บทที่ 25 เปลวไฟและกลิ่นของกำมะถัน
บทที่ 25 เปลวไฟและกลิ่นของกำมะถัน
รอยตัดสินใจไปสำรวจปราสาทแวมไพร์เพราะเขาอยากรู้อยากเห็น
เขามีความประทับใจและชื่นชอบในภาพยนตร์เรื่องแวนเฮลซิ่ง ท้ายที่สุดแล้วเพราะการปรากฏตัวของมนุษย์หมาป่าแวมไพร์รวมถึงแฟรงเกนสไตน์นั้นเกินความเข้าใจของรอยในสมัยนั้นมาก สิ่งสำคัญที่สุดคือมีนักแสดงอย่างฮิวจ์แจ็คแมนอยู่ในนั้นยิ่งทำให้เกิดความประทับใจยิ่งขึ้น
ตั้งแต่ตอนนั้นก็รับว่าเวลาผ่านไปนานมากแล้วและรอยก็เริ่มลืมเรื่องราวของภาพยนต์เรื่องนี้ เขาเพียงจำได้อย่างคลุมเครือว่าแดร็กคิวล่าเป็นแวมไพร์ที่ค่อนข้างน่าสงสาร เขามีบุตรยากและไม่สามารถมีลูกได้ดังนั้นเขาจึงเริ่มค้นหาวิธีรักษาทางวิทยาศาสตร์ สิ่งนี้นำไปสู่การเริ่มต้นเรื่องราวในภาพยนต์ในเวลาต่อมา
สิ่งที่แดร็กคิวล่าต้องการทำไม่ใช่ธุระของรอย และรอยก็ไม่ได้อยากตั้งใจที่จะเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยเช่นกัน จุดสนใจเพียงอย่างเดียวของรอยอยู่ที่ว่าเขาจะสามารถเปลี่ยนวิญญาณของลูเซียสให้มีคุณภาพสูงได้อย่างไร แต่รอยเองก็ยังคงมีความอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับแวมไพร์ว่าจะเป็นปีศาจชนิดใดกันแน่
รอยถือกำเนิดและเดินทางมาจากก้นบึ้งของโลกปีศาจ แม้ว่าสายเลือดของปีศาจระดับต่ำจะซับซ้อน และส่งผลให้มีการผสมกันของสายเลือดในทุกรูปแบบ แต่รอยจำไม่ได้ว่าเคยเห็นปีศาจระดับต่ำตนใดที่มีลักษณะคล้ายกับแวมไพร์มาก่อน
ยิ่งไปกว่านั้นตามที่ลูเซียสกล่าวมาว่าแดร็กคิวล่ากลายเป็นแวมไพร์และมีชีวิตอยู่มาประมาณสี่ร้อยปีแล้ว ซึ่งถ้าแดร็กคิวล่าเป็นปีศาจที่มาจากอเวจีมันคงเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะอยู่ในโลกอื่นได้นานขนาดนี้โดยไม่มีผู้เซ็นสัญญา ดังนั้นรอยจึงค่อนข้างมั่นใจว่าแดร็กคูล่าอาจไม่ใช่ปีศาจที่มาจากอบีส
ตอนนี้รอยอยากรู้อยากเห็นว่าถ้าแดร็กคูล่าไม่ใช่ปีศาจแล้วเขาเป็นอะไร? ถ้าเขาเป็นมนุษย์ที่ได้เซ็นสัญญากับปีศาจและกลายเป็นแวมไพร์ได้ ถ้าอย่างงั้นปีศาจตนดังกล่าวเขาใช้วิธีการเช่นไร?
รอยรู้สึกว่าเขาเป็นต้องเข้าใจวิธีการบางอย่างของปีศาจเผื่อว่าเขาอาจถูกเรียกตัวไปยังโลกอื่นในอนาคตและต้องเผชิญกับความปรารถนาอันหลากหลายของเหล่าซัมมอนเนอร์จอมโลภมากทั้งหลาย ถ้าเขาจำเป็นต้องใช้วิญญาณจากระบบเพื่อตอบสนองพวกเขาอยู่เสมอก็นับว่ามันจะเป็นการสูญเสียที่รอยยอมรับไม่ได้
และวิธีเดียวที่จะเข้าใจสิ่งที่ปีศาจทำกับแดร็กคิวล่าก็คือการมาถามตัวเขาโดยตรง
ขณะที่รอยบินผ่านท้องฟ้ายามค่ำคืนที่มืดมิดเหนือเมืองทรานซิลวาเนียอย่างสบายอารมณ์ กลับกันที่ด้านล่างชาวเมืองบางส่วนสังเกตุเห็นรอยอย่างชัดเจนและนั้นส่งผลให้ทั้งเมืองเริ่มจมดิ่งสู่ความวุ่นวายโกลาหล
แวมไพร์สาวคนหนึ่งของแดร็กคิวล่าอยู่ระหว่างการออกมาหาอาหาร ในช่วงหลายร้อยปีที่ผ่านมาแวมไพร์เหล่านี้มักปรากฏตัวออกมาเป็นครั้งคราวและแม้ชาวเมืองจะคุ้นเคยกับการปรากฏตัวของพวกเขา แต่ความจริงแล้วไม่มีใครอยากเป็นคนที่ตกเป็นเหยื่อ ดังนั้นการปรากฏตัวของแวมไพร์จึงทำให้พวกเขาหวาดกลัวและรีบหาที่ซ่อนตัว โดยทั่วไปการโจมตีมันกินเวลาไม่นานหลังจากซ่อนผู้หญิงและเด็กแล้ว ผู้ชายส่วนใหญ่มักพบว่าพวกเขาไม่สามารถซ่อนตัวได้ทันดังนั้นพวกเขาจึงพยายามใช้คนอื่นๆเป็นที่กำบังแทน
ชาวเมืองนั้นยอมเสียสละคนอื่นมากกว่าตัวเอง จากประสบการณ์ของพวกเขารับรู้ว่าหากแวมไพร์กำลังมองหาเหยื่อมันมักจะอิ่มหลังจากดูดเลือดไปหนึ่งคนรึสองคน และหากแวมไพร์ต้องการเพลิดเพลินก็มักจะนำเหยื่อที่มีชีวิตกลับไปที่ปราสาทเพียงไม่กี่คนเท่านั้น และพบว่ามีแวมไพร์สาวออกมาหาเหยื่อแค่คนเดียวก็คงจะต้องการไม่มาก สิ่งที่ผู้คนต้องแน่ใจคือหวังว่าพวกเขาจะไม่ได้เป็นหนึ่งในเหยื่อเหล่านั้น
แม้ว่ามันจะฟังดูโหดร้าย แต่ก็ด้วยเหตุนี้เองที่ชาวเมืองยังไม่ได้ถูกฆ่าล้างโดยแวมไพร์ แวมไพร์จับตัวพวกเขาไว้เป็นเชลยและปล่อยให้คนส่วนใหญ่มีชีวิตรอด
คราวนี้แวมไพร์สาวตัดสินใจนำเหยื่อของเธอกลับไปที่ปราสาท เธอลอยอยู่เหนือเมืองและยิ้มเยาะผู้คนเบื้องล่างที่กำลังตื่นตระหนก เมื่อเธอสนุกพอแล้วเธอก็ทิ้งตัวลงและใช้กรงเล็บจับชายเร่ร่อนคนหนึ่งเอาไว้ก่อนจะกลับขึ้นไปบนท้องฟ้าและมุ่งหน้าบินกลับไปทางปราสาท
ทว่าสิ่งที่เจ้าสาวแวมไพร์ไม่ทราบก็คือตอนนี้ปีศาจรอยกำลังบินอยู่เหนือเธอและมองลงมาอย่างสนใจ
หลังจากที่เปลี่ยนร่างแล้วแวมไพร์สาวคนนี้ดูน่าเกลียดมากเป็นพิเศษ ผิวของเธอซีดจนเกือบจะเป็นสีน้ำเงินและปีกที่ไม่น่าดูเหล่านั้นก็ทำให้เธอดูไม่เป็นมนุษย์ก็ไม่ใช่หรือเหมือนค้างคาวก็ไม่เชิง
รอยตามแวมไพร์นางนี้ไปอย่างสบายๆและในไม่ช้าพวกเขาก็มาถึงปราสาท
แวมไพร์สาวเข้าไปด้านในพร้อมกับเหยื่อของเธอในขณะที่รอยรอซักพักก่อนที่จะตามลงไป
ปราสาทแห่งนี้ดูเก่าแก่และมีร่องรอยบ่งชี้ว่ามันอาจพังทลายลงมาได้ทุกเมื่อ มอสหนาปกคลุมอิฐไปตามรอยแยกของปราสาท ดูเหมือนว่าเจ้าจะไม่สนใจที่จะปรับปรุงดูแลปราสาทหลังนี้ซักเท่าไหร่
ไม่มีทหารรักษาการณ์อยู่เลยซักคนรอยจึงเดินเข้าไปในทางเดินได้อย่างง่ายดาย
อย่างไรก็ตามเมื่อเขาเข้ามาในตัวปราสาทแล้วก็พบกับความแตกต่างอย่างสิ้นเชิงระหว่างภายนอกกับภายใน ในห้องโถงของปราสาทนั้นสว่างไสวมากและถูกปูด้วยพรมหนาทั้งยังมีโคมไฟระย้าสไตล์ยุโรปที่หรูหราห้อยลงมาจากเพดาน วงดนตรีที่มีไวโอลินและออร์แกนกำลังเล่นดนตรีอย่างไพเราะ ในห้องโถงมีชายและหญิงแต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่สวยงามเดินไปมา
พวกเขากำลังจัดปาร์ตี้?
รอยซ่อนตัวในความมืดและมองไปที่ฝูงชนด้านล่าง ชายหญิงคู่หนึ่งคุยกันอย่างมีความสุขและมีแก้วไวน์สีแดงสดอยู่ในมือ รอยได้กลิ่นเลือดจากแก้วไวน์เหล่านี้เขาก็เข้าใจว่าทุกคนล้วนเป็นแวมไพร์และสิ่งที่พวกเขาถือไม่ใช่ไวน์แต่คือเลือดสดของมนุษย์
ปราสาทแห่งนี้มีแวมไพร์มากมาย?
ดูเหมือนว่าแดร็กคูล่าจะชอบการกัดคอและเปลี่ยนมนุษย์จำนวนมาให้เป็นแวมไพร์เหมือนกันกับเขา..
รอยเห็นแวมไพร์สาวคนก่อนหน้าท่ามกลางฝูงชนดูเหมือนเธอจะชื่นชอบเลือดสดๆ ผู้ชายที่เธอเพิ่งจับกลับมายังไม่ตายแต่เขาดูอ่อนแอ ชายคนนั้นถูกแวมไพร์ตัวอื่นพาตัวออกไปเขาอาจจะถูกกักขังไว้เป็นถุงเลือดใช่ไหม?
มีแนวโน้มว่าจะมีถุงเลือดมากมายเช่นชายคนนั้น ไม่อย่างนั้นเคาท์แดร็กคิวล่าจะมีผู้ใต้บังคับบัญชาเป็นแวมไพร์จำนวนมากได้อย่างไร
รอยคิดว่าแดร็กคูล่าน่าจะอยู่ในงานปาร์ตี้และเริ่มค้นหาเขาในฝูงชน แต่หลังจากสังเกตอยู่สักพักรอยก็ไม่พบคนที่คล้ายกับแดร็กคูล่าอยู่ในหมู่พวกเขา แต่ในขณะที่รอยรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยและต้องการจากไปเพื่อมองหาในสถานที่อื่นๆ จู่ๆประตูของห้องโถงก็ถูกกระแทกออกเสียงดัง!
และคนที่เดินเข้ามาคือเคานต์แดร็กคูล่า เขาเป็นชายผมดำแต่รูปร่างหน้าตาของเขาไม่เหมือนกับชนชั้นสูง เขาดูไม่เรียบร้อยแขนเสื้อของเขายุ่งเหยิงและคอเสื้อของเขาก็หลุดรุ่ย ทันทีที่เขามาถึงก็พังประตูทั้งสองบานของห้องโถง ข้างหลังเขามีแวมไพร์สาวอีกสองคนติดตามมา
การแสดงออกบนใบหน้าของแวมไพร์อื่นๆในงานดูงุนงงและหันมามองแดร็กคูล่าด้วยความตกใจพวกเขาไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น
แดร็กคิวล่าไม่สนใจพวกเขาและใช้สายตากวาดไปทั่วฝูงชน ก่อนจะใช้มือลูบจมูกก่อนจะบ่นออกมาเบาๆ
“ข้าได้กลิ่นกำมะถันและกลิ่นไหม้ กลิ่นนี้.. มีเพียงปีศาจที่แท้จริงจากนรกเท่านั้นที่จะมีกลิ่นเช่นนี้!”
แวมไพร์จ้องด้วยสายตาที่แข็งกร้าวจนคนอื่นๆไม่กล้าหายใจแรง
ในที่สุดแดร็กคิวล่าก็มองขึ้นไปที่ด้านบนของห้องโถงและตะโกน
“ออกมาซะปีศาจ! ข้ารู้ว่าเจ้าอยู่ที่นั่น!”
หะ ฉันถูกค้นพบหรือนี่?
รอยไม่ได้คาดหวังว่าจมูกของแดร็กคิวล่าจะไวขนาดนี้ เขาเดินออกจากเงามืดและคลายกรงเล็บออกมาอย่างช่วยไม่ได้ก่อนจะกระโดดลงมา
รอยเคลื่อนตัวมาอย่างแรงจนเกิดเสียงดังสนั่นและทำให้พื้นสั่นไปทั่วห้องโถง การปรากฏตัวของรอยทำให้แวมไพร์ในห้องตื่นตกใจ แวมไพร์เหล่านี้รวมถึงภรรยาสามคนของแดร็กคิวล่าไม่เคยพบเห็นปีศาจตัวจริงมาก่อน พวกเขาถอยกลับอย่างรวดเร็วด้วยความหวาดกลัวทิ้งให้แดร็กคิวล่ายืนเพชิญหน้ากับรอยโดยตรง
ทันทีที่แดร็กคูล่าเห็นรอยชัดๆดวงตาของเขาก็เบิกกว้างด้วยความตื่นตกใจ
เขาคือปีศาจจริงๆหรือนี่! ออร่าปีศาจที่คุ้นเคยเหมือนกับเมื่อหลายปีก่อน…