บทที่ 266
เงาเมฆฝนปกคลุมไปทั่วทั้งพื้นป่า แสงสว่างวูบวาบตามมาด้วยเสียงร้องคำรามดังลั่นมาจากท้องฟ้า สายฝนค่อยๆโปรยลงมาท่าร่างวูบวาบพุ่งทะยานไปตามทางอย่างเร่งรีบนับยี่สิบเงา ตลอดการเดินทางพบเห็นซากความเสียหายจากการปะทะซากศพของผู้คนจากเขตหนึ่งและเขตเจ็ดกองเกลื่อนพื้น หมู่บ้านสองแห่งถูกเผาทำลายหลงเหลือเพียงตอตะโก กลิ่นเหม็นยังคงตลบอบอวลไปทั่วบริเวณ เงาทั้งยี่สิบเงาหยุดจ้องมองไม่นานก็พุ่งทะยานออกไปต่อ เวลาเกือบสามสายฝนยังคงไม่มีท่าทีว่าจะหยุด เสียงปะทะด้านหน้าดังแว่วเข้ามา เคร้ง เคร้ง เคร้ง เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง ตูม ตูม โครม ต้นไม้น้อยใหญ่หักโค่นจากการปะทะ ผู้คนจากเขตหนึ่งและเขตเจ็ดเข้าปะทะกับกองกำลังจากเผ่ามายานับพันที่พุ่งทะยานออกมาจากหมู่บ้านด้านหน้า เงาทั้งสี่สิบเงายื่นนิ่งเพื่อรอคอยบางอย่าง ไม่นานก็มีเสียงเอ่ยวาจาดังแว่วออกมา
“หานป๋อ พวกเจ้าพร้อมแล้วหรือไม่”
“ข้ารอเวลานี้มานานแล้ว ข้าอยากเห็นว่าสิบกว่าวันที่ผ่านมาตัวข้าพัฒนาไปมากแค่ไหนแล้ว”
“จากที่เห็นกำลังรบด้านหน้าคงเป็นกองกำลังที่แข็งแกร่งที่สุดแล้วเป็นแน่ น่าสนใจที่พวกมันรู้จัดการใช้อาวุธ พวกเจ้าระวังตัวด้วยก็แล้วกัน”
หานป๋อหัวเราะออกมาเสียงดังลั่น
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า วางใจเถอะเนี่ยฟง”
“เช่นนั้นก็จัดการสังหารให้หมด”
เสียงสะบัดมือดังแว่วอาวุธคู่ใจต่างถูกกำชับเอาไว้ในมือ ไม่ถึงสิบลมหายใจทั้งหมดก็พุ่งทะยานออกไปสนามรบด้านหน้า เงาวูบวาบสีดำพุ่งทะยานเข้ามา ฉับ ศีรษะของชายฉกรรจ์เผ่ามายากระเด็นร่วงลงพื้นพร้อมกับเลือดสีแดงฉานพุ่งออกมาจากลำคอ หัวอิงที่อยู่มองเห็นชัดเจนจากด้านหน้าถึงกับตื่นตกใจเอ่ยวาจาออกมา
“หานป๋อพวกเจ้ามากันแล้ว”
“จ้องขออภัยที่มาช้าหัวอิง”
ในระหว่างที่ทั้งสองเอ่ยวาจาอยู่ก็มีเสียงตะโกนดังลั่นมาจากด้านหน้า ทันทีที่ทั้งสองหันไปมองก็พบเห็นเนี่ยฟงกวัดแกว่งแส้แข็งสีดำในมือเข้าปะทะ เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง เสียงร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดดังลั่นออกมา ไม่นานก็เงียบเสียงลงเพราะถูกสังหารจากจูคังและเจินอันที่พุ่งติดตามมาด้านหลัง หานป๋อถึงกับยกยิ้มหันมาเอ่ยวาจากับหัวอิง
“เทพอสูรเริ่มลงมือแล้ว ข้าคงต้องไปก่อนหัวอิง”
สิ้นเสียงกล่าวหานป๋อก็จางหายไปอย่างรวดเร็วหัวอิงหันมองไปทางเนี่ยฟงก็พบเห็นหานป๋อพุ่งทะยานออกไปแล้ว หัวอิงหัวเราะดังลั่นพุ่งติดตามไปด้วยเช่นกัน เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง เนี่ยฟงประดุจพยัคฆ์ในฝูงแกะจากการฝึกฝนคัมภีร์หยุนเซ็น ทำให้ร่างกายได้รับการเปลี่ยนแปลงรวมไปถึงทักษะที่ใช้ก็ถูกพัฒนาขึ้นไปอีกขั้น ทักษะจิตแห่งเทพถูกใช้ออกอย่างเต็มกำลังแต่ละคนแทบจะยืนนิ่งให้เนี่ยฟงทุบตี แส้แข็งสีดำในมือถูกชโลมไปด้วยเลือดสีแดงฉานและไขมันสมองสีเหลือง เช่นเดียวกับพวกที่ติดตามมาจากด้านหลังที่ เนี่ยฟงแผ่ลมปราณตรวจสอบด้านหน้าก็พบกับยอดฝีมือผู้หนึ่งกำลังมุ่งหน้าเข้ามาเขาจึงยกมือขวาชูแส้แข็งในมือพร้อมกับเร่งโคจรลมปราณ ประกายสายฟ้าพุ่งออกมาอย่างเห็นได้ชัด พวกหานป๋อแสยะยิ้มจากด้านหลังพร้อมกับเร่งโคจรลมปราณไปที่อาวุธในมือเช่นเดียวกัน ทันใดนั้นเนี่ยฟงก็จางหายไปหานป๋อก็ฟาดฟันดาบในมือออกไปทันที ปราณดาบพุ่งทะยานเข้าปะทะคนจากเผามายาเช่นเดียวกับคนที่เหลือ เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง ปราณดาบปลิวว่อนพร้อมกับเสียงร้องโหยหวนดังลั่น หัวอิงที่พุ่งติดตามมาถึงกับตื่นตกใจ เช่นเดียวกับคนอื่นๆที่เห็น
ทันใดนั้นเองก็ได้ยินเสียงปะทะดังมาจากด้านหน้า เนี่ยฟงเข้าปะทะกับชายชราผู้หนึ่งที่ใช้ไม้เท้าเป็นอาวุธ ทั้งสองต่างยืนจ้องมองหน้ากันอยู่นานหลังจากแยกจากกัน คนจากเผ่ามายาเริ่มที่จะถอยห่างออกจากทั้งสองเพราะพลังลมปราณที่ทั้งสองแผ่ออกมากดดันกันนั้นยากที่จะต้านทาน เป็นเนี่ยฟงเองที่เอ่ยวาจาออกมา
“หากเดาไม่ผิดท่านคงเป็นซือหม่าถังหัวหน้าเผ่ามายาหรือให้เรียกว่าเทพตกสวรรค์อดีตเจ็ดเทพเสื้อเกราะทองดีละ”
ชายชราด้านหน้าถึงกับขมวดคิ้วขึ้น เนี่ยฟงที่เห็นเช่นนั้นก็ยกยิ้มแล้วเอ่ยวาจาต่อ
“หากข้าเดาไม่ผิดแล้ว ที่พวกข้าถูกส่งมาที่นี่เพื่อจัดการพวกท่านคงเป็นเพราะคัมภีร์หยุยเซ็นใช่หรือไม่”
เนี่ยฟงยังคงยกยิ้มก้าวเดินเข้าหาอย่างช้าๆ
“ท่านเองก็กำลังตามหาคัมภีร์ที่ว่านั้นอยู่ใช่หรือไม่ เพราะที่อยู่ในมือท่านเป็นของปลอม”
ครั้งนี้ชายชราด้านหน้าถึงกับสั่นสะท้าน
“เจ้ารู้ได้อย่างไร”
“ข้าอ่านมันจากศิลาจารึก”
ชายชรายกไม้เท้าขึ้นมาชี้ไปที่หน้าของเนี่ยฟง
“เจ้า เจ้า”
“เวลาเกือบร้อยปีของท่านคงเสียเวลากับการฝึกวิชาของปลอมไม่น้อย”
“เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าคัมภีร์ที่ข้าฝึกเป็นของปลอม”
เนี่ยฟงยกยิ้มเอ่ยวาจาออกมา
“ทุกสรรพสิ่งทั้งหลายล้วนแล้วแต่อยู่ภายใต้ของ”
เนี่ยฟงหาได้กล่าวสิ่งใดต่อทำได้เพียงผายมือออก แต่ชายชราด้านหน้าถึงกับยืนตัวสั่นสะท้านอีกครั้งไม่ถึงสองลมหายใจก็สบถออกมา
“ไอ้ลูกหมาเจ้าจะกล่าวสิ่งใดต่อ”
“เหอะ เหตุใดท่านช่างดูร้อนรนยิ่งนัก”
“เช่นนั้นข้าจะสังหารเจ้าเพื่อแย่งคัมภีร์มา”
เนี่ยฟงแสยะยิ้ม
“เช่นนั้นข้าจะแสดงให้ท่านดูว่าคัมภีร์ของจริงเป็นอย่างไร”
สิ้นเสียงกล่าวเนี่ยฟงก็โยนแส้แข็งในมือขึ้น แน่นอนว่าชายชราจ้องมองขึ้นไปที่แส้แข็ง ไม่ถึงหนึ่งลมหายใจก็ได้ยินเสียงกล่าวดังมาจากด้านหน้า
“ท่านมองไปทางไหนกัน”
เมื่อก้มลงมาก็พบเห็นหมัดขวาต่อยเข้ามาจากด้านหน้า ชายชราแสยะยิ้มฟาดหวดไม้เท้าลงด้านหน้า แต่ก็ต้องขมวดคิ้วเพราะไม้เท้าทำได้เพียงฟาดหวดลมหาได้ต้องกายชายหนุ่มด้านหน้า ทันใดนั้นก็รู้สึกเจ็บปวดชายโครงด้านขวาพร้อมกับเสียงดังลั่น เปรี้ยง ชายชราถึงกับกระเด็นออกไปทางซ้ายกระอักเลือดออกมากระดูกชายโครงแตกร้าว แต่ก็ต้องกัดฟันยกไม้เท้าต้านรับแส้แข็งสีดำที่ฟาดหวดเข้ามา เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง มือขวาปวดชาไร้ความรู้สึกชายชราถึงกับร้องคำรามเสียงดังลั่นระเบิดพลังออกมา ตูม เนี่ยฟงถึงกับต้องกระเด็นถอยออกมาหลายสิบก้าว แสงสีทองปรากฏออกมาจากร่างชายชราไม่ถึงห้าลมหายใจก็ปรากฏร่างของชายฉกรรจ์ผู้หนึ่งสวมชุดเช่นเดียวกเบชายชราเมื่อครู่
“ข้าไม่ได้ใช้ร่างนี้มานานหลายสิบปีแล้ว”
เนี่ยฟงถึงกับขมวดคิ้วเร่งโคจรลมปราณทั่วร่างเพื่อต้านทานแรงกดดันที่ถูกปล่อยออกมา ไม้เท้าในมือขวาถูกโยนทิ้งเสียงสะบัดมือดังแว่วง้าวเล่มโตปรากฏออกมาในมือขวา ทันใดนั้นมันก็ถูกชายฉกรรจ์ด้านหน้ากวัดแกว่งไปมาเสียงลมด้งหวีดหวิว ไม่ถึงสองลมหายใจชายฉกรรจ์ด้านหน้าก็พุ่งทะยานเข้ามาอย่าวรวดเร็วพร้อมกับฟาดฟันง้าวในมือ เนี่ยฟงที่รออยู่ก่อนแล้วตวัดแส้แข็งในมือเข้าต้านรับ เปรี้ยง แรงจากการปะทะพื้นดินใต้เท้าเนี่ยฟงถึงกับยุบตัวลง ทั้งสองยังคงอยู่ในท่าเดิมเร่งโคจรลมปราณไปที่อาวุธต้านพลัง ส่วนรอบด้านยังคงมีการสังหารกันอยู่เช่นเดิม
ทันใดนั้นเนี่ยฟงก็แสยะยิ้มชายฉกรรจ์ถึงกับขมวดคิ้ว ทันใดนั้นเองเนี่ยฟงก็กระทืบเท้าขวาลงพื้นดิน เปรี้ยง วงอักขระศักดิ์สิทธิ์สีฟ้าปรากฏพร้อมกับสีเถาวัลย์สีฟ้าพุ่งออกมารัดที่ง้าว เนี่ยฟงถีบเท้าพุ่งทะยานเข้าประชิดชายฉกรรจ์รีบปล่อยมือจากง้าวเพื่อหลบถอยออกมา ในจังหวะนั้นการรับรู้ถึงร่างกายช้าลงชายหนุ่มด้านหน้าก็ฟาดหวดแส้แข็งเข้ามาที่หน้าอกเสียแล้ว เปรี้ยง เสียงกระดูกแตกลั่นเลือดสีแดงฉานพุ่งออกมาจากปาก ในจังหวะนั้นเนี่นฟงก็ใช้มือซ้ายคว้าจับที่ด้านง้าวเถาวัลย์สีฟ้าสลายเขาก็ฟาดหวดง้าวในมือซ้ายอย่างรวดเร็ว ฉับ แขนซ้ายถึงกับขาดกระเด็นร่วงลงพื้นเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดดังลั่น
“บัดซบไอ้หนูเจ้ารู้ทักษะจิตแห่งเทพด้วยอย่างนั้นรึ เจ้าเป็นผู้ใดกัน”
เนี่ยฟงหาได้กล่าวสิ่งใดตอบซัดง้าวในมือซ้ายออกไปพร้อมกับพุ่งติดตาม ชายฉกรรจ์ตื่นตกใจเร่งโคจรลมปราณไปที่มือขวารับคว้าจับง้าวที่พุ่งเข้ามา เนี่ยฟงที่พุ่งติดตามมาก็ฟาดหวดแส้แข็งไปที่ด้ามง้าว เปรี้ยง ปลายง้าวสะบัดฟาดฟัน ฉับ คมง้าวเฉือนไปที่ด้านหลังชายฉกรรจ์จนเป็นแผลลึก จังหวะนั้นเนี่ยฟงก็เข้าประชิดตัวฟาดหวดแส้แข็งในมือไปที่หัวเข่าด้านซ้ายเสียงดังสนั่น เปรี้ยง ชายฉกรรจ์ถึงกับทรุดลงไปคุกเข่ากับพื้น เนี่ยฟงก้มลงมาเอ่ยวาจาบางอย่าง
“บอกข้าได้หรือไม่ว่าเทพที่ออกไปยังดินรอบนอกเมื่อสิบเจ็ดปีก่อนคนอื่นๆแอบซ่อนอยู่ที่ไหนกัน”
ชายฉกรรจ์ถึงกับขมวดคิ้วหันมาจ้องมองชายหนุ่มด้านข้างอย่างไม่วางตา
“ถึงข้าตายข้าก็ไม่บอกต่อเจ้า”
“ท่านคงได้ยินเรื่องคำทำนายเมื่อสิบเจ็ดปีก่อน”
“เจ้าเกี่ยวข้องใดกับเรื่องนี้ไอ้หนู”
เนี่ยฟงแสยะยิ้ม
“ข้าคือเด็กในคำทำนายนั้น และตอนนี้ข้ามาเพื่อสังหารเทพบัดซบที่ไล่ล่าสังหารข้า”
ชายฉกรรจ์ถึงกับหน้าซีดเผือดตัวสั่นสะท้านเหงื่อหลังไหลเย็นเฉียบ
“เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าข้าเป็นหนึ่งในนั้น”
เนี่ยฟงสะบัดมือขวาเก็บแส้แข็งสีดำในมือพร้อมกับนำจดหมายหนึ่งฉบับออกมาเปิดให้ชายฉกรรจ์ด้านหน้าอ่าน ไม่นานเขาก็เก็บจดหมายฉบับนั้นแล้วถือมีสั้นสีดำเอาไว้ในมือ คมมีดวาดผ่านลำคอเขากระชากศีรษะของชายฉกรรจ์ออกมาพร้อมกับตะโกนเสียงดังลั่นด้วยทักษะมังกรคำราม
“ซือหม่าถังหัวหน้าของพวกเจ้าตกตายลงไปแล้ว”