ตอนที่แล้วตอนที่ 88 : คุณชายผู้นี้ยุ่งมาก ฟรี วันที่ 2021/02/13
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 90 : เจ้าไม่กล้าที่จะเผยตัวหรือ? ฟรี วันที่ 2021/02/15

ตอนที่ 89 : มรดกของวังวรยุทธ์ ฟรี วันที่ 2021/02/14


วังวรยุทธ์คือส่วนต้องห้ามข้องตำหนักยุทธ์  ที่นั่น มีมรดกแห่งเจตจำนงจากผู้ฝึกยุทธ์ระดับราชา หรือที่ทราบกันในนามผู้ฝึกยุทธ์ระดับล่องนภา โดยทั่วไปแล้ว มีเพียงผู้ที่อยู่ช่วงท้ายของระดับแปรสภาพเท่านั้นที่จะได้ระดับอนุญาตให้เข้าไป และ หยางเกาฉวนมีแผนจะยกเว้นให้เซี่ยงเส้าหยุน ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเขาตั้งความหวังกับเด็กหนุ่มไว้เพียงใด

ที่ถูกขนานนามว่ามรดกแห่งเจตจำนงจากผู้ฝึกยุทธ์ระดับราชาเพราะเป็นสิ่งที่ถูกทิ้งไว้หลังความตาย ในวังวรยุทธ์นั้น สิ่งเหล่านั้นได้ถูกปกป้องคุ้มกันด้วยค่ายกลที่มีพลังมหาศาล เพื่อให้คนรุ่นหลังได้เรียนรู้ศึกษา

ความต่างของมรดกนั้นจะทำให้มีผลลัพธ์ที่ต่างกันออกไป บ้างก็ช่วยให้ผู้ฝึกยุทธ์สามารถบรรลุระดับใหม่ได้  บ้างก็ทำให้ผู้ฝึกยุทธ์สามารถเข้าใจวิชายุทธะดับสูง บ้างก็ทำให้ผู้ฝึกยุทธ์สามารถเข้าใจแก่นของการเผยตัวของราชาได้ และยังมีอีกมากมาย

ด้วยคนมากมายมีทักษะที่หลากหลายแตกต่างกัน ดังนั้น ผลของมรดกจะแตกต่างกันออกไปแล้วแต่คน ตั้งแต่เนิ่นนาน มีผู้คนเพียงหยิบมือที่จะสามารถเข้าใจแก่นแท้ของมรดกเหล่านั้น

ท้ายที่สุดแล้ว มรดกที่เหลืออยู่ของคนตาย และไร้ซึ่งความคิดจองตัวเอง ดังนั้น การจับภาพ และทำความเข้าใจของคนทั่วไปจึงเป็นเรื่องยาก หากเซี่ยงเส้าหยุนไม่ได้มีพรสวรรค์อันน่าอัศจรรย์ หยางเกาฉวนคงไม่คิดให้เขาเข้าไปด้วยซ้ำ

เป็นที่น่าสังเกตว่าเมื่อประตูวังวรยุทธ์ได้เปิดออก มรดกภายในจะอ่อนแอลง ดังนั้น การเปิดให้ผู้ที่ไม่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งไม่สมควรอย่างยิ่ง

เฉพาะเมื่อร่างของผู้ฝึกยุทธ์ระดับราชาที่ละสังขารขณะทำสมาธิเป็นรูปดอกบัวอยู่ภายใน จึงจะเติมเต็มพลังของมรดกแห่งเจตจำนงได้ตามธรรมชาติ

หยางเกาฉวนได้พาเซี่ยงเส้าหยุนไปยังส่วนลึกของตำหนักยุทธ์ ที่นั่น เขาสามารถมองเห็นตำหนักศิลาได้จากบนภูเขา และก่อนที่จะถึงวังศิลานั้นมีสัตว์อสูรสองตัวซึ่งเป็นปีศาจชั้นสูง ทั้งสองยืนเฝ้าที่หน้าตำหนักนั่น

เมื่อหยางเกาฉวน และเซี่ยงเส้าหยุนไปถึง สัตว์อสูรทั้งสองได้เลิกตาขึ้น ขณะนั้นเองได้มีออร่าชั่วร้ายปรากฏขึ้นเล็กน้อย ก่อนที่มันจะจางหายไป หยางเกาฉวนได้จ้องมองไปที่เซี่ยงเส้าหยุน และพบว่าเซี่ยงเส้าหยุนยังคงสงบนิ่ง ดูเหมือนจะไม่ได้รับผลกระทบใดจากสัตว์อสูรผู้ปกปักษ์ทั้งสอง

ความสงบเยือกเย็นเช่นนี้เป็นสิ่งที่ศิษย์น้อยคนจะทำได้ หยางเกาฉวนกล่าวคำเบากับคนเอง ‘เจ้าเด็กนี่จะต้องมีภูมิหลังที่น่าลี้ลับเป็นแน่ บางทีเจาอาจจะเป็นคุณชายจากตระกูลใหญ่ซึ่งกำลังตกต่ำ?’

ครึ่ก ครึ่ก

ทางเข้าตำหนักศิลาเปิดขึ้นด้วยตัวมันเอง ปล่อยความรู้สึกลึกซึ้งออกมาพร้อมแรงกดดันที่ไร้ตัวตน ทำให้ทั้งสองต่างรู้สึกหนักอึ้ง

“เข้าไปด้วยตัวเองเถิด สิ่งที่ได้รับจากที่นี่จะต้องใช้ความพยายามของเจ้าเองเท่านั้น” หยางเกาฉวนกล่าวขณะหยุดที่ทางเข้า

เซี่ยงเส้าหยุนพยักหน้าให้หยางเกาฉวน ก่อนจะก้าวเข้าไปด้านใน ภายในตำหนักศิลานั้นมืดมิด เสียงหวีดหวิงแผ่วเบาลอยมาตามอากาศ ราวกับว่ามีวิญญาณกำลังร้องไห้ และคำรามที่นี่ สร้างความรู้สึกสะพรึงกลัวให้เขาอย่างมาก

ด้วยจิตใจที่สดใส เด็กหนุ่มจึงไม่เกรงกลัววิญญาณร้าย! เซี่ยงเส้าหยุนสวดมนต์ภายในใจเพื่อให้จิตใจมั่นคง ก่อนจะก้าวเข้าไปยังโถงหลักของตำหนักศิลา ที่นั่น เขาได้พบกับโลงศพเจ็ดใบ และแต่ละโลงนั้นสลักชื่อ และประวัติของผู้ฝึกยุทธ์ระดับราชาเอาไว้

“จางกงหยู ท่านเจ้าตำหนักคนแรกงของตำหนักยุทธ์ ระดับร้องนภาขั้นห้า มีอายุทั้งหมดสามร้อยเจ็ดสิบสี่ปี

“ลั่วเหอ ผู้อาวุโสคน ระดับล่องนภาขั้นสาม มีอายุสองร้อยห้าสิบเก้าปี”

“เฟิงหยูเฉิง เจ้าตำหนักรุ่นที่สอง ระดับล่องนภาขั้นสี่ มีอายุสามร้อยห้าสิบปี”

...

เซี่ยงเส้าหยุนอ่านประวัติทั้งหมด และพบว่าราชาทั้งเจ็ดส่วนใหญ่เป็นบรรพบุรุษของตำหนักยุทธ์ แต่สิ่งที่ดึงดูดใจที่สุดคือโลงใบหนึ่งซึ่ง “ไร้นาม” ถูกสลักไว้ และเมื่ออ่านดูก็พบว่าเขาบรรลุถึงจุดสูงสุดของระดับล่องนภา

โลงไร้ชื่อถูกตั้งไว้ที่ปลายสุดของห้องโถง แต่ความแข็งแกร่งของคนไร้นามผู้นี้แข็งแกร่งกว่าผู้อื่น ด้วยเพราะเขาไม่ใช่คนของตำหนักยุทธ์อาจะเป็นเหตุผลที่ไม่ถูกสลักชื่อไว้ ด้วยเหตุผลที่ไม่มีผู้ใดทราบ โลงศพถูกตั้งไว้ที่นี่หลังจากเขาตายไปแล้ว

“จุดสูงสุดของระดับล่องนภา หืม เราคิดว่านั่นดูแข็งแกร่งมาก” เซี่ยงเส้าหยุนกล่าวคำเบากับตนเอง เขาเดินไปมาในห้องโถง พยายามสัมผัสถึงมรดกแห่งเจตจำนงของราชา

เด็กหนุ่มหยุดที่โลงของระดับราชาผู้อ่อนแอที่สุดในห้อง ซึ่งเป็นโลงของผู้ฝึกยุทธ์ระดับล่องนภาขั้นแรก และพบว่ามีอายุขัยที่สั้นกว่าผู้อื่น เขามีอายุขัยเพียงหนึ่งร้อยปี สำหรับราชาแล้ว การตายด้วยอายุเพียงเท่านี้นับว่ายังเยาว์

เซี่ยงเส้าหยุนยืนตรงหน้าโล่งนั่น เขาโค้งคำนับเพื่อเป็นการแสดงความเคารพ และนั่งทำสมาธิด้วยท่าราวกับดอกบัวตรงหน้าโลงนั่น เด็กหนุ่มโยนความคิดฟุ้งซ่านออก และหลับตาลง จากนั้นหัวใจก็สัมผัสถึงเจตนาอันขุ่นมัวของโลง

ไม่มีผู้ใดรู้ดีไปกว่าตัวของเซี่ยงเส้าหยุนเองว่าเจตจำนงแห่งราชานั้น แท้จริงแล้วเป็นเพียงจิตสำนึกที่อ่อนแอมากของราชาก่อนที่พวกเขาจะล่วงลับ แน่นอนว่า มรดกแห่งเจตจำนงที่ยอดฝีมือระดับราชาทิ้งไว้เบื้องหลังล้วนชัดเจน และหนาแน่น

โดยทั่วไปแล้ว ไม่ใช่เรื่องง่ายที่ผู้ฝึกยุทธ์ระดับล่างจะสามารถจับเจตจำนงที่อ่อนไอได้ หากผู้ฝึกยุทธ์ไม่รู้วิธีพิเศษ การสร้างความเชื่อมโยงกับเจตจำนงโดยพื้นฐานแล้วล้วนเป็นไปไม่ได้เลย

แต่เซี่ยงเส้าหยุนเป็นหนอนหนังสือ เขาเรียนรู้จากตารา และคัมภีร์โบราณมากมาย นี่อาจถือเป็นกำไรอย่างหนึ่งที่ได้จากสิบปีที่ไม่ได้ฝึกยุทธ์ ด้วยสิ่งนี้ เขาเข้าใจถึงสิ่งที่ตนต้องการจะทำ เพื่อสร้างความเชื่อมโยงไปยังเจตจำนง

กลุ่มก้อนของจิตสำนึกที่เรียกว่ามรดกแห่งเจตจำนงนั้น แท้จริงเป็นแล้วเป็นกลุ่มพลังงานที่อ่อนแอ ซึ่งไม่ได้สูญสลายไปอย่างสมบูรณ์เมื่อผู้ฝึกยุทธ์สิ้นชีพ และการสะสมพลังงานเหล่านี้จะสลายไปตามกาลเวลา เจตจำนงอันทรงพลังเท่านั้นจะอยู่ไปชั่วกัปชั่วกัลป์

สำหรับเจตจำนงที่นี่ แม้จะได้รับความช่วยเหลือจากค่ายกลของท่านเจ้าตำหนักแล้ว ก็ยังคงยากจะรักษามันไว้เป็นเวลานาน เซี่ยงเส้าหยุนปลดปล่อยสติ ขณเปิดใช้งานพรสวรรค์การมองเห็นอย่างเต็มที่ ตอนนั้นเอง จิตใจของเขาราวกับพื้นที่ว่างท่ามกลางเมฆหมอก และเขาจำเป็นต้องสร้างความเชื่อมโยงระหว่างพื้นที่ว่างท่ามกลางเมฆหมอก และพื้นที่ตรงหน้าโลง

เพื่อให้เข้าใจเจตจำนง ซึ่งเป็นรูปแบบหนึ่งของจิตสำนึก เด็กหนุ่มจึงต้องใช้สติของตนเพื่อรับรู้ และเข้าใจก่อนที่จะรวมทั้งสองเข้าด้วยกัน หลังจากนั้นไม่นาน จิตสำนึก และความรู้สึกที่ไม่ชัดเจนเข้าสู่พื้นที่ว่างเปล่าในใจของเซี่ยงเส้าหยุน

“อ๊ากกกก!”

เสียงครวญครางมากมายที่แฝงไปด้วยความโศกเศร้าไม่รู้จบดังก้องอยู่ในใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า เป็นความโศกเศร้าที่ทำให้คนผู้หนึ่งรู้สึกเศร้าโศกเพียงแค่ฟังคำร่ำไห้ ความเศร้าโศกนี่คือความรู้สึกซึ่งสูญเสียผู้เป็นที่รัก  ความเจ็บปวดรุนแรงในใจ ราวกับหัวใจจะแตกสลาย ซึ่งเป็นสิ่งที่ยากจะทน

เซี่ยงเส้าหยุนได้รับความโศกเศร้านั้น หรือบางทีด้วยอาจมีประสบการณ์เช่นเดียวกัน ในขณะที่สะท้อนกับจิตสำนึก เขาได้เห็นความหอมหวาน และคู่รักที่มีความสุข พวกเขาเป็นผู้ฝึกยุทธ์ ผ่านความยากลำบากมาด้วยกัน เติบโตเคียงคู่กัน และทิ้งร่องรอยสถานการณ์อันตรายไว้มากมาย

แต่ในที่สุด คนรักของเขาก็แทงเข้าที่ด้านหลัง ด้วยเพราะเหตุใดกัน? คนรักเป็นเพียงหมากที่ศัตรูส่งมาให้คอยอยู่เคียงข้าง ผู้ฝึกยุทธ์ซึ่งสังหารคนที่รัก และแปรเปลี่ยนความเศร้าเป็นพลัง และบรรลุระดับราชาโดยตรง เมื่อสังหารศัตรูทั้งหมด หลังจากนั้นไม่นาน ก็สิ้นชีพลงด้วยความเศร้าสร้อยที่มากเหลือ

ฉากทั้งหมดปรากฏขึ้นอย่างรวดเร็วในจิตใจของเซี่ยงเส้าหยุน มันเคลื่อนไหวเร็วมากจนคนธรรมดามิอาจทันสังเกต แต่เซี่ยงเส้าหยุนใช้พรสวรรค์จินตภาพเพื่อจับภาพเหล่านั้นไว้ เมื่อขยายใหญ่ขึ้นเพื่อทำความเข้าใจถึงเรื่องราวที่ถูกเล่าขานผ่านจิตสำนึก

หลังจากที่เขาตาย ผู้ฝึกยุทธ์ระดับราชายังไม่สามารถลืมสิ่งที่เขากระทำกับคนรัก เขายังคงมั่นใจว่านางรักเขาอย่างจริงใจ แล้วเหตุใดนางจึงต้องแทงที่หลังของเขาด้วยเล่า?

ในที่สุดก็พบว่าคนรักได้ถูกบีบบังคับ เนื่องจากนางถูกข่มขู่ด้วยชีวิตของคนในครอบครัว แลด้วยเหตุผลดังกล่าว เขาได้สร้างวิชาดาบระดับราชานามว่า ‘ดาบแห่งโศกา’

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด