ตอนที่แล้วระบบใช้จ่าย ตอนที่ 124
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไประบบใช้จ่าย ตอนที่ 126

ระบบใช้จ่าย ตอนที่ 125


ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

บทที่ 125: โคตรแฟน

คำพูดของหงต้าหลี่ทำให้ทุกคนตกใจอีกครั้ง "18 ฝ่ามือปราบมังกร? แล้วใครคือหงชี่กง?"

กีเซอร์หวังอธิบายว่า "เพื่อนเก่าลุงชื่อว่า หวังต๊ะหมิง ไม่ใช่หงกงชี่" เขาลูบคางและพูดต่อ "ที่จริงแล้ว ไม่มีชื่อที่ตายตัว แต่ก่อนอาจารย์ของลุงมอบทักษะนี้ให้ และเขาเรียกลุงว่า 'ฝ่ามืออรหันต์' มีเพียงแปดการเคลื่อนไหว หากการเคลื่อนไหวนี้ถูกใช้กับศัตรู ศัตรูจะกระดูกแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ มันเป็นการเคลื่อนไหวที่ทรงพลัง อย่างไรก็ตามลุงไม่ได้ใช้บ่อยนัก แต่ท่านนายน้อยพูดว่า 18 ฝ่ามือ มันฟังดูมีพลังนัก น่าเสียดายที่จำนวนการเคลื่อนไหวไม่ตรงกับที่เรียก ว่าแต่ทำไมท่ายนายน้อยถึงเรียกมันว่า 'ฝ่ามือปราบมังกร'? ช่างฟังดูแปลกถนัดตานัก?"

ในขณะที่เขาพูดแบบนั้น มู่ซีเซียวกระโจนเข้าใส่เขาแล้วกอดขาอีกครั้ง "ท่านอาจารย์! ได้โปรด รับฉันเป็นลูกศิษย์ด้วยเถิด!"

ในตอนนี้เขาได้ละทิ้งทุกอย่างไปแล้ว เพียงเพื่อศิลปะการต่อสู้

แต่กีเซอร์หวังกลับส่ายหัวทันที "ไม่! ลุงไม่ยอมบอกทักษะง่าย ๆ หรอก นอกจากว่าท่านนายน้อยต้าหลี่ที่ต้องเรียนรู้ เจ้าหนุ่มคนนี้มีทิฐิมากเกินไป ลุงไม่อยากสอนนาย ลุงกลัวว่านายจะฆ่าใครโดยไม่ได้ตั้งใจ และลุงก็ไม่สามารถรับผิดชอบได้"

มู่ซีเซียวรีบวิ่งไปหาหงต้าหลี่แล้วตบไหล่ และวิ่งเข้าไปประจบหงต้าหลี่ทันที "ไม่! มันจะไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน! แม้ว่าเราจะไม่ใช่พี่น้องแท้ ๆ แต่เราก็ใกล้ชิดกว่าพี่น้องแท้ ๆ ซะอีก! หากถ่ายทอดศิลปะการต่อสู้ให้ข้า มันไม่แตกต่างกันเลยที่อาจารย์จะถ่ายทอดทักษะให้เขาหรือฉัน!" หลังจากที่เขาพูด เขาก็ขยิบตาให้หงต้าหลี่ "ใช่ไหมต้าหลี่?"

หงต้าหลี่สูดจมูกและพูดว่า "โอ้ อย่างไรก็ตาม ฉันก็ไม่สนใจอยู่แล้ว ทำไมไม่ลองสอนเขาด้วยล่ะ ลุงหวัง? ฉันไม่สามารถเรียนรู้ได้ น่าเสียดายออกหากต้องปล่อยทักษะให้มันหายไป"

กีเซอร์หวังลังเล สิ่งที่หงต้าหลี่พูดนั้นมีเหตุผล หากเขาตายไป ศิลปะการต่อสู้ก็จะหายไปตาม เหมือนกับการเอาน้ำมันมาไว้ในโลงศพ เขาพยักหน้า "อืม ... ก็ได้ เมื่อท่านนายน้อยพูดเช่นนั้น ลุงคิดว่า.. ลุงน่าจะมอบทักษะให้แก่เจ้าหนุ่มคนนี้ แต่ฟังลุงให้ดีนะ ลุงต้องอธิบายเรื่องนี้กับเจ้าหนุ่มก่อนก่อน"

เมื่อได้ยินว่ากีเซอร์หวังเห็นด้วย มู่ซีเซียวก็ร้องไห้พร้อมกับพยักหน้า "ได้โปรดสอนผมเถอะนะครับ"-

กีเซอร์หวังก็ได้เริ่มอธิบาย "ข้อแรก หลังจากที่เจ้าหนุ่มเรียนรู้ทักษะแล้ว สัญญาก่อนว่าจะไม่ใช้มันเพื่อต่อสู้ เจ้าหนุ่มสามารถใช้มันเพื่อป้องกันตัวเองได้หรือเพื่อฝึกร่างกาย หากลุงได้ยินว่าเจ้าใช้ทักษะในการทำร้ายหรือฆ่าคน ลุงจะหักแขนและขาของเธอทิ้งซะ แม้ว่าลุงจะต้องตายก็ตาม!"

มู่ซีเซียวพยักหน้า  "ไม่ใช่ปัญหา! ผมสัญญาว่าจะรอบคอบให้มากขึ้น ผมจะไม่สร้างปัญหาให้ท่านอาจารย์แน่นอน!"

กีเซอร์หวังพูดต่อ "อืม ข้อที่สอง ไม่แน่ใจว่าความสัมพันธ์ของเจ้าหนุ่มกับท่านนายน้อยต้าหลี่นั้นดีจริง ๆ หรือไม่ แต่ในเมื่อตอนนี้ลุงอยู่ภายใต้ท่านนายน้อยต้าหลี่ เจ้าหนุ่มต้องจงรักภักดีต่อท่านนายน้อยต้าหลี่ด้วย ไม่ว่าจะเป็นแค่การเสิร์ฟน้ำชาหรือน้ำ หรือท่านนายน้อยตกอยู่ในอันตราย เธอต้องช่วยเขา ความภักดีเป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับผู้ที่เรียนศิลปะการต่อสู้ เจ้าหนุ่มโอเคไหม?"

“เอ่อ…” มู่ซีเซียวคิดถึงภูมิหลังของครอบครัว ยากที่จะบอกว่าความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลหงกับตระกูลของเขาเป็นเช่นไร ดังนั้นเขาลังเลเล็กน้อย แต่เมื่อมองจากมุมมองอื่น เขาไม่ได้เกี่ยวข้องกับธุรกิจของตระกูลมากนัก จึงไม่มีปัญหาสำหรับเขาในการปกป้องหงต้าหลี่ เมื่อคิดอย่างนั้น เขาก็ตอบตกลงทันที "โอเค! ไม่มีปัญหา! ถึงผมไม่สามารถพูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องอื่นได้มากนัก แต่ผมยอมรับข้อเสนอนี้!"

ข้อต่อไปเป็นข้อสุดท้าย กีเซอร์หวังก็ได้พูดออกมาว่า "ข้อที่สาม ในฐานะคนที่ฝึกฝนศิลปะการต่อสู้มาเป็นเวลายาวนาน เราต้องรู้จักลำบากและอดทนเพื่อความดี เธอจะต้องฝึกฝนเป็นเวลาหลายปี นี้เป็นเพียงข้อตกลงที่ง่ายที่สุด มันยากสำหรับคนทั่วไป แต่ลุงบอกได้เลยว่าเจ้าหนุ่มมีความสามารถและร่างกายแข็งแรง ข้อตกลงของเราคงจะง่ายสำหรับเธออยู่แล้วนะ"

เมื่อได้ยินสิ่งที่เขาพูด หงต้าหลี่ลูบจมูก ก่อนหน้านี้เขาไม่เห็นด้วย เพราะมู่ซีเซียวมีร่างกายที่แข็งแรงก่ำยำและมีความสามารถมาก แต่เขาไม่คิดเลยว่ามันจนะเป็นอย่างนี้

ถังมู่ซินดึงหงต้าหลี่มาใกล้ ๆ และกระซิบ "ต้าหลี่ นายไม่สังเกตเห็นมู่ซีเซียวหรอ เขาเหมาะสมที่จะฝึกศิลปะการต่อสู้นะ ฉันจำได้ว่านายเคยพูดตอนที่พบเขาครั้งแรกนะ"

หงต้าหลี่ยักไหล่อย่างไม่เต็มใจ "ฉันแค่พูดเพราะเห็นมันดูสนุกเท่านั้นเอง ... "

ถังมู่ซิน: "..."

เมื่อมู่ซีเซียวได้ยินแบบนั้น ก็พูดว่า "ไม่มีปัญหา! นั่นไม่ใช่ปัญหาสำหรับผมอยู่แล้ว! ผมน่ะรักการฝึกศิลปะต่อสู้ตั้งแต่ผมยังเด็ก ๆ แล้ว ผมสามารถฝึกแม้จะอยู่ในฤดูหนาวที่หนาวที่สุดหรือฤดูร้อนที่ร้อนที่สุดก็ได้หมด!"

ซึ่งตอนนี้กีเซอร์หวังเบื่อในการพูดโอ้อวดของเขา "อืม เจ้าหนุ่ม สามารถเรียกข้าว่าอาจารย์ได้แล้ว"

เมื่อได้ยินคำว่า "อาจารย์" จากปากของกีเซอร์หวัง มู่ซีเซียวก็คุกเข่าลงอย่างรวดเร็ว "ข้าน้อยลูกศิษย์มู่ซีเซียว ขอแสดงความเคารพท่านอาจารย์!"

กีเซอร์หวังยิ้มและแตะที่ไหล่ของมู่ซีเซียว "ลุกขึ้น ในอนาคตหวังว่าเจ้าจะไม่ใช้ทักษะไปในทางที่ผิด หลังจากที่เจ้าเรียนรู้วิชาแล้ว ได้ยินที่ฉันพูดไหม? อย่าสร้างปัญหาใด ๆ เชียวนะ!"

มู่ซีเซียวหยิบการ์ดออกมาจากกระเป๋าของเขาแล้วยื่นส่งให้ "ครับผม! เข้าใจแล้วครับ! นี้เป็นของตอบแทนเล็ก ๆ น้อย ๆ แทนคำขอบคุณครับ โปรดรับไว้ด้วยครับ ถ้าอาจารย์ไม่รังเกียจ!"

เขาควรรับของตอบแทนจากลูกศิษย์ของเขา กีเซอร์หวังยอมรับอย่างสุภาพและถามเบา ๆ ว่า "ในบัตรนี้มีเท่าไหร่?" ในขณะนั้นเขาเหลือบมองและกระซิบเบา ๆ ...

มู่ซีเซียวตอบเบา ๆ ว่า "หนึ่งล้านครับ ท่านอาจารย์ ใช้ได้เลยครับ รหัสผ่าน คือ 888888 ถ้าไม่พอ ผมจะให้อาจารย์มากกว่านี้!"

กีเซอร์หวังผงะ แค่ก แค่ก! เนื่องจากเขาตัดสินใจติดตามหงต้าหลี่ เขาจะต้องใจกว้างมากกว่านี้ เขาจะไม่โง่อีกและเขาก็พยักหน้า "ฉันจะรับมันไว้"

เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว หงต้าหลี่ก็หัวเราะและเดินไปข้างหน้าจับไหล่มู่ซีเซียวอย่างจริงจัง "พี่เซียว ตอนนี้เราเป็นครอบครัวเดียวกันแล้วนะ!"

เมื่อได้รับทักษะต่อสู้ขั้นสูงมา มู่ซีเซียวก็ร่าเริง "นั่นสิ นั่นสิ ฮ่าฮ่า!" ตอนนี้อะไรก็ไม่สำคัญอีกแล้ว การตามหงต้าหลี่มานี้ช่างเป็นความคิดที่ถูกจริงๆ ไม่ใช่แค่ตัวต้าหลี่จะโชคดี แต่ใครที่ตามเขาก็จะโชคดีด้วย!

ทักษะของอาจารย์หวังไม่ใช่อะไรที่ธรรมดาอย่างแน่นอน!

มู่ซีเซียวมีความสุข แต่คนขับรถมองดูฉากนี้พร้อมกับเหงื่อที่เต็มหลังของเขา

ท่านนายน้อยต้าหลี่ไม่สนใจชายหนุ่มคนนั้นเลย แต่ตอนนี้เขาได้มีผู้ติดตามที่ซื่อสัตย์ขึ้นมาเพิ่มหนึ่งคนแล้ว ผู้ติดตามหนุ่มคนนี้หากได้เรียนรู้ศิลปะการต่อสู้จากกีเซอร์หวัง ถือว่าเป็นประโยชน์กับเขาแล้ว แต่อีเรื่องหนึ่งก็คือ ตัวตนของซีเซียว ตั้งแต่มู่ซีเซียวปรากฏตัวต่อหน้าหงต้าหลี่ ตระกูลหงก็ได้ตรวจสอบข้อมูลไปบ้างแล้ว มู่ซีเซียวเป็นคนน่ากลัว แต่มีอย่างหนึ่งที่รู้กันดีคือ เขาไม่มีวันกลับคำพูดของตัวเอง

ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด