Ep.542 - ผู้พิทักษ์
2/2
Ep.542 - ผู้พิทักษ์
“บัดซบ!! รีบมาช่วยฉันเร็วเข้า!! ฆ่ามันซะ!” เผ่ามังกรร้องโวยวาย
ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา มันปฏิเสธที่จะเชื่อความจริงที่ว่า ฉินเฟิงทรงพลังยิ่งกว่า เผ่ามังกรตัวนี้ เห็นได้ชัดว่าไม่ยินยอมเชื่อฟัง แทนที่จะสารภาพ มันกลับปรารถนาจะสังหารฉินเฟิงแทน
เผ่ามังกรตนอื่นๆ เมื่อได้ยินเสียงกรีดร้อง ก็หันมาทางต้นเสียง ตื่นตะลึงกับภาพตรงหน้า
“อันดับแรกถอนตัวก่อน!”
หนึ่งในเผ่ามังกรร้องตะโกน และเริ่มวิ่งหนีทันที
ด้วยความว่องไวของพวกมัน พริบตาเดียวก็ฉีกหนีมาได้ไกลกว่า 100 เมตร ในขณะที่ความเร็วของวิญญาณต่างมิติเหล่านั้น ไม่อาจเทียบเท่า หลังจากไล่ตามไปสักพัก มันก็มุดกลับเข้าไปยังเครื่องจักรอันเดียวที่ออกมาในตอนแรก
ส่วนมังกรที่เหลือ ตอนนี้กลับมารวมตัวกันอีกครั้ง โอบล้อมฉินเฟิงจากทุกทิศทาง
“ก๊าซซซ”
ไม่จำเป็นต้องสื่อสารผ่านจิตใดๆอีกต่อไป มังกรทั้งหมดโจมตีโดยพลัน ส่วนตัวที่ถูกฉินเฟิงจับข้อมือ พวกมันคล้ายจะไม่สนใจเลย
ฉินเฟิงแสยะยิ้มเย็น ผละมือจากมังกรตรงหน้า เข้าทานรับการโจมตีจากมังกรตนอื่นๆ
ทันใดนั้นเอง ห้ามังกรจากรอบทิศทางของฉินเฟิง ราวเผชิญกับสุญญากาศ
“ทักษะลับกลืนดารา! ปลดปล่อยแรงดูด!”
กำลังภายในปะทุโหม แรงดึงดูดมหาศาล ส่งผลให้ร่างของมังกรทั้งห้ารอบกายฉินเฟิงเสียสมดุลไปโดยไม่รู้ตัว แม้พวกมันจะตรงมายังทิศทางของฉินเฟิงดังเดิม ทว่ารูปแบบปิดล้อมมิได้แน่นหนาอีกต่อไป บังเกิดช่องว่างขึ้น
ฉินเฟิงระดมกำลังภายในของตน กำลังภายในที่เทียบได้กับผู้ใช้วรยุทธโบราณเลเวล B พรั่งพรูออกมา
ร่างของฉินเฟิงกระพริบไหว รุกคืบเข้าประชิดหนึ่งในเผ่ามังกรทันที กระแทกข้อศอกใส่ศัตรูอย่างไม่ทันตั้งตัว
ตึง!
ราวกับเสียงจากการกันของแผ่นเหล็ก อย่างไรก็ตาม แรงอัดของการโจมตีนี้ สะท้อนเข้าลึกเข้าไปถึงหัวใจ
กร๊อบ!
บังเกิดเสียงดังฟังชัดของกระดูกชายโครงที่แตกหัก เผ่ามังกรอาเจียนเป็นเลือด ปลิวกลับหัวกลับหางออกไป
ฉินเฟิงควบคุมทักษะลับกลืนดาราอีกครั้ง แรงดึงดูดมหาศาลฉุดลากมังกรอีกตัวเข้ามาหาเขาและ--
--ปงงงง!
ฉินเฟิงซัดกำปั้นเข้าใส่ใบหน้าศัตรู หัวเผ่ามังกรราวถูกบิดไปอีกทาง ม้วนกลิ้งออกไป ฟันแหลมคมกระจัดกระจายในอากาศ ปากอ้ากระอักเลือดคำโต
หนึ่งหมัดโค่นหนึ่งศัตรู ฉินเฟิงไม่ได้ออมมือแม้แต่น้อย เผ่ามังกรทั้งห้าถูกจัดการแทบจะในพริบตา
มิต่างอะไรจากไก่กา!
อย่างไรก็ตาม มังกรที่ถูกส่งปลิวเป็นตัวแรก บอกตรงๆว่าไม่อยากเชื่อสายตา
“ก๊าซซซ”
มันคำรามเกรี้ยวกราด ร่างกายเริ่มเกิดการเปลี่ยนแปลง กลายร่างเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีรูปลักษณ์เหมือนกับกิ้งก่าตัวใหญ่อย่างกะทันหัน
กลับคืนสู่ขนาดเดิมของเผ่ามังกร!
ในหัวใจของฉินเฟิงสั่นสะท้าน
อาจเป็นไปได้ว่าในครั้งนี้ เขาเผชิญหน้ากับสัตว์ร้ายเลเวล C ? ไม่ใช่ว่าพวกมันเป็นเผ่าพันธุ์ทรงภูมิปัญญาหรอกหรือ? หรือว่าจริงๆแล้วเป็นสัตว์ร้ายที่กลายเป็นมนุษย์กันแน่?
แต่คงจะสายเกินไปหากมัวเสียเวลาคิด ฉินเฟิงเรียกมีดกษัตริย์ครามขึ้นมาในกุมมือทันใด
“มีดเปลวเพลิง!”
มีดกษัตริย์ครามพลันจรัสแสง พลังป้องกันอันคงกระพันใดๆ ทั้งหมดล้วนยอมสยบภายใต้คมมีดนี้
และในคราวนี้ ที่ต้องเผชิญกับมัน คือมังกรมากกว่า 5 ตัว!
คลื่นความผันผวนอันน่าหวาดกลัวแพร่กระจายจากสัตว์ร้ายเหล่านี้ ที่มีความสูงมากถึงสิบเมตร เทียบเท่ากับตึกสามชั้น ขยายขนาดเป็นใหญ่โตทันที ซากปรักหักพังรอบๆถูกเหยียบย่ำทำลาย พังทลายลงยิ่งกว่าเดิม
ก่อนหน้านี้ ตอนพวกมันอยู่ในรูปร่างมนุษย์ คงจะเก็บงำพลังของตนเองเอาไว้ ยามนี้จึงดูทรงพลังยิ่งกว่าเดิม
สีหน้าของฉินเฟิงแปรเปลี่ยนไป
หากต้องรับมือกับห้าราชันย์สัตว์ร้ายเลเวล C พร้อมๆกัน ต่อให้เป็นเขาก็ห้ามประมาท
“เทคนิคเพลิงบรรจบ!”
ในพริบตา เขตแดนเปลวเพลิงเริ่มโหมกระหน่ำ
ห้าราชันย์มังกรถูกกระหน่ำโจมตีรุนแรง ได้รับบาดเจ็บสาหัสท่ามกลางเปลวเพลิง แต่นั่นกลับยิ่งทำให้พวกมันดุร้าย ปรารถนาแน่วแน่ที่จะฉีกทึ้งฉินเฟิงเป็นชิ้นๆยิ่งกว่าเดิม
ฉินเฟิงอยู่ท่ามกลางเพลิงบรรจบ ซ่อนเร้นร่างของเขาภายใต้ทะเลเพลิง ทุกหนแห่งรายล้อมไปด้วยเปลวไฟ ดังนั้นเป็นไปไม่ได้ที่จะพบตำแหน่งของฉินเฟิง
“ก๊าซซซ!” ราชันย์มังกรเปล่งเสียงคำรามด้วยความสับสน
“จงผนึก!”
พลังสมาธิของฉินเฟิงขยับไหว มังกรไฟนับไม่ถ้วนผุดจากทะเลเพลิง ร่ายระบำในอากาศ โฉบเข้าพัวพันเผ่ามังกร กลืนพวกมันจมสู่ทะเลเพลิง
เผ่ามังกรดิ้นรนต่อสู้อย่างดุเดือด แผ่นดินสั่นสะเทือนจากแรงปะทะ
แต่ยิ่งนาน แรงสั่นสะเทือนก็ยิ่งลดลง …
“จงกลับคืน!”
ฉินเฟิงวาดมือ เปลวเพลิงนับไม่ถ้วนลอยกลับมาตกในมือเขา สถานที่ที่แต่เดิมเป็นเขตแดนของเพลิงบรรจบ บัดนี้เหลือเพียงซากศพไหม้เกรียม
--พวกเผ่ามังกร ตายสนิท จบชีวิตลงโดยสิ้นเชิง
ฉินเฟิงสั่งการในจิตจ ตรงหน้าอกของศพมังกรเหล่านี้ระเบิดออก แก่นพลังงานขนาดเท่ากำปั้นจากแต่ละตัว ตกลงในมือเขา
แม้บนตัวของเผ่าพันธุ์พิเศษนี้จะไม่มีมูลค่าเท่ากับมังกรจริงๆ แต่แก่นพลังงานของพวกมันอุดมสมบูรณ์มาก
จากนั้น ฉินเฟิงก็เดินไปยังเผ่ามังกรเพียงตัวเดียวที่ยังมีชีวิตอยู่ มันคือตัวแรกที่มีสภาพน่าสังเวชที่สุด ถูกหักกระดูกลงโดยเขา
เมื่อเห็นฉินเฟิงเดินใกล้เข้ามา มังกรตัวนี้ตื่นตระหนกทันใด
เพราะมนุษย์ ในความคิดของมัน เป็นการดำรงอยู่ที่เล็กจ้อยและอ่อนแอ แต่ตอนนี้ กลับกลายเป็นสัตว์ประหลาดที่น่าหวาดกลัวอย่างไม่น่าเชื่อ
ฉินเฟิงปลดปล่อยพลังสมาธิ สื่อสารคำเดิมออกไปย้ำอีกครั้ง
“คราวนี้ ถึงเวลาที่แกต้องตอบคำถามของฉันแล้ว”
“นายท่านเชิญถาม! โปรดถามมาได้เลย!”
ทั้งๆที่เมื่อครู่ มันยังไม่คิดตอบคำถามของฉินเฟิงอยู่เลย คล้ายจะไม่พอใจด้วยซ้ำ
แต่พอฉินเฟิงเน้นย้ำมันอีกที สาดเสียงเย็นชายิ่งกว่าเดิม เผ่ามังกรก็เร่งตอบทันควัน “เผ่ามนุษย์เป็นเผ่าพันธุ์ที่ลึกลับมากท่ามกลางมิตินับไม่ถ้วน ยีนของพวกนายท่านสามารถให้กำเนิดได้หลากหลายเผ่าพันธุ์ บางเผ่าแม้ทรงพลัง ทว่ามีปัญหาด้านการสืบพันธุ์ ดังนั้นพวกเขาเลยต้องการยีนของมนุษย์ แม้ผลลัพธ์ของมัน ในการผลิตลูกหลานรุ่นต่อๆไปจะทำให้ความแข็งแกร่งลดทอนลงก็ตาม”
“ส่วนในกรณีพวกเราเผ่ามังกร สามารถสืบพันธุ์กับเผ่าไหนก็ได้ แต่ถ้ากับพวกเลือดไม่บริสุทธิ์ ความแข็งแกร่งจะลดทอนลงเป็นอย่างมาก มีเพียงมนุษย์เลือดบริสุทธิ์เท่านั้น ที่เป็นของหายาก!”
สีหน้าของฉินเฟิง เย็นชายิ่งกว่าเดิม
คำพูดเหล่านี้ ก่อนจะเกิดใหม่ เขาไม่เคยได้ยินมันมาก่อน
แต่ก็ไม่น่าแปลกใจอะไร เพราะในชีวิตก่อน ฉินเฟิงเริ่มต้นจากบ้านนอก และค่อยๆไต่เต้ามาทีละขั้น ฉะนั้นเขาจะไปเทียบกับลูกรักของพระเจ้าในเมืองหลวงมังกรได้อย่างไร? แค่ทรัพยากรด้านข้อมูลก็เทียบไม่ได้แล้ว
อย่างไรก็ตาม หลังจากเกิดใหม่ เขาเข้าร่วมกับพันธมิตรมนุษยชาติ และตอนนี้ตนเป็นถึงลูกรักของพระเจ้า สามารถเข้าสู่เขตแดนลับอันแสนประหลาดนี้ แม้ความแข็งแกร่งของเขาจะยังไม่เท่ากับชีวิตก่อน แต่ก็สามารถพัฒนาได้เร็วยิ่งกว่า ทั้งยังได้รับประสบการณ์ , ข้อมูล , เรื่องราวที่ไม่เคยพบเจอมาก่อน
“หรือถ้าจะให้พูดอีกอย่างหนึ่งก็คือ มิติของเผ่ามนุษย์ เป็นเป้าหมายในการรุกรานของเผ่าพันธุ์ใหญ่อื่นๆใช่ไหม? งั้นหลังจากกลายเป็นอาณานิคมของพวกแก สุดท้ายมันจะเกิดอะไรขึ้นกับมิติมนุษย์? ไม่ใช่ว่าเผ่าพันธุ์มนุษย์ทั้งหมดจะถูกฆ่าหรอกหรอ!”
น้ำเสียงของฉินเฟิงดังขึ้น เย็นชามากขึ้น
ตอนนี้ฉินเฟิงเพิ่งเกิดใหม่ได้ปีกว่าๆ แต่เมื่อลองย้อนนึกไปถึงความทรงจำเก่าๆ ช่วงเวลาที่ผ่านมา ปรากฏเผ่าพันธุ์ทรงภูมิปัญญารุกรานเข้ามามากขึ้น มากขึ้นเรื่อยๆ จับมนุษย์ผู้หญิงไปเป็นทาส คอยปรนเปรอ ในขณะที่ผู้ชายส่วนใหญ่ถูกฆ่าตาย สิ่งนี้ทำให้ฉินเฟิงรู้สึกโกรธมากจริงๆ
“ไม่อาจทำแบบนั้นได้! เพราะเผ่าพันธุ์มนุษย์นั้นแปลกประหลาดเป็นอย่างยิ่ง บางคนแข็งแกร่ง ทรงพลังอย่างยิ่งยวด ตราบใดที่ในเผ่ามนุษย์ยังมีผู้พิทักษ์เช่นนั้นอยู่ เผ่าพันธุ์ต่างมิติอย่างพวกเราก็ไม่สามารถแตะต้องได้”
ในบรรดาเผ่าพันธุ์อื่นๆ หลังจากก้าวเข้าสู่วัยผู้ใหญ่แล้ว ความแข็งแกร่งจะยังคงเดิม ตัวอย่างเช่นเผ่ากริม หลังจากก้าวสู่วัยผู้ใหญ่แล้ว พวกมันทั้งหมดจะเป็นเลเวล C และจะวิวัฒนาการแค่เพียงระดับเป็นทหาร , นายพล , ราชันย์ และจักรพรรดิเท่านั้น
แต่มนุษย์แตกต่างออกไป พวกเขาสามารถพัฒนาได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด ก้าวไปได้ถึงกระทั่งเลเวล S
หลังจากที่มนุษย์ถูกปลุกพลัง จริงอยู่ที่ว่าช่วงแรกๆพวกเขาอ่อนแอมาก เรียกได้เลยว่าอยู่ในระดับต่ำสุดของห่วงโซ่อาหาร
เรื่องนี้ ในสายตาของเผ่าพันธุ์อื่นๆแล้ว เห็นได้ชัดว่าเป็นเรื่องแปลกมาก
“ผู้พิทักษ์?” ฉินเฟิงพึมพำกับตัวเอง ในหัวกำลังนึกถึงหลงถิง และผู้ใช้พลังเลเวล S คนอื่นๆในพันธมิตรมนุษยชาติ