ตอนที่ 89 คำสั่งเสีย
ตอนที่ 89
คำสั่งเสีย
“ไอ้เจ้าพวกนี้....น่ารำคาญจริงๆ”เจฟหัวหน้ากองทหารเหวี่ยงดาบของตัวเองเข้าปะทะกับศัตรูอย่างดุดัน แม้ตัวเขาและเหล่าทหารจะต้านพวกสวมหน้ากากแปลกๆเอาไว้ได้ แต่ก็ไม่สามารถรุกคืบไปช่วยเหลือท่านเจ้าเมืองได้อยู่ดี
“หัวหน้า มีกำลังเสริมมาจากด้านหน้าครับ”ระหว่างกำลังสู้กับพวกสวมหน้ากากอยู่นั้น อยู่ๆทหารคนหนึ่งก็ชี้ไปที่ด้านหลังของพวกสวมหน้ากาก
“ทัพเสริม...จากไหนกัน”เจฟขมวดคิ้วด้วยท่าทีประหลาดใจก่อนจะมองไปทางด้านหลังของพวกสวมหน้ากาก ตอนนี้ทหารทั้งหมดของเมืองการ์กันอยู่ที่นี่แล้ว มีเพียงทหารเพียงหน่วยเดียวเท่านั้นที่อยู่กับท่านเจ้าเมืองตรงทางเข้าประตูทางเหนือ ส่วนพวกเรดซีก็อยู่ด้านหลังไม่ได้ตามขึ้นมาช่วย แล้วใครกันที่จะมาช่วยพวกตนได้ในตอนนี้
“ท่านหัวหน้ากองทหาร พวกเรามาช่วยแล้ว”เสียงของกวีดังขึ้นพร้อมยิงเวทมนตร์สายฟ้าเข้าใส่ร่างของชายสวมหน้ากากคนหนึ่ง ยามนี้ที่หน้าเมืองกิลด์นกฮูกได้ล่าถอยไปหมดแล้วเหลือเพียงกลุ่มคนสวมหน้ากากที่ลอบเข้ามาในเมืองเท่านั้นที่ยังอยู่ในเขตโจมตีเมืองการ์กัน
“เจ้า....”เจฟมองไปที่กวีด้วยท่าทีตกใจ การที่กวีย้อนกลับมาช่วยด้านหลังนี้ได้แสดงว่ากวีสามารถเอาชนะพวกที่บุกเข้ามาได้แล้ว แต่....สิ่งที่ทำให้เจฟประหลาดใจก็คือตราเจ้าเมืองที่กำลังแสดงอยู่บนอกของกวีต่างหาก
“เกิดอะไรขึ้นกับท่านเจ้าเมือง ทำไมเจ้าถึง....”เจฟถามคำถามออกไปทันทีแต่เพราะรอบข้างยังมีศัตรูอยู่ก็เลยโดนพวกมันโจมตีเข้าให้
“อย่าเพิ่งถามเลยครับ ตอนนี้จัดการเจ้าพวกผู้บุกรุกให้หมดก่อน”กวีพูดด้วยท่าทีจริงจังก่อนจะร่ายเวทมนตร์ยิงออกไปรอบๆ ส่วนคนอื่นๆในกองทัพต่างก็เข้าไปช่วยคนของเจฟต่อสู้กับพวกสวมหน้ากากเช่นกัน
“บ้าจริง ไหนพวกเรดซีมันบอกว่าเก็บเกี่ยวได้ตามใจชอบไง”เสียงของชายสวมหน้ากากคนหนึ่งดังแว่วมาจากด้านหลังของเจฟหลังจากพวกสวมหน้ากากโดนไล่ต้อนจนอยู่ในสภาพย่ำแย่แทบจะทันที
“ไหนพวกมันบอกว่าจะยื้อเวลาให้พวกเราฆ่าเจ้าหัวหน้ากองทหารนี่ก่อนไง แบบนี้ท่าจะไม่ดีแล้ว”เสียงของชายสวมหน้ากากคนเดิมพูดพลางปาระเบิดควันลงพื้นอย่างรวดเร็ว
ตูม ๆ ๆ ๆ !!
พวกคนสวมหน้ากากเห็นชายคนนั้นใช้ระเบิดควันก็รีบพากันใช้ระเบิดควันตามๆกันจนควันสีขาวพวยพุ่งไปทั่วบริเวณ พอมีกองทัพของกวีเข้ามาเสริม จากตอนแรกที่ทำได้แค่ถ่วงเวลาเท่านั้นก็ตกอยู่ในสถานการณ์พ่ายแพ้ทันที เหล่าคนสวมหน้ากากเลยไม่มีเหตุผลอะไรที่จะอยู่ต่ออีกแล้ว
“ท่านเจ้าเมือง....เกิดอะไรขึ้นกับท่านเจ้าเมืองบอกข้ามา”เจฟถามพลางจ้องมองกวีด้วยท่าทีดุดัน ไม่มีทางที่เจ้าเมืองจะมอบตำแหน่งให้ใครง่ายๆแน่
“อยู่ๆพวกผู้บุกรุกก็เพิ่มขึ้นหลายเท่า พวกเราพยายามรับมือกันเต็มที่แล้ว....แต่ท่านเจ้าเมืองก็โดนโจมตีเข้า”กวีตอบพลางก้มหน้าลงด้วยท่าทีเศร้าๆ
“อย่ามาโกหก เจ้าพวกนั้นเป็นคนที่เจ้าพามาเองไม่ใช่หรือไง”เจฟถามพลางเดินเข้าไปกระชากคอเสื้อของกวีท่ามกลางสายตาของคนในกองทัพเล่นเอาเหล่าทหารต่างมองหน้ากันด้วยท่าทีสับสน อีกฝ่ายคือเจ้าเมืองคนใหม่ส่วนอีกฝ่ายก็เป็นหัวหน้ากองทหาร หากปะทะกันขึ้นมาตนจะไปอยู่ข้างฝ่ายไหนดี
“ท่านพูดเรื่องอะไรกัน ข้าไม่เห็นรู้เรื่องเลย”กวีขมวดคิ้วด้วยท่าทีงุนงงปนกับความตกใจ ยามนี้กวีกลับแกล้งทำสีหน้าใสซื่อออกมาได้อย่างแนบเนียนจนคนที่รู้แผนของกวีต้องหันหลังหนีเพราะกลัวว่าจะหัวเราะออกมา
“ก็ไอ้พวกที่มาบุกนั่นไง มันเป็นคนที่เจ้าเรียกมาไม่ใช่หรือไง”เจฟถามพลางผลักกวีออกด้วยท่าทีโมโห เขาได้เห็นหลักฐานที่พวกเรดซีเอามาให้แล้ว เป็นคนของกวีที่ไปติดต่อคนของกิลด์นกฮูกแน่ๆ
“พูดอะไรของท่าน คนที่ติดต่อพวกมันมาคือกิลด์เรดซีต่างหาก”กวีตอบโต้กลับไปก่อนจะกำด้ามไม้เท้าแน่น หากกวีไม่ได้ทำอะไรจริง ตอนนี้กวีก็เป็นคนที่กำลังถูกใส่ร้ายอยู่
“............”พอได้ยินกวีพูดแบบนั้นเจฟก็นิ่งไปพักหนึ่ง เรื่องที่กวีจ้างคนของกิลด์นกฮูกเข้ามานั้นจริงหรือเปล่ายังไม่แน่ แต่เรื่องที่กิลด์เรดซีจ้างคนของกิลด์นกฮูกนั้นเป็นเรื่องจริงจากปากของพวกกิลด์เรดซีเอง พวกนั้นบอกว่ากำลังจ้างกิลด์นกฮูกซ้อนกับกวีเพื่อให้กิลด์นกฮูกทรยศพวกกวีให้แผนเพิ่มความชื่นชอบของกวีพักไปเสีย แต่พอมาลองคิดดีๆแล้ว หากจะทำลายแผนของกวีแค่บอกเจ้าเมืองตั้งแต่แรก หรือให้เจฟออกไปจัดการพวกนกฮูกให้หมดๆไปก่อนจะเข้าเมืองก็จบแล้ว ทำไมพวกกิลด์เรดซีต้องจ้างพวกนั้นด้วยราคาสูงด้วย แถมข้อตกลงที่ว่าจะไม่ทำร้ายชาวเมืองนั้นยังไม่เป็นจริงอย่างสิ้นเชิงอีกต่างหาก ไหนจะสิ่งที่พวกสวมหน้ากากนั่นพูดอีก หากเจฟฟังไม่ผิดพวกนั้นคิดจะฆ่าตนเองลงในสงครามครั้งนี้เลยไม่ใช่หรืออย่างไร มิน่าล่ะพอพวกตนขึ้นมาช่วยทางเหนือเจ้ากิลด์เรดซีนั่นก็ไม่ยอมตามขึ้นมา แถมยังปล่อยให้พวกเจฟโดนล้อมเอาไว้อีก หากกวีไม่มาช่วยละก็.....
“เจ้า....เจ้ามีหลักฐานหรือเปล่า”เจฟทำใจให้เย็นลงก่อนจะมองมาทางกวีด้วยท่าทีสงสัย คราวนี้เขาจะเชื่อง่ายๆไม่ได้อีกแล้ว
“มีครับ...แต่ไม่ได้อยู่ที่ข้าตอนนี้”กวีตอบพลางก้มหน้าลงด้วยท่าทีเศร้าๆ
“แล้วมันอยู่ที่ไหน”หัวหน้ากองทหารเจฟถามพลางจัองมองกวีด้วยท่าทีจริงจัง อยากจะรู้จริงๆว่าคราวนี้กวีมีหลักฐานอะไร หากไม่ใช่เพราะฝั่งเรดซีทำเรื่องแปลกๆละก็วันนี้เจฟน่าจะไม่ยอมฟังกวีหรอก
“ผมส่งมันไปให้ท่านเจ้าเมืองแล้ว น่าจะอยู่ที่ห้องทำงานของเจ้าเมือง”กวีตอบด้วยน้ำเสียงสั่นๆ การพูดถึงท่านเจ้าเมืองที่เพิ่งจะตายไปแล้วนั้นเป็นเรื่องที่ลำบากใจมาก แม้แต่เจฟเองก็ชะงักไปเมื่อทราบว่าหลักฐานของกวีอยู่ที่ไหน
“ได้...จบสงครามนี้แล้วข้าจะเข้าไปที่ห้องเจ้าเมืองพร้อมกับเจ้า”เจฟว่าพลางชักดาบออกมา ตอนนี้ในเมืองการ์กันเหลือผู้บุกรุกเพียงไม่กี่คนเท่านั้น คนของกิลด์นกฮูกจริงๆตายไปหมดแล้ว ส่วนคนที่กิลด์เรดซีส่งเข้าไปเพื่อช่วยกิลด์นกฮูกโจมตีกิลด์บูรพาก็เหลือกำลังคนไม่มากแล้วล่าถอยออกไปจากเมืองแล้วเช่นกัน ส่วนคนของเจมส์ที่กวีส่งเข้ามาก็เพิ่งจะหนีไปเมื่อครู่ สภาพสงครามคงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงแล้ว
ติ๊ด....
กวีเปิดระบบสื่อสารออกมาก่อนจะสั่งงานให้ลูกน้องของตนต่อด้วยท่าทีสบายๆไม่เหลือใบหน้าเศร้าๆเมื่อครู่เลย ตอนนี้กวีปล่อยให้ทุกคนไล่ล่าพวกกิลด์นกฮูกที่เหลืออยู่กันตามสบาย แต่ก็มีคนหนึ่งที่กวีฝากให้ทำงานอีกงานก่อนจะจบสงคราม
“เจอแล้ว”น้ำหวานที่ตอนนี้อยู่ในห้องของเจ้าเมืองเปิดลิ้นชักใต้โต๊ะทำงานของเจ้าเมืองออกมาค้นจนพบกับซองเอกสารที่กวีให้ดีโน่นำมาให้เจ้าเมืองก่อนหน้านี้ ตอนนี้ภายในห้องเป็นของเจ้าเมืองหมดแล้วทำให้กวีมีสิทธิ์จะใช้อะไรก็ได้ รวมถึงสามารถมอบสิทธิ์ให้ใครมาเปิดก็ได้เช่นกัน ระหว่างกำลังจัดการพวกที่เหลือ กวีก็ให้น้ำหวานนำหลักฐานที่กิลด์เรดซีกำลังติดต่อกับกิลด์นกฮูกไปสลับสับเปลี่ยนกับหลักฐานที่เอาไปบอกเจ้าเมืองว่าเจฟกำลังทรยศ
“เท่านี้ก็เรียบร้อย”น้ำหวานยิ้มออกมาด้วยท่าทีสบายใจก่อนจะเดินออกจากห้องไป งานง่ายๆแค่เข้ามาสลับซองเอกสารแล้วเดินออกไปเท่านั้น
.
.
.
“นี่มัน......”หลังจากจบสงคราม กวีก็พาเจฟขึ้นมาที่ห้องของเจ้าเมืองซึ่งตอนนี้ก็คือห้องของกวีนั่นเอง ตอนแรกกวีทำท่าค้นหาอยู่นานกระทั่งพบเข้ากับซองเอกสารที่ตนฝากน้ำหวานมาให้สลับกับซองเก่าก่อนจะเอาของด้านในให้เจฟดู
“ผมเห็นท่าทีของกิลด์เรดซีแปลกๆมาสักพักแล้วก็เลยพยายามนำเรื่องนี้ไปบอกเจ้าเมือง”กวีว่าพลางนั่งลงที่เก้าอี้ด้านข้างช้าๆ
“แต่ตอนแรกข่าวที่ได้มาคนที่จะเข้าร่วมการโจมตีมีน้อยกว่านี้ ไม่อย่างนั้นท่านเจ้าเมืองคงไม่ต้อง...”กวีพูดด้วยท่าทีเศร้าสร้อยอีกครั้งราวกับเจ็บปวดอย่างมากที่เสียเจ้าเมืองไป แต่คนที่กำลังตกใจอยู่จริงๆกลับเป็น...
“นี่ข้า ทำอะไรลงไป”ภายในหัวของเจฟขาวโพลนไปหมด กิลด์เรดซีเองก็มีหลักฐานของฝั่งเรดซี ส่วนกวีเองก็มีหลักฐานของฝั่งกวี แต่หากดูจากหลักฐานของกวีแล้วกลายเป็นว่าตลอดมากวีพยายามเตือนท่านเจ้าเมืองเรื่องของกิลด์เรดซีมาตลอด หรือว่าที่เข้าไปคุยกับท่านเจ้าเมืองบ่อยๆไม่ใช่เพราะต้องการประจบ แต่เพราะพยายามหาทางรับมือกับกิลด์เรดซีกัน...
แล้วตัวเขาเล่าทำอะไรลงไป นอกจากจะโดนกิลด์เรดซีหลอกเอาแล้วยังเดินตามแผนของพวกมัน หากตอนนั้นทหารของเมืองการ์กันประจันหน้ากับศัตรูร่วมกับกิลด์บูรพา การรบคงจบไปนานแล้วโดยที่ไม่เสียหายด้วยซ้ำ ไม่สิตั้งแต่ที่พวกมันรุกล้ำเข้ามาในเขตทางเหนือแล้ว ตอนนั้นหากตนเลือกที่จะจัดการเสียก็ไม่ต้องมีวันนี้
“ท่านเจ้าเมือง....เป็นข้าที่ผิดเอง”เจฟดวงตาร้อนผ่านก่อนจะชักดาบออกมาจากฝัก ยามนี้เจฟได้ทราบแล้วว่าความผิดทั้งหมดเกิดจากตนเองเอนเอียงไปรับฟังศัตรูนั่นเองทำให้ดาบของเจฟค่อยๆหันเข้าหาคอของตัวเองเพื่อที่จะ...
“หยุด”กวีสั่งออกไปด้วยน้ำเสียงหนักแน่นทำให้มือของเจฟชะงักไปครู่หนึ่ง
“สายไปแล้ว ข้ามีหน้าที่ปกป้องเจ้าเมืองแต่กลับปล่อยให้ท่านต้องตาย โทษตายแค่นี้ยังเบาไปเสียด้วยซ้ำ”เจฟว่าพลางหลับตาลงช้าๆ อย่างน้อยก็ให้เขาได้ชดใช้ด้วยชีวิตเถอะ
“ก่อนหมดลม ท่านเจ้าเมืองฝากฝังความปลอดภัยของเมืองนี้กับตัวคุณเจฟเอาไว้ครับ”กวีเห็นเจฟคิดจะฆ่าตัวตายตามไปจริงๆก็รีบพูดแทรกขึ้นมาเสียก่อน
“ฝากข้า....เอาไว้กับเจ้างั้นเหรอ”เจฟได้ยินเช่นนั้นก็ชะงักไปทันที ตนยกทัพถอยออกมาโดยพลการ ท่านเจ้าเมืองจะต้องโกรธสิถึงจะถูก
“ท่านบอกข้าว่าท่านไว้ใจท่านหัวหน้ากองทหารที่สุด ที่หัวหน้ากองทหารทำแบบนี้ก็ต้องมีเหตุผลแน่ๆ ไม่ว่าจะอย่างไรท่านหัวหน้ากองทหารก็จำเป็นต่อเมืองการ์กันครับ”กวีตอบพลางจับไปที่มือของหัวหน้ากองทหารเจฟด้วยใบหน้าที่อ่อนโยน NPC เลเวล 160 เชียวนะไม่ยอมให้ตายไปง่ายๆแบบนี้หรอก
“ท่านฝากข้ามาบอกว่า เรื่องทั้งหมดนี้ท่านให้อภัย และอยากให้ท่านปกป้องเมืองการ์กันต่อไป”กวีพูดจบก็ปล่อยมือของหัวหน้ากองทหารเจฟไป ดาบที่คิดจะใช้บั่นคอตนเองลดลงกับพื้นพร้อมร่างที่ประคองลำตัวเอาไว้ไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว
“ท่านเจ้าเมือง ท่านอภัยให้ข้าอย่างนั้นหรือ”เจฟทรุดตัวลงกับพื้นพร้อมน้ำตาที่ไหลออกมาช้าๆ ครั้งนี้เขาจะไม่ทำพลาดอีกแล้ว......