สุดยอดนักสืบในโลกแห่งจินตนาการ (SDFW)-ตอนที่ 18
ตอนที่ 18 เร่งความเร็ว, สมุนไพร และการไล่ล่า
ก่อนหน้านี้โรเบิร์ตใช้ตำแหน่งหัวหน้าของเขาเพื่อช่วยให้ลุคเข้าเป็นตำรวจในกองกำลังตำรวจของโรเบิร์ตโดยตรง (เด็กเส้นนั่นแหล่ะครับ) ซึ่งถ้าจะให้พูดกันตามความจริงไม่มีใครในกองของโรเบิร์ตพอใจมากนักกับเรื่องนี้
แต่ทว่าตอนนี้ลุคนั้นอาศัยความตั้งใจและทำงานอย่างหนัก เพื่อที่จะทำให้สมาชิกที่ยังสงสัยในความคิดของโรเบิร์ตที่รับลุคเข้ากองกำลังรับทราบถึงความตั้งใจและยอมรับเพื่อนร่วมงานคนใหม่นี้ ไม่เพียงแค่นั้นยังทำให้พวกเขากลับมาเคารพโรเบิร์ตเหมือนเดิม
สำหรับโรเบิร์ตเขาดูจะมีความสุขมากกว่าคนอื่น ๆ หลังจากได้เห็นสิ่งที่ลุคทำ โรเบิร์ตถึงขั้นคุยโม้ไปทั่วเลยว่าเขาไว้นั้นไม่มีผิดเลยที่จ้างลุค ลุคเนี้ยเกิดมาเพื่อเป็นตำรวจชัดๆ
ลุคทำได้เพียงหัวเราะขำเมื่อได้ยินโรเบิร์ตโม้เรื่องเขา พร้อมกับพูดกับโรเบิร์ตว่า “หัวหน้าถ้าจะมีแค่คำชมเปล่าๆ ก็อย่าชมเยอะ ผมว่าเปลี่ยนคำชมเป็นการขึ้นเงินเดือนให้ผมดีกว่าไหม?”
โรเบิร์ตแทบจะลุกขึ้นเตะลุคเลยเมื่อได้ยินแบบนั้น
มาพูดเรื่องขึ้นเงินเดือนขำตายหล่ะ? ลุคเพิ่งจะทำงานได้เพียงเดือนเดียว แค่เรื่องที่รับลุคเข้ามาทำงานโดยตรงก็เสี่ยงโดนรายงานมากพอแล้ว เหตุผลเดียวที่โรเบิร์ตไม่โดนรายงานว่าใช้อำนาจในทางมิชอบเนื่องจากว่าเขาพอจะมีหน้ามีตาทางสังคมจึงมีคนเกรงใจบ้าง ถ้าเขายังกล้าขึ้นเงินเดือนให้ลุคมากกว่าปกติคงจะมีคนรายงานว่าเขาใช้อำนาจในทางมิชอบอย่างแน่นอน
เวลาผ่านไปอย่างสงบและแล้วก็เข้าเดือนที่สองของการทำงานเป็นตำรวจของ
วันนี้เขาออกตระเวนกับเซลิน่าตามปกติ หลังจากนั้นไม่นานเซลิน่าก็หยุดรถที่หน้าซุปเปอร์มาร์เก็ตและเดินเข้าไปข้างในเพื่อซื้อโค้กหนึ่งกระป๋องและดอกเตอร์เปปเปอร์(เครื่องดื่ม) อีกหนึ่งกระป๋อง
ชาวเท็กซัสนั้นชอบดื่มดอกเตอร์เปปเปอร์กัน แต่สำหรับลุคแล้วเขาได้แต่ปลอบใจตัวเองว่าเขาไม่ค่อยคุ้นเคยกับรสชาติของดอกเตอร์เปปเปอร์ เพราะว่าเขาไม่ได้เป็นคนเท็กซัสแม้ว่าร่างกายเขาเป็นก็ตาม (วิญญาณเป็นคนจีน)
อันที่จริงเขาก็ไม่ได้ชอบโค้กด้วยเช่นกันแหล่ะ เพราะในชาติก่อนของเขา เขาดื่มมันเยอะมาก
แต่เซลิน่าบอกกับลุคว่าถ้าจะอ้วนก็อ้วนไปด้วยกันนี่แหล่ะ และเธอจะไม่ยอมให้ลุคดื่มแต่น้ำเปล่าหรอก ในขณะที่เธอดื่มเครื่องดื่มที่เต็มไปด้วยน้ำตาล
เธอเข้าไปในรถและโยนโค้กให้ลุคก่อนจะเปิดดอกเตอร์เปปเปอร์ของเธอ แล้วเธอก็ดื่มมันเข้าไปอย่างหิวกระหาย ก่อนที่เรออย่างพึงพอใจ
เมื่อเธอเห็นว่าลุคกำลังเล่นกับกระป๋องโค้กโดยที่ยังไม่ได้ดื่มมัน เธอก็รู้สึกไม่พอใจทันที "นายกำลังทำอะไรหน่ะ? นายกำลังรอจนกว่าเราจะทำงานเสร็จก่อนที่จะทิ้งโค้กไว้ในรถของฉันโดยไม่ดื่มมันหล่ะซิ?”
ลุคทำได้เพียงเปิดกระป๋องโค้กดื่มมันอย่างช่วยไม่ได้เมื่อได้ยินเช่นนั้น เขาคิดไว้ว่าจิบสักสองสามครั้งก็น่าจะเพียงพอให้เธอมีความสุขและไม่ว่าเขาแล้ว
ทันใดนั้นพวกเขาก็ได้ยินเสียงดนตรีที่ค่อยๆ ดังขึ้นเรื่อยที่แว่วๆ มาจากที่ไกลๆ และเมื่ออีกฝ่ายขับรถเข้ามาใกล้พวกเขาเสียงมันดังมาก พร้อมกันนั้นก็มีเสียงหัวเราะของคนสองคนแว่วๆ ในรถคันนั้น
หลังจากนั้นไม่นานรถคันนั้นก็แล่นผ่านพวกเขาไปตามถนน
ซูเปอร์มาร์เก็ตที่เซลิน่าจอดแวะนั้นอยู่ใกล้ๆ สี่แยก และเพื่อหลบแดดเธอจึงจอดรถในซอยเล็ก ๆ ข้างซูเปอร์มาร์เก็ต ดังนั้นรถที่วิ่งบนถนนใหญ่จึงมองไม่เห็นรถตำรวจ
เซลิน่าขมวดคิ้ว “เหอๆ พวกนั้นขับเร็วเกินความเร็วที่กำหนดใช่มั้ย?”
ลุคพยักหน้าทันที “แน่นอน ประมาณ 90 ไมล์ต่อชั่วโมงได้มั้ง” ลุคใช้จังหวะนี้ย้ายกระป๋องโค้กไปซ่อนไว้ข้างๆ เขา
จริงอยู่ที่ว่าสถานที่แห่งนี้อยู่ใกล้ทางออกทางทางทิศเหนือของเมือง แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังอยู่ในเมืองอยู่ดี ซึ่งความเร็วพื้นที่ในเมืองถูกจำกัดไว้ที่ 40 ไมล์ต่อชั่วโมงเท่านั้น
และ 90 ไมล์ต่อชั่วโมงเกินกว่าที่จำกัดไว้อย่างแน่นอน
เซลิน่าเข้าเกียร์ทันทีและเหยียบลงบนคันเร่งอย่างแรงขณะที่รถพุ่งออกไป “ป่ะเจอรายได้ก้อนโตแล้วไปจัดการพวกเขากันเถอะ ไม่กี่วันมานี้เพิ่งได้รับการร้องเรียนจากชาวเมืองว่าพวกเราได้รับค่าจ้างมากเกินไป งั้นเรามาหารายได้เข้าเมืองนี้กันดีกว่า”
ลุคพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม เขาเองก็ยังเคยได้ยินเรื่องนั้นมาบ้าง
ถ้าเกิดว่าชาวเมืองตัดสินใจที่จะดำเนินการตามข้อร้องเรียนนี้ สิ่งที่จะลดมีอยู่สองอย่างไม่ลดค่าจ้างก็ลดกำลังคน สิ่งเหล่านี้จะส่งผลกระทบต่อลุคแน่นอนเนื่องจากเขาเป็นสมาชิกใหม่ล่าสุดในกองกำลัง
ขณะที่เซลิน่าเหยียบคันเร่งเธอก็เปิดไซเรนของรถตำรวจด้วยเช่นกัน
ลุคไม่ได้รำคาญเสียงไซเรนที่จะใช้เพื่อเตือนรถที่กำลังขับอยู่ข้างหน้าพวกเขาอย่างรวดเร็วเนื่องจากมันอยู่ห่างจากพวกเขาไปมากแล้ว
แต่หลังจากนั้นไม่นานลุคก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ
ในสหรัฐอเมริกานั้นขณะที่รถตำรวจเปิดไซเรนแล้วขับตามโดยปกติแล้ว รถคันข้างหน้าจะชะลอความเร็วและดูว่าตำรวจมาหาพวกเขาหรือไม่
สำหรับผู้ที่ไม่ได้ชะลอความเร็วมันมีความน่าสงสัยเป็นพิเศษ
ร่องรอยของความตื่นเต้นปรากฏขึ้นในดวงตาของเซลิน่าพร้อมกับที่เธอพูดขึ้นว่า“แจ๋วหล่ะ คราวนี้เราสามารถออกค่าปรับได้อย่างน้อยก็ 500 เหรียญ”
ลุคตอบว่า“แน่นอนแหล่ะ จะมีอะไรที่ทำให้คุณมีความสุขไปกว่านี้หล่ะ”
หลังจากผ่านไป 10 นาทีการไล่ล่ายังไม่สิ้นสุด รถที่มีเสียงเพลงก็ยังคงเร่งความเร็วโดยมีรถตำรวจอยู่ข้างหลังหลายสิบเมตร
รถที่พวกเขาไล่ตามคือรถเก๋งฟอร์ด ซึ่งมีน้ำหนักเบากว่า F150 ของเซลิน่าและอัตราเร่งก็ยังดีกว่าด้วย
ถ้าไม่ใช่เพราะว่าคนขับรถเก๋งหักเลี้ยวซ้ายทีและขวาทีเป็นครั้งคราวโดยไม่ทราบสาเหตุเซลิน่าคงจะไม่สามารถตามทันและคงยู่ในระยะห่างนี้
แต่ก็มีสิ่งที่น่าสงสัยเกิดขึ้นออกมาเช่นกัน ก็คือมีควันลอยออกมาตามหน้าต่างของรถเก๋งเป็นระยะ ๆ
บุหรี่เหรอ? คงไม่ใช่หรอก ลุคเดาว่ามันเป็นไปได้ที่พวกเขาจะสูบกัญชามากกว่า
นั่นพอจะอธิบายได้ว่าทำไมคนขับจึงหักเลี้ยวไปมา
และนั่นก็พออธิบายได้ด้วยว่าทำไมพวกเขาถึงไม่หยุดรถแม้จะได้ยินเสียงไซเรนของตำรวจก็ตาม
ขณะที่เซลิน่ากัดฟันแน่นและลุคก็คิดว่าวันนี้พวกเขาอาจจะเสียน้ำมันไปอย่างเปล่าประโยชน์เมื่อเห็นป้ายถนนของเมืองน็อกซ์ซิตี้ที่อยู่ไม่ไกล แต่ทว่ารถเก๋งก็หักเลี้ยวอีกครั้ง
คราวนี้รถเก๋งไม่โชคดีเหมือนกับที่ผ่านมาแล้ว มันหักเลี้ยวพุ่งออกจากถนนด้วยความเร็วสูงและกระแทกเข้ากับที่กั้นถนนคอนกรีตและหมุนไปสองสามครั้งก่อนที่จะหยุด
เมื่อเห็นแบบนั้น เซลิน่าหมุนพวงมาลัยและจอดรถห่างจากรถเก๋งราวๆ เจ็ดถึงแปดเมตรอย่างยินดี
จากนั้นเซลิน่าผู้กล้าหาญก็เปิดประตูและกระโดดออกจากรถพร้อมกับมือขวาของเธอถือปืนไว้อยู่แล้ว
ส่วนลุคเขาก็ใช้ลำโพงและเริ่มพูดผ่านลำโพง “นี่คือตำรวจเชคเคอร์ฟอรค์ด กรุณาออกจากรถของคุณและแสดงบัตรด้วย”
เขาพูดซ้ำสองสามครั้ง แต่ไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ
เซลิน่าปิดประตูรถไว้ด้านหลังว่า“ประกาศเตือนครั้งสุดท้ายให้พวกเขา หากยังไม่มีปฏิกิริยาอะไรเราจะเข้าไปจัดการพวกเขา”
ลุคพยักหน้าและออกคำเตือนครั้งสุดท้าย คนในรถยังคงไม่มีการตอบสนองใดๆ
เขาวางลำโพงลงแล้วเปิดประตูและลงจากรถ ในขณะเดียวกันเขาก็ปลดซองปืนออก
น่าเสียดายที่ตอนนี้เขายังยิงปืนไม่ค่อยเก่งเท่าไหร่ ถ้าจะให้พูดตอนนี้เซลิน่ายิงได้ดีกว่าเขามาก ดังนั้นเขาจึงถือปืนไว้เพื่อแสดงว่าเขามีปืนเฉยๆ แต่ทว่ามืออีกข้างของเขายังคงถือกระป๋องโค้กที่เซลิน่าซื้อให้เขาอยู่
เขาตัวสูงกว่าเซลิน่าซึ่งขายาวและเคลื่อนที่เร็วกว่าเธอด้วย
เพียงไม่กี่ก้าวเขาก็มาถึงที่นั่งของผู้โดยสารแล้ว
หน้าต่างฝั่งผู้โดยสารเปิดอยู่ ลุคสามารถได้กลิ่นที่คุ้นเคย และไม่คุ้นเคยพร้อมๆ กันในอากาศเมื่อเขาเข้าใกล้
มันคุ้นเคยเพราะมันเป็นกลิ่นที่ค่อนข้างแปลกและในขณะเดียวกันก็ไม่คุ้นเคยเพราะลุคไม่เคยสูบบุหรี่มาก่อน
แท้จริงแล้วเจ้าพวกนี้สูบกัญชา!
ทั้งสองคนในรถไม่ค่อยจะสดชื่นกันเท่าไหร่ เมื่อพิจารณาถึงความเมาของพวกเขาแล้ว โชคดีแค่ไหนแล้วที่รถของพวกเขาไม่คว่ำหรือเกิดเหตุรุนแรงกว่านี้
แต่ทว่าเห็นได้ชัดว่าวันนี้โชคไม่เข้าข้างพวกเขาทั้งหมดหรอก พวกเขาน่าจะถูกสาปชาวสาปแช่งเยอะพอสมควร
จึงทำให้พวกเขาเกิดอุบัติเหตุชนเข้ากับเครื่องกั้นเกาะกลางถนน พวกเขาโชคร้ายจริงๆ เกือบหลุดเขตเชคเคอร์ฟอรค์ดไปแล้ว
ในความเป็นจริงเมื่อรถตำรวจไล่ตามพวกเขาระหว่างหนี แล้วถ้าไปชนกับอะไรเข้ามันช่างเป็นเรื่องที่โชคร้ายจริงๆ
เมื่อลุครำพึงกับตัวเองแล้วเขาก็อยู่ห่างจากที่นั่งผู้โดยสารประมาณหนึ่งเมตร จากนั้นเขาสามารถมองเห็นผู้โดยสารได้อย่างชัดเจน
ตอนนี้เขาสังเกตเห็นว่าทั้งสองคนในรถยังขยับตัวได้อยู่ แต่พวกเขายังคงมึนงงจากอุบัติเหตุ ดังนั้นพวกเขาจึงขยับตัวได้อย่างช้าๆ แต่ทว่าพวกเขาก็มีท่าทีน่าสงสัยอยู่เหมือนกัน
แต่ถึงกระนั้นด้วยการมองเห็นและการสังเกตุของลุคนั้นค่อนข้างดีและเขาสามารถสังเกตได้ทันทีว่าการเคลื่อนไหวของพวกเขานั้นผิดปกติ
ในสหรัฐอเมริกาเป็นเรื่องธรรมดาที่เมื่อได้ยินเจ้าหน้าที่บอกให้แสดงตัวแล้ว จะต้องวางมือบนรถหรือพวงมาลัย เพื่อที่ตำรวจจะได้เห็นว่ามือพวกเขาไม่มีอาวุธ
สำหรับทั้งสองคนนี้มือของพวกเขานั้นอยู่ที่เอวของพวกเขาและดูเหมือนว่ากำลังค้นหาอะไรบางอย่าง
ลุคตื่นตกใจทันทีเมื่อสังเกตเห็นสิ่งที่พวกเขาหา