ตอนที่ 105 ฉันมีพี่สะใภ้ตั้งแต่เมื่อไหร่
“ค่ะ”
เธอกำลังจะถามว่าใครเป็นคนจ่ายให้ แต่เธอก็คาดเดาได้ทันทีว่าต้องเป็นเหมาเยซื่อ
เขาบอกจะจัดการเรื่องคืนนี้ให้
แม้ว่าเธอจะเดาว่าเป็นเขา แต่เฉียวเมียนเมียน ก็ยังส่งข้อความถึงเขา
เฉียวเมียนเมียน : จ่ายค่าอาหารแล้วหรือคะ
เหมาเยซื่อ ตอบกลับอย่างรวดเร็ว : ครับ
เป็นเขานี่เอง
เฉียวเมียนเมียนกำลังจะส่งข้อความไปถามว่าเขาทานข้าวหรือยัง เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นเสียก่อน
เธอหยิบมันขึ้นมา
“พวกคุณทานอาหารกันอิ่มแล้วเหรอ” เสียงทุ้มต่ำน่าดึงดูของชายคนนั้นดังขึ้น
เธอไม่รู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน แต่เฉียวเมียนเมียนได้ยินเสียงหัวเราะของชายและหญิงดังแทรกเข้ามา
“เออเพิ่งทานเสร็จ ทานข้าวรึยังคะ”
“ยังเลย” เหมาเยซื่อกล่าว
“ผมยุ่งอยู่กับการเล่นเป็นเพื่อนเจ้ากระต่ายน้อยสองสามตัวเนี้ย ยังไม่รู้จะได้ทานมื้อค่ำเมื่อไหร่เลย”
เฉียวเมียนเมียนงงงัน “เอ่อ กระต่ายน้อยเหรอ”
“กระต่ายน้อยสองสามตัวที่เล่นกับผม ตั้งแต่ตอนที่เรายังเป็นเด็ก ๆ”
หลังจากที่เหมาเยซื่อพูดจบ เฉียวเมียนเมียนก็ได้ยินเสียงอีกครั้งที่ดังแทรกมาจากโทรศัพท์ของเขา
มีเสียงผู้ชายพูดอย่างขำ ๆ ว่า
“พี่รอง โทรหาใคร เสียงอ่อนเสียงหวานทำเอาขนลุก ไม่ใช่ผู้หญิงหรอกหรือ”
เหมาเยซื่อ ตอบรับ “อืม”
ชายที่เพิ่งพูดดูตกใจและพูดด้วยน้ำเสียงตกใจว่า
“เป็นผู้หญิงจริง ๆ เหรอ พวกเรารู้จักเธอไหม?”
เหมาเยซื่อตอบว่า “พี่สะใภ้ของพวกนาย”
“แค่ก ๆ” เสียงไอรุนแรงดังแทรกเข้ามา ชายคนที่หัวเราะดูเหมือนจะสำลัก เขาไอสักพักก่อนจะเริ่มพูดต่อ
“พี่สะใภ้งั้นเหรอ? พี่ล้อเล่นรึยัง พี่โสดมาหลายปีแล้ว ยังทำตัวงุ่มง่ามกับผู้หญิงอยู่เลย จู่ ๆ ผมจะมีพี่สะใภ้น่ะนะ”
“พี่แน่ใจเหรอ ว่าเขามีตัวตนจริง ๆ เธอเป็นผู้หญิงจริง ๆ เหรอ เธอเป็นคนที่มีชีวิตจริง ๆ มองเห็นได้ใช่ไหม สัมผัสได้ใช่ไหม ไม่ใช่คิดไปเองหรอกนะ”
เหมาเยซื่อหัวเราะ
“ฉันมีภรรยาแล้ว เจ้าลูกหมาเอ๊ย”
“เชี่ย!” ชายคนนั้นระเบิดเสียงออกมา
เหมาเยซื่อรู้สึกขยะแขยง
“ไปให้พ้น อย่ามาพูดจาไม่ดีข้าง ๆ ฉัน เมียนเมียนยังเด็ก อย่ามาทำให้เสียคน”
“เชี่ย ช่างเถอะ แม้แต่พี่รองก็มีเมียแล้วงั้นผมก็ไม่สงสัยอะไรอีกแล้ว” ชายคนนั้นสบถออกมาอีกครั้ง
เฉียวเมียนเมียนได้ยินบทสนทนาระหว่างทั้งสองอย่างชัดเจน
“...”
ผู้ชายคนที่หยุดพูดสบถไม่ได้คนนี้ คือกระต่ายตัวน้อยที่เหมาเยซื่อหมายถึงหรือ?
เฉียวเมียนเมียนได้ยินเสียงแทรกมาอีกครั้ง จากนั้นเสียงเปิดประตู แล้วเสียงนั้นก็เบาลง
เธอเดาว่าเหมาเยซื่อน่าจะอยู่ในที่ที่คล้ายกับในงานเลี้ยงสักอย่าง
ตอนนี้เขาคงอยู่ในห้องกับเพื่อนหลายคน แต่เขาเพิ่งออกไปข้างนอก
ครู่ต่อมาเสียงของเหมาเยซื่อก็ดังขึ้นอีกครั้ง
“ไอ้คนไร้การศึกษาเมื่อกี้คือทายาทของตระกูลหยาง หยางเชาชิงเขาเป็นคนหยาบคายสักหน่อยแต่ไม่มีอะไร”
“เอ่อ...” เฉียวเมียนเมียนขมวดคิ้ว
เขาแค่พูดถึงเพื่อนของตัวเองอย่างนั้นเหรอ?
“ผมให้คนอื่นเตรียมของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้กับเพื่อนของคุณด้วย พวกเขาชอบกันไหม”
เฉียวเมียนเมียนเงียบแล้วโกหกออกไป
“คะ พวกเขาชอบมันมาก พวกเขาฝากบอกว่าขอบคุณ คุณด้วยค่ะ”
เหมาเยซื่อยิ้ม
“ดีเลย คืนนี้พวกคุณจะทำอะไรต่ออีกไหม”
เฉียวเมียนเมียนมองไปที่เจียงหลัวลี่
“ไม่ค่ะ เรากำลังจะกลับวิทยาลัย”