สุดยอดนักสืบในโลกแห่งจินตนาการ (SDFW)-ตอนที่ 13
ตอนที่ 13 กล้าคิดนอกกรอบ และการให้เบาะแส
ในสภาพที่เขากำลังเมาอย่างหนักและประกอบกับความหวาดกลัว อย่างแรกที่จอร์จคิดได้ก็คืออย่าให้ใครรู้ว่ามิเชลนั้นเสียชีวิตหลังจากมีเซ็กส์กับเขาเสร็จ
ดังนั้นไอ้คนงี่เง่าคนนี้ จึงแอบพาเธอออกจากห้องนอนชั้นหนึ่ง
ถ้าจะให้นึกดู จอร์จอยู่ในห้องสุดท้ายที่ลุคได้ยินเสียงแต่ไม่ได้เปิดตอนที่เขากับเจมินากำลังหาห้องว่าง
สระว่ายน้ำที่บ้านของมาร์ธาไม่ได้เป็นสระว่ายน้ำรูปทรงสี่เหลี่ยม สระว่ายน้ำของเธอฝั่งหนึ่งเป็นทรงโค้งซึ่งแยกกับตัวสระหลักและมีแผ่นหินกั้น
ถ้าจะให้อธิบายง่ายๆ ก็คือสระว่ายน้ำหลักคือสระว่ายน้ำจริงๆ ที่ไว้ว่ายออกกำลังกายในขณะที่สระว่ายน้ำทรงโค้งขนาดเล็กที่อยู่ตรงมุมนั้นมีไว้เพื่อการพักผ่อนหย่อนใจเช่นการแช่ตัวในขณะดื่มเป็นต้น
เมื่อคืนทุกคนรวมกันอยู่ที่สระว่ายน้ำหลัก และมีคนไม่กี่คนเท่านนั้นที่มาแวะที่สระน้ำเล็ก เพราะว่าพวกเขารีบเดินเข้าไปในบ้านเพื่อไปทำกิจกรรมในที่ลับตาคน
เมื่อจอร์จอุ้มมิเชลล์ออกมาจากบ้าน เขาก็ทำราวกับว่าพวกเขายังคงคลอเคลียคล้ายกับว่ากำลังมีอะไรกันอยู่ ดังนั้นจึงไม่มีใครให้ความสนใจกับพวกเขามากนัก จากนั้นเขาก็วางศพไว้บนเบาะลอยน้ำในสระน้ำเล็ก ก่อนจะเริ่มหนีไป
ซึ่งสระว่ายน้ำนั้นจะมีระบบระบายน้ำ ที่จะเปิดใช้งานอัตโนมัติตามช่วงเวลาที่ตั้งค่าไว้ และจากที่กล่าวไว้ข้างต้นว่าสระเล็กและสระหลักนั้นเชื่อมกันอยู่ดังนั้นไม่นานหลังจากที่จอร์จ วางร่างมิเชลไว้บนเบาะ เบาะลอยน้ำก็ลอยออกจากสระน้ำขนาดเล็กพร้อมกับศพของมิเชลล์และนั่นคือตอนที่ทุกคนได้พบศพและเกิดการชุลมุนขึ้น
ถ้ามีคนถามว่าทำไมจอร์จถึงทำแบบนั้น คงมีคำตอบเดียวเท่านั้นที่จะบอกได้ ก็คือเขาเป็นคนโง่ไงหล่ะ
ไม่มีคำใดที่จะมาพรรณนาได้แล้วกับความคิดของจอร์จในตอนนั้น ซึ่งจริงๆ แล้วจอร์จเป็นไอ้บ้ากล้ามโตที่หลงใหลในกีฬา ส่วนการเรียนเป็นอะไรที่ไกลตัวเขามาก อันที่จริงแล้วเขาฉลาดมากกว่าคนที่มีปัญหาด้านการเรียนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ประกอบกับการที่ คนเมามักจะทำอะไรลงไปด้วยความขาดสติสัมปชัญญะ และนั่นน่าจะเป็นสาเหตุที่จอร์จตัดสินใจทำอะไรโง่ๆ ลงไป
โรเบิร์ตและเซลิน่าไม่ได้แสดงความคิดเห็นอะไรกับเรื่องที่จอร์จเล่า ซึ่งโดยทั่วไปแล้วเป็นเรื่องปกติที่ผู้ทำผิดหลายๆ คนจะทำตัวให้ดูโง่เง่าต่อหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจ และนั้นเป็นทางเลือกสุดท้ายเพื่อหลีกเลี่ยงความผิดต่ออาชญากรรมของตน
แต่ทว่าลุคนั้นเชื่อจอร์จ เพื่อนร่วมชั้นคนนี้ไม่ได้โกหก เขาเป็นคนโง่จริงๆ
โรเบิร์ตได้ทำการสอบสวนจอร์จเสร็จสิ้นแล้ว คำตอบส่วนใหญ่ที่เขาได้รับจากจอร์จคือ “ผมไม่รู้”, “ผมจำไม่ได้” หรือ “ผมไม่สามารถจำอะไรได้เลย”
จากสิ่งที่จอร์จพูดมันไม่แปลกอะไรที่เขาจะทำอะไรลงไปแล้วจำอะไรไม่ได้ตอนเมา แต่ในทำนองเดียวกันผู้ต้องสงสัยหลายคนมักจะใช้ข้ออ้างดังกล่าวเพื่อทำให้การสอบสวนของตำรวจดูยุ่งเหยิง และด้วยเหตุนี้แทนที่จะทำให้ลดความสงสัยในตัวเขา แต่มันกลับเพิ่มขึ้นแทน
โรเบิร์ตยืนขึ้นพร้อมกับกล่าวคำอำลา และบั๊คก็ส่งพวกเขาไปที่ประตู
บั๊คยืนอยู่ที่ประตูเรียกโรเบิร์ต เซลิน่าและลุคไปที่รถของพวกเขา ขณะที่โรเบิร์ตหยุดอยู่ตรงหน้าบั๊ค
บั๊คและโรเบิร์ตรู้จักกันมานานหลายปี เพื่อเห็นแก่ลูกชายของเขาบั๊คจึงพยายามขอความเมตตาให้โรเบิร์ตผ่อนปรนกับความผิดของลูกของเขาอย่างแน่นอน ลุคและเซลิน่ามีไหวพริบพอที่จะให้ความเป็นส่วนตัวแก่พวกเขา
บักค์พูดด้วยสีหน้าอ้อนวอน อย่างไรก็ตามโรเบิร์ตได้แต่ส่ายหัวและตบลงบนไหล่ของบั๊คก่อนที่จะหันไปและเดินขึ้นรถของเขา
บั๊คถูกปล่อยให้ยืนอยู่ตรงนั้นอย่างทำอะไรไม่ถูก
ลุคถอนหายใจเบา ๆ เมื่อเห็นเช่นนั้น
เซลิน่าเหลือบมองเขาแล้วพูดว่า“ทำไมเธอถึงถอนหายใจเหมือนอย่างกับเป็นคนแก่อย่างนั้นล่ะ?”
ลุคกล่าวว่า“คนเราไม่ควรจะโง่ขนาดนั้น มิฉะนั้นเขาจะให้ตัวเองและคนที่เขารักเดือดร้อน ลองดูบั๊คตอนนี้สิ จากที่เขาเคยเป็นคนโผงผาง แต่ตอนนี้ไม่แล้ว”
เซลิน่าเงียบลงเมื่อได้ยินเช่นนั้น “ดังนั้นคุณต้องเรียนรู้ที่จะเป็นคนฉลาดแกมโกงเพื่อที่จะไม่ต้องทำให้โรเบิร์ตกังวลงั้นหรอ?”
ลุค:“…ฮิฮิ”
‘สาวน้อยเธอพูดอย่างกับมันง่ายนักแหล่ะ โรเบิร์ตนะหรอจะต้องมาเป็นห่วงฉัน ฉันต่างหากที่จะต้องเป็นห่วงพวกเขา โลกนี้มันไม่ได้ปลอดภัยอย่างที่เธอคิด’
เมื่อมาถึงกรมตำรวจทั้งสามคนเข้าไปในห้องทำงานของโรเบิร์ตอีกครั้งและล็อกประตู
คราวนี้โรเบิร์ตไม่ได้ถามความเห็นของลุค เขาเลือกที่จะถามเซลิน่าแทน “เซลิน่าคุณคิดยังไง”
'โรเบิร์ตนี่คุณกำลังทำท่าอย่างกับนักสืบดิเหรินเจี๋ยเวอร์ชั่นอเมริกันอย่างงั้นแหล่ะ' ลุคบ่นในใจ
“จอร์จอาจจะพูดความจริง แต่ถึงอย่างนั้นเราก็ยังตัดเขาออกจากการเป็นผู้ต้องสงสัยไม่ได้” เซเลน่าตอบ
โรเบิร์ตเข้าใจว่าเธอหมายถึงอะไร เธอเองไม่ได้เชื่อทุกสิ่งที่จอร์จพูด
เขามองไปที่ลุคและพูดว่า "แล้วแกล่ะ? จอร์จมาจากโรงเรียนของแกและแกเองก็รู้จักมิเชลด้วย แกพอจะสังเกตเห็นอะไรไหม”
ลุคครุ่นคิดเล็กน้อยและพูดว่า“โรเบิร์ตคุณคิดยังไงกับความเห็นที่ว่า ฆาตกรไม่ได้ใช้อะไรรัดคอมิเชลล์จนทำให้ขาดอากาศหายใจจนเสียชีวิต แต่เลือกที่จะใช้หมอนแทนเพื่อทำให้เธอขาดอากาศหายใจจนตาย อะไรคือเหตุผลที่ทำให้ฆาตกรทำอย่างนั้น?”
โรเบิร์ตตอบทันทีว่า“บางทีฆาตกรอาจมีการวางแผนและทราบมาก่อนว่าการทิ้งรอยนิ้วมือไว้นั้นจะทำให้ตัวตนของเขาถูกเปิดเผย ดังนั้นพวกเขาจึงใช้หมอนหรือของที่คล้ายกันแทน”
ลุคกล่าวว่า“มันมีความเป็นไปได้อีกอย่าง ด้วยขนาดและความแข็งแรงทางกายภาพของฆาตกรเธอจึงตัดสินใจใช้หมอนแทนมือของเธอเอง”
อีกสองคนนิ่งเงียบไปก่อนที่เซลิน่าจะถามว่า "เธอ?"
“เขา” และ“เธอ” นั้นแตกต่างกันมากนะ
ถ้าแม้แต่เซลิน่าก็พบความแตกต่างนี้ได้ โรเบิร์ตที่มีประสบการณ์มากกว่าก็พบมันได้เช่นกัน “คุณกำลังบอกว่าฆาตกรเป็นผู้หญิงอย่างนั้นหรือ?”
ลุคตอบว่า“ถ้าคุณต้องการที่จะไขคดีนี้โดยเร็วที่สุดเราต้องคิดออกนอกกรอบกันซักหน่อย พอดีมันมีบางอย่างทีผมไม่ได้บอกออกไป ก่อนหน้านี้”
ทั้งสองขมวดคิ้ว
ลุคกล่าวต่อว่า“ในวันที่เกิดเหตุฆาตกรรม ตอนนั้นผมอยู่ที่ระเบียงชั้น 3 กับเจมินา และระเบียงหันหน้าไปทางสระว่ายน้ำพอดี เมื่อผมกับเจมิน่าได้ยินเสียงเอะอะที่ชั้นล่างผมมองลงไป และได้เห็นว่ามีคนคนหนึ่งที่ไม่ได้เข้าใกล้กับที่คนมุงกันเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ทว่าคน ๆ นั้นหลบหนีไปอย่างเงียบๆ และในรายงานที่รวบรวมชื่อคนในงานที่เราทำชื่อของคนคนนี้ก็ไม่ได้รวมอยู่ในรายชื่อแขกในคืนนั้นด้วย”
โรเบิร์ตและเซลิน่าเข้าใจความหมายของเขาทันที
มีใครบางคนอยู่ที่นั่นในคืนนั้น บางคนที่ไม่มีใครทราบว่าเธออยู่ที่นั่น
มีใครบางคนไม่ได้เข้าไปมุงกับคนอื่นๆ เพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เลือกที่จะหลบออกไปอย่างเงียบๆแทน และบังเอิญคน ๆ นั้นเดินออกจากสระด้วย ความบังเอิญเหล่านี้มันมีมากเกินไป
"ใคร?" โรเบิร์ตถาม
“เจสสิก้า ทอมป์สันนักเรียนชั้นปีที่ 2 และเธอเองก็เป็นหนึ่งในเชียร์ลีดเดอร์ของโรงเรียนด้วย” ลุคกล่าว
อีกสองคนสบตากัน พูดสั้น ๆ พูดได้ว่าผู้หญิงคนนี้มาจากแวดวงสังคมเดียวกับมิเชล
เซลิน่าครุ่นคิดเล็กน้อยและถามว่า“เธอมีความสัมพันธ์อย่างไรกับจอร์จ? หรือมีความไม่พอใจระหว่างพวกเขา”
หากพวกเขามีความสัมพันธ์กันมันมีโอกาสมากที่เธอจะเป็นฆาตกรและนี่อาจจะเป็นอาชญากรรมเพราะอารมณ์ชั่ววูบของความหึงหวง และถ้าเธอมีความไม่พอใจกับการกระทำของจอร์จนี่อาจเป็นจุดเริ่มต้น
ลุคส่ายหัว “เธอเคยทะเลาะกับมิเชลครั้งหนึ่ง แต่มันไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องของจอร์จ แต่พวกเขาทะเลาะกันเพื่อดึงความสนใจจากลอร์ด”
โรเบิร์ตและเซลิน่าถามอย่างว่างเปล่า“ลอร์ด?”
ลุคพยักหน้า “ลอร์ดเป็น quarterback เขาหล่อและแข็งแรง นอกจากนี้การเรียนของเขาก็ยังดีมากด้วย ครอบครัวของเขาเองก็มีฐานะพอสมควร มีเรื่องลือกันในหมู่เชียร์ลีดเดอร์อยู่เสมอว่าเจสสิก้ากำลังไล่จับลอร์ด”
โรเบิร์ตขมวดคิ้ว “แค่ข่าวลือ?”
ลุคยักไหล่ “เท่าที่ผมรู้พวกเขาไม่ได้อยู่ด้วยกันจริงๆ แต่ก็มีข่าวลือเช่นกันว่าลอร์ด ปฏิเสธการจีบของ เจสสิก้า”
โรเบิร์ตและเซลิน่าสบตากันอีกครั้ง
สิ่งนี้ทำให้เรื่องนี้น่าสนใจมากขึ้น
โรเบิร์ตเริ่มเดินไปรอบ ๆ ห้อง หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ชี้ไปที่คอมพิวเตอร์และพูดกับเซลิน่าว่า“ค้นหารายละเอียดเกี่ยวกับเจสสิก้าและลอร์ด”
จากนั้นโรเบิร์ตก็เริ่มค้นหาบางอย่างในห้องก่อนที่จะพบกับแฟ้มคดี เขาเปิดและอ่านมันเล็กน้อยก่อนที่จะเงยหน้าขึ้น “เซลิน่าได้เรื่องหรือยัง”
เซลิน่าตอบว่า“ฉันพบประวัติภายในโรงเรียนของพวกเขาเท่านั้น คุณต้องการให้ฉันอ่านให้ฟังหรือไม่”