Chapter 21: พังประตู
ขณะไปห้องน้ำเขาได้ฆ่าไปห้าคน ใครเล่าจะเชื่อถ้ามีคนพูดแบบนี้ออกมา เสี่ยวเฟยจูและเติ้งไค มองตาเสี่ยวหลัว ถ้าเอาตัวของเสี่ยวหลัวไปบูชาได้พวกเขาคงจะนำไปบูชาแล้วตอนนี้
เสี่ยวหลัวไม่คิดเลยว่าเขาจะฆ่าไปได้ถึงห้าคน เขามั่นใจแม้ว่าจะมีแชมป์สามคนมาสู้กับRammus ของเขาก็ไม่กลัวเลย ดังนั้นเขาจึงได้ไปเดินเล่นในพื้นที่ของศัตรู
“ความสามารถได้การฟื้นฟู HP และควบรวมกับ passive ของ Tech-gun ได้สร้างสัตว์ประหลาดเช่นนี้ขึ้นมาจริงๆ เสี่ยวหลัวได้สร้างวิธีการออกของแบบใหม่สำหรับการเล่น Rammus ขึ้นมา”
เสี่ยวหลัวคิดว่าเขาประเมินทักษะการเล่นเกมที่ได้มาจากระบบต่ำเกินไป
ไป่ ไซ่เหวิน รู้สึกประหลาดใจจากนั้นเธอก็หันไปมองชูเยว่ "ราชินีชู ผู้ชายคนนี้ดีจริงๆ!"
“ดีเดออะไรกัน เขาเป็นเพียงคนหลอกลวงที่แสร้งเป็นหมูหลอกกินเสือ!” ชูเยว่ รู้สึกไม่ชอบใจอย่างมากที่เสี่ยวหลัวขโมยซีนของเธอไปทั้งหมด
“แต่เธอเพิ่งบอกให้เขาเข้าร่วมทีมของเราไม่ใช่เหรอ” ไป่หลิง ถาม
ชูเยว่ กล่าวตอบกลับในทันทีว่า: "แน่นอนฉันเกลียดเขา แต่ฉันก็เห็นด้วยกับความสามารถของเขา นอกจากนี้ฉันไม่กลับคำพูดของฉันในเรื่องที่ให้เขาเข้าทีมแน่นอน หลังจากทั้งหมดแปดม้ายากที่จะจับ"
“มันไม่ง่ายเลยที่จะจับม้า!”ไป่หลิง พูดแก้
"ฉันพูดว่าม้าแปดตัว เธอก็ควรที่จะเอาตามคำพูดของฉัน" ชูเยว่ พูดอย่างชอบธรรม
ไป่หลิง ส่ายหัวและไม่สามารถช่วยได้ ได้แต่ถอนหายใจ
......
เสี่ยวหลัวสามารถฆ่าแชมป์เปี้ยนศัตรูได้ห้าคนเมื่อเขาหายตัวไป มันทำให้พวกเขายอมจำนนใน 15 นาที เพื่อจบการแข่งขันที่น่าอับอายนี้
หลังจากสิ้นสุดฝ่ายตรงข้ามยาซุโอะได้ส่งข้อความมาถาม: "แรมมัสก่อนหน้านี้นาย AFK ไปงั้นเหรอ?"
เสี่ยวหลัวยิ้มอย่างไม่สนใจ เมื่อตอนที่เขาแลกเปลี่ยนทักษะการเล่นเกม ตอนนี้เขามีความเข้าใจที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับการเล่นเกมทั้งหมด และเมื่อใดก็ตามที่ฝ่ายตรงข้ามโจมตีเขาสามารถหลีกเลี่ยงได้ทันเวลา การเล่นเกมของเขาดีขึ้นอย่างมาก
หลังจากดูเวลามันก็เป็นเวลา 12.00 น.มันถึงเวลาของอาหารกลางวันแล้ว
"พี่หลิว พี่ลองเล่นอีกสักเกมสองเกมเถอะนะฉันต้องการเห็นพี่ทำลายศัตรูอีกครั้ง" เสี่ยวเฟยจูอ้อนวอน
"ใช่ ฉันยังรู้สึกตื่นเต้นอยู่เลย ลองเล่นอีกสักเกมสิ!" เติ้งไค ก็รู้สึกไม่ยังไม่หน่ำใจเช่นกันโดยเฉพาะอย่างยิ่งเขาต้องการเห็นการฆ่าของเสี่ยวหลัว
เสี่ยวหลัวส่ายหัว: "กินก่อน ฉันรู้สึกหิวนิดหน่อย"
"เอาล่ะพี่หลัวไหนๆพี่ก็จะไปซื้อข้าวแล้ว ผมฝากซื้อข้าวกลางวันมาให้ด้วยนะขอบคุณมากพี่หลัว ... " จูเสี่ยวเฟยรีบหยิบบัตรนักเรียนออกจากลิ้นชักแล้ววางลงบนมือของเสี่ยวหลัว
เติ้งไค ดูถูกเหยียดหยาม "ช่างเป็นหมูที่ขี้เกียจจริงๆ!" เติ้งไคก็แอบเอาบัตรนักเรียนของเขาไปวางไว้ที่มือของเสี่ยวหลัวและพูดอย่างโผงผางว่า "พี่หลัวซื้ออาหารกลางวันมาให้ผมด้วยและโอ้เพิ่มไส้กรอกอีกชิ้นด้วยนะ”
“......”
เสี่ยวหลัวพูดไม่ออก แต่มันทำให้เขานึกถึงชีวิตในวิทยาลัยที่ผ่านมาของเขาและเรื่องนี้ก็เหมือนกับเรื่องที่ผ่านมาในอดีต
การถืออาหารเพิ่มขึ้นมาอีกสองสามอย่างมันคงไม่ทำให้แขนขาของเขาขาด ที่สำคัญที่สุดก็คือเขาไม่ใช่ว่าไม่ชอบผู้ชายสองคนนี้ดังนั้นเขาจึงตอบตกลง
"ปัง~"
แต่ในเวลานั้นประตูเหล็กสีเขียวของหอพักถูกเตะด้วยเท้าของกลุ่มผู้ชายที่ 'แข็งแกร่ง' จนเปิดออกและกำลังบุกเข้ามา
"นายเป็นใครนายกำลังทำอะไร ทำไมถึงบุกเข้ามาในหอพักของเรา" เสี่ยวเฟยจูลุกขึ้นยืนอย่างตื่นตระหนก
ผู้ที่ยืนอยู่ข้างหน้าคือผู้ชายที่มีสิวอยู่บนใบหน้าของเขา เขาจ้องมองไปที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ของ เสี่ยวเฟยจู ที่กำลังแสดงอินเตอร์เฟสของเกม League of Legends และยิ้มเยาะเย้ย: "เทพเจ้าหลัว จูเสี่ยวเฟย และ เติ้งไค มันเป็นพวกแกจริงๆ!"
"พวกนายเป็นใครกัน" จูเสี่ยวเฟยรู้สึกว่าสถานการณ์ไม่ค่อยดี เขาตะโกนขึ้นมาเสียงดัง
"ไอลูกหมาพวกแกมาบีบบังคับพวกข้าเองนะ ข้าบอกแล้วไงว่าถ้าพวกแกกล้าบอกที่อยู่ของแกมาข้าก็กล้าที่จะมาฆ่าแก!" ผู้ชายที่ถูกปกคลุมไปด้วยสิวบนใบหน้า เขาแผ่รังสีที่เป็นอันตรายออกมา เขาเตะข้าวของของเสี่ยวเฟยจูที่วางอยู่กับพื้นกระจัดกระจายไปทั่ว
"กลายเป็นว่าคือพวกแก ... "
ใบหน้าของจูเสี่ยวเฟยและของเติ้งไคก็เปลี่ยนไปอย่างมาก พวกเขาไม่ได้คาดคิดว่าฝ่ายตรงข้ามจะมาหาพวกเขาจริงๆ พวกมันมีคนอยู่หกคน พวกมันตัวสูงและมีกล้ามเนื้อถ้าพวกเราต่อสู้กัน พวกเราก็ไม่มีโอกาสชนะอย่างแน่นอน
"มันไม่ใช่พวกเรา"
ผู้ชายที่มีสิวก้าวไปข้างหน้าและตบหน้าเสี่ยวเฟยจู ด้วยมือของเขา เขาหัวเราะอย่างหยิ่งผยอง "ไอลูกหมา แกเก่งนักไม่ใช่เหรอในเกม ตอนนี้ฉันจะให้โอกาสแกได้คุกเข่าและขอโทษฉัน ไม่อย่างนั้นฉันจะอัดแกซะจนแม่ของแกจำหน้าไม่ได้เลยว่าเป็นแกในวันนี้ "
"ขอโทษมา ขอโทษเร็วๆสิ!"
อีกห้าคนตะโกนอย่างดุเดือดและหยิบของที่อยู่ในห้องนอน "ปัง ปัง" พวกเขาหยิบหนังสือของเสี่ยวเฟยจู ขึ้นมาแล้วก็โยนทิ้งลงพื้น พวกเขาเป็นเหมือนกลุ่มอันธพาลที่หยิ่งผยองอย่างน่าเหลือเชื่อ
ภายใต้ความหยาบคายและการคุกคามของพวกเขา เติ้งไคตัวสั่นด้วยความกลัวและคิดถึงมันอยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุดเขาก็ก้มศีรษะลงและขอโทษด้วยเสียงเบาๆ : "ฉันขอโทษ!"
เขาเป็นคนที่รู้ว่าเมื่อใดที่ควรจะต้องถอย สิ่งสำคัญที่สุดคือเขากลัวการต่อยตี
จูเสี่ยวเฟยกัดฟันของเขา เขาอยากที่จะต่อสู้ แต่อีกฝ่ายมีจำนวนมากเกินไปและทางด้านของตัวเองนั้นมีอยู่แค่สามคน แน่นอนว่าการต่อสู้ของพวกเขาจะแพ้เนื่องจากเติ้งไคเป็นคนที่ไม่สู้คน ในที่สุดเขาก็ก้มหัวลงแล้วพูดว่า "ขอโทษ"
“แกคิดว่าพูดขอโทษแค่นี้แล้วมันจะจบเหรอ ก่อนหน้านี้ฉันพูดว่ายังไง อย่าให้ฉันต้องพูดซ้ำคุกเข่าลง!”
ผู้ชายที่มีสิวใช้ความรุนแรงมากขึ้นเขาจับคีย์บอร์ดของคอมพิวเตอร์ของเสี่ยวเฟยจูแล้วก็โยนมันลงไปที่พื้น แป้นพิมพ์พลาสติกแตกกระจัดกระจายไปทั่วพื้น
"แกได้ยินที่ฉันพูดไหมฉันบอกให้คุกเข่าลง!"
คนอื่นๆ ก็ทุบทำลายข้าวของและหนังสือทำให้ห้อง 712 เละเทะไปหมด
"แก ... "
ความโกรธของจูเสี่ยวเฟยพุ่งสูงขึ้น ที่ผู้ชายคนนี้ขว้างข้าวของของพวกเขาลงบนพื้นทำให้มันเละเทะไปหมดตอนนี้เขารู้สึกโกรธอย่างถึงที่สุด
เสี่ยวหลัวเห็นแบบนี้เขาจึงก้าวไปข้างหน้าอย่างช้าๆ แล้วพูดว่า "พวกนายต่างก็เป็นนักศึกษาของหัวเย่ และพวกเราก็กำลังศึกษาอยู่ในมหาลัยเดียวกัน พวกนายจำเป็นที่จะต้องทำกันถึงขนาดนี้เลยเหรอ?"
ผู้ชายที่มีสิวหันไปหาเสี่ยวหลัว ดวงตาของเขาหดแคบลงและพูดอย่างเยือกเย็นว่า "ทำไมฉันถึงรู้สึกโกรธเมื่อฉันได้ยินเสียงนี้? ด้วยที่เสี่ยวหลัวกำลังเดินเข้ามาเขาจ้องไปที่เสี่ยวหลัวอย่างเป็นอันตราย "แกอาจเก่งในเกม แต่ในความเป็นจริงแล้วแกไม่มีอะไรเลยนอกจากความอ่อนแอ!"
"ฉันไม่มีอะไรจะพูดกับพวกแก ฉันไม่สามารถขจัดความเกลียดชังนี้ได้ถ้าหากไม่อัดพวกแกให้หน่ำใจ" ผู้ชายที่หน้าตาดีเดินขึ้นมาและมองตาเสี่ยวหลัวด้วยความเกลียดชังเป็นพิเศษ
เสี่ยวหลัวยิ้ม: "นายคือNasus งั้นเหรอ?"
ผู้ชายคนนั้นหัวเราะเยาะ "ถ้าใช่ฉัน แล้วจะทำไม"
“เพียงแค่พวกนายแพ้ในเกมพวกนายก็สูญเสียหลักการของการเป็นมนุษย์ไปแล้วหรือไง?” เสี่ยวหลัวหัวเราะ
ผู้ชายที่มีสิวหัวเราะออกมาราวกับว่าเขาเพิ่งจะได้ยินเรื่องตลกที่สุด: "สุนัขตัวนี้กำลังผลักเรื่องต่างๆออกไปจากตัว และยังกล้าที่จะแสร้งทำเป็นสูงส่งอีก"
ผู้ชายที่หน้าตาดีเหลากระซิบบอกเขาว่า " หยู่เจ๋อ(Yuze) หยุดพูดเรื่องไร้สาระกับพวกมันได้แล้ว"
ผู้ชายที่มีสิวผงกหัวของเขาดวงตาของเขาแสดงออกถึงความโหดเหี้ยม
คนอื่นๆ ที่เห็นใบหน้าของเขาจมลงและสิ่งที่ซ่อนอยู่ใต้เสื้อผ้าของพวกเขา, แท่งเหล็กก็ถูกเอาออกมา บรรยากาศก็กลายเป็นตึงเครียด
จูเสี่ยวเฟยรู้สึกตกใจจริงๆ ในตอนแรกเขาไม่คิดเลยว่าคนกลุ่มนี้จะกล้าได้กล้าเสียขนาดนี้ พวกเขากล้าที่จะถือแท่งเหล็กเข้ามา
เติ้งไค ที่มีความกล้าน้อยกว่าขาของเขาสั่นด้วยความกลัว
"รอเดี๋ยว!" เสี่ยวหลัวพูดขึ้นมา
“โทษทีมันสายเกินไปแล้วที่จะขอโทษ ฉันอยากจะทำให้พวกแกเละเป็นโจ๊กหมู จนแทบจะอดใจไม่ไหวแล้ว!” ผู้ชายที่มีสิวเย้ยหยันเขาไม่ตั้งใจที่จะหยุด
เสี่ยวหลัวยิ้มมุมปาก : "นายเข้าใจผิดแล้ว ฉันหมายถึงพื้นที่ที่นี่เล็กเกินไป พวกเราขึ้นไปบนด่านฟ้าแทนดีกว่าไหม"
ทั้งหกคนได้ยินคำพูดของเขาก็หัวเราะออกมาเสียงดังและมองไปที่เสี่ยวหลัวราวกับว่าเขาเป็นตัวตลก
“ในฐานะที่พวกเราเรียนมหาลัยเดียวกัน อย่ามาพูดว่าฉันใจร้ายเกินไป ที่ฉันทำตามความต้องการสุนัขๆอย่างแก” ผู้ผู้ชายที่มีสิวชี้ไปที่เสี่ยวหลัวด้วยความรังเกียจ