บทที่ 264
งานเลี้ยงฉลองที่มาพร้อมกับเสียงกรีดร้องของหญิงสาวและเสียงหัวเราะดังลั่นจากเผ่าอสูรมายา ชายชราผู้เป็นหัวหน้านั่งดื่มบางอย่างในกระบอกไม้จ้องมองด้านหน้าด้วยความสนุกสนาน ในจังหวะนั้นเองก็มีเสียงตะโกนดังลั่นมาจากด้านหน้าของหมู่บ้าน ชายฉกรรจ์สองตนแบกร่างชายฉกรรจ์ผู้หนึ่งเข้ามาบริเวณกลางหมู่บ้าน ชายชราหรี่ตามองเมื่อพบเห็นว่าเป็นผู้ใดถึงกับขมวดคิ้ววางกระบอกน้ำในมือเสียงดังแว่ว
“เกิดสิ่งใดกับเจ้ากัน เหลาซุน”
“เรียนท่านหัวหน้า หมู่บ้านของพวกข้าถูกโจมตีโดยคนจากเทพส่งมาขอรับ ผู้คนส่วนใหญ่ตกตาย ส่วนเด็กเล็กและชราถูกจับขังไว้ขอรับ ข้าเดินทางที่นี่เพื่อขอกำลังจากท่าน”
ชายชราขมวดคิ้วครุ่นคิดบางอย่าง
“แล้วเหลาจือหาไปไหน”
“หลังจากมีข่าวท่านหัวหน้าหมู่บ้านถูกลอบสังหารก็หาได้พบตัวท่านเหลาจ่อขอรับ”
“ลอบสังหาร มันเกิดสิ่งใดขึ้น”
“ข้าก็หาได้ทราบรายละเอียดที่แน่ชัดขอรับ ท่านหัวหน้าหมู่บ้านถูกลอบสังหารโดยท่านเหลาจือเป็นคนพบ หลังจากนั้นคุณชายเหลาซือก็นำกำลังทั้งหมดออกไปแก้แค้น หลังจากนั้นคนพวกนั้นก็บุกเข้ามาในหมู่บ้านขอรับ”
“เจ้าไปพักก่อนเถอะ ส่วนเรื่องทั้งหมดข้าจะส่งคนออกไปช่วยเหลือก็แล้วกัน”
“ขอรับ”
หลังจากที่ชายฉกรรจ์ผู้นั้นออกไปจากบริเวณชายชราก็เอ่ยวาจา
“ตามเหลาเฉินและเหลาหม่ามาพบข้า”
ชายฉกรรจ์ผู้หนึ่งกล่าวตอบรับหลังจากนั้นก็พุ่งทะยานออกไปจากบริเวณ ชั่วน้ำเดือดชายฉกรรจ์ผู้นั้นก็มาพร้อมกับชายฉกรรจ์สองคน
“คารวะท่านหัวหน้า มีสิ่งใดถึงได้ให้ตามพวกข้าทั้งสองมา”
“หมู่บ้านเหลาชิงถูกทำลายโดยพวกเทพ เหลาเฉินเจ้านำกำลังของเราไปที่นั่นตามหาเหลาจือว่ามันอยู่ที่ใดข้าต้องการของบางอย่างจากมัน ส่วนเจ้าเหลาหม่าแบ่งกำลังของเราออกลาดตระเวนพื้นที่”
“ขอรับ”
สิ้นเสียงตอบรับเหลาเฉินและเหลาหม่าก็หันหลังพุ่งทะยานออกด้านหน้าหมู่บ้าน
“งานเลี้ยงเลิกแล้ว มีพวกเทพกำลังจะมาที่นี่พวกเจ้าเตรียมตัวให้พร้อม”
เสียงตะโกนโหร้องดังลั่นไม่นานทั้งหมดก็แยกย้าย หลงเหลือเพียงชายชราและชายฉกรรจ์อีกสี่คนที่ยืนรอเท่านั้น รุ่งเช้ากองกำลังนับร้อยพุ่งทะยานออกจากหมู่บ้านอย่างเร่งรีบ ซากศพทั้งชายและหญิงถูกนำมาแขวนไว้ที่ด้านหน้าของหมู่บ้าน เนี่ยฟงเองก็กลับมาสอดแนมอีกครั้ง เร่งโคจรลมปราณไปที่เท้าใช้ออกด้วยทักษะท่าเท้าเหยียบนภาพุ่งทะยานเหยียบเกราะสายฟ้าทะยานขึ้นไปอยู่เหนือหมู่บ้าน สร้างม่านพลังบดบังร่างกาย หลังจากนั้นก็สะบัดมือขวาแอบสร้างวงอักขระศักดิ์สิทธิ์จำนวนมากตามพื้นดินด้านล่างรวมไปถึงหลังคาบ้านเรือนเกือบทั้งหมด ทันใดนั้นก็มีขวดยาถูกนำออกมาเขาเทเม็ดยาสีทองถูกกลืนลงท้อง หลังจากนั้นก็นำสมุนไพรบางอย่างออกมา ซัดลงไปหลังคาบ้านเช่นเดียวกัน เกือบสองชั่วยามในที่สุดก็เสร็จสิ้นเนี่ยฟงรีบพุ่งทะยานกลับไปรอพวกจูคังที่จัดนัดพบ
เสียงการปะทะดังลั่นจากด้านหน้า เนี่ยฟงที่พุ่งติดตามถึงกับขมวดคิ้วเร่งฝีเท้าขึ้นไปอีกระดับไม่ถึงสิบลมหายใจก็พบเห็นพวกหานป๋อกำลังปะทะกับชายฉกรรจ์นับสิบจากเผ่าอสูรมายา เขาหาได้พุ่งเข้าปะทะเพียงสะบัดมือขวาถือมีดสั้นสีดำพร้อมกับโคจรลมปราณเอาไว้ แต่ก็หาได้ใช้มันเพราะพวกหานป๋อเองก็มีฝีมือที่พัฒนาต่างไปจากเดิม ทั้งการเข้าปะทะเป็นแบบแผนและใช้ปราณรวมกับอาวุธได้เป็นอย่างดี เมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้นเนี่ยฟงก็พุ่งทะยานลงมาจากกิ่งไม้เดินเข้ามา แน่นอนว่าจูคังยกยิ้มรีบพุ่งเข้ามาพร้อมกับนำแหวนสีเทายื่นให้แก่เนี่ยฟง
“พวกเจ้าพักผ่อนเถอะ คืนนี้เราจะลงมือสังหารพวกมันทั้งหมด ทันทีที่เปลวเพลิงลุกโชนจะเป็นสัญญาณลงมือ ก่อนเข้าไปในหมู่บ้านรบกวนพวกเจ้านำผ้าชุบน้ำให้ชุ่มนำมาพันไว้ที่จมูกและปาก เพราะคืนนี้ข้าจะใช้พิษบางอย่าง”
ทุกคนต่างเอ่ยวาจาตอบรับหลังจากนั้นเนี่ยฟงก็หันหลังพุ่งทะยานกลับไปที่หมู่บ้านอีกครั้ง ยางสนถูกซัดออกไปจากมือขวาไปตามหลังคาบ้านและพื้นดินตามซอกในมุมอับสายตาหลังจากนั้นก็พุ่งทะยานมาแอบซุ่มด้านนอก
เวลาค่อยๆไหลผ่านไม่นานแสงอรุณก็ลาลับขอบฟ้าความมืดมิดเข้าปกคลุมทั่วทั้งบริเวณ เสียงแว่วของสัตว์อสูรดังมาเป็นระยะ แสงไฟจากกองไฟถูกจุดให้แสงสว่างกลางหมู่บ้านเช่นเดิม เกือบชั่วยามพวกหานป๋อก็พุ่งทะยานมายังจุดนัดพบ
“พวกเจ้าคงเตรียมตัวมาพร้อมแล้วใช่หรือไม่”
“แน่นอน ว่าแต่เจ้าจะลงมืออีกเมื่อไหร่”
“รออีกครึ่งชั่วยาม ข้าจะล่อพวกมันไปที่ด้านหน้าหมู่บ้าน พวกเจ้าแอบเข้ามาจากด้านข้างก็แล้วกัน”
สิ้นเสียงกล่าวของเนี่ยฟง หลายคนก็หาที่นั่งบนกิ่งไม้พร้อมโคจรลมปราณเพื่อรอเวลา ทันทีที่ถึงเวลากำหนดเนี่ยฟงสะบัดมือขวาพร้อมกับพุ่งทะยานไปบนเกราะสายฟ้าขึ้นไปอยู่เหนือหมู่บ้านเช่นเดิม ประกายสายฟ้าพุ่งออกมาจากมือขวา มีวงอักขระศักดิ์สิทธิ์ปรากฏที่ด้านหน้าเสียงซัดฝ่ามือดังลั่น เปรี้ยง ประกายสายฟ้าพุ่งออกจากวงอักขระศักดิ์สิทธิ์ทะยานลงพื้นดิน เปรี้ยง วงอักขระศักดิ์สิทธิ์ที่สร้างไว้เมื่อตอนเช้าสว่างออกมา ยางสนถูกทำให้เป็นน้ำทันใดนั้นก็เกิดประกายไฟออกมาเปลวเพลิงค่อยๆลุกโชนไปทั่วทั้งหมู่บ้าน เสียงตะโกนโห่ร้องดังลั่น แส้แข็งถูกกำชับในมือขวาแน่นพร้อมกับถูกฟาดหวดด้วยทักษะตัดสายฟ้า แส้งแข็งสีฟ้าพุ่งลงมาจากท้องฟ้าสี่เล่มเข้าปะทะกำแพงไม้ด้านหน้าหมู่บ้าน เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง
กลุ่มหานป๋อเองทันทีที่เปลวเพลิงลุกโชนเผาบ้านเรือนในหมู่บ้าน พวกเขาก็พุ่งทะยานข้ามกำแพงมาจากด้านข้างไล่ล่าสังหารพวกที่อยู่ในหมู่บ้าน ครั้งนี้หาได้มีการเห็นใจพบเจอผู้ใดล้วนถูกสังหารจนหมดไม่เว้นแม้แต่เด็กน้อยและวัยชรา เลือดสีแดงฉานไหลนองเต็มพื้น ปราณแส้แข็งนับสิบเล่มพุ่งทะยานลงมาจากฟากฟ้ายามค่ำคืนเสียงดังสนั่น เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง ไม่นานสมุนไพรที่แอบซัดเอาไว้ก็เริ่มถูกเผาไหม้ควันไฟฟุ้งกระจายไปทั่วบริเวณ ไม่นานพิษร้ายก็เริ่มออกฤทธิ์ เสียงหัวเราะดังลั่นไปทั่วทั้งหมู่บ้าน เนี่ยฟงแสยะยิ้มพุ่งทะยานลงมาจากเกราะสายฟ้าไล่ล่าสังหารพวกที่อยู่ตามพื้น เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง เสียงแส้แข็งฟาดหวดเข้าปะทะกับร่างกาย มีชายฉกรรจ์หลายคนพุ่งเข้ามาปะทะแต่ก็ถูกฟาดหวดสังหารตกตายอย่างรวดเร็ว เสียงร้องโหยหวนดังสลับกับเสียงหัวเราะไปทั่วบริเวณ เนี่ยฟงหรี่ตามองพวกหานป๋อพร้อมกับเอ่ยวาจาออกมาดังลั่น
“รีบสังหารให้หมด ข้าไม่แน่ใจว่าจะมีกองกำลังอื่นมาที่นี่อีกหรือไม่”
หานป๋อพยักหน้าเป็นการตอบรับเช่นเดียวกับทุกคนที่อยู่ใกล้บริเวณ ปราณดาบปลิวว่อน แน่นอนเพราะพิษร้ายทำให้พวกหานป๋อลงมือสังหารได้อย่างง่ายดาย ทันใดนั้นเนี่ยฟงก็พบเห็นชายชราที่เป็นหัวหน้าหมู่บ้านวิ่งหนีไปทางด้านหลังบ้านหลังหนึ่ง แน่นอนเนี่ยฟงรีบพุ่งติดตามไปทันทีพบเห็นชายชราผู้นั้นพุ่งทะยานหลบหนีอย่างเร่งรีบ เขาหรี่ตาจ้องมองในมือขวาของชายชราหอบนำของบางอย่างหลบหนีออกมาด้วย แส้แข็งในมือถูกฟาดหวดออกไป มันยืดยาวพุ่งเข้ารัดขาขวาของชายชรา ประกายสายฟ้าเผาทำลายขาขวาอย่างรวดเร็วชายชราล้มลงไปกับพื้น เนี่ยฟงออกแรงกระชากอย่างแรงฉุดชายชราไถลไปกับพื้น เสียงสะบัดมือดังแว่วแส้แข็งหดกลับมาเป็นเช่นเดิมพร้อมกับฟาดหวดไปที่ศีรษะของชายชราอย่างถนัดถนี่ เปรี้ยง เลือดและไขสมองกระจายไปทั้งบริเวณ ไม่รีรอสิ่งใดเขารีบเก็บสิ่งของที่ชายชรานำมาหลังจากนั้นก็พุ่งทะยานออกไปอย่างรวดเร็ว
การลงมือสังหารเพียงฝ่ายเดียวและไร้ซึ่งความปรานี กองศพเกลื่อนเต็มพื้นกลิ่นเหม็นไหม้โชยมาตามสายลม เลือดสีแดงฉานพร้อมกับเปลวไฟที่ลุกโชนไปทั่วบริเวณ ทันใดนั้นเองก็มีเสียงร้องคำรามดังลั่นมาจากด้านหน้าหมู่บ้าน เนี่ยฟงเองแสยะยิ้มรีบพุ่งทะยานออกไปอย่างรวดเร็ว ไร้ซึ่งเสียงกล่าวใดๆแส้แข็งฟาดหวดไปที่ศีรษะของชายฉกรรจ์ผู้หนึ่ง เปรี้ยง เสียงตะโกนดังลั่นแน่นอนว่าตัวเขาเองหาได้สนใจเร่งมือสังหารอย่างรวดเร็ว แส้แข็งสีดำในมือชุ่มไปด้วยเลือดสีแดงไหลย้อยลงพื้น เกือบสองชั่วยามกลุ่มคนเพียงยี่สิบสองคนก็จัดการหมู่บ้านขนาดใหญ่ได้เป็นผลสำเร็จ มีหลายคนได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย หลังจากนั้นไม่นานทั้งหมดก็พุ่งทะยานจากไปทิ้งซากศพเอาไว้เกลื่อนพื้น แสงไฟยังคงสว่างไสวจนถึงรุ่งเช้า