ตอนที่แล้วChapter 3: ลาออก
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 5: สาวน้อยขอทาน

Chapter 4: อดีตและปัจจุบัน


หลังจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ เสี่ยวหลัว ก็รู้สึกว่าเขาได้เกิดใหม่ สำหรับ จ้าว เหมิ่งชี เขาไม่ได้คร่ำครวญอะไรมาก เขาไม่ได้รู้สึกอะไรและเข้าใจทางเลือกของเธอ ท้ายที่สุดแล้วโลกแห่งความจริงใบนี้มันโหดร้าย

“ฉันลาออกจากงานด้วยเหตุผลส่วนตัวและไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับคุณ”

เสี่ยวหลัว ยิ้ม “ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ลาก่อน!”

ลาก่อนสำหรับความรักในระยะเวลากว่าสี่ปี มันได้จบลงสมบรูณ์แล้ว และเขาจะไม่สวดอ้อนวอนขอให้เธอกลับมา เขาจะไม่ลดศักดิ์ศรีของผู้ชายคนหนึ่ง ที่เขาสามารถทำได้คือหันไปมอง และปล่อยเธอเป็นอิสระ

จ้าว เหมิ่งชี ยืนนิ่งอยู่กับที่เหตุด้วยเหตุผลบางอย่างมันทำให้เธอรู้สึกว่างเปล่าในใจ เธอมาที่นี่เพื่อวิพากษ์วิจารณ์ เสี่ยวหลัว ขณะเดียวกันก็เตือนให้เขารู้ว่าเธอเลือกถูกต้องที่จะทิ้ง เสี่ยวหลัว ไปเพราะเขาเป็นคนที่อ่อนแอไร้ความสามารถและไม่สมควรที่จะคู่กับเธอ

อย่างไรก็ตามผลที่ได้เธอไม่ได้ไม่คาดคิดมาก่อน เสี่ยวหลัว ไม่ได้วิงวอนให้เธอไม่ทิ้งเขาหรือว่าตอนนี้เขาไม่มีความรู้สึกเศร้าอะไรแล้ว ทันใดนั้นมันทำให้เธอรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อยเพราะมันไม่ควรเป็นเช่นนี้

“เสี่ยวหลัว อย่าทำเหมือนคุณไม่แคร์ ฉันรู้ว่าคุณเกลียดฉันมาก แต่นี่คือความจริง”

จ้าว เหมิ่งชี ตะโกนว่า“ฉันไม่สามารถมองเห็นอนาคตของคุณ คุณไม่สามารถมีความเจริญก้าวหน้าในการทำงานได้ บางทีวันหนึ่งคุณจะประสบความสำเร็จ แต่ใครสามารถพูดได้อย่างแน่นอนว่ามันจะเป็นสิบหรือยี่สิบปีต่อมา คุณสามารถจ่ายพลังงานและเวลา แต่ฉันไม่สามารถจ่ายมันกับความเยาว์วัยของฉันได้ ฉันไม่ต้องการอาศัยอยู่ในบ้านเช่าแคบๆ พร้อมกับคุณหลังจากที่แต่งงาน ฉันไม่ต้องการเป็นทาสที่จ่ายเงินเพื่อซื้อบ้านเป็นเวลา 30 ปี หลังจากซื้อบ้านด้วยเงินดาวน์ ชีวิตแบบนั้นไม่ใช่สิ่งที่ฉัน จ้าว เหมิ่งชี ต้องการ”

เสี่ยวหลัว เหลียวหลังหันกลับไปมองแล้วพูด“งั้นเหรอ”

“ดังนั้นฉันถึงเลือกที่จะจากคุณไปและวางแผนอนาคตของตัวเอง” จ้าว เหมิ่งชี โพล่งออกมาเธอตอบด้วยความมั่นใจ

“คุณทำถูกต้องแล้ว”

ใบหน้าของ เสี่ยวหลัว นั้นยิ้มตั้งแต่ต้นจนจบและยังคงสงบในช่วงเวลานี้ “ขอบคุณที่ให้บทเรียนแก่ฉัน”

จ้าว เหมิ่งชี ตะลึงแข็งค้างอีกครั้ง เธอไม่เข้าใจว่าทำไม เสี่ยวหลิว จึงสงบ เธอเกือบจะสูญเสียความคิดและรู้สึกจะบ้าตายอยู่แล้ว ผู้ชายคนนี้แกล้งทำหรือเขาไม่สนใจจริงๆ?

“ชีชี”

ในเวลานั้นก็มีรถสปอร์ตลัมโบกินี่ขับเข้ามาหยุดข้าง จ้าว เหมิ่งชี หน้าต่างถูกลดลงเผยให้เห็นใบหน้าของหนุ่มหล่อ มองแค่เพียงสายตาก็เพียงพอที่จะบอกได้ว่าชายหนุ่มคนนี้ได้รับการดูแลมาเป็นอย่างดี ผิวของเขาขาวมากเสื้อผ้าทั่วทั้งตัวของเขาเป็นก็ของแบรนด์ดังทั้งนั้น

เสี่ยวหลัว จำได้ในทันทีว่านี่คือ ฮัวไห่ เฟิง ลูกชายของประธานบริหาร ฮัวไห่กรุ๊ป เขาเป็นที่รู้จักกันในฐานะ คาสโนว่าตัวพ่อ เขาว่ากันว่าคนคนนี้เป็นคนเจ้าเล่ห์ ผู้หญิงที่สวยหลายคนใน ฮัวไห่กรุ๊ป ที่ยังไม่ได้แต่งงานล้วนแต่มีความสัมพันธ์กับเขาแทบทั้งนั้น

“ชีชี คุณมาทำอะไรที่นี่?”

ฮัว ไห่เฟิง ก้าวลงจากรถสปอร์ตและตระหนักถึงการมีอยู่ของ เสี่ยวหลัว เขาชี้ไปที่ เสี่ยวหลัว อย่างไม่เป็นมิตร "เขาคือใคร?"

จ้าว เหมิ่งชี ค่อนข้างรู้สึกอาย แต่เธอก็ไม่ได้ปกปิด เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่มีเสน่ห์:“เขาคือเสี่ยวหลัว”

“เสี่ยวหลัว ปรากฎว่าเขาเป็น”อดีตแฝน" ของ ชีชี

เขารู้ถึงการมีอยู่ของ เสี่ยวหลัว และก็ความสัมพันธ์ของพวกเขาระหว่าง จ้าว เหมิ่งชี กับ เสี่ยวหลัว

เขามองไปที่ เสี่ยวหลัว และดวงตาของเขาส่องประกายแห่งความเศร้าโศก:“เขาเป็นคนเก่าของเธอมันจะหยาบคายที่ฉันซึ่งเป็นคนปัจจุบันของเธอ ฉันยังไม่ได้ทักทายเขาเลยมันดูไม่สุภาพสำหรับฉันที่จะไม่เคารพเขา”

“ด้วยสถานะของคุณไม่จำเป็นต้องทักทายเขาหรอก ไปกันเถอะ.” จ้าว เหมิ่งชี กล่าว

ฮัว ไห่เฟิง นั้นตรงกันข้ามกับเสี่ยวหลัว ยิ่งเธอมองดู เสี่ยวหลัวเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งรู้สึกว่า เสี่ยวหลัว นั้นยิ่งไร้ความสามารถ เธอไม่ต้องการให้ ฮัว ไห่เฟิง เข้าไปไปคลุกคลีกับ เสี่ยวหลัว ซึ่งเป็นอดีตคนรักของเธอ

“ชีชี คุณไม่สามารถพูดแบบนั้นได้ ท้ายที่สุดเขาก็เป็นคนที่ดูแลคุณมาเป็นอย่างดีก่อนที่ฉันจะมาปรากฏตัว ฉันควรขอบคุณเขาสำหรับความมีน้ำใจของเขา รอฉันที่นี่เดี๋ยวฉันจะกลับมา”

ฮัว ไห่เฟิง พูดและเดินไปทาง เสี่ยวหลัว

เขาหันกลับไปมอง และยิ้มให้กับ จ้าว เหมิ่งชี รอยยิ้มของเขาแสดงให้เห็นอย่างภาคภูมิใจถึงชัยชนะที่เขาได้รับ

เขายื่นมือของเขาออกมาพร้อมกับใบหน้าที่ยิ้มอย่างร้ายกาจ:“สวัสดี ฉัน ฮัว ไห่เฟิง ยินดีที่ได้พบ!”

เสี่ยวหลัว พูดอย่างเย็นชาว่า “โทษที พอดีมือของฉันถือบางอย่างอย่และไม่สามารถที่จะยื่นมือออกไปได้”

ข่าวที่ได้ฟังจากข่าวลือนั้นไม่ดีเท่าที่พบเห็นได้ด้วยตัวเองจริงๆ ตอนนี้เขาพบ ฮัว ไห่เฟิง ตัวจริง เขาเชื่ออย่างสมบูรณ์แล้วว่าข่าวลือที่ไม่ดีเกี่ยวกับ ฮัว ไห่เฟิง นั้นเป็นความจริง แม้จากระยะไกลเขายังได้กลิ่นเหม็นของขยะที่อยู่ในร่างมนุษย์

“เสี่ยวหลัว มันนับเป็นเกียรติของคุณที่เขาจะจับมือกับคุณ ทำไมคุณถึงไม่รู้สึกถึงความมีเกียรติเช่นนั้น” จ้าว เหมิ่งชี รู้สึกโกรธมาก ต่อหน้าชายทั้งสองเธอพูดอย่างนี้เพื่อแสดงให้เห็นถึงจุดยืนที่มั่นคงของเธอที่อยู่ข้าง ฮัว ไห่เฟิง

เสี่ยวหลัว หันหน้าไปมอง จ้าง เหมิ่งชี ถึงตอนนี้เขาจะปล่อยวางแต่เขาก็ยังรู้สึกผิดหวัง สี่ปีแห่งความรู้สึกของเขากลับกลายเป็นเพียงแค่เหยื่อของ จ้าว เหมิ่งชี เขาก็รู้สึกว่าเขาตาบอดมากในสี่ปีที่ผ่านมานี้ เขารู้สึกว่าเธอไม่คู่ควรกับความรู้สึกที่เขาเสียไปสี่ปีนี้เลย

ในตอนนั้น ฮัว ไห่เฟิง ก็หัวเราะขึ้นมา:“พี่ชาย เสี่ยวหลัว มีผู้คนอยู่มากมาย แต่ฉันรู้สึกซาบซึ้งเป็นพิเศษกับคุณ คุณมีความสนใจที่จะมาเป็นผู้ช่วยของฉันหรือไม่ ฉันสามารถมั่นใจได้ว่าเงินเดือนประจำปีของคุณคือ$ 200,000 คุณพอใจไหม?”

แน่นอนว่าเขาไม่ได้เชิญ เสี่ยวหลัว มาเป็นผู้ช่วยของเขาด้วยความจริงใจ เขาใช้โอกาสนี้เพื่อหัวเราะเยาะ เสี่ยวหลัว โดยเจตนา หลังจากคว้าเค้กจากมือของคนอื่นและกินพวกมันต่อหน้าคนอื่นเขาจะรู้สึกอิ่มใจโดยเฉพาะ

"ไม่สนใจ!"

เสี่ยวหลัว ตอบกลับไปสามคำแล้วหันหน้าไปทางอื่น

นัยน์ตาของ ฮัว ไห่เฟิง หดแคบลงเล็กน้อยและข้างในนัยน์ตาของเขานั้นก็มีแสงเย็นยะเยียบแผ่ออกมา:“รอเดี๋ยวก่อนสิ” เขาเดินเข้ามาแล้วเข้าไปกระซิบที่ข้างหูของ เสี่ยวหลัว และเปิดเผยให้เห็นใบหน้าที่แท้จริงของเขาในแบบที่เย็นชาเขาพูดว่า "ผู้หญิงของแกเมื่อคืนนี้เอวและร่างกายของเธอดีมากฉันลองมากว่า 36 ท่าแล้ว ฉันไม่คิดว่าแกจะโง่เขลาขนาดนี้ แกคุยกับเธอเพราะความรักมาเป็นเวลากว่าสี่ปี และไม่เคยที่จะอึบเธอเลย ในท้ายที่สุดแกมันก็เป็นได้แค่ควายที่กินหญ้า ฮ่า ฮ่า ฮ่า…”

“ขอแสดงความยินดีกับคุณด้วยที่ได้สร้างผู้หญิงที่ดีอีกคนสำหรับสังคมนี้!” เสี่ยวหลัว ตอบโดยที่ไม่เสียใจเลยแม้แต่น้อยเขาแค่ตอบกลับด้วยรอยยิ้ม

การแสดงออกของ ฮั่ว ไห่เฟิง นั้นแข็งค้างในทันที เขาไม่เคยคาดหวังเลยว่าปฏิกิริยาของ เสี่ยวหลัวจะน่าเบื่อมากขนาดนี้ ซึ่งนั่นมันทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาในทันที

เขาเหยียดมือออกไปโอบไหล่ของ เสี่ยวหลัว แล้วขบฟันของเขาแน่น “แกไม่โกรธเลยเหรอ?”

คำพูดกวนๆ นี้ฟังดูเหมือนเสียงของคนโง่ที่ดังอยู่ในหูของ เสี่ยวหลัว เขาพูดล้อเลียนว่า“ตอนนี้เธอเป็นผู้หญิงของคุณแล้ว คุณบ้าพอที่จะบอกคนอื่นเกี่ยวกับชีวิตส่วนตัวของคุณงั้นหรือ? ถ้าคุณจะทำกิจกรรมกันอีกในคราวหน้า คุณอาจจะเชิญฉันโดยตรงไปเพื่อไปยังที่เกิดเหตุเพื่อดูกิจกรรมเข้าจังหวะ แน่นอนฉันจะปรบมือและเป็นกำลังใจให้คุณอยู่ในบริเวณใกล้เคียง”

ฮัว ไห่เฟิง ก็คิดขึ้นมาได้ว่าในขณะนี้ว่าเขาเป็นคนของ จ้าว เหมิ่งชี

เมื่อ เสี่ยวหลิว เอาชนะเขาในการต่อสู้ด้วยคำพูด ฮัว ไห่เฟิง ก็รู้สึกโกรธในทันทีจากความอับอาย เขาคว้าคอเสื้อของ เสี่ยวหลัว และตะโกนอย่างเย็นชา“ไอขยะแกพูดว่าอะไรนะ?”

เสี่ยวหลัว พูดอย่างเย็นชา:“ปล่อย!”

หนึ่งคำง่ายๆนี้ทำให้ หัวของ ฮัว ไฮ่เฟิง รู้สึกเหมือนตกอยู่ในถ้ำน้ำแข็งและสั่นสะท้านไปทั่วทั้งตัว โดยเฉพาะเมื่อเขาสบเข้ากับดวงตาของ เสี่ยวหลัว ผมของเขาก็ตั้งชี้ขึ้นในทันที

ทำไมดวงตาของชายคนนี้ถึงได้เย็นชาได้ขนาดนี้?

ในหัวใจของ ฮัว ไห่เฟิง รู้สึกโกรธมากจนเขาไม่อยากเชื่อว่า ดวงตาของ เสี่ยวหลัว จะทำให้เขารู้สึกหวาดกลัว

จิตใต้สำนึกของเขาบอกให้เขาปล่อยมืออกไป แต่ จ้าว เหมิ่งชี ยังยืนอยู่ข้างหลังเขามันน่าละอายที่จะทำเช่นนั้นและเขาก็ไม่เชื่อว่าด้วยว่ามี ฮัวไห่กรุ๊ป ที่อยู่ทางด้านหลังเขา เสี่ยวหลัว คงไม่กล้าทำอะไรกับเขาแน่ๆ

“ถ้าฉันไม่ปล่อยแล้วจะทำไม อะไรแกต้องการจะตีฉัน นายน้อยคนนี้จะให้ความกล้ากับแกสักสิบครั้งลองดูสิถ้าแกกล้า…”

เสียงของเขายังไม่ทันจะได้พูดจนจบ ก็ถูกทำให้หยุดลงอย่างฉับพลัน เพราะ เสี่ยวหลัว สะสะบัดมือเขาออกไปด้วยกำลังจากภายในและจากนั้นก็เตะเข้าที่หน้าอกของ ฮัว ไห่เฟิง อย่างไร้ความปราณี

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด