บทที่ 267
ในระหว่างที่ทุกคนจดจ่อกับการฝึกวิชาด้วยการจ้องมองผนังถ้ำอย่างไม่วางตา เนี่ยฟงที่ศึกษาคัมภีร์ในมือก็ได้ยินเสียงเรียกแว่วเข้ามา เขาหันไปมาซ้ายขวาแต่ก็ไม่พบเจอผู้ใดเรียกขาน ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงเรียกอีกครั้ง ด้วยความสงสัยจึงเดินสำรวจภายในถ้ำอีกครั้งแต่ก็หาได้พบเจอสิ่งใด เขาจึงพุ่งทะยานออกไปทางด้านหน้าน้ำตก ทันทีที่โผล่ออกมาก็พบกับชายชราจัวกุ๋ยกู่นั่งอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง เนี่ยฟงจึงพุ่งทะยานเข้าหาอย่างรวดเร็ว
“คารวะท่านอาจารย์ มีสิ่งใดรึขอรับเหตุใดท่านถึงมาอยู่ที่นี่”
จัวกุ๋ยกู่ยกยิ้มสะบัดมือขวายื่นจดหมายให้แก่เนี่ยฟง ทันทีที่เปิดอ่านก็ต้องขมวดคิ้วหันมาจ้อง
“ข้อความในจดหมายนี้เชื่อถือได้แค่ไหนขอรับ”
“แน่นอนข้อความในจดหมายมีความเป็นไปได้ถึงเก้าส่วน อีกหนึ่งส่วนขึ้นอยู่กับเจ้าจะเชื่อมันหรือไม่ เจ้าคงสงสัยสินะว่าเหตุใดข้าถึงนำมันมาให้แก่เจ้า”
เนี่ยฟงพยักหน้าตอบรับ
“นั้นเป็นเพราะคำสั่งของอาจารย์เจ้า”
เนี่ยฟงถึงกับขมวดคิ้ว
“ว่าแต่ท่านลุ่ยกงอยู่ที่ไหนขอรับ”
“อยู่ภายในร่างกายของเจ้านั้นละ เขากำลังกระทำบางอย่างอยู่ เอาละมาเข้าเรื่องกันดีกว่า อาจารย์เจ้าสั่งให้ข้าออกติดตามหารายชื่อผู้ที่ออกติดตามไล่ล่าสังหารเจ้าเมื่อครั้งยังเป็นทารก นั้นเป็นเพราะเจ้านั่นต้องการฝึกฝนเจ้า”
“ฝึกฝนข้า”
“ใช่เจ้าบ้านั่นกล่าวเช่นนั้นออกมา ตามหลักแล้วต้องมอบให้เจ้าเมื่อกลับมาจากภารกิจนี้ เพียงแต่ว่ามีคนผู้หนึ่งอยู่ที่นี่”
เนี่ยฟงเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็ก้มลงมองรายชื่อเจ็ดรายชื่อในจดหมาย
“ซือหม่าถังเจ็ดเทพเสื้อเกราะทอง หัวหน้าเผ่ามายา”
“ถูกต้องแล้ว คนผู้นี้ถูกขับไล่จึงถูกเรียกว่าเทพตกสวรรค์ ในอดีตมีหลายคนเช่นกัน”
เนี่ยฟงพยักหน้าตอบรับ
“ว่าแต่เจ้าฝีมือรุกหน้าไปไม่น้อยเจ้าคงพบคัมภีร์หยุนเซ็นแล้ว”
“ท่านรู้ได้อย่างไรขอรับ”
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ไอ้หนูเจ้าคิดว่าข้าเป็นผู้ใดเรื่องเพียงแค่นี้เหตุใดข้าถึงจะไม่รู้ อีกอย่างเป็นข้าเองที่ส่งเจ้ามาที่นี่ ซือหม่าถังคงหมดสิ้นกำลังใจเป็นแน่หากมันรับรู้ว่าเจ้าได้คัมภีร์ของจริงไปแล้ว ต่างจากมันที่ฝึกฝนแต่คัมภีร์ของปลอม”
เนี่ยฟงถึงกับขมวดคิ้ว เป็นจัวกุ๋ยกู่ยกยิ้มแล้วเอ่ยวาจาออกมา
“คัมภีร์หยุนเซ็นเป็นวิชารวบรวมพลังปราณที่ดีที่สุดเท่าที่เคยปรากฏออกมา มันรวบรวมแก้ไขจุดเด่นของคัมภีร์อื่นๆและลบจุดด้อยจนสมบูรณ์ที่สุด เพียงแต่ว่ามันมีบางอย่างก็คือถึงแม้จะคัมภีร์อยู่ในมือก็ตามบางคนก็ไม่สามารถฝึกฝนมันได้ เรื่องนี้ข้ายืนยันได้เป็นอย่างดีเพราะข้าเคยเห็นมันมาครั้งหนึ่งในอดีต อีกอย่างพวกเทพหลายคนเองก็เคยเห็นมันมาแล้วเช่นกันแต่น่าเสียดายยิ่งนักที่ไม่มีผู้ใดสามารถฝึกฝนได้ เพราะมันต้องใช้องค์ประกอบหลายอย่างที่จะฝึกฝนมัน แต่นั่นมันไม่มีผลต่อเจ้าเพราะสายเลือดรวมไปถึงระดับพรสวรรค์ นั้นทำให้คัมภีร์นี้กลายเป็นคัมภีร์ต้องห้าม เจ้าก็คงทราบดีถึงความสามารถของมัน”
“ขอรับข้าเข้าใจดี เช่นนั้นต้องขอบคุณท่านอาจารย์มากขอรับ ข้ามีคำถามขอรับจุดมุ่งหมายที่แท้จริงของภารกิจคือสิ่งใดขอรับ”
“บุกยึดที่นี่เพื่อหาทองคำ”
“ทองคำ”
“ใช่ เจ้าคิดว่าคนพวกนั้นสามารถสร้างทุกอย่างมาจากทองคำ แล้วคนพวกนั้นหามันมาจากที่ไหนกัน”
“แล้วท่าน”
จัวกุ๋ยกู่รีบยกมือขวาขึ้นห้าม
“ไอ้หนูข้าเข้าใจเจ้าดี ตัวข้าผู้เดียวหาได้มีเสียงพอจะต้านทานผู้คนได้ ผู้คนที่นี่ต่างยึดหลักปลาใหญ่กินปลาเล็ก หมัดของผู้ใดใหญ่ผู้นั้นมีอำนาจในการเอ่ยวาจา เจ้าเองก็ทราบดีเพราะจากดินแดนที่เจ้าจากมาก็หาได้แตกต่างกัน”
“เรื่องนี้ข้าเข้าใจดีขอรับ”
จัวกุ๋ยกู่ยกยิ้ม
“เอาละหมั่นฝึกฝนเถอะข้าไม่รบกวนเวลาของเจ้าแล้ว รักษาตัวด้วยไอ้หนู หวังว่าเมื่อใดที่หมัดของเจ้าใหญ่พอเหตุการณ์แบบนี้จะไม่เกิดขึ้น”
เนี่ยฟงกำลังจะเอ่ยวาจาแต่จัวกุ๋ยกู่ก็หายตัวไปต่อหน้าต่อตา หลังจากนั้นไม่นานเนี่ยฟงก็พุ่งทะยานกลับไปด้านในถ้ำหลังม่านน้ำตก
เสียงร้องโหยหวนดังแว่วเป็นระยะกลุ่มเผ่ามายาถูกสังหารตกตายเกลื่อนพื้นหลังจากเนี่ยฟงสังหารซือหม่าถังพวกนั้นต่างพุ่งหลบหนี กลุ่มของหานป๋อที่รอจังหวะนี้อยู่แล้วก็รีบพุ่งติดตามสังหารอย่างไม่รีรอรวมไปถึงกลุ่มหลักเขตหนึ่งและเขตเจ็ด เกือบสองชั่วยามทั้งหมดก็มองเห็นเมืองขนาดใหญ่ด้านที่ถูกสร้างมาจากไม้ เนี่ยฟงเองก็ถือศีรษะของซือหม่าถังมาด้วยเช่นกัน เขาเหยียบเกราะสายฟ้าพุ่งทะยานอยู่บนท้องฟ้าลอยอยู่เหนือเมืองพร้อมกับใช้ออกด้วยทักษะมังกรคำราม
“ซือหม่าถังหัวหน้าของพวกเจ้าตกตายลงไปแล้ว”
พร้อมกับซัดศีรษะในมือขวาลงด้านล่าง เสียงกรีดร้องดังลั่นมาจากในเมืองทันใดนั้นเองเขาก็หรี่ตามองชายฉกรรจ์ผู้หนึ่งรูปร่างหน้าตาคล้ายซือหม่าถังหลายส่วนพุ่งทะยานขึ้นมารับศีรษะที่ถูกซัดลงมา แน่นอนว่าเนี่ยฟงก็ทำบางอย่างกับศีรษะนั้นแล้ว ทันทีที่ชายฉกรรจ์ผู้นั้นสัมผัสกับศีรษะ ตูม ศีรษะระเบิดเลือดสีแดงพร้อมกับไขสมองแตกกระจาย ชายฉกรรจ์กระเด็นลงไปปะทะกับพื้นดินเสียงดังสนั่น เปรี้ยง เสียงสะบัดมือดังแว่วอีกครั้งแส้แข็งปรากฏเขาฟาดหวดลงมาด้วยทักษะตัดสายฟ้า ปราณแส้แข็งสีฟ้าสี่เล่มพุ่งทะยานลงมาปะทะกับบ้านเรือนเสียงดังสนั่น เปรี้ยง เปรี้ยง เศษไม้พุ่งกระจายไปตามแรงปะทะ พวกหานป๋อเองก็หาได้น้อยหน้าทันทีที่เข้ามาในเมืองก็จัดการเผาทำลายบ้านเรือนทันที
เปลวไฟลุกโชนท่ามกลางสายฝนที่โปรยลงมา เสียงกรีดร้องยังคงดังอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกับเสียงร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด กลิ่นคาวเลือดลอยฟุ้งเหม็นคาวไปทั่วบริเวณเลือดสีแดงฉานไหลเจิงนองเต็มพื้น ทันทีที่เนี่ยฟงเหยียบถึงพื้นชายฉกรรจ์ผู้นั้นก็พุ่งทะยานเข้าหาพร้อมจ้วงแทงดาบในมือ เคร้ง เสียงแส้แข็งตวัดขึ้นมาต้านรับอย่างทันท่วงที เนี่ยฟงไม่ปล่อยโอกาสทองให้หลุดรอดไป เร่งโคจรลมปราณไปที่มือซ้ายต่อยเข้าไปที่หน้าท้องเสียงดังสนั่น เปรี้ยง ชายฉกรรจ์ด้านหน้าถึงกับตัวงอ เนี่ยฟงถีบเท้าถอยออกไปก้าวเท้าซ้ายออกไปด้านหน้าพร้อมกับฟาดหวดแส้แข็งในมือไปที่ศีรษะ เปรี้ยง เลือดสีแดงและไขสมองสีเหลืองสาดกระเซ็น หลังจากนั้นเนี่ยฟงก็พุ่งทะยานไปรวมกลุ่มกับพวกหานป๋อ
เกือบครึ่งชั่วยามกับการสังหารหมู่เพียงฝ่ายเดียวก็จบสิ้นลง แต่ทว่าการต่อสู้ของพวกเนี่ยฟงยังคงมีอยู่ เพราะตอนนี้กลุ่มคนจากเขตเจ็ดเริ่มล้อมพวกของเขตหนึ่งเอาไว้ แน่นอนว่าเนี่ยฟงเริ่มสังเกตเห็นนานมากแล้วตั้งแต่เข้ามายังหมู่บ้าน กลุ่มคนจากเขตเจ็ดเริ่มที่จะสงวนพลังปราณเอาไว้ มีเพียงกลุ่มคนจากเขตหนึ่งเท่านั้นที่ลงมือไล่ล่าสังหารอย่างเมามัน
“หานป๋อ บอกกล่าวต่อกลุ่มของเราเอาไว้ให้เตรียมตัวให้พร้อม ไม่แน่อาจจะต้องปะทะกับคนจากเขตเจ็ด”
“ไม่มีปัญหา”
ไม่ถึงหนึ่งเค่อคนจากเขตหนึ่งที่กำลังนั่งโคจรลมปราณรักษาอาหารเหนื่อยหอบและฟื้นฟูพลังปราณก็เริ่มถูกสังหารกันบ้างแล้ว เสียงตะโกนด่าทอดังแว่วแต่ก็ต้องเงียบเสียงลงเพราะหมดลมหายใจ หลายกลุ่มจากเขตหนึ่งเริ่มที่จะรวบรวมกัน เนี่ยฟงรับรู้จากสายตาที่จ้องมองมาถึงสี่คน สามคนเป็นคนจากเขตเจ็ดส่วนอีกสายตาคนผู้หนึ่งก็คืออันเฉิน เนี่ยฟงหันไปจ้องมองหานป๋อพร้อมกับเอ่ยวาจาออกมา
“พวกเจ้ายังคงมีแผ่นหินติดตัวอยู่ใช่หรือไม่”
“แน่นอน แต่ว่าเจ้าจะทำสิ่งใดรึ”
“เตรียมพวกมันให้พร้อม รอสัญญาณจากข้า”
สิ้นเสียงกล่าวหลายคนเริ่มแอบสะบัดมือขวาแบ่งแผ่นหินมาถือในมือข้างละหลายสิบแผ่นเพื่อเตรียมความพร้อม ทันใดนั้นกลุ่มเขตเจ็ดก็เริ่มไล่ล่าสังหารคนจากเขตหนึ่ง อาวุธคู่กายถูกกำชับในมือแน่นเสียงการปะทะดังลั่น เคร้ง เคร้ง เคร้ง เคร้ง เขาหรี่ตาจ้องมองกลุ่มของหัวอิงที่กำลังต้านรับคนจากเขตเจ็ดกลุ่มใหญ่อยู่ สวนคนที่เหลือต่างพากันหลบหนี
“หานป๋อ นำคนของเราครึ่งหนึ่งพาพวกหัวอิงมาที่นี่”
สิ้นเสียงกล่าวหานป๋อก็นำกำลังคนของไป ส่วนที่เหลือเนี่ยฟงจัดการสังหารคนจากเขตเจ็ดที่พุ่งทะยานเข้าหา แส้แข็งสีดำในมือถูกฟาดหวดเสียงดังลั่น เปรี้ยง เปรี้ยง แน่นอนทุกครั้งที่เขาลงมือล้วนต้องมีเสียงร้องโหยหวนดังแว่วออกมา เป็นพวกจูคังที่ติดตามมาด้านหลังเป็นคนสังหาร ชั่วน้ำเดือดทันทีที่รับรู้ว่ากลุ่มของตนเริ่มที่จะสู้ไม่ไหวหลายคนจากเขตเจ็ดเริ่มหลบหนี แน่นอนเนี่ยฟงหาได้ส่งผู้ใดติดตามเร่งช่วยเหลือคนที่ได้รับบาดเจ็บ หานป๋อพยุงร่างหัวอิงเข้ามาเช่นเดียวกับเจิงอู่ที่พยุงร่างของหยวนเจี้ยนกลับมาเช่นเดียวกับพวกอันเฉิน ทั้งสองได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ในจังหวะที่เนี่ยฟงหันหลังพูดคุยบางอย่างกับจูคังอยู่นั้น ได้มีบางอย่างพุ่งเข้ามาหาจากด้านข้าง ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว เมื่อหันไปจ้องมองก็พบว่าเป็นคนจากเขตเจ็ดซัดหอกไม้ลงมา เนี่ยฟงยกยิ้มสะบัดมือขวาซัดกระบี่และดาบพุ่งออกไปสังหาร ทันทีที่กระบี่และดาบพุ่งออกไปก็มีบางคนพุ่งเข้ามายังด้านหลังของเนี่ยฟงพร้อมกับจ้วงแทงดาบในมือออกมา หลายคนต่างร้องตะโกนเสียงหลง