สุดยอดนักสืบในโลกแห่งจินตนาการ (SDFW)-ตอนที่ 15
ตอนที่ 15 การไขคดีและการอัพเลเวลแรก
ขณะที่อุ่นอาหารกลางวันในไมโครเวฟในเลานจ์ ลุคยังชงกาแฟจากเครื่องชงกาแฟด้วยตัวเอง เขาอ่านเอกสารในแฟ้มพร้อมกับที่เขากินไปพร้อมกัน
หลังจากทานอาหารเที่ยงเสร็จเขาก็มองออกไปข้างนอกและตรวจสอบเวลาและพบว่าตอนนี้เป็นเวลาบ่ายสี่โมงครึ่งแล้ว
โรเบิร์ตคงไม่ลืมกินอาหารกลางวันเพราะงานใช่ไหม? เขากับเซลิน่าที่นั่น หวังว่าจะไม่ได้ลืม
คงเป็นไปไม่ได้ที่ทั้งคู่จะขยันจนลืมอาหารมื้อเที่ยงใช่ไหม?
ในขณะที่ลุคกำลังครุ่นคิดกับตัวเอง โรเบิร์ตและเซลิน่าก็กลับมา ข้างหลังของโรเบิร์ตเซลิน่าเข้ามาพร้อมกับเจสสิก้า
และข้างๆ ของหญิงสาวคือพ่อแม่ของเธอ เช่นเดียวกับผู้ชายที่แต่งตัวใส่สูทดูเป็นทางการ นอกจากนั้นชายคนนี้ถือกระเป๋าเอกสารสีดำมาด้วย
เมื่อลุคเห็นเช่นนั้นเขาก็ขมวดคิ้ว
ผู้ชายที่เดินตามหลังทุกคนพร้อมกับถือกระเป๋าเอกสารดูเหมือนว่าเขาจะเป็นทนายความ ลุคสามารถเดาตัวตนของเขาได้โดยไม่ต้องมีใครมาบอก
ดูเหมือนว่าแม้โรเบิร์ตจะพาเจสสิก้ามาที่นี่มาเฉยๆ ไม่ได้ออกหมายจับอะไร แต่พ่อแม่ของเธอก็ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องพวกนี้เช่นกัน ฉะนั้นพวกเขาจึงได้พาทนายความมาด้วยกันกับพวกเขา
ลุครำพึงกับตัวเองว่าครอบครัวนี้ร่ำรวยแน่นอน เขาใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดปากและมืออย่างรวดเร็วก่อนจะโยนลงถังขยะแล้วก้าวไปข้างหน้าตามทิศทางของผู้ที่มาติดต่อในสำนักงาน
เขานั่งนิ่ง พร้อมกับหันไปมองที่โรเบิร์ต แต่เขาไม่ได้ส่งสัญญาณว่าจะให้เขาทำอะไร
โอเค ดูเหมือนว่าโรเบิร์ตจะตั้งใจทำทุกอย่างตามขั้นตอน
จากนั้นเจสสิก้าถูกนำตัวเข้าห้องสอบปากคำขณะที่พ่อแม่ของเธอรออยู่ข้างนอก ตามปกติแล้วทนายความก็เข้าไปข้างในกับเธอเช่นกันซึ่งครั้งนี้ก็ไม่มีอะไรผิดปกติ
ภายในห้องสอบปากคำเซลิน่าถามคำถาม
เซลิน่าพูดถาม “เจสสิก้าคุณอยู่ที่ไหนในช่วงเวลาระหว่าง 18.00 น. ถึง เที่ยงคืนเมื่อวานนี้”
เจสสิก้าตอบว่า“ฉันอยู่ที่บ้านกับพ่อและแม่ของฉัน”
“บิงโก!” ลุคคิดกับตัวเอง
ทนายไม่ได้ขัดขวางไม่ให้เจสสิก้าตอบ ท้ายที่สุดแล้วนั่นเป็นคำถามธรรมดามากๆ คำถามหนึ่งที่ไม่ได้ละเมิดความเป็นส่วนตัวของลูกความของเขา
โดยทั่วไปหากผู้ต้องสงสัยปฏิเสธที่จะพูดอะไรนั่นจะเป็นก็ต่อเมื่อพวกเขารู้ว่าพวกเขาไม่มีความหวังที่จะหลบหนี ยิ่งพูดมากก็ยิ่งเปิดเผยพิรุจ แค่ทว่าในสถานการณ์เช่นนี้ผู้ต้องสงสัยมักจะปฏิเสธที่จะตอบคำถามที่เจ้าหน้าที่ถามตรงๆ เพื่อที่จะไม่เปิดเผยเบาะแสเพิ่มเติม
และอีกอย่างในขณะนี้เจสสิก้ายังคงไม่ถูกจับกุมหรือโดนออกหมายจับ ดังนั้นทนายความจึงไม่ห้ามให้เธอปฏิเสธที่จะตอบคำถาม
แต่ลุคเชื่อว่าเจสสิก้าคงจะยังไม่ได้บอกพ่อแม่ของเธอว่าคืนนั้นเธอมาที่งานปาร์ตี้ด้วย มิฉะนั้นทนายความคงจะสอนวิธีโกหกให้เธอและถ้าเป็นเช่นนั้นคำตอบคงจะแตกต่างไปจากที่เธอตอบอย่างสิ้นเชิง
กระบวนการสอบสวนดำเนินไปอย่างราบรื่นและ อยู่ในระดับที่ไม่ได้ตึงเครียดอะไร เซลิน่าเองก็ไม่ได้ถามคำถามที่ลงลึกมานัก ส่วนใหญ่เธอถามเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเจสสิก้ากับผู้เสียตายและผู้ต้องสงสัยคนอื่น ๆ เท่านั้นและถามเธอว่าเธอสังเกตเห็นสิ่งผิดปกติหรือไม่ก่อนหน้านี้เป็นต้น
ภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงการสอบปากคำก็สิ้นสุดลง จากนั้นโรเบิร์ตได้ส่งเจสสิก้าและครอบครัวของเธอออกไปพร้อมกับทนายความของพวกเขา
เมื่อลุคเห็นพวกเขาขับรถออกไปเขาก็พูดเสียงเบาว่า“เราจะปล่อยไปอย่างนี้หรอ?”
โรเบิร์ตตอบว่า“แน่นอน อย่างน้อยที่สุดเรามีบันทึกการสอบปากคำในวันนี้ ซึ่งจะเป็นหลักฐานที่ชัดเจนในการสนับสนุนการสืบสวนสอบสวนคดีของเรา”
นั่นเป็นเรื่องจริง พวกเขาต้องการเพียงเพื่อหาข้อพิสูจน์ว่าเจสสิก้ามาร่วมงานปาร์ตี้จริงๆ หรือเปล่า การทำเช่นนั้นแม้ว่าพวกเขาจะพิสูจน์ไม่ได้ว่าเธอมีความผิด แต่พวกเขาก็สามารถพอจพทราบได้ว่าเธอกำลังโกหก
หลังจากที่คุยกับโรเบิร์ตไปซักพัก ลุคไม่ได้ถูกส่งไปทำงานในคดีนี้ แต่เขาถูกทิ้งให้อยู่ที่สำนักงานเพื่อทำงานอยู่เวรและจัดการกับคดีและปัญหาเล็กน้อยของเมือง
ซึ่งลุคเองไม่ค่อยพอใจเท่าไรนัก
หลังจากจัดการคดีทั่วไป เขาก็ได้คลี่คลายคดีที่เกี่ยวข้องกับการทะเลาะวิวาท เขาได้รับค่าประสบการณ์และคะแนนเครดิตสามแต้ม
ต่อมาเขาช่วยคดีสุนัขที่หายไปและไปตามหาสุนัขแล้วส่งคืนสุนัขให้เจ้านาย เขาได้รับค่าประสบการณ์และคะแนนเครดิตสองแต้ม
หลังจากช่วยยายคนหนึ่งกลับบ้านเขาได้รับค่าประสบการณ์และคะแนนเครดิตสองแต้ม
หลังจากจัดการกับวัยรุ่นที่คลั่งไคล้ดนตรีร็อคและเปิดดนตรีรบกวนชาวบ้าน เขาได้รับค่าประสบการณ์และคะแนนเครดิตสองแต้ม
หลังจากออกค่าปรับให้กับรถที่จอดอย่างผิดกฎหมายเขาได้รับค่าประสบการณ์และคะแนนเครดิตสองแต้ม
ลุคทำงานอย่างขะมักเขม้นในขณะที่เขาจัดการกับปัญหาต่างๆ เช่นจัดการเรื่องร้องเรียนให้มีการจัดส่งเจ้าหน้าที่เข้าพื้นที่เพื่อให้แก้ปัญหาที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขในเหตุการณ์นั้นๆ เช่นการลากสิ่งต่างๆออกไปหากจำเป็น หรือไปช่วยในงานจราจรควบคุมเส้นทางผู้คนเดินทางบริเวณใกล้ๆ ที่กรมตำรวจตามความจำเป็น
หลังจากนั้นประมาณห้าวันเขาได้สะสมค่าประสบการณ์และคะแนนเครดิตทั้งหมดรวม 76 แต้ม
ถ้าคำนวนแบบไม่รวม 10 คะแนน เมื่อที่เขาเข้าเป็นตำรวจอย่างเป็นทางการและ 2 คะแนนที่เขาช่วยแมวเขาได้รับ 64 แต้มในช่วง 5 วันที่ผ่านมา
เขาทำได้เฉลี่ย 10 แต้มต่อวัน แม้ว่าจะค่อนข้างช้า แต่ลุคก็ไม่สามารถที่จะเร่งมากกว่านี้ไปได้
และแล้ววันหยุดสุดสัปดาห์ก็มาถึง
และในเมื่อวันนี้เป็นวันหยุดลุคจึงตื่นสายและลุกจากเตียงหลังจากเวลาเกือบจะเก้าโมงเช้า ลุคเข้าไปในครัวพร้อมกับหาวไปด้วยและให้ทักทายแคทเธอรีนที่ยุ่งอยู่ด้วยการจุมพิตเบาๆ บนหน้าผากของเธอ “วันนี้คุณเตรียมอาหารอร่อย ๆ อะไรบ้าง”
แคทเธอรีนยิ้ม “สเต็ก, สลัด, พายแอปเปิ้ลกับซุปมะเขือเทศ”
ลุคพยักหน้า “ฟังดูน่าอร่อยมาก” เขากินข้าวฟรี ไม่ต้องทำอะไรเอง มันจะมีอะไรดีไปกว่านี้จริงไหม?
แคทเธอรีนถามว่า“ลองถามโรเบิร์ตว่าเขามีเวลาว่างไหม บางทีเราอาจจะมีบาร์บีคิวคืนนี้”
ลุคส่ายหัว “ลืมไปได้เลยเขายังคงยุ่งอยู่ ผมแน่ใจว่าเขาจะไม่มีเวลาว่างหรอก” หลังจากพูดอย่างนั้นเขาก็หยิบขนมปังขึ้นมา
และกัดมันในขณะนั้นจู่ๆก็มีปฏิกิริยาจากระบบ
ภารกิจ: คดีฆาตกรรมของมิเชลล์คลี่คลาย
รางวัลการเสร็จสิ้นภารกิจมีมูลค่ารวม 100 ประสบการณ์และ 100 เครดิต
เนื่องจากเจ้าของร่างมีส่วนร่วมในภารกิจคือ 70 เปอร์เซ็นต์ดังนั้นเจ้าของร่างได้รับ 70 ประสบการณ์และคะแนนเครดิต 70 แต้ม
ค่าประสบการณ์เต็ม 100 คะแนนเจ้าของร่างเลเวลเพิ่มขึ้นเป็นระดับ 1
นั่นทำให้ลุคสำลักขนมปังก่อนที่เขาจะไอออกมาพ่นขนมปังไปทั่วโต๊ะ
ความประหลาดใจนี้…ทำให้เขาไม่ทันระวังตัว
เมื่อต้องเผชิญกับท่าทางที่น่าสงสัยของแคทเธอรีนลุคบอกว่าเขาสำลักขนมปังอย่างไม่ใส่ใจก่อนที่เขาจะวิ่งออกไปจากครัวพร้อมกับขนมปังและนมหนึ่งแก้ว
ลุคนั่งลงบนเก้าอี้หน้าบ้านและวางนมและขนมปังไว้บนโต๊ะก่อนที่จะเปลี่ยนไปให้ความสนใจที่ระบบ
ระบบนี้เงียบสนิทอยู่ตลอดสองสามวันที่ผ่านมาไม่ว่าเขาจะทำอะไรก็ตาม
ปฏิกิริยาเดียวที่ลุคได้รับจากระบบคือประสบการณ์และคะแนนเครดิตที่ลุคได้รับจากงานตำรวจที่ลุคทำ
แต่วันนี้ลุคเลเวลขึ้นจริงหรือ?
หลังจากนั้นไม่นานลุคก็ตรวจสอบข้อมูลในระบบและมีความสุขมาก
ตัวละคร: ลุค (นามแฝง: ลุคโคลสัน)
แต้มสเตตัสฟรี: 3
ความแข็งแรง : 12 (พละกำลัง)
ความคล่องแคล่ว: 11 (ความคล่องแคล่ว,ว่องไว)
ความแข็งแกร่งทางสมองและจิตใจ: 12
ระดับ : 1
ประสบการณ์: 46
เครดิต: 146
ให้ตายสิ เลเวลเพิ่ม!!
มีแต้มสเตตัสให้อัพฟรีเมื่อเลเวลเพิ่มขึ้น นั่นเป็นข่าวดี!
ลุคชอบระบบง่ายๆแบบนี้ โอเค ลุคจะให้อภัยเจ้าระบบที่นิ่งเงียบไร้ปฎิกริยาตอบสนองมานาน แลกกับที่ลุคสามารถได้รับคะแนนสเตตัสฟรีเพิ่มเติมเมื่อเลเวลอัพนั่น
แต่ 100 แต้มถูกหักออกจากประสบการณ์ของลุคเหลือเพียง 46 แต้ม แต่สำหรับเครดิตของลุคนั้น ลุคยังมี 146 เครดิต
เห็นได้ชัดว่าค่าประสบการณ์ที่ระบุในที่ตอนนี้เป็นเหมือนแถบค่าประสบการณ์ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าของลุคในระดับปัจจุบันเท่านั้นค่าประสบการณ์ 100 แต้มที่หายไปถูกนำมาใช้เพื่อเพิ่มเลเวล
และประโยชน์ของการอัพเลเวลคือคะแนนสเตตัสฟรี
ลุคไม่จำเป็นต้องให้ระบบอธิบายคะแนนสเตตัสฟรี ลุครู้ดีว่าสามแต้มนั้นสามารถเพิ่มให้กับค่าความแข็งแกร่งหลักทั้งสามได้
นั่นหมายความว่าอย่างไร?
คนธรรมดาจะมีค่าเฉลี่ย 10 คะแนน ลุคต้องการเลเวลสามครั้งเท่านั้นจึงจะได้ 9 แต้มและถ้าเขาเพิ่มพวกมันทั้งหมดในค่าสถานะเดียวกันค่าสถานะของเขาจะเกือบสองเท่าของคนธรรมดา
เมื่อไปถึงระดับ 10 หรืออะไรทำนองนั้นเขาแทบจะคล้ายกับมินิซูเปอร์แมน
แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่เขาจะตื่นเต้นกับเรื่องนี้มากเกินไป
คดีฆาตกรรมของมิเชลล์ได้รับการคลี่คลายแล้ว แต่อันที่จริงแล้วลุคไม่ได้มีส่วนร่วมในคดีทั้งหมด และด้วยเหตุผลนี้เขาพอจะสามารถบอกได้ว่าวิธีการทำงานหลักๆ ของระบบ