหรอ? เราควรหลีกทางให้ดีกว่า ถ้าเกิดเราติดกล้อง พวกเขาคงจะเดือดร้อนแล้วต้องถ่ายทำใหม่ แถมนั้นมันก็อาจทำให้เสียเงินเป็นจำนวนมากอีก!"
ห้องปฏิบัติการของหลินหยูหยินตั้งอยู่ที่ชายแดนทางตะวันตกและทางเหนือของวงเวียนที่สอง มันเป็นหนึ่งในสถานที่ห่างไกลจากผู้คนที่ประชาชนมักจะไม่อยู่อาศัยกัน
ห้องปฏิบัติการของเธอตั้งอยู่ที่ชั้นใต้ดินของอาคารเดี่ยวสองชั้นที่มาพร้อมกับสนามหญ้าเล็ก ๆ เมื่อทุกคนลงบันได สภาพแวดล้อมก็มืดลงและน่าขนลุก หงต้าหลี่และพวกพ้องของเขาต่างรู้สึกว่าร่างกายของพวกเขานั้นเย็นยะเยือกราวกับว่าพวกเขากำลังเดินเข้าไปในฉากสยองขวัญที่เห็นในหนัง
สำหรับหลินหยูหยิน เธอไม่รู้สึกใด ๆ เธอพาทุกคนไปที่ประตูโลหะและกดนิ้วหัวแม่มือกับเครื่องสแกนลายนิ้วมือ ทำให้ประตูค่อย ๆ เปิดออก
เมื่อพวกเขาเข้าไปข้างใน หงต้าหลี่และคนอื่น ๆ ก็มองไปรอบ ๆ ห้องอย่างตื่นตาตื่นใจกับสิ่งที่เห็น
ห้องปฏิบัติการไม่ใหญ่มากนัก มีพื้นที่ประมาน 100 ตารางเมตร เครื่องจักรและอุปกรณ์ทุกชนิดถูกสุ่มกระจัดกระจายไปทั่วห้อง ปลั๊กไฟฟ้า,สายไฟฟ้า,ไดนาโม,เหล็กแผ่นดำ,คอมพิวเตอร์,ก้ามปู,ประแจ และ อื่น ๆ พวกเขาสามารถพบทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีได้ที่นี่ นอกจากมุมห้องก็มีเตียงเดี่ยวที่สะอาด นอกจากนี้ยังมีเครื่องซักผ้าที่ด้านหลังของห้อง นอกเหนือจากนี้ก็ไม่มีสิ่งของอะไรแล้ว
หงต้าหลี่ประหลาดใจ ดวงตาของเขาเบิกกว้างและถามว่า "หลินหยูหยินนี้คือห้องทดลองของเธอหรอ?"
หลินหยูหยินพาพวกเขาเข้าไปข้างใน เตะประแจและสิ่งของให้พ้นทาง "มีปัญหาอะไรหรือเปล่า? ที่นี่ดีมาก ฉันชอบ"
หงต้าหลี่สับสน "แต่ห้องนี้มันจะไม่รกไปหน่อยหรอ!" อย่างน้อยก็น่าจะห้องใหญ่กว่านี้และมีผู้ช่วยและของเพิ่มอีกนิดหน่อย!"
หลินหยูหยินรู้สึกแปลก ๆ และถามว่า "ทำไมฉันต้องมีด้วยล่ะ? ฉันอยู่แบบนี้สบายแล้ว"
เธอไม่สนใจของยิบย่อยพวกนั้น หงต้าหลี่พยายามหลอกล่อเธอราวกับว่าเขาปลอมตัวเป็นปีศาจ "ถ้าบ้านใหญ่ขึ้น เธอก็สามารถพัฒนาเครื่องจักรที่ใหญ่ขึ้นได้ด้วย เช่น กันดั้มและของอื่น ๆ อีกมากมาย มันจะไม่ดีกว่านี้งั้นเหรอ? ที่เล็ก ๆ แคบ ๆ แบบนี้ เธอก็ทำได้แต่ของประดิษฐ์เล็ก ๆ ใช่ไหมล่ะ? ถ้าเธอกลัวว่ามันจะยุ่งยาก ทำไมเราไม่ทำแบบนี้ล่ะ? ฉันจะรับผิดชอบเงินและเทคโนโลยีให้เธอเอง เธอสามารถประดิษฐ์อะไรก็ได้ตามที่เธอต้องการได้เลย และถ้าฉันมีไอเดียดี ๆ ฉันจะบอกเธอด้วย เธอคิดว่าไง?"
ถังมู่ซินที่อยู่ข้าง ๆ ก็รู้สึกประหลาดใจ อย่างกับจะลักพาตัวเธอและเอาเธอไปขาย? เธอคนนี้เป็นถึงผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี ที่มีไอคิว 180 เลยนะ!
หลินหยูหยินก็ได้ถามว่า "มันดียังไง? นี้เป็นไอเดียที่ดีแล้วหรอ?"
"มันดีมากเลยล่ะ! มันต้องดีมากแน่นอน!" หงต้าหลี่เริ่มเดินไปรอบ ๆ ห้องเป็นวงกลมแสดงท่าทางตื่นเต้นและทำให้จิตใจของเธอสับสนด้วยเสียงปีศาจของเขา "ลองคิดดูสิห้องทดลองขนาดมหึมา! เครื่องจักรและอุปกรณ์ทุกประเภทที่เธอต้องการจะอยู่ที่นี้! เพียงแค่เธอบอกฉันว่าต้องการอะไร ฉันจะหามาให้เธอโดยเร็วที่สุด! เธอไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย! สิ่งที่เธอต้องทำคือปลดปล่อยศักยภาพของเธอออกมาและใช้เวลาที่เสียไปให้คุ้มค่า! สำหรับฉัน ฉันคืออาเสี่ยสุดหล่อ ฉันจะรับผิดชอบและดูแลเธอเอง! เธอคิดว่าดีไหม?"
หลินหยูหยินครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งและพูดว่า "หืม ฟังดูก็เป็นความคิดที่ดี โอเค"
หงต้าหลี่ตื่นเต้นมากจนกระโดดโลดเต้น "ฮ่า ฮ่า ฮ่า! นี้คือหนทางที่เราจะเดินไปด้วยกัน! ต่อจากนี้ไปเราจะเป็นหุ้นส่วนกันใช่ไหม?"
หลินหยูหยินอยากรู้อยากเห็นในสิ่งที่หงต้าหลี่พูด "หุ้นส่วนหมายความว่ายังไง? มันมีอะไรพิเศษ?"
หงต้าหลี่ไม่รู้ว่าจะหาคำอะไรมาตอบ เขาครุ่นคิดสักพักก่อนที่จะอธิบายว่า "มีวลีหนึ่งกล่าวว่า หมาป่ากับคนจะสมรู้ร่วมคิดกัน เธอเคยได้ยินไหม?"
หลินหยูหยินทำความเข้าใจว่ามันคล้ายกับพจนานุกรมภาษาจีน "ฉันเคยได้ยิน หมาป่าและเป้ยได้ออกล่าเหยื่อร่วมกัน หมาป่าเป็นดั่งเท้าหน้า ในขณะที่เป้ยเป็นเท้าหลัง พวกมันวิ่งเร็วและปีนที่สูงได้ พวกมันอยู่กันอย่างพึ่งพาอาศัยกันและมักจะร่วมกันทำบางอย่างที่ชั่วร้าย"
หงต้าหลี่หักนิ้วของเขา "ถูกต้อง! นี่แหละคือสิ่งที่ฉันจะสื่อ!"
ทุกคนต่างคาดไม่ถึง
วันนี้พวกเขาได้เปิดหูเปิดตาจริง ๆ นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้ยินคนใช้วลีนี้เพื่ออธิบายตัวเอง
แต่พวกเขาต้องยอมรับในตัวหงต้าหลี่เลย เพราะหลินหยูหยินเชื่อมั่นในตัวหงต้าหลี่ และน้ำเสียงของเธอก็ไม่เย็นชาเหมือนเมื่อก่อน "อืม ตกลง ถ้าอย่างนั้น ครั้งหน้าถ้าฉันต้องการอะไร ฉันจะบอกนายตรง ๆ"
สำหรับอัจฉริยะด้านเทคโนโลยีที่ไม่มีเซลล์อารมณ์ เธอไม่เคยพูดหรือตอบโต้อะไรแบบนี้มาก่อน
หงต้าหลี่แสยะยิ้มและตอบว่า "ไม่มีปัญหา! มั่นใจในตัวฉันได้เลย ฉันซื้อภูเขาไว้ไม่กี่ลูกแถวด้านนอกของภูเขาเทียนจิง ฉันจะจัดพื้นที่ให้เธอเป็นพิเศษ ฉันจะหาที่ขนาดใหญ่และขุดหลุมสร้างห้องทดลองให้เธอเอง! จากนั้นเราจะใช้ประตูตอบโต้อัตโนมัติ ประเภทที่ควบคุมด้วยเสียง เมื่อเราพูดว่า 'เปิดประตูให้ท่านอาจารย์' ประตูก็จะเปิดเอง!" ยิ่งพูด เขาก็ยิ่งตื่นเต้น “จากนั้นเมื่อเราเข้ามา เราก็จะพบเครื่องจักรระดับไฮเอนด์ทุกประเภทจะอยู่ที่นั่นและมีผู้ช่วยด้านเทคนิคกลุ่มใหญ่ในชุดคลุมสีขาวที่กำลังคอยช่วยเธออยู่ ไม่ว่าเธอต้องการอะไร ก็จะมีคนหยิบของมาให้เธอทันที! หากเธอกลัวว่าความลับของเธอจะรั่วไหล เราจะใช้หุ่นยนต์แทนผู้ช่วยที่จ้างมา แต่บางทีหุ่นยนต์อาจจะทำงานช่วยเหลือยากสักหน่อย”
ตอนนี้หงต้าหลี่เป็นเหมือนพนักงานขาย แม้แต่ คนยุคหิน บางทีเขาก็สามารถชักชวนได้เลยด้วยซ้ำ
จริง ๆ แล้วสมองของหลินหยูหยินอาจจะคิดแตกต่างจากคนทั่วไป เธอไม่ได้คิดว่าหงต้าหลี่จะหลอกล่อให้เธอผูกมัดติดกับเขาเลย เธอแค่รู้สึกว่าห้องทดลองดังกล่าวฟังดูน่าสนใจ ดังนั้นเธอจึงตอบตกลง "โอเค"
ดังนั้นนี้จึงได้กลายเป็นประวัติศาสตร์ที่น่าจดจำของมนุษยชาติครั้งแรกที่สามารถลักพาผู้ที่มีความสามารถทางเทคโนโลยีได้ด้วยวิธีอันชาญฉลาด
บางทีมันเป็นเพราะหงต้าหลี่โชคดีจริงๆ เนื่องจากประเทศนี้ถือว่าหลินหยูหยินนั้น เธอเป็นสมบัติอันล้ำค่าและพวกเขาก็ต้องการดึงเธอให้เข้าร่วมฐานการวิจัยของรัฐ แต่สำหรับหงต้าหลี่แล้ว สิ่งเดียวที่เขาคิด คือ เขาจะใช้จ่ายเงินได้เร็วขึ้นยังไง โดยมีหลินหยูหยินคอยช่วยอยู่ข้าง ๆ ดังนั้นหงต้าหลี่ตอนนี้ก็เริ่มรู้สึกประสบความสำเร็จแล้ว
สำหรับถังมู่ซิน ลี่เนียนเหว่ยและคนอื่น ๆ พวกเขาต่างก็ถอนหายใจ พวกเขาทำได้แค่แสดงความยินดีกับหงต้าหลี่ที่ดูเหมือนว่ามีทักษะการใช้เงินได้สุดยอดจริงๆ!
เมื่อทุกอย่างได้เข้าล็อคแล้ว หงต้าหลี่ก็ยิ้มและถามว่า "หยูหยิน มีเทคโนโลยีชิ้นไหนที่เธอสร้างเสร็จแล้วอยากให้เราดูไหม? จู่ ๆ ฉันก็คิดอะไรดี ๆ ออก!"
"มี" ตอนนี้ทั้งสองคนกำลังปรึกษาคุยกันอย่างกับเป็นหมาป่าและเป้ย ซึ่งหลินหยูหยินกำลังฟังและหงต้าหลี่ยื่นข้อเสนอ เธอเดินไปที่มุมหนึ่งของห้องปฏิบัติการทันทีและดึงชุดอุปกรณ์ส่องสว่างจากกองสิ่งของออกมา
"ดึง" เธอพูดสั่งการอุปกรณ์ ชุดอุปกรณ์ที่ดูมีค่าสำหรับคนทั่วไป แต่มันเป็นเพียงส่วนหนึ่งของกองขยะที่คล้ายขยะจริง ๆ
ขณะที่เธอกำลังติดตั้งอุปกรณ์ของเธอ เธอก็อธิบายแนวคิดเบื้องหลังให้พวกเขาฟัง "ทุกคนมีตาสองดวง ตาแต่ละข้างจะมีมุมมองประมาณ 80 องศา แต่รวมกันแล้ว มุมมองรวมจะอยู่ที่ 120 องศาเท่านั้น หมายความว่ามีประมาณ 40 องศาที่เหลื่อมกัน ดังนั้นตาซ้ายและตาขวาจึงมองเห็นแตกต่างกัน ตามทฤษฎีนี้เมื่อเชื่อมกับแหล่งกำเนิดแสงพิเศษของเทคโนโลยีฉายภาพโฮโลแกรมแล้ว สิ่งนี้จึงถูกสร้างขึ้น"
เมื่อพูดเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เธอก็พูดเยอะขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แต่จากนั้นพวกเขาก็ได้ยินน้ำเสียง "เศร้า" ของเธอ "น่าเสียดายที่ฉันยังไม่ได้ใช้อุปกรณ์ฉายแสงสี ดังนั้นเทคโนโลยีนี้จึงเสร็จสมบูรณ์เพียงครึ่งเดียว"
"ถึงแม้ว่าจะเสร็จเพียงครึ่งเดียว แต่เรื่องอุปกรณ์นั้นที่เธอต้องการ ฉันจะขอให้เสี่ยวหยี่เอามาให้" ในตอนนี้หงต้าหลี่มีทั้งกำลังคนและเงิน มันจึงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขา "เร็ว ๆ พวกเราอยากเห็นแล้ว อ๊ากกกก ฉันตั้งหน้าตั้งตารอไม่ไหวแล้วนะเนี่ย"
หลังจากนั้นไม่นาน หลินหยูหยินก็เตรียมการเสร็จ เธอเดินไปอีกด้านและปิดไฟ
ทันใดนั้นห้องปฏิบัติการทั้งหมดก็มืดลง มืดจนพวกเขามองไม่เห็นนิ้วมือของตัวเอง
เมื่อหลินหยูหยินเปิดสวิตช์เทคโนโลยีฉายภาพโฮโลแกรม แสงสีที่พร่ามัวสองสามดวงก็สว่างขึ้น จากที่มืดมิดเมื่อกี้ ตอนนี้พื้นที่รอบ ๆ มีประกายแสงสองสามดวงปรากฏขึ้นราวกับว่าพวกเขาอยู่ใกล้ดวงดาวในท้องฟ้า แต่มันกลับอยู่ใกล้แค่เอื้อมมือของพวกเขา
หงต้าหลี่และคนอื่น ๆ ต่างตกตะลึง และถังมู่ซินก็ยื่นมือออกไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นพยายามที่จะสัมผัสดาวดวงน้อยที่น่ารักเหล่านั้น
แน่นอนว่าเธอไม่สามารถสัมผัสมันได้
ดวงดาวก็สว่างขึ้นชั่วขณะ จากนั้นเสียงน้ำไหลก็ดังขึ้น แสงสีฟ้าคล้ายน้ำปรากฏขึ้นรอบ ๆ ตัวพวกเขาและไหลช้า ๆ จากนั้นไม่นานก็มีปลาบลูฟิชตัวเล็ก ๆ ปรากฏอยู่ข้างกายพวกเขา มันว่ายไปมาอย่างมีความสุข
ถังมู่ซินอุทานขึ้นมา "สวยมาก!"
ลี่เนียนเหว่ยประหลาดใจมาก เธอเอามือปิดปากของเธอ เธอเป็นคนใจเย็น แต่เมื่อได้เห็นฉากนี้ มันทำให้เธออึ้งจนควบคุมตัวเองไม่ได้ เธอยื่นมือออกไปโดยสัญชาตญาณพยายามที่จะสัมผัสภาพที่อยู่ตรงหน้าเธอ
มือของเธอผ่านภาพฉายโฮโลแกรมต่าง ๆ
มันเป็นไปตามที่คิดไว้เลย แต่ในเวลาเดียวกันมันก็ดูน่าขนลุกและแปลกตา
กระบวนการทั้งหมดใช้เวลาประมาณห้านาที จากนั้นหลินหยูหยินก็เปิดไฟห้องปฏิบัติการและปิดเทคโนโลยีฉายภาพโฮโลแกรม จากนั้นเธอก็พูดกับหงต้าหลี่ว่า "เท่าที่ฉันทำ มันน่าจะเสร็จแล้ว ถ้านายต้องการก็เอาไปได้เลย"
"พูดจริงหรอ!?" นี่เป็นเรื่องน่าประหลาดใจมาก หงต้าหลี่มั่นใจว่าหากอุปกรณ์ชุดนี้ปรากฏบนเวทีจะทำให้เกิดความปั่นป่วนครั้งใหญ่! เมื่อนึกได้แบบนี้ หงต้าหลี่ก็ตื่นเต้นจนแทบจะกระโดดขึ้นมา "เธอคือคู่หูของฉัน ฮ่าๆๆ! ดีมาก เป็นอะไรที่เยี่ยมมาก! แต่หยูหยิน ถ้าฉันใช้ชุดอุปกรณ์นี้ เธอจะพัฒนามันต่อยังไง?"
หลินหยูหยินพูดอย่างไม่ใส่ใจ "ฉันทำชุดอื่นไว้แล้ว"