เล่ม 3 ตอนที่ 441 หมดตัว
* นิยายเรื่องนี้เป็นลิขสิทธิ์ของ Novel Kingdom (หจก.โนเวล คิงด้อม) *
**ไม่อนุญาตให้ดัดแปลง แก้ไขหรือเผยแพร่ก่อนได้รับอนุญาต หากฝ่าฝืนทาง หจก. จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด**
“เซอร์อซิริสส่งจดหมายมาว่าสงครามภายในเพลนได้เดินทางเข้าสู่ช่วงวิกฤติที่สุดแล้ว และสถานการณ์นั้นก็ไม่ได้ราบรื่น เขาหวังว่าตระกูลจะส่งลูกธนูลงอาคมไปให้เขาได้เร็วที่สุดเพราะการป้องกันได้ใช้เงินสำรองส่วนใหญ่ไปหมดแล้ว”
สีหน้าของริชาร์ดแปรเปลี่ยนไปเล็กน้อยทว่าเขาก็พยักหน้าตอบกลับไป “แล้วลีน่าล่ะ ?”
พ่อบ้านลังเลอยู่ครู่หนึ่ง “ดราก้อนเมจเจอกับทางตันในเพลนป่าไม้ เวลานี้นางสามารถยื้อเวลาออกไปได้อีกไม่มากและนางหวังว่าจะได้รับการช่วยเหลือจากท่าน แต่นางกล่าวไว้ว่าไม่ต้องนำข้อความนี้บอกกับท่านหากท่านไม่ได้มีเงินมากพอ”
ริชาร์ดตกอยู่ในห้วงความคิดของเขาขณะใช้นิ้วมือเคาะบนโต๊ะอย่างต่อเนื่อง เขาไม่คิดเลยว่ากาตอนจะทิ้งเขาไว้กับปัญหาและการขาดแคลนทรัพยากรที่มากมายขนาดนี้ ไม่ได้มีข่าวดีจากเพลนของตระกูลเขาเลย พวกเขาครอบครองพื้นที่ 2 ใน 5 ของเพลนกล้วยไม้ทว่ามันก็ยังเป็นเรื่องยากสำหรับเซนม่าที่จะรับมือได้เพียงลำพัง ยิ่งไปกว่านั้นเพลนแห่งนั้นก็มีขนาดที่เล็กกว่าขนาดของเฟเลอร์ ขนาดของมันโดยประมาณนั้นใหญ่เท่าภูมิภาคใหญ่ ๆ แห่งหนึ่งในนัวแลนด์เท่านั้น การพัฒนาเพลนอย่างเต็มกำลังก็ยังไม่สามารถที่จะสร้างรายได้กลับมาได้มากมายเท่าไหร่นัก ขณะเดียวกันเพลนอื่น ๆ ต่างก็ต้องการการสนับสนุนจากเขาทั้งหมด และเพลนแกมมาที่แต่เดิมมีความร่ำรวยและมั่งคั่งมากที่สุดก็ได้ตกไปอยู่ในมือของวอร์ดแล้ว
เขาไม่แน่ใจว่าอซิริสต้องการความช่วยเหลืออย่างแท้จริงหรือไม่ ในเวลาเดียวกันเขาเชื่อว่าลีน่าคงจะอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่สู้ดีเท่าไหร่นัก จากที่เขาเคยได้ไปยังเพลนป่าไม้ด้วยตัวเองมาก่อนหน้านี้ ความชื้นที่แปลกประหลาดของป่าและชนพื้นเมืองที่ดูโหดเหี้ยมยังตรึงอยู่ในความประทับใจของเขาอย่างยิ่ง
ในเวลานี้ทุกด้านตกอยู่ในอันตรายและเพลนทุกแห่งต่างก็จำเป็นต้องใช้เงิน ทว่าทรัพยากรในมือของเขามีอยู่อย่างจำกัด การผิดพลาดเพียงแค่ครั้งนี้สามารถกลายเป็นห่วงโซ่ที่จะส่งผลกระทบและทำลายทุก ๆ อย่างได้ในเวลาอันรวดเร็ว
นี่ไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจถ้ามีใครคิดถึงเรื่องนี้ กาตอนสร้างตัวเองขึ้นมาจากศูนย์ราวกับพายุที่ก่อตัวขึ้นมาในระยะเวลาอันสั้นเท่านั้น ปัจจุบันรากฐานของตระกูลยังคงตื้นเขินอย่างไม่น่าเชื่อโดยที่ยังมีการสนับสนุนจากการขยายตัวที่คงที่เท่านั้น สิ่งนี้เหมือนกับปราสาทที่สร้างขึ้นบนชายหาด ไม่ว่าป้อมปราการอันงดงามจะถูกสร้างขึ้นเร็วแค่ไหนแต่เมื่อมีอะไรผิดพลาดเพียง 1 อย่างมันก็ทลายลงมาได้ในชั่วพริบตาเดียว ซึ่งตระกูลอาเครอนในเวลานี้ยังคงเป็นตระกูลที่ขาดรากฐานที่มั่นคง
มีหลายแง่มุมสำหรับรากฐานดังกล่าว ทั้งทักษะของแม่ทัพ ความสามารถของผู้มีพลัง กองกำลังที่น่าเกรงขาม แหล่งทรัพยากรอันมีค่า... ผู้ติดตามของริชาร์ดเพิ่งจะเติบโตขึ้นมาในขณะที่รูนไนท์ทั้ง 5 คนของกาตอนมีความสามารถในการรักษาสถานการณ์ภายในเพลนเหล่านั้น จำนวนคนที่น้อยลงทำให้การป้องกันของพวกเขาสามารถทลายลงมาได้ ในเวลาเดียวกันเหล่าไนท์ที่ถูกฝึกฝนมาได้ลดลงหลังจากที่เกิดการจลาจลก่อนหน้านี้ ริชาร์ดตระหนักได้ว่าตอนนี้เขาเป็นแหล่งเงินเพียงแหล่งเดียวในตระกูลทว่าเงินที่เขามีจะต้องนำไปใช้กับสงคราม การสร้างทหารชั้นยอดที่ติดอาวุธ 500 คนภายในเฟเลอร์ก็ต้องใช้เงินมากกว่า 2,000,000 เหรียญแล้ว ในฐานะของรูนมาสเตอร์ เขากลับไม่มีรูนไนท์แม้แต่คนเดียวใต้บังคับบัญชาหากไม่นับผู้ติดตาม และแน่นอนว่าทหารชั้นยอดจำนวน 500 คนจะมีความสำคัญมากกว่ารูนไนท์จำนวน 3 คน ทว่าในระยะยาวเขาจำเป็นที่จะต้องมีคนมาช่วยจัดการกับผู้มีพลังภายในเพลน
แม้ว่ารูนไนท์จะไม่สามารถเทียบเท่าได้กับเซนต์ ทว่าพวกเขาสามารถที่จะผลิตได้ในจำนวนมาก ภายใต้สถานการณ์ที่มีระดับไม่ได้ต่างกันมาก ปริมาณเป็นข้อได้เปรียบที่แน่นอน ยกตัวอย่างได้จากรูนไนท์ 3–4 คนที่อยู่ในระดับ 14 สามารถป้องกันวอริเออร์ระดับ 16 ได้อย่างไม่มีปัญหา
ทว่าไม่ว่าเขาจะคิดถึงเรื่องนี้อย่างไร ริชาร์ดก็ไม่สามารถหาจุดเกิดผลลัพธ์ที่ดีได้เลย การที่เขาไม่มีเงินก็คือไม่มีเงิน มันไม่มีทางที่เขาจะดึงเงินเหล่านั้นออกมาจากอากาศได้ ในความเป็นจริงเขาเองก็ยังติดหนี้ไนริสที่จะต้องสร้างรูน 2 เซ็ตให้กับเขา เงินจำนวน 1,500,000 เหรียญจากโล่และเกราะนั้นมันคือวัสดุที่จ่ายให้เขาล่วงหน้า
เขาโบกมือไปยังพ่อบ้าน “เอาล่ะ ข้าเข้าใจแล้ว ไปบอกไนท์ทหารราบให้เตรียมตัว พวกเขาจะต้องเดินทางในตอนเช้า”
หลังจากที่พ่อบ้านออกไปแล้วริชาร์ดก็หยิบกล่องผลึกเวทมนตร์ออกมาก่อนที่จะผลักไปให้ฟิวเซีย “สิ่งนี้สำหรับอลิซ”
“ของขวัญสำหรับนายหญิงของข้ารึ ?” ฟิวเซียยิ้มราวกับดอกไม้ที่ผลิบานขณะหยิบกล่องตรงหน้ามา “ถ้าให้ข้าเดา มันคงจะไม่ใช่รูนใช่ไหม ?”
ทว่าลมหายใจของนางติดขัดขณะที่พบว่าในกล่องมีรูน 5 รูนบรรจุอยู่ภายในนั้น สีหน้าของนางแปรเปลี่ยนกลายเป็นความเคร่งขรึมอีกครั้งขณะที่มองดูรูนเหล่านั้นด้วยใบหน้าจริงจัง “ซาเวจสไตรค์... เยี่ยม ท่านติดหนี้กับนายหญิงของข้าอีกเพียง 7 ชุดเท่านั้น ข้าจะส่งรูนเหล่านี้ไปให้นางทันที ท่านมีอะไรจะพูดเพิ่มเติมอีกหรือไม่ ?”
“หากเจ้ามีเวลา ช่วยหาคนมาเพิ่มอีก 10 คนจากเกาะแห่งนี้เมื่อข้ากลับไป แล้วอลิซเจอปัญหาอะไรบ้างหรือไม่ในช่วงที่ผ่านมานี้ ? ข้าเห็นว่าเจ้าดูเป็นกังวลมาก”
“ใช่ เราพบสินแร่เหล็กชั้นดีอยู่ไม่ไกลจากดินแดนของท่านหญิงของข้าซึ่งอยูในภูเขาแห้งแล้งที่ไม่มีเจ้าของ ขุนนางทั้งหมดในพื้นที่เหล่านี้อ้างอำนาจอธิปไตยเหนือภูมิภาค รวมถึง 4 เอิร์ลแห่งจักรวรรดิเซเคร็ดทรีและมาร์ควิสของสหพันธ์ด้วย และแน่นอนว่าท่านหญิงของข้ายืนหยัดการเรียกร้องของนางเองเช่นเดียวกัน”
“นั่นเป็นปัญหาที่ใหญ่จริง ๆ” ริชาร์ดขมวดคิ้วเข้าหากันเล็กน้อย สิ่งเดียวที่จะสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้คือการทำสงคราม แม้ว่าไม่มีใครต่อสู้ในเวลานี้ทว่าในอนาคตพวกเขาจะต้องมีปัญหาอย่างแน่นอน
ริชาร์ดจำได้ถึงรายชื่อของอากาเมมนอนหลังจากที่ฟิวเซียออกจากห้องของเขาไป เขาเปิดม้วนกระดาษออกและอ่านมันอย่างระมัดระวัง ภายในนั้นมีของหลายร้อยอย่างซึ่งมีขนาดที่แตกต่างกันออกไป มันมีปริมาณที่ไม่น้อยเลย อากาเมมนอนดูหมือนกับเด็กเงียบขรึมที่มีสถานะอยู่ในครอบครัวของเขาทว่าราคาที่ปรากฏอยู่สร้างความตกตะลึงให้กับริชาร์ดอยู่ไม่น้อย มีของจำนวน 10 กว่าชิ้นที่มีราคาต่ำกว่าราคาตลาดซึ่งมันก็ไม่ได้ต่างอะไรจากราคาของเหล่าพ่อค้าคนกลาง ราคาของไนริสเองก็ดูเหมือนว่าจะต่ำกว่ามาก ทั้ง 2 คนมักจะปรากฏตัวพร้อมกันอยู่เสมอแทบจะไม่แยกจากกันเลยด้วยซ้ำ มันเป็นไปไม่ได้เลยที่อากาเมมนอนจะไม่ตระหนักถึงราคาของไนริส แล้วมันเป็นเพราะเหตุใดกันที่ราคาเหล่านี้ถึงได้สูงกว่ามาก ?
……
ในเวลาเดียวกัน ไนริสกำลังยืนถัดจากโต๊ะทำงานของจักรพรรดิฟิลลิปส์ เขารวบรวมความกล้าของตัวเองเพื่อมอบกระดาษเวทมนตร์แผ่นหนึ่งออกไป จักรวรรดิมองไปที่กระดาษตรงหน้าก่อนที่จะหยิบมันขึ้นมาอ่าน ด้านในนี้เป็นข้อมูลของค่าใช้จ่ายชั่วคราว ทว่ามันได้ใช้สิทธิ์เกือบทั้งหมดของไนริสตลอดทั้งปี
ฟิลลิปส์วางกระดาษลงบนโต๊ะก่อนพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเบื่อหน่าย “เจ้าควรจะรู้ว่าการใช้เงินมากมายขนาดนี้จะส่งผลกระทบกับเจ้า งบประมาณของเจ้าในปีหน้าก็ไม่ได้สูงไปกว่าในตอนนี้ และเจ้าไม่มีสิทธิ์ที่จะกู้หรือเบิกเงินเหล่านั้นในช่วงเวลาที่เจ้าแจ้งไว้”
“ข้าทราบดี แต่ข้ารับปากกับริชาร์ดไปแล้ว !” ไนริสพูดออกมาด้วยน้ำเสียงราวกับว่าหมดหนทาง
“เจ้าไม่คิดว่าเขาจะต้องการมากกว่าครั้งเดียวหรือ ?” ฟิลลิปส์ยิ้มออกมาซึ่งแน่นอนว่ามีความหมายบางอย่างแฝงอยู่ภายในรอยยิ้มนั้น เขาเซ็นลงบนกระดาษตรงหน้าพร้อมพูดขึ้นว่า “ดูเหมือนว่าเด็กคนนี้จะพัฒนาไปได้เร็วกว่าที่ข้าคิดไว้ เอาล่ะ นำสิ่งนี้ไปที่โกดังสินค้าและเปลี่ยนของเหล่านั้นซะ ทุกคนจะต้องรักษาคำพูดของตัวเองและเจ้าจงนำสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ไว้เป็นบทเรียนให้ดี ครั้งหน้าพิจารณาความสามารถของตนเองให้ดีและรอบคอบก่อนที่จะสัญญากับคนอื่น”
“ข้าทราบแล้ว ท่านพ่อ” ไนริสพูดด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อย
……
สีหน้าของไนริสไม่ได้มีความยินดีเลยขณะที่เขาเดินออกมาจากคลังเก็บของของราชวงศ์ เขาก้มหน้าตลอดเวลาและเฝ้าแต่คิดสิ่งต่าง ๆ อยู่ภายในหัวของเขา ทันใดนั้นเขาก็วิ่งไปที่วงเวทย์สื่อสารเพื่อที่จะนัดพบกับอากาเมมนอนและเรียกเขาให้ไปนั่งดื่มด้วยกัน
ในเวลานั้นเองร่างสูงและแข็งแกร่งก็เดินเข้ามาขวางทางเขาไว้ ชายผู้นี้สวมใส่ชุดเกราะซึ่งมีสัญลักษณ์ของตระกูลราชวงศ์ซ่อนอยู่ที่มุมหนึ่งของชุด ชายหนุ่มผู้นี้ดูคล้ายกับไนริส ขณะที่เจ้าชายคนที่ 4 นั้นดูนุ่มนวลและละเอียดอ่อน ทว่าคน ๆ นี้กลับมีออร่าที่มืดมน
“น้องสี่ ! ข้าได้ยินมาว่าเจ้าหมดตัวแล้วหรือ ? นี่ข้าต้องรีบมาดูด้วยตัวเองเลยนะ !” ชายหนุ่มพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ย
สีหน้าของไนริสแปรเปลี่ยนไป “มันไม่ใช่ธุระกงการอะไรของเจ้า !”
ชายหนุ่มตรงหน้าหัวเราะออกมาเสียงดังอีกครั้ง “มันจะไม่ใช่เรื่องของข้าได้ยังไงกันล่ะ ? ข้าเพิ่งได้รับแรงผลักดันบางอย่างเมื่อไม่นานมานี้ นอกจากพี่ชายที่แปลกประหลาดคนที่ 2 แล้ว คนอื่น ๆ ต่างก็รู้สึกกังวลกันไปหมด งบประมาณของเจ้าจะไม่เพิ่มขึ้นในปีหน้าและเจ้าจะไม่ได้รับอนุญาตให้กู้ออกมาล่วงหน้าด้วยเช่นกัน เจ้ามีแผนที่จะทำให้มันขึ้นมาได้ยังไงงั้นหรือ ? ที่จริงข้าเองก็สามารถโยนเศษเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้เจ้าได้อยู่บ้างนะ”
“ไสหัวไป !” ไนริสถ่มน้ำลายออกมาและแสดงสีหน้าที่เย็นชา
คำสบถที่หลุดออกมาจากปากของคนที่มีความสง่างามอย่างไนริสทำให้แม้แต่เจ้าชายองค์ที่ 3 ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกตกตะลึงไปชั่วขณะ ทันใดนั้นใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นสีแดงที่เกิดจากความอับอายและความโกรธ “ไนริส ! เจ้ากำลังสร้างความอัปยศให้กับตระกูลราชวงศ์ !”
“ที่เจ้าว่ามันตัวข้าหรือตัวเจ้ากันแน่ ? ออกไปซะ ข้าไม่อยากเสียเวลากับคนอย่างเจ้า !” ไนริสยิ้มเยือกเย็น
ผู้ติดตามของเจ้าชายองค์ที่ 3 เตรียมจะหลบทางให้กับไนริสทันทีหลังจากที่เขาเริ่มเดือดเป็นไฟ ทว่าเจ้าชายองค์ที่ 3 กลับยังรู้สึกโกรธกับการกระทำของอีกฝ่าย เท้าของเขาทั้ง 2 ข้างเหยียบเข้ากับพื้นอย่างหนักแน่นจนทำให้คนอื่น ๆ ไม่กล้าที่จะเคลื่อนไหว การที่ต้องอยู่ท่ามกลางการถกเถียงกันของเจ้าชายทั้งสองทำให้ผู้ติดตามเหล่านี้รู้สึกถึงสถานการณ์น่าอึดอัดใจที่เกิดขึ้น เหงื่อไหลซึมออกมาจากหน้าผากของเขาแต่มีเพียงไม่กี่คนที่ยังคงแสดงความก้าวร้าวและกล้าหาญอย่างยิ่งเพื่อที่จะแสดงความภักดีของต่อเจ้านายของพวกเขา
ทันใดนั้นไนริสก็สงบลงอีกครั้งและเขาก็เผยรอยยิ้มเล็กน้อย “ดี ถ้าเจ้าเป็นลูกผู้ชายที่แท้จริง งั้นเจ้าก็ทำให้ข้าเสียเวลาอยู่ที่นี่ต่อไปก็แล้วกัน เพราะยังไงข้าเองก็ไม่มีธุระอะไรอยู่แล้ว”
ทันใดนั้นสีหน้าของเจ้าชายองค์ที่ 3 ก็แปรเปลี่ยนไป นี่เป็นทางเดินบริเวณคลังสินค้าของราชวงศ์ แม้ว่ามันจะค่อนข้างเงียบทว่าก็ยังมีผู้คนเดินผ่านไปมาตลอดเวลา การเผชิญหน้าที่เปิดเผยระหว่างเจ้าชายทั้ง 2 คนจะทำให้เกิดปัญหา หากฟิลลิปส์รู้เกี่ยวกับเรื่องนี้มันจะไม่ใช่เรื่องดีสำหรับพวกเขาอย่างแน่นอน คำเยินยอไม่มีค่าอะไรต่อหน้าจักรพรรดิและฟิลลิปส์เองก็สามารถหาคนทำผิดได้ด้วยคำถามเพียงไม่กี่คำถามจากปากของเขา และไม่มีผู้ติดตามของเขาคนใดกล้าที่จะโกหกต่อหน้าจักรพรรดิได้
* นิยายเรื่องนี้เป็นลิขสิทธิ์ของ Novel Kingdom (หจก.โนเวล คิงด้อม) *
**ไม่อนุญาตให้ดัดแปลง แก้ไขหรือเผยแพร่ก่อนได้รับอนุญาต หากฝ่าฝืนทาง หจก. จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด**