บทที่ 20 การอัญเชิญครั้งแรก
บทที่ 20 การอัญเชิญครั้งแรก
สาเหตุจริงๆที่รอยตัดสินใจฆ่าจัสคาลอสคือต้องการตรวจสอบว่าการกินวิญญาณคุณภาพสูงส่งผลทำให้วิญญาณของปีศาจทรงพลังมากขึ้นหรือไม่
รอยเห็นความจำเป็นในการตรวจสอบเรื่องนี้เพราะจัสคาลอสได้บอกว่าจำเป็นต้องเลื่อนขั้นเป็นปีศาจระดับกลางก่อนจากนั้นค่อยเดินทางไปชั้นล่างเพื่อตามหาพื้นที่ปรับปรุงสายเลือด ในจุดนี้รอยยังคงสงสัยว่าจัสคาลอสอาจรู้วิธีการเลื่อนขั้นแต่เลือกที่จะโกหกรอยหรือบางทีเขานั้นไม่ได้รู้เกี่ยวกับเรื่องนี้เลยจริงๆ
อย่างไรก็ตามลางสังหรณ์ของรอยบอกเขาว่ากุญแจสำคัญในการเลื่อนระดับขั้นของปีศาจไม่เพียงเกี่ยวข้องกับการกลืนกินวิญญาณเท่านั้นแต่ยังรวมถึงการเสริมสร้างจิตวิญญาณให้แข็งแกร่งเพียงพออีกด้วยเมื่อจิตวิญญาณทรงพลังมากพวกเขาจะสามารถกลายเป็นปีศาจระดับกลางได้
น่าเสียดายที่จัสคาลอสได้พบกับศัตรูที่ทรงพลังในระหว่างการอัญเชิญเขาจึงถูกฆ่าและถูกขับออกมา แม้ว่าเขาจะกลับมายังโลกปีศาจได้แต่วิญญาณของเขาก็ตกอยู่ในเสียหาย ดังนั้นรอยจึงไม่สามารถบ่งบอกได้ว่าวิญญาณของเขาแข็งแกร่งขึ้นหรือไม่ สุดท้ายรอยจึงยังคงไม่ได้คำตอบในเรื่องนี้เป็นการชั่วคราวว่าการบริโภควิญญาณคุณภาพสูงนั้นช่วยพัฒนาจิตวิญญาณให้แข็งแกร่งขึ้นได้หรือไม่
รอยไม่มั่นใจว่าการคาดเดาของตนถูกต้อง แต่เขารู้สึกลึกๆว่าต้องมีเหตุผลเบื้องหลังว่าทำไมเหล่าปีศาจจึงไล่ตามล่าวิญญาณอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย มันคงไม่ใช่เพียงเหตุผลง่ายๆอย่างการเสพติดในรสชาติ
และรอยยืนยันกับตัวเขาแล้วว่าประโยชน์ประการแรกของการกลืนกินวิญญาณจะสามารถช่วยให้ปีศาจเก็บสะสมพลังเวทของพวกเขาได้ รอยเห็นว่าพลังเวทย์ของเขาฟื้นฟูเต็มที่แล้วและจำนวนการเพิ่มขึ้นมาอีก 0.3 ก็ไม่หายไป นั่นหมายความว่าวิญญาณที่ถูกกลืนกินก่อนหน้านี้ได้ทำให้ขีดจำกัดของพลังเวทของเขาเพิ่มขึ้นได้จริง
ตามข้อมูลที่ได้จากการสนทนาระหว่างรอยกับจัสคาลอส หัวใจของปีศาจเป็นแหล่งกักเก็บพลังงานเวท เป็นเหตุผลว่าทำไมรอยถึงรู้สึกถึงความร้อนไหลเข้าสู่หัวใจของเขาขณะกลืนกินวิญญาณ
นอกจากนี้จัสคาลอสยังกล่าวอีกว่าปีศาจระดับต่ำทั่วไปมีสายเลือดผสมที่ซับซ้อนจนเกินไป ซึ่งส่งผลให้ร่างกายของพวกเขาไม่สามารถสร้างวงจรเวทในร่างกายได้ ดังนั้นแม้ว่าพวกเขาจะมีพลังเวทมากมายแค่ไหนแต่ก็เป็นเรื่องปกติที่พวกเขาจะไม่สามารถใช้เวทย์มนต์ได้ ทว่าสิ่งนี้ยังคงอธิบายไม่ได้แน่ชัดนั้นเพราะรอยได้ยืนยันแล้วว่าเขาสามารถใช้พลังงานเวทในตัวเพื่อกระตุ้นการทำงานของทักษะพิเศษอย่างไซโคคิเนซิสได้
แต่ไม่ว่ายังไงก็ตามจากข้อมูลนี้ทำให้รอยเข้าใจสิ่งหนึ่งในหน้าอินเทอร์เฟซของระบบ สาเหตุที่หน้าต่างแสดงของมูลของรอยแสดงเป็นพลังงานเวทแทนที่จะเป็นแค่พลังเวทเฉยๆนั้นอาจหมายความว่าเขาเป็นปีศาจที่ผิดปกติ ที่ไม่เพียงแต่ใช้เวทมนต์ได้เท่านั้นแต่ยังสามารถใช้พลังพิเศษอื่นๆได้อีกด้วย
พลังเหล่านั้นอาจรวมถึงพลังกำลังภายในอย่างพลัง 'ฉี' หรือพลังที่เกี่ยวข้องกับพลังวิญญาณะอื่นๆ รอยอาจหาทางใช้งานพลังในจิตนาการเหล่านี้ได้ หรือว่าพลังงานเวทที่เป็นแค่เพียงคำทั่วไปที่ใช้อ้างอิงถึงแหล่งที่มาของพลังงานเหนือธรรมชาติทั้งหมด ซึ่งสิ่งที่ว่ามาข้างต้นนี้ดูจะแตกต่างจากพลังเวทมนต์ที่ปีศาจใช้ในการร่ายคาถาของปีศาจ!
เมื่อคิดออกแล้วรอยก็รู้สึกตื่นเต้น ถูกต้องแล้วเนื่องจากสิ่งที่รอยครอบครองอยู่นั้นเป็นระบบปรับแต่งส่วนบุคคลนั่นหมายความว่าฉันจะสามารถสร้างเวทมนต์รวมถึงคิดค้นทักษะของตัวเองได้ใช่หรือไม่!? และเนื่องจากขั้นตอนสุดท้ายแล้วการใช้เพียงพลังงานจากระบบซึ่งก็คือพลังงานเวท ฉะนั้นรอยจึงไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับปัญหาจากชนิดของพลังงานเช่นจักระหรือพลังจิตที่วุ่นวายเหล่านี้
ถ้าเป็นเช่นนั้นฉันจะเลือกเส้นทางปรับแต่งทักษะของตัวเองอย่างไรดี? รอยเปิดอินเทอร์เฟซระบบและเลือกดูฟังก์ชั่น 3D กับ After Effect สมองของเขาบอกเขาว่าฟังก์ชั่นทั้งสองนี้เป็นกุญแจสำคัญในการปรับแต่งทักษะของเขา อย่างไรก็ตามฟังก์ชั่นทั้งสองนี้ยังมืดสนิทอยู่ซึ่งหมายความว่ามันยังไม่สามารถใช้งานได้
นี่เป็นเพราะฉันขาดเงื่อนไขบางอย่างอยู่ใช่หรือเปล่า รอยโบอกหางไปมาโดยไม่รู้ตัวขณะที่กำลังใช้คิด เมื่อพิจารณาถึงวิธีที่ระบบจำเป็นต้องใช้วิญญาณในการทำงานดังนั้นเงื่อนไขในการเปิดใช้งานฟังก์ชั่นใหม่ทั้งสองฟังก์ชั่นนี้ก็ควรเกี่ยวข้องกับวิญญาณด้วยเช่นเดียวกัน ยิ่งไปกว่านั้นมันอาจต้องการวิญญาณที่มีคุณภาพที่สูงขึ้นด้วยใช่แล้ววิญญาณคุณภาพสูงก่อนหน้านี้ไง!
ความคิดในหัวของรอยแจ่มใสทันที ก่อนหน้านี้เขาเคยสงสัยว่าหากสามารถใช้วิญญาณคุณภาพต่ำในการแลกเปลี่ยนกับระบบเพื่อปรับเปลี่ยนร่างกายของเขาได้ แล้วอะไรคือความจำเป็นในการแยกความแตกต่างระหว่างคุณภาพต่ำกับวิญญาณคุณภาพสูงกว่า? ในที่สุดรอยก็เข้าใจแล้วว่าวิญญาณคุณภาพสูงนั้นมีไว้สำหรับการใช้งานขั้นสูงของระบบ
ดังนั้นรอยจึงกำหนดเป้าหมายใหม่นั่นคือการได้รับจิตวิญญาณที่มีคุณภาพสูงเพื่อตรวจสอบสมมติฐานของเขา
รอยยื่นกรงเล็บออกมาคว้าจับร่างของจัสคาลอสแล้วลากเขาออกไปจากแท่นบูชา เนื่องจากร่างกายของจัสคาลอสมีขนาดใหญ่มากดังนั้นรอยจึงไม่สามารถทิ้งเขาไว้บนแท่นบูชาแคบๆได้ หลังจากทำความสะอาดแท่นบูชารอยก็เริ่มการรอคอยอีกครั้ง
ตั้งแต่การฟักไข่จนถึงตอนนี้รอยได้รับเพียงจิตวิญญาณคุณภาพต่ำเท่านั้น ในระดับชั้นบนของหุบเหวดูเหมือนว่ามีแค่ความหวังเล็กน้อยที่จะได้รับวิญญาณคุณภาพสูงในสถานที่แห่งนี้ แม้ว่าจะมีโอกาสแต่ก็น่าจะต่ำมาก ดังนั้นรอยจึงตัดสินใจมองหามันในโลกอื่นที่เชื่อมต่อกับประตูนรก
รอยไม่จำเป็นต้องเสียเวลารอนาน วงแหวนเวทมนต์บนแท่นบูชาเริ่มทำงานและเปล่งประกายฉวัดเฉวียน จากนั้นกลิ่นฉุนของเลือดเนื้อสดๆก็เริ่มลอยออกมาจากความว่างเปล่า
ดีมาก! นั่นหมายความว่าผู้อัญเชิญที่อยู่อีกด้านของประตูเลือกใช้เลือดเนื้อเพื่อดึงดูดปีศาจมันเป็นข่าวดีสำหรับรอย
สิ่งที่สำคัญสำหรับรอยในตอนนี้เขาไม่ได้ต้องการเข้าสู่โลกที่มีความเสี่ยง เขาไม่ต้องการเสียชีวิตเร็วจนเกินไปเหมือนกับจัสคาลอสที่ถูกฆ่าและบาดเจ็บกลับมาจากการรับวิญญาณ
การอัญเชิญแบบที่ใช้เลือดในการดึงดูดปีศาจเป็นการเดิมพันที่ปลอดภัยกว่ามาก หมายความว่าซัมมอนเนอร์ในอีกด้านหนึ่งอาจเป็นเพียงผู้อ่อนแอในโลกที่สิ่งเหนือธรรมชาติยังด้อยพัฒนา หรือพวกเขาไม่ได้ต้องการปีศาจที่แข็งแกร่งมากมายเพียงแค่ต้องการดึงดูดปีศาจระดับต่ำเพื่อทำงานเล็กๆน้อยๆแทน
ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตามมันเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับรอยในการอัญเชิญครั้งแรกของเขา
แต่รอยยังคงรอสักครู่เพื่อต้องการตรวจวัดความแข็งแกร่งของผู้อัญเชิญอิงตามระยะเวลาในการเปิดใช้งานวงแหวนเวทมนต์
ปีศาจตัวน้อยตนหนึ่งถูกดึงดูดจากกลิ่นเลือดและปีนขึ้นมาบนแท่นบูชาเดียวกันกับรอย ปีศาจน้อยเห็นรอยเป็นคู่แข่งของมันทันที ใครจะรู้ว่ามันได้รับความกล้าหาญมาจากไหนมันส่งเสียงขู่ออกมา รอยคิดว่ามันเป็นปีศาจสายตาสั้นรึป่าว?
เมื่อเผชิญหน้ากับปีศาจน้อยจอมอวดดีรอยก็ตบมันเบาๆ หัวปีศาจน้อยถูกทุบจนเละเป็นข้าวต้ม!
รอยคว้าวิญญาณเกรดต่ำมาเก็บไว้และก้าวเข้าสู่วงแหวนเวทย์มนต์เมื่อสังเกตเห็นว่าแสงสว่างกำลังจะหายไป ซึ่งหมายความว่าพลังเวทย์ของผู้อัญเชิญมีไม่มากดังนั้นในที่สุดรอยก็รู้สึกโล่งใจที่ตอบรับต่อการอัญเชิญเป็นครั้งแรก
เมื่อประตูนรกเปิดขึ้นหมอกก็ปกคลุมไปทั่วร่างกายของรอย มันเป็นประสบการณ์ที่น่าพิศวงภายในประตูนรกนั้นรอบล้อมไปด้วยความมืดที่ไม่มีจุดสิ้นสุดมีเพียงแสงริบหรี่ที่ส่องเข้ามาจากด้านบนของศีรษะของเขา แสงสว่างนี้เป็นทางออกสู่โลกอื่น รอยยืนนิ่งอยู่ในจุดเดิมขณะที่ร่างกายของเขาเริ่มเปลี่ยนจางหายไปราวกับภาพลวงตา
ร่างกายของเขาดูเหมือนจะเปลี่ยนเป็นเส้นแสงและพุ่งขึ้นไปยังอุโมงค์แสงเบื้องบน จากนั้นรอบๆก็กลายเป็นแสงพราวและร่างของเขาก็เริ่มปรากฏขึ้นอีกครั้ง
เมื่อแสงสว่างสลายไปรอยก็พบว่าตัวเองอยู่ในสถานที่ใหม่และยังได้ยินเสียงร้องดังโวยวายน่าลำคาญดังขึ้น
"นี่มันประสบความสำเร็จ?!"
“ปีศาจปรากฏตัวออกมาแล้ว!”
“เขาดูน่ากลัวมาก! ถอย ถอยออกห่างจากเขาเร็วเข้า!”
มีเสียงเอะอะโวยวายน่าหนวกหูดังจนทำให้รอยเริ่มหงุดหงิด เขามองลงไปบนพื้นและพบว่าตัวเองยืนอยู่ในรูปแบบเวทมนตฺบางอย่าง สัญลักษณ์เวทย์มนต์คล้ายกับรูปแบบที่สลักอยู่บนแท่นบูชาในนรกอเวจี มีความแตกต่างเพียงอย่างเดียวคือมันถูกสลักด้วยรอยขีดลึกลงบนพื้นและในรอยบุบนั้นมีเลือดสีแดงที่ไหลอยู่ตามรอยสัญลักษณ์
กะโหลกศีรษะของมนุษย์สี่อันถูกวางไว้ในระยะห่างเท่ากันโดยมีแท่งเทียนถูกจุดอยู่ด้านบนของกะโหลกศีรษะแต่ละอัน ระหว่างกะโหลกเหล่านี้มีขวดแก้วที่เต็มไปด้วยอวัยวะภายในส่งกลิ่นเหม็นเน่าฟุ้งไปในอากาศ
กลุ่มคนสวมเสื้อคลุมดำยืนรักษาระยะห่างออกไปและมองมาทางรอยอย่างหวาดกลัว เมื่อสังเกตจากอาการที่ตื่นตระหนกของพวกเขาดูเหมือนว่าคนกลุ่มนี้ไม่เชื่อว่าพวกตนจะสามารถเรียกปีศาจออกมาได้จริงๆ
รอยรู้สึกไม่ค่อยดีนักดูเหมือนว่ามีบางอย่างที่พิเศษปรากฏขึ้นในจิตวิญญาณของเขา ในระหว่างขั้นตอนการอัญเชิญน่าจะเป็นสัญลักษณ์ออโรโบรอสที่ปรากฏขึ้นมาและมันจะปกป้องวิญญาณของเขา แต่กลับมีอาการชวนอึดอัดแปลกๆที่ทำให้รอยรู้สึกมึนงง
ในขณะที่หัวของรอยกำลังสับสนเขากลับได้กลิ่นเหม็นเน่าน่าขยะแขยงลอยเข้ามาแตะจมูกทั้งยังและได้ยินเสียงโห่ร้องน่ารำคาญอีกสิ่งพวกนี้ทำให้รอยยิ่งอึดอัดยิ่งขึ้นไปอีก
ด้วยความรำคาญรอยใช้หางฟาดไปทางคนพวกนี้ก่อนจะแผดเสียงออกมา!
"หุบปาก!!! เป็นผู้ใดที่เรียกข้าออกมา!!”