สุดยอดนักสืบในโลกแห่งจินตนาการ (SDFW)-ตอนที่ 14
ตอนที่ 14 รอยเท้า และ ถูกทิ้งให้อยู่ออฟฟิศ
โรเบิร์ตถามว่า“ขนาดรองเท้าที่พวกเขาใส่อยู่ขนาดเท่าไร?”
เซลิน่าตอบว่า“ลอร์ดไซส์ 44 และของเจสสิก้าคือ 38”
โรเบิร์ตหยิบภาพจากแฟ้มแล้วเริ่มดูมันในขณะที่เขาพึมพำ“ไซส์ 38?”
ทั้งเซลิน่าและลุคสามารถพอจะมองเห็นภาพในมือโรเบิร์ตว่าเป็นภาพของรอยเท้าบนขอบหน้าต่าง
เซลิน่าถามว่า“นี่คือรอยเท้าที่พบในห้องชั้นหนึ่งใช่ไหม?”
โรเบิร์ตพยักหน้าขณะที่เขายังคงดูภาพต่อไป
ลุคพูดว่า“ขอผมดูหน่อยได้ไหม?”
โรเบิร์ตเหลือบมองเขาก่อนที่จะส่งภาพให้เขา
ลุคมองดูภาพเล็กน้อยก่อนที่จะมองเหม่อไปเหมือนกับว่าเขาจมอยู่ในห้วงความคิด หลังจากนั้นไม่นานเขาก็สูดลมหายใจและพูดขึ้นว่า“ผมเคยเห็นรอยเท้านี้มาก่อน”
ทั้งโรเบิร์ตและเซลิน่าจ้องมองเขาด้วยความตกตะลึง
ลุคกล่าวต่อว่า“นี่อาจเป็น Nike Flex Essential TR เมื่อไม่นานมานี้พวกสาวๆ เชียร์ลีดเดอร์ได้ซื้อรองเท้า ใหม่ สำหรับใช้เป็นรองเท้าประจำทีมที่ใช้สำหรับออกงานทุกๆ อีเวนต์ ผมเคยเห็น เจมิน่า ใส่มาก่อน”
เซลิน่าผิวปาก “คุณนี่เอาใจใส่แฟนสาวของคุณมากจริงๆ เลยนะ ถึงขนาดที่ว่าจำรองเท้าคู่หนึ่งของเธอได้อย่างชัดเจนอย่างนี้”
ลุคกลอกตาของเขา “ก็เพราะว่ามันแพงมากๆ เลยไอ้คู่นี้ และเจมิน่าก็มีเงินไม่พอสำหรับรองเท้าคู่นี้ เธอเลยยืมเงินจากผมไป 100 ดอลลาร์เพื่อจะซื้อรองเท้าคู่นี้ และก็เพราะว่ามันแพงมากๆ นี่แหล่ะตอนที่เจมิน่าได้มา ผมก็ไปลองดูว่าทำไมถึงแพงอะไรขนาดนี้ก็เลยจำรูปแบบที่ฝ่าเท้าได้”
โรเบิร์ตขัดจังหวะ“เฮ้ย แล้วแกไปเอาเงิน 100 ดอลลาร์มาจากไหน”
ลุค:“…นั่นเป็นความลับ”
โรเบิร์ตกล่าวว่า“แกไม่กลัวว่าฉันจะไม่หักค่าขนมแกหรอ”
ลุคตอบว่า“แน่นอนยังไงซะคุณก็เลิกให้ค่าขนมผมอยู่ดี แต่ก็เอาเถอะวันนี้ผมได้ทำงานอย่างเป็นทางการแล้ว หรือว่าคุณยังจะหักเงินเดือนผมอีก?”
โรเบิร์ตตอบว่า“…งั้นหลังจากที่แกได้รับเงินเดือนแล้ว แกอย่าลืมให้เงินแคทเธอรีนเป็นค่าอาหารด้วยหล่ะ”
ลุค: …ไอ้แก่นี่!
หลังจากพูดคุยไร้สาระขนาดย่อมๆ ในที่สุดโรเบิร์ตก็กลับมาที่เรื่องคดี “ตกลงแล้วเจสสิก้าก็มีรองเท้าแบบเดียวกันหรอ?”
ลุคส่ายหัว “ผมไม่รู้เหมือนกัน การซื้อรองเท้ารุ่นนี้มันก็ไม่ได้มีการบังคับอะไร ก็จะมีแค่คนที่สนใจเท่านั้นแหล่ะที่จะซื้อ ยังไงซะนั่นก็เงินของพวกเขาอยู่แล้วจะซื้อหรือไม่ก็สิทธิ์ของพวกเขา แต่การที่รวมกันซื้อเยอะๆ ก็เพื่อใช้ประโยชน์จากส่วนลดที่ร้านค้าเสนอ ผมก็เลยไม่รู้ว่าพวกเธอซื้อมากี่คู่และใครซื้อบ้าง”
โรเบิร์ตทำเสียงฮึดฮัด แต่ก็ไม่ผิดหวังอะไรมากนัก
ลุคกล่าวเสริมว่า“อืมจะว่าไป ผมคิดว่าพ่อของเธอทำงานเป็นนักบัญชีใน นอคซิตี้นิ แสดงว่าครอบครัวของเจสสิก้าเองก็ร่ำรวยเลยทีเดียวหล่ะ”
โรเบิร์ตและเซลิน่าสบตากัน ลุคบอกใบ้อย่างชัดเจนว่าเอาจริงๆ แล้วเจสสิก้าสามารถซื้อรองเท้าคู่นั้นได้
“เอายังไงดีค่ะ หัวหน้า?” เซลิน่าถาม
ความจริงสิ่งที่เธออยากถามคือตอนนี้พวกเขาควรไปหาเจสสิก้าเลยไหม
จากเรื่องที่ลุคพูดมาและรอยรองเท้า ท้ายที่สุดเธอเป็นผู้ต้องสงสัยมากที่สุดในบรรดาผู้ต้องสงสัยทั้งหมด
โรเบิร์ตเคาะโต๊ะก่อนที่เขาจะพูดว่า“เดี๋ยวฉันจะลงโทรไปก่อน”
เขาไม่ได้ใช้โทรศัพท์มือถือ แต่เขาใช้โทรศัพท์โต๊ะในสำนักงานเพื่อโทรออก
ถัดไปข้างๆ ลุคไม่ได้ใส่ใจมากนักเมื่อได้ยินเนื้อหาของบทสนทนา เขาเดินเข้ามาหาเซลิน่าและกระซิบว่า“โรเบิร์ตเป็นคนที่ด่วนสรุปแบบนี้เสมอในตอนสืบสวนคดีต่างๆ อย่างงั้นหรอ?”
เซลิน่าหัวเราะคิกคักและเหลือบมองลุคก่อนที่จะพูดว่า“นั่นเป็นเพราะเขาเชื่อใจคุณต่างหากหล่ะ”
ลุคแทบจะสำลักในทันที “แต่ผมก็แค่คาดเดาเองนะ ขนาดตัวผมเองยังไม่มั่นใจในตัวเองเลย ที่ผมให้ข้อมูลที่ว่ามานั้นเพื่อเป็นช่องทางการสืบสวนอีกทางหนึ่งเท่านั้น ทำไมเขาโทรถึงรีบไปหาอีกฝ่ายโดยตรงหละเนี่ย?”
เซลิน่ายิ้มพลางพูดขึ้นว่า “ไม่ต้องกังวลไปหรอกลุค เราเพียงแค่จะเชิญผู้หญิงคนนั้นมาที่นี่เพื่อช่วยในการสืบสวนเกี่ยวกับคดี เราไม่ได้จะออกหมายจับจับเธอสักหน่อย โรเบิร์ตไม่ได้โง่อย่างที่คุณคิดนะ”
“คุณเป็นคนที่พูดคำว่าโง่เองนะไม่ใช่ผม” ลุคเปลี่ยนหัวข้อกะทันหัน
นั่นทำให้เซลิน่าประหลาดใจ จากนั้นเธอก็สังเกตเห็นว่าโรเบิร์ตวางสายไปแล้วและจ้องมองเธอด้วยใบหน้าบึ้งตึง
เซลิน่ารู้ตัวว่าลุคหลอกเธอ
โรเบิร์ตเพียงจ้องมองเธอก่อนจะพูดว่า“เซลิน่าไปกับฉันที่น็อกซ์ซิตี้ เราจะพาเจสสิก้ากลับมาที่นี่เพื่อซักถามข้อมูล ลุคแกอยู่ที่นี่และอ่านเอกสารเหล่านี้ ดูสิว่าแกสามารถหาสิ่งอื่นที่เป็นประโยชน์ได้อีกไหม”
ลุคพยักหน้า “ได้เลย”
จากนั้นทั้งสองก็ออกจากห้องทำงานในขณะที่ลุคยืนจ้องไปที่เอกสารเหล่านั้น ทันใดนั้นเขาก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นได้ “เฮ้ เดี๋ยวก่อนสิ โต๊ะของฉันอยู่ตรงไหน บอกฉันก่อนที่จะออกไปได้ไหมเนี่ย? แย่จริง...”
น่าเสียดายที่ทั้งสองอาจจะออกจากเมืองไปแล้วในตอนนี้ เขาทำได้เพียงส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้ในขณะที่เดินไปที่แผนกต้อนรับและพูดว่า "ดีครับ แมรี่คนสวย โรเบิร์ตได้จัดที่นั่งไว้สำหรับผมแล้วรึยังครับ"
เขากำลังคุยกับผู้หญิงผิวขาวที่อายุประมาณ 40 ปี เธอไม่ได้แต่งเครื่องแบบตำรวจเป็นเพียงชุดลำลอง
เมื่อได้ยินคำพูดของเขาผู้หญิงที่นั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ก็เงยหน้าขึ้น “โอ้คุณเอง เจ้าปีศาจตัวน้อยเจ้า แหม๋ปากหวานเชียวนะ อ่าวโรเบิร์ตยังไม่ได้จัดโต๊ะทำงานให้คุณหรือ? เข้าไปด้านในจะมีโต๊ะทำงานสองตัวที่มุมซ้ายสุดลองดูโต๊ะที่ยังว่างอยู่ ตัวนั้นแหล่ะของคุณ”
ลุคยิ้มและขอบคุณเธอก่อนจะถามว่า“โต๊ะของใครอยู่ข้างๆ ผมครับ”
แมรี่ตอบว่า“เซลิน่าไงที่นั่งข้างคุณ... คุณไม่รู้เหรอว่าแฮงค์ที่เพิ่งจะลาออกและเขาเคยเป็นคู่หูของเซลิน่า โดยปกติแล้วโต๊ะทำงานของคู่หูจะตั้งอยู่ติดกัน โต๊ะที่ว่างอยู่เคยเป็นของแฮงค์มาก่อน”
ลุคเข้าใจในที่สุด "เข้าใจแล้วครับ"
แมรี่ชำเลืองมองเขา “อย่าบอกนะว่าคุณยังไม่รู้ว่าเซลิน่าจะเป็นคู่หูของคุณด้วย”
ลุคตบหัวของเขา “เรื่องนั้นผมรู้แล้วครับ ขอบคุณนะครับที่เตือนผม”
แมรี่ยิ้ม “คุณต้องการให้ฉันช่วยทำความสะอาดโต๊ะทำงานไหม? แฮงค์หน่ะเป็นคนโง่ขี้ลืมดังนั้นเขาจึงมักจะลืมของทิ้งไว้เสมอแหล่ะ”
ลุคกล่าวว่า“ไม่เป็นไรครับ คุณเองก็ดูน่าจะยุ่งมากเช่นกัน ผมจัดการเองครับ ว่าแต่คุณมีกล่องเปล่าซักใบหรือไม่? ผมจะใช้ใส่ของทั้งหมดของเขาลงในกล่องเปล่า”
แมรี่ตอบว่า“อะนี่ ใช้กล่องนี้สิ” ขาของเธอล้วงเข้าไปในช่องว่างด้านล่างเคาน์เตอร์แผนกต้อนรับก่อนจะหยิบกล่องเปล่าออกมา เธอจึงหยิบกล่องขึ้นมาแล้วยื่นให้ลุค
“ขอบคุณมากๆ ครับ แมรี่” ลุคยิ้มโบกมือและเข้าไปในห้องทำงานอีกครั้ง
เมื่อเขามาถึงที่โต๊ะว่างเปล่าเขาก็เห็นว่าแฮงค์ไม่ได้ทิ้งสิ่งของไว้มากนัก จะมีเพียงแค่สิ่งของเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เขาคิดว่าไม่มีประโยชน์หรือขี้เกียจเก็บเท่านั้นแหล่ะ
ลุควางกล่องไว้ใต้โต๊ะทำงาน เขารู้สึกว่าโต๊ะทำงานในปัจจุบันไม่ได้รกอะไรมาก มันเพียงพอสำหรับเขาแล้วดังนั้นเขาจึงไม่รีบร้อนที่จะทำความสะอาดเพิ่มพื้นที่ให้มากขึ้น
หลังจากที่เขาทำคดีนี้เสร็จแล้วเขาคงจะมีเวลาเหลือเฟือในการทำอะไรอย่างอื่น อย่างเช่นทำความสะอาดโต๊ะทำงาน
ดังนั้นเขาจึงเปิดแฟ้มบนโต๊ะและเริ่มดูเอกสารทีละหน้า
ในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงเขาก็อ่านมันจบ
ไม่มีข้อมูลมากนักในแฟ้มเอกสาร มีเพียงข้อมูลสรุปของผลการค้นพบเบื้องต้นและสำหรับข้อมูลที่ละเอียดมากขึ้นพวกเขาต้องรอผลทางนิติวิทยาศาสตร์จากนอคซิตี้
เขาไม่ได้ค้นพบอะไรเพิ่มเติมเช่นกัน ท้ายที่สุดแล้วข้อมูลที่เขาให้กับโรเบิร์ตไว้ก่อนหน้านี้ เป็นเพียงเพราะความคุ้นเคยกับผู้ต้องสงสัยและยังเป็นเพราะเขาจำเจสสิก้าได้เมื่อเธอหลบหนีออกไปนอกพื้นที่
เขาไม่ใช่นักสืบผู้เชียวชาญอะไร แม้ว่าเขาจะมีระบบสุดยอดนักสืบที่สุดแสนจะขี้เกียจ แต่เขาก็ยังเป็นคนธรรมดา
หลังจากคิดถึงเรื่องนี้อยู่สักพักเขาก็รู้สึกหิวขึ้นมาทันที ดังนั้นเขาจึงไปที่ห้องทำงานของโรเบิร์ตและหยิบกล่องอาหารกลางวันที่แคทเธอรีนเตรียมมาจากตู้เย็น