ตอนที่แล้วระบบใช้จ่ายตอนที่129
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไประบบใช้จ่ายตอนที่131

ระบบใช้จ่ายตอนที่130


บทที่ 130: ฉันมาที่นี่เพื่อมาตี?

เก้าสุริยะฝ่ามือปราบมังกร!

เมื่อหงต้าหลี่พูดแบบนั้น ทุกคนก็ประหลาดใจ หลินห่าวแทบจะยกกระดูกข้อเข่าให้แก่หงต้าหลี่ เขายอมคุกเข่าให้แก่หงต้าหลี่ผู้ชาญฉลาดทันที  "ท่านนายน้อยเก่งจริง ๆ ครับ สมองของท่านช่างอัจฉริยะ ผมประทับใจจริง ๆ"

หงต้าหลี่พูดอย่างภูมิใจ "นี่ล่ะ คือสิ่งที่ต้องเรียกว่าหนังและเนื้อเรื่อง ดูพล็อตของนายสิ มันแตกต่างกันขนาดไหน"

"ใช่ ใช่ครับ ท่านนายน้อยเตือนพวกเราและพูดถูกต้องเลยครับ!" หลินห่าวเต็มไปด้วยน้ำตา เขาเป็นหนึ่งในผู้กำกับที่เก่งที่สุดคนหนึ่งในประเทศ แต่เขากลับโดนตำหนิจากนายน้อยผู้นี้ ซึ่งนายน้อยอายุเท่าหลานชายของเขาเลยด้วยซ้ำ ยิ่งไปกว่านั้นเขาไม่สามารถปฏิเสธได้ เพราะพล็อตเรื่องของนายน้อยดีกว่าของเขาจริง ๆ!

ในเวลานี้มู่ซีเซียวถามอย่างใจจดใจจ่อ ว่า "ต้าหลี่ แล้วฉันล่ะ? เมื่อไหร่ฉันจะได้แสดง?"

"ตอนนี้เลย!" หงต้าหลี่กระแทกโต๊ะราวกับว่าเขาเป็นนักเล่าเรื่อง “ฝีมือของเขาเก่งกาจพอตัว ต้องทำอะไรในตอนนี้น่ะหรอ? แน่นอนว่าเขาต้องเป็นตัวร้ายเพื่อเอาชนะสิ!” หงต้าหลี่หัวเราะและพูดว่า "ดังนั้นพี่เซียวสุดหล่อ พี่จะเป็นจอมวายร้าย เตรียมแสดงเลย!"

"ฉันจะต้องปรากฏตัวเพื่อให้สู้กับตัวเอกเหรอ?" น้ำตาและน้ำมูกของมู่ซีเซียวเกือบจะไหลออกมา "มีงานอื่นให้ฉันทำไหม?"

"ไม่!" หงต้าหลี่พูดถึงพล็อตเรื่องต่อทันที "ในเวลานี้พี่ต้องทำตัวหยิ่งจองหองและหาจังหวะออกมาต่อสู้ จากนั้น พี่ก็กลับบ้านและฝึกฝนตัวเองอย่างขยันขันแข็งและฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ที่ทรงพลังอย่างยิ่งใหญ่ 'หมัดทานตะวัน' และเตรียมพร้อมสำหรับการแก้แค้น!"

"โอเค! ฉันจะทำก็ได้!" มู่ซีเซียวตบขาของเขาแล้วมองไปที่อาจารย์หวังที่อยู่บนต้นไม้ "ท่านอาจารย์! ในเวลานี้อยากให้ท่านอาจารย์ช่วยสอนท่าพิเศษให้ฉันหน่อย! ไม่ว่าลูกศิษย์จะชนะหรือโดนทำร้าย มันขึ้นอยู่กับอาจารย์แล้ว ... "

เมื่อถึงตอนนี้หงต้าหลี่ก็อธิบายฉากนี้จบ เมื่อได้ฟังฉากจบนี้ ดวงตาของหลินห่าวก็เบิกกว้าง "อัจฉริยะ อัจฉริยะจริง ๆ! นี่คือพล็อตเรื่องที่ควรจะเป็น! ท่านนายน้อย ตอนนี้ผมประทับใจในตัวท่านจริง ๆ ครับ! ทำไมท่านไม่เปลี่ยนพล็อตเรื่องที่เหลือด้วยล่ะ?"

"จะต้องทำวันนี้ต่อเลยรึ" หงต้าหลี่ลูบท้องของเขา "ฉันหิว ฉันจะออกไปหาอะไรกินตอนนี้ พวกนายทำต่อไปก่อนเลย"

"อืม ... รับทราบครับ" หลินห่าวไม่อยากให้หงต้าหลี่ออกไป แต่เขาไม่สามารถทำอะไรได้เพราะหงต้าหลี่เป็นนายน้อยจากตระกูลที่มีชื่อเสียง นอกจากนี้เขาเคยได้ยินว่าหงต้าหลี่นั้นมีร่างกายที่อ่อนแอมากตั้งแต่เด็ก เขาไม่กล้าบังคับหงต้าหลี่และทำได้แค่ไปส่งเขา "ถึงเวลาที่ท่านต้องพักผ่อนแล้วครับ จากนี้เดี๋ยวผมดูแลต่อให้เองครับ  ดูแลสุขภาพไม่ให้เป็นหวัดด้วยนะครับ อากาศในช่วงเดือนพฤษภาคมนี้หนาวมากจริงๆ!"

"ฉันรู้ ฉันจะมาใหม่วันพรุ่งนี้ถ้าไม่มีอะไรทำ" หงต้าหลี่ยืนขึ้นและหาว "อ่า กีเซอร์หวังและพี่เซียว พวกคุณสองคนอาจจะต้องอยู่ที่นี่และถ่ายทำหนังเรื่องนี้ต่อ ฉันจะไปหาอาหารทานก่อนแล้วเราค่อยไปเปลี่ยนสถานที่เล่นในตอนบ่าย"

มู่ซีเซียวกล่าวขอบคุณ "ไม่มีอะไรแล้ว ขอให้ท่านเดินทางอย่างปลอดภัยครับ! หากท่านต้องการอะไรเพิ่มเติม โทรหาได้เลยครับ ผมจะมาหาทันที!"

"เข้าใจแล้ว อย่าลืมเบามือล่ะ" หงต้าหลี่โบกมือลา "อย่าทำร้ายหัวหน้าชายคนนั้นล่ะ"

"อาจารย์ของผมอยู่ที่นี่ ไม่ต้องกังวล!" มู่ซีเซียวก็ได้ส่งเขาออกไป ตอนนี้ต้าหลี่ก็ได้พูดลาแล้ว ผู้ติดตามทั้งเก้าก็ได้เปิดทางให้เขา หงต้าหลี่นำหน้าถังมู่ซินและได้ขึ้นรถไป แต่เธอก็ยังคงถามเขาต่อในพล็อตเรื่องที่เหลือ "ต้าหลี่ จะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้? นายช่วยบอกฉันทีได้ไหม? ฉันอยากรู้จริงๆ!" เธอถามออกไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น

แต่พล็อตเรื่องไม่ใช่สิ่งที่จะเสกออกมาได้ หงต้าหลี่ยักไหล่อย่างไร้ความปราณีแล้วพูดว่า “ไม่ได้หรอกนะ ใครมันจะคิดได้เร็วขนาดนั้นเล่า”

"งั้น…ก็ได้ ..." ถังมู่ซินก็รู้ว่า บางอย่างก็ไม่สามารถบังคับได้ หงต้าหลี่เองก็ไม่ได้บอกถึงพล็อตเรื่องหนัง เพราะเขานั้นต้องการบอกเฉพาะตอนที่ทำงานเท่านั้น อย่างไรก็ตามวันนี้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ของเขาด้วย ถังมู่ซินเม้มริมฝีปากของเธอแล้วพูดว่า "ต้าหลี่ จะว่าไปเราไม่พูดถึงรายการ 'ฉันนี้แหละนักร้อง' เลยเหรอ? ตามเวลาที่เหลืออยู่ เหลือเวลาเพียงสามวันก่อนที่รายการจะเริ่มนะ?"

ก่อนหน้านี้ ตอนที่เราวางแผนรายการ "ฉันนี้แหละนักร้อง" หงต้าหลี่กลัวว่าจะมีคนจำนวนมากเกินไปถ้ามันเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจให้ออกอากาศทุกวันอังคาร เวลา 20.00 น. ถ้ามันเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ เพียงแค่ชื่อเสียงของบริษัทไกเหว่ยเอนเตอร์เทนเมนท์ ผู้คนนับไม่ถ้วนก็คงเต็มใจเดินทางไกลเพื่อมาชมการแสดงอยู่ดี หงต้าหลี่เห็นในสื่อโซเซียลที่ปักหมุดในหัวข้อว่า "เทพธิดาแห่งพันธมิตร" ซึ่งอ้างว่ามีสมาชิกกว่าล้านคนกล่าวถึงลี่เนียนเหว่ยว่าจะมาปรากฏตัวในรายการ ในฐานะแขกรับชม แค่ข่าวลือนี้อย่างเดียวก็ทำให้ผู้คนนับไม่ถ้วนมาด้วยความเต็มใจแล้ว แต่หงต้าหลี่ไม่ได้ต้องการให้คนจำนวนมากแห่เข้ามาชมจนไม่มีพื้นที่ในรายการหรอกนะ

ซึ่งข่าวปลอมเป็นอะไรที่อันตรายจริง ๆ ...

"ตอนนี้ พวกเขาควรเตรียมตัวกันพร้อมแล้ว" หงต้าหลี่คิดอยู่พักหนึ่งแล้วก็ส่ายหัว "แต่ฉันยังรู้สึกว่ามีบางอย่างหายไป" เขาพึมพำ "ซินซิน ลองคิดดูสิ รายการ 'ฉันนี้แหละนักร้อง' นี้มีหลายสเตจ แต่เราก็ยังไม่สามารถคำนวนเรตติ้งผู้ชมได้มากนัก เราควรคิดถึงบางอย่างเพื่อดึงดูดผู้ชมสิ ไม่อย่างนั้นชื่อเสียงของเราจะถูกทำลาย ฉันคิดว่า..ฉันยังถลุงเงินไม่มากพอ!"

"ยังไม่มากพออีกหรอ!?" ตาของถังมู่ซินเบิกกว้าง "นายถลุงเงินไป 5 ล้านแล้ว มันยังไม่พออีกเหรอ!?"

"ใช่ นั่นมันยังไม่พอ" หงต้าหลี่พูดอย่างจริงจัง "รายการ 'ฉันเป็นนักร้อง' มีสิบสเตจและทุก ๆ สองสเตจจะมีการเปลี่ยนแปลง โดยรวมแล้วจะมีนักร้องอย่างน้อยสิบคนเข้าร่วม ถ้ารายการมีขนาดเล็กเกินไปในช่วงแรก ๆ นั้นมันจะไม่น่าสนใจและไม่มีใครดูสเตจต่อ ๆ ไปแน่ ถ้าเป็นแบบนั้นมันจะไม่น่าอายเกินไปหน่อยเหรอไง?"

ถังมู่ซินคำนวณอย่างตั้งใจ หากมีสิบสเตจดูเหมือนว่าจะจ่ายแค่เพียง 500,000 หรือ 600,000 ต่อสเตจเท่านั้น แม้ว่าจะต้องใช้เงินทุกครั้ง แต่งบประมาณก็ยังค่อนข้างต่ำ …

หงต้าหลี่แตะคางของเขาแล้วพูดว่า "แต่สิ่งที่ฉันยังทำได้คือการถลุงเงิน ... ลืมมันไปเถอะ อย่าพึ่งคิดอะไรตอนนี้ ไปหาอะไรกินก่อน ท้องของเราสำคัญกว่า!"

ทางทิศเหนือของเมืองเทียนจิง องค์กรการแพทย์ฟอเรส

ในห้องส่วนตัวที่มืดมน

มีคนหนึ่งกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้พูดด้วยน้ำเสียงทุ้ม ๆ "เป็นอย่างไรบ้างที่องค์กรการแพทย์ถัง?"

คนที่ยืนอยู่ตรงข้ามเขาพูดด้วยความเคารพว่า "ทุกอย่างเป็นไปด้วยดีครับ จนกระทั่งถังรุยชีออกไปช่วงบ่ายวันนี้ ดูเหมือนว่าเขาจะได้ไปที่อาคารเฉินหุย แต่ผมไม่แน่ใจว่าไปเพราะอะไร ผมกลัวโดนจับได้ ดังนั้นจึงไม่กล้าติดตามเขาไปที่นั่น"

"อาคารเฉินหุย?" คนที่นั่งเก้าอี้กำลังครุ่นคิดและได้พูดว่า "สถานที่นั้นเป็นอาณาเขตของหงต้าหลี่ ซึ่งเป็นอาเสี่ยน้อยของตระกูลหง คุณเองก็มีสิทธิ์ที่จะไม่ติดตามเขาไปที่นั่น เพราะหากคุณถูกเปิดเผยตัว มันคงเลวร้ายแน่ ลูกสาวของถังรุยชีอยู่ใกล้หงต้าหลี่มาก ฉันคิดว่าเขาคงไปที่นั่นเพื่อทำอะไรกับงาน ไม่ต้องไปยุ่งกับเขา สนใจแค่ห้องปฏิบัติการของถังรุยชีก็พอ หึ เขาคิดว่าเขาสามารถเอาชนะฉันโดยการพัฒนายาตัวใหม่เพื่อป้องกันการก่อตัวของลิ่มเลือด มันไม่ง่ายอย่างนั้นหรอก"

"ตอนนี้ห้องปฏิบัติการทุกอย่างปกติดีครับ" คนที่ยืนยิ้มก็ได้พูดว่า "ถังรุยชีเองก็คงไม่คาดคิดว่าจะเป็นผมด้วย"

"แน่นอน เขาไม่เคยคิดเลยว่าเป็นคุณอยู่แล้ว คุณน่ะติดตามเขามาเป็นสิบปีแล้ว คงจะแปลกถ้าเขาเดาว่าคุณเป็นคนทรยศ" คนที่นั่งอยู่ก็หัวเราะขึ้นมาและพูดว่า "เขามันงี่เง่าจริง ๆ เขาเสียเวลาและพยายามอย่างมากในการพัฒนายาตัวใหม่นี้ ไม่มีอะไรที่จะดีไปกว่านี้แล้ว หากไม่ใช่เพราะเหตุนี้ ฉันคงไม่มีโอกาสเอาชนะเขาได้ ฉันสงสัยจังเลยนะว่ามีอะไรผิดปกติกับเขาหรือเปล่า คิดจะขายยาที่ไม่มีความเสี่ยง โดยต้องแลกกับเวลาทดลองมากมายเนี่ยนะ"

"นี่ ... " คนที่ยืนก็ได้คิดลังเล ก่อนที่จะพูดช้าๆ ว่า "ผมได้ยินมาว่าเขาต้องการพัฒนาบางอย่างเพื่อประโยชน์ของมนุษย์ ไม่ว่าเหตุผลอะไรก็ตาม แต่เหตุผลของเขานั่นประเสริฐนะครับ"

"ไร้สาระสิ้นดี!" คนที่นั่งอยู่ ก็พูดดูถูกเหยียดหยามว่า "ในสังคมตอนนี้การหาเงินคือสิ่งที่ควรทำต่างหากล่ะ! จะมีประโยชน์อะไรเล่าหากต้องช่วยเหลือคนอื่น?" หลังจากพูดอย่างนั้นเขาก็เริ่มรู้สึกใจร้อนและโบกมือไปมา "โอเค ฉันไม่สนใจเรื่องนี้ก็ได้ เมื่อยาตัวใหม่ของเขาได้รับการพัฒนาเสร็จ ให้นำตัวอย่างมาให้ฉันก่อน เข้าใจไหม?"

"ผมจะจัดการเองครับ"

คนที่ยืนก็ได้เดินออกไป เหลือเพียงคนที่นั่งอยู่ข้างใน เขาจุดบุหรี่และสูบ พร้อมกับหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง "เพื่อชื่อเสียงเหรอ? สวะ! สิ่งที่แกทำสุดท้ายก็จะตกมาเป็นของฉัน วะฮะฮ่า!"

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด