ตอนที่แล้วChapter 12 มหาวิทยาลัย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 14: ราชินีชูเยว่

Chapter 13:เพื่อนร่วมห้องทั้งสองคน


มันทำให้เขารู้สึกประหลาดใจและรู้สึกหวาดหวั่นอยู่นิดหน่อย เสี่ยวหลัวสงบลงในไม่ช้าและแนะนำตัวเองอย่างเรียบง่าย: "สวัสดีทุกคน ชื่อของผมคือเสี่ยวหลัว ถึงผมจะมาเข้าชั้นเรียนกลางเทอมแต่ผมก็ต้องศึกษาร่วมกันกับพวกคุณในอนาคตได้โปรดดูแลผมด้วย!"

จากนั้นเขาก็โค้งคำนับอย่างสุภาพและอ่อนน้อม

อย่างไรก็ตามคำพูดของเขาไม่ได้รับการตอบกลับใดๆ ผู้หญิงทุกคนในชั้นเรียนมองเขาราวกับว่าพวกเธอกำลังชื่นชมในศิลปวัตถุชิ้นหนึ่ง เมื่อพูดไปว่าความผอมเป็นสิ่งสำคัญที่สุด แต่ทันทีที่เสี่ยวหลัวเพื่อนร่วมชั้นหน้าตาดีเข้ามาในห้องเรียน นักศึกษาชั้นปีที่สองในเอกอังกฤษก็มองตรงเข้าไปในดวงตาของเขา

เสี่ยวหลัวรู้สึกอักอ่วนใจในเวลานี้ แม้ว่าเขาจะเคยถูกจ้องมองในในการประชุมพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มี คน 20 หรือ 30 คนเข้าร่วมในการประชุมใหญ่ แต่ตอนนี้มีผู้หญิง 40 หรือ 50 คนกำลังมองตรงมาที่เขา ราวกับว่าพวกเธอกำลังสำรวจทุกซอกทุกมุมของเขามันทำให้เขาสงบสติอารมณ์ไม่ได้

"อะแฮ่ม ... พวกเธอทุกคนกำลังทำอะไรอยู่? ที่ปรึกษา ฉิน หนานหยู ไอแห้งเพื่อเตือนพวกเธอ

ในเวลานี้ผู้หญิงทุกคนในชั้นเรียนตอบกลับและปรบมือให้การต้อนรับอย่างอบอุ่นกับเสี่ยวหลัว บางคนก็ตะโกนวี้ดว้ายที่มีเพื่อนร่วมชั้นที่หล่อเหลาเข้ามา และบางคนก็พูดถึงโอบามาอย่างกระตือรือร้นและเอาใจใส่ อารมณ์ของพวกเธอที่อยู่ในชั้นเรียนพุ่งสูงขึ้น (อิ้งมันเขียนว่าโอบามาจริงๆนะผมก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร)

"ยินดีต้อนรับสุดหล่อเสี่ยว ชื่อของฉันคืออันหวน ฉันยังไม่มีแฟนคุณให้หมายเลขโทรศัพท์ของคุณกับฉันหน่อยได้ไหม" สาวน้อยที่น่ารักก้าวเข้ามาบนแท่นพร้อมกับหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาและขอหมายเลขโทรศัพท์ของเสี่ยวหลัวโดยตรง

ทั้งชั้นโห่ร้องทันที ...

"อันหวนแม้แต่คนสำคัญจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีนก็ไม่สามารถทำให้เธอพึงพอใจได้หรือไง เธอยังจะมาหลอกล่อเสี่ยวหลัวที่หล่อเหลาของเราไปอีก"

"ถูกต้อง เธอจะเหยียบเรือสองแคมไม่ได้ ไม่อย่างนั้น เราจะต่อสู้กับเธอ"

“ในที่สุดเราก็มีผู้ชายอีกคนหนึ่งในชั้นเรียนของเรา เธอสามารถถ่ายรูปเขาได้ แต่มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับเธอที่จะไปเป็นแฟนของเขา ลงจากแท่นมาเดี๋ยวนี้เลย”

ผู้หญิงทั้งชั้นราวกับเข้าร่วมในสงครามครูเสด

" ไม่ลง! พวกเธอก็แค่อิจฉาฉัน! "

หญิงสาวที่ชื่ออันหวนไม่ฟัง ไม่เพียงแต่ไม่ลง แต่เธอกลับเดินเข้าไปหาเสี่ยวหลัวแทน เธอพูดกับเขาด้วยวิธีแปลกๆ "เสี่ยวสุดหล่อ ไม่ต้องไปฟังพวกนั้น คุณควรระวังพวกเธอเอาไว้เพราะพวกเธอนั้นชอบกินผู้ชายจนไม่เหลือแม้แต่กระดูก"

เสี่ยวหลัวเค้นรอยยิ้มออกมา รู้สึกเหมือนว่าเขาไม่ได้เข้ามาเรียนวิชาภาษาอังกฤษ แต่กลับตกอยู่ในรังของหมาป่าและพวกเธอทั้งหมดก็เป็นหมาป่าตัวเมีย

ก่อนที่เขาจะพูดอะไร ก็มีผู้หญิงกลุ่มใหญ่วิ่งมาหาเขาและขอหมายเลขโทรศัพท์ WeChat และ QQ ของเขาพวกเธอรู้สึกตื่นเต้นมากและดูราวกับได้พบกับซุปเปอร์สตาร์

แต่มันก็ยังมีคนที่ไม่แยแสอยู่เช่นกัน เช่นผู้หญิงนั่งอยู่ทางซ้ายแถวหน้า

หญิงสาวมีผมสั้นที่เรียบร้อยยาวเท่าติ่งหู ผมของเธอปิดบังใบหน้าที่มีเสน่ห์ของเธอบางส่วน ซึ่งกำลังแดงก่ำด้วยความประหม่า ใบหน้าที่ละเอียดอ่อนและบริสุทธิ์ของเธอดูฉลาดและน่าดึงดูด

ด้วยการแต่งกายด้วยชุดเดรสที่ไม่มีสายรัดคาดไว้ตรงเอว รอยพับที่เอวมันเป็นรอยพับตามธรรมชาติ ลายลูกไม้ยืดไปตามเอวที่สง่างามของเธอไปจนถึงกระโปรงของเธอ กระโปรงนั้นแต่งแต้มไปด้วยแสงสีทองนิลขนาดเล็ก ไม่ได้พูดเกินจริงเธอเป็นคนที่ไม่ผอมจนเกินไป และมีแก้มที่มีสีชมพูอ่อน

เธอมีหน้าที่ใสกระจ่างราวกับดอกบัวบริสุทธิ์และสง่างาม เเละด้วยร้อยยิ้มของเธอมันก็ช่วยเพิ่มความขี้เล่นให้กับเธอ

"ไป่หลิง ตรวจสอบข้อมูลของเขาทีฉันสงสัยว่าเขาถูกพ่อของฉันส่งมา" ดวงตาของเธอจับจ้องไปที่เสี่ยวหลัวผู้ซึ่งรายล้อมไปด้วยผู้คน แต่คำพูดของเธอพูดกับผู้หญิงที่นั่งอยู่ถัดจากเธอ

หญิงสาวที่ชื่อ ไป่หลิง ได้ใส่รหัสลงในคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กของเธอทันทีและบุกระบบการจัดการนักเรียนของ หัวเย่ เธอเรียกข้อมูลของเสี่ยวหลัวขึ้นมาดูและยิ้ม: "ชูเยว่ เธอเดาผิดในครั้งนี้ผู้ชายคนนี้ไม่ได้ส่งมาจากพ่อของเธอเขาเป็นนักศึกษาของวิทยาลัยหัวเย่ของเราจริงๆ เขาได้เข้าร่วมกองทัพไปเมื่อสองปีก่อนตอนที่เขาเรียนที่นี่และเขาก็กลับมาศึกษาต่อในวิทยาลัยหลังจากรับราชการทหารมาสองปีนั่นคือสาเหตุที่เขาได้เข้ามาเรียน

"เธอแน่ใจใช่ไหม?" คิ้วของของชูเยว่ขมวด

“มันเขียนไว้อย่างชัดเจนและยังบันทึกรายละเอียดผลการเรียนในหลักสูตรต่างๆ ในปีแรกของเขาแม้แต่บันทึกการได้รับทุนการศึกษาระดับโรงเรียนของเขาเอาไว้ด้วย” ไป่หลิง หันแล็ปท็อปเพื่อให้ ชูเยว่ เห็นได้ชัดเจน

ชูเยว่ มองอย่างระมัดระวังอีกครั้งเธอก็เงียบไปและเธอก็เห็นด้วยกับไป่หลิง

“ฉันไม่เคยคิดเลยว่า จะมีเพื่อนร่วมชั้นรูปหล่อมาปรากฏขึ้นกลางเทอมแบบนี้ มันมีเรื่องที่น่าสนใจเพิ่มมากขึ้นหลังเลิกเรียนซะแล้วสิ”

ไป่หลิง ยินดีต้อนรับสำหรับการมาถึงของเสี่ยวหลัว พวกเธอรู้สึกว่ามันมีผู้ชายน้อยเกินไปจริงๆ ก่อนหน้านี้มีเพียงสองคนเท่านั้นและพวกเขาต่างก็เป็นแตงโมที่คดเคี้ยวและพุทราที่แตก(หน้าตาไม่ค่อยดี) เมื่อนึกถึงชายหนุ่มรูปงามที่อยู่ในห้องเรียนและอยู่ด้วยกันในอนาคตเธอก็อดไม่ได้ที่จะมี ความตื่นเต้นอยู่เล็กน้อย

“หล่ออะไรกัน? นั่นไม่ใช่ว่าเขาก็มีสองตา สองหู จมูกข้างหนึ่ง ปากอีกข้างหนึ่งและเสื้อผ้าที่เรียบง่าย แค่นี้เธอก็คิดว่าเขาเป็นคนหล่อแล้วงั้นเหรอ” ชูเยว่ พูดอย่างรุนแรง เธอเกลียดพวกที่เป็นที่ดึงดูดราวกับถูกฝูงผึ้งตอมแบบนี้ เสี่ยวหลัวไม่เป็นไปตามมาตรฐานของเธอ ดังนั้นถึงแม้ว่าเขาจึงถูกล้อมรอบไปด้วยหญิงสาว แต่เธอก็ไม่แคร์

ไป่หลิง ไม่ได้พูดอะไร เธอไม่สามารถพูดได้ว่าเสี่ยวหลัวนั้นหล่อเหลามากกับเพื่อนสนิทของเธอ

"เอาล่ะกลับไปที่นั่งของพวกเธอได้แล้ว!"

ถ้าที่ปรึกษา ฉิน หนานหยู ไม่พูด พวกหญิงสาวเอกอังกฤษก็คงไม่กลับไปที่ที่นั่งของพวกเธอ แต่พวกเธอก็คงพูดคุยและหัวเราะ พวกเธอหยิบโทรศัพท์มือถือและเปิด WeChat ของ เสี่ยวหลัว และ QQ ของเขาด้วยความอยากรู้อยากเห็นและพูดคุยกัน ว่ารูปถ่ายของเสี่ยวหลัวรูปไหนเป็นรูปที่หล่อที่สุด

เสี่ยวหลัวรู้สึกอึดอัดใจมากในเวลานี้ ผู้หญิงเหล่านี้ต้องการให้เขา ให้ข้อมูลการติดต่อของเขา กับพวกเธอ และตอนนี้เขาเห็นได้ชัดเลยว่ามันมีคนแตะต้องของส่วนตัวของเขา มันเป็นสิ่งที่เขายังไม่ได้ใช้เพื่อสืบทอดวงศ์ตระกูลของเขาเลย

คนเหล่านี้เป็นกลุ่มของสาววิทยาลัยจริงๆงั้นเหรอ?

ในหัวใจของเสี่ยวหลัวเกิดคำถามต่อพวกผู้หญิงเหล่านี้

"จูเสี่ยวเฟย,เติ้งไค!"

หลังจาก ฉิน หนานหยู เรียกชื่อทั้งสองผู้ชายสองคนในชั้นเรียนก็วิ่งมาจากแถวหลังสุด

หนึ่งในนั้นมีไขมันมากจนหาคอเขาไม่ได้ เขาสูงน้อยกว่า 1.7 เมตร แต่เขาหนักกว่า 170 ปอนด์อย่างแน่นอน เขาเป็นเหมือนลูกชิ้นขนาดใหญ่ อีกคนเป็นเหมือนเสาไม้ไผ่เขาผอมแห้งมีแต่กระดูก เขาสูงกว่า 1.75 เมตร แต่หนักไม่ถึง 100 ปอนด์

คนอ้วนและคนผอมสูงคนสองคน เมื่อนำมาเปรียบกันมันแตกต่างกันมาก อดไม่ได้ที่จะอยากจะหัวเราะ!

"เสี่ยวหลัวจะแชร์หอพักกับพวกนายในอนาคต พวกนายสามารถพาเสี่ยวหลัวไปทำความคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมของหอพักได้" ฉิน หนานหยู พูดกับชายทั้งสองคน

"เสี่ยวหลัว ให้พวกเขาทั้งสองคนเป็นคนแนะนำ และเธอก็ผ่อนคลายเข้าไว้ไม่ต้องกังวล"

จูเสี่ยวเฟยตบหน้าอกของเขาแล้วสัญญา เขาหันไปหาเติ้งไคและพูดว่า "ไคชิ ช่วยฉันยกหนังสือที และฉันจะหิ้วกระเป๋าเดินทางของพี่ชายเสี่ยวหลัวเอง"

"ไม่เป็นไรฉันถือกระเป๋าไปเองได้" เสี่ยวหลัว เกรงอกเกรงใจ

“ไม่เป็นไรเสี่ยวจูคนนี้แข็งแรงมาก และมันก็ไม่มีอะไรให้เขาทำนอกจากถือกระเป๋าเดินทาง” เติ้งไคกล่าว

อย่างไรก็ตาม จูเสี่ยวเฟย ก็ถือกระเป๋าเดินทางแล้วบอกเสี่ยวหลัวว่า“พี่ชายเสี่ยวหลัวอย่าเกรงใจกับพวกเราเลย พวกเราจะต้องเป็นเพื่อนร่วมห้องกันในอนาคตอย่าทำตัวสุภาพเกินไป”

เสี่ยวหลัว กล่าวลา ฉิน หนานหยู และผู้หญิงทุกคน เขาเดินตามจูเสี่ยวเฟยและเติ้งไคออกไปอย่างไม่เต็มใจนัก แต่ก่อนที่เขาจะเดินออกไปดวงตาของเขาก็กวาดมองไปทั่วชั้นเรียนเป็นพิเศษ ในไม่ช้าเขาก็พบว่า ชูเยว่ นั้นนั่งอยู่ในแถวแรกและกำลังกินอมยิ้มอยู่

"ท่านอาจารย์ชู ดูเหมือนว่าเสี่ยวหลัวคนนี้จะมองมาที่ท่านอีกครั้งก่อนที่เขาจะจากไปดูเหมือนว่าดวงตาของเขาจะดีมาก!" ไป่หลิง กล่าวอย่างติดตลก

"มีอะไรดีกัน!" ชูเยว่ รู้สึกไม่ชอบใจ

ไป่หลิง หัวเราะเบาๆ และพูดอย่างมีความหมายว่า "ดวงตาของเขายังดีอยู่ไม่ว่า เธอจะคิดยังไงเขาก็ไม่ได้มองใครเลย นอกจากราชินีชูของเรา"

"ไป่หลิง เธอรู้สึกสนุกมากหรือไง เชื่อหรือไม่ว่าฉันจะทำให้เธอร้องไห้ขอความเมตตาจากฉันในคืนนี้" ชูเยว่ หัวเราะอย่างเยือกเย็นเหมือนปีศาจสาวตัวเล็กๆ

"ยกโทษให้ข้าด้วยท่านราชินี!"

เมื่อระลึกถึงภาพของการถูกจู่โจมโดยชูเยว่ ไป่หลิง ก็รู้สึกหนาวสั่นขึ้นมาและขอความเมตตาในทันที

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด