ระบบใช้จ่าย ตอนที่ 103
ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay
บทที่ 103: การตัดสินใจที่ยากลำบาก
หลังจากจูบแก้มหงต้าหลี่ ใบหน้าของถังมู่ซินก็เปลี่ยนเป็นสีแดงเชอร์รี่ ในทางตรงกันข้าม หงต้าหลี่ไม่ได้เขินอะไรมากนักและยังคงคิด "อืม.. ความเป็นไปได้ของเรื่องนี้ก็มีมูลอยู่บ้าง ถ้ามันเป็นปัญหาอื่น ลุงถังก็คงจะไม่เป็นเช่นนี้"
"นายนี้บื้อมาก!" คราวนี้ถังมู่ซินกลับหน้าแดงก่ำเพราะเธอกำลังโกรธเรื่องอะไรไม่ทราบ เธอยกเท้าของเธอขึ้นและเหยียบเท้าของหงต้าหลี่ "นายมันควรจะเป็นโสดไปตลอดชีวิต!" เขาทำเฉยเมยเกินไปแล้วนะ ฉันจูบเขาเลยนะ เขาไม่ได้เขินอะไรเลย ไม่ว่ามันจะรู้สึกดีหรือไม่ดี อย่างน้อยเขาก็ควรจะตอบอะไรมาบางสิ! นายมันก็แค่รู้วิธีการใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย! ทำไมตอนนี้ฉันถึงโมโหที่ไปจูบแก้มด้วยนะ? แต่ที่ฉันได้ยินมาจากนักเรียนคนอื่น ๆ ในวิทยาเขต หงต้าหลี่ได้จูบท่านหญิงน้อยก่อนหน้านี้และเขาก็ไม่แสดงอาการใด ๆ เช่นกันนี้น่า …
"โอ๊ย! โอ๊ย!" หงต้าหลี่กอดเท้าของเขาและลูบเท้าของเขาไปมา "ทำไมเธอต้องเหยียบเท้าฉันด้วยเนี่ย!" อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ในใจของหงต้าหลี่กำลังคิดถึงอนาคตที่ขมขื่น แม้ว่าซินซินจะเป็นที่รักของฉันและเธอคือคู่หมั้นของฉันในปัจจุบัน แต่ยังไงเธอก็จะจากไปและหย่ากับฉันในอนาคตอยู่ดี ทำไมเธอถึงจูบฉันและโกรธที่ฉันไม่แสดงอาการด้วยล่ะ? หรือฉันควรจะไปต่อ แล้วพาเธอเข้านอนดี? แต่นั่นจะทำให้เธอตบฉัน หรือทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเราลึกซึ้งขึ้นไปอีกนะ? ถ้าฉันทำอย่างนั้น ฉันอาจจะโดนจิ้มตาก็ได้ ฉันคงได้แต่เปลี่ยนหัวข้อการพูดคุยสินะ ว่าแต่ทำไมเธอถึงต้องโกรธด้วย? ฉันไม่เข้าใจจริงๆเลยว่าผู้หญิงคิดอะไรอยู่!
"ฉันโกรธนายแล้ว ไม่ช้าก็เร็วฉันคงอาจจะฆ่านายก็ได้!" ถังมู่ซินหันหน้าไปทางอื่น ในขณะที่เธอกำลังโกรธ หลังจากนั้นไม่กี่วินาทีเธอก็หันมาและพูดว่า "โอเค โอเค ไม่ต้องพูดเรื่องนี้แล้ว" เธอหยิบกระดาษเช็ดหน้าออกมาแล้ววางลงบนโต๊ะโดยพูดว่า "นี่คือบริษัทของพ่อฉัน" จากนั้นเธอก็หยิบกระดาษเช็ดหน้ามาอีกยี่ห้อนึงมาวางไว้บนโต๊ะ "สมมติว่านี่คือบริษัทของคู่แข่งของพ่อฉัน"
เธอกำลังจัดแจงทุกอย่าง จากนั้นเธอก็พูดต่อว่า “ตอนนี้พ่อของฉันกำลังท้อแท้ มันอาจจะเป็นเพราะการพัฒนาของยาในบริษัทพ่อของฉัน มันควรที่จะขายดี ถึงแม้ว่ายอดขายจะไม่ดีเท่าของคู่แข่ง แต่มันก็ควรไม่ทำให้พ่อของฉันท้อมากขนาดนี้” ถังมู่ซินจึงชี้ไปที่กระดาษเช็ดหน้าที่เป็นของคู่แข่ง "ความเป็นไปได้ที่ใหญ่ที่สุด คือ บริษัทของพ่อและบริษัทคู่แข่งกำลังพัฒนายาตัวเดียวกันและความคืบหน้าของพวกเขาก็เป็นไปในทิศทางเดียวกัน หรือบริษัทพ่อของฉันอาจจะช้ากว่าของคู่แข่ง ในช่วงระยะเวลาสั้นๆ" ถังมู่ซินก็ได้ตัดสินใจ "ทำให้เขากำลังเผชิญกับแรงกดดันอย่างมาก!"
"อืม.. ฉันคิดว่านั่นน่าจะเป็นสถานการณ์คร่าว ๆ" หงต้าหลี่พยักหน้าเห็นด้วยและตอบว่า "แต่ว่า ฉันก็คิดเรื่องอื่น ๆ ที่จะทำให้ลุงถังผิดหวังไม่ออกเลย นอกจากนี้สาเหตุที่เธอและพ่อของเธอมาที่บ้านของฉันก็อาจเป็นเพราะเรื่องนี้ด้วยใช่ไหม?"
ใบหน้าของถังมู่ซินเปลี่ยนเป็นสีแดงด้วยความอับอายและเธอตอบด้วยเสียงที่แผ่วเบาว่า "ชะ …ใช่…"
"ไม่ต้องอายหรอก ตระกูลของเราทั้งสองถือว่าเป็นเพื่อนกัน" หงต้าหลี่เหยียดแขนและมองที่กระดาษเช็ดหน้าบนโต๊ะ "ธุรกิจมักจะมีแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้และรวดเร็ว ลุงถังต้องรู้เกี่ยวกับความคืบหน้าของงานวิจัยของอีกฝ่ายแน่ ๆ โอ้ ใช่ ซินซิน ลุงถังเริ่มค้นคว้ายาตัวใหม่ตั้งแต่เมื่อไหร่?"
ถังมู่ซินคิดอย่างรอบคอบก่อนที่จะตอบกลับว่า "น่าจะเริ่มประมาณเดือนมกราคมปีที่แล้วและเกือบครึ่งปีหลังที่ผ่านมา"
หงต้าหลี่ครุ่นคิดแล้วถามว่า "ลุงถังเริ่มรู้สึกหงุดหงิดตั้งแต่เมื่อไหร่?"
ถังมู่ซิน: "พ่อเริ่มหงุดหงิดตั้งแต่เดือนที่แล้วหรืออาจจะนานกว่านั้น"
"หนึ่งเดือน ... " หงต้าหลี่ลูบคางของเขา "เขาไม่มีข้อมูลใด ๆ เกี่ยวกับการวิจัยใหม่ที่ดำเนินการโดยคู่แข่งของเขาเลยเหรอ? ถ้าเขามี มันก็เป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาเพิ่งจะเริ่มต้นเมื่อเดือนที่แล้ว ฉันพูดถูกไหม?"
"จากที่นายพูดมา มันก็ถูกนะ" ถังมู่ซินคิดย้อนไปสถานการณ์ในอดีตอย่างรอบคอบและยืนยันว่า: “อาจจะเป็นเพราะว่าเขาเพิ่งพบคู่แข่งของเขาได้เริ่มการวิจัยเกี่ยวกับยาตัวเดียวกัน แต่ก่อนฉันไม่เคยได้ยินพ่อของฉันพูดถึงบริษัทอื่นที่กำลังค้นคว้ายาตัวเดียวกัน แม้แต่ยาในระดับเดียวกัน แต่หนึ่งเดือนที่ผ่านมาพ่อของฉันเริ่มนอนไม่หลับและหลังจากนั้นไม่นาน เขาก็พาฉันไปที่บ้านของนาย เพื่อมาเป็นคู่หมั้นของนาย ...” หลังจากพูดจบก็ไม่ต้องพูดอะไรอีก "คงเป็นเพราะเราไม่มีหนทางอื่นที่จะทำได้ ..."
"ไม่ต้องพูดอีกแล้ว" หงต้าหลี่ขมวดคิ้ว "สิ่งที่ฉันเป็นห่วงคือเรื่องนี้ ลองคิดดูซินซิน บริษัทของพ่อเธอทำได้ดีมาโดยตลอด แต่เมื่อมีคู่แข่งรายใหม่ที่พัฒนายาตัวเดียวกันด้วยความก้าวหน้าแบบเดียวกัน เธอคิดเหมือนกันกับฉันไหม?"
"แล้ว? มีความก้าวหน้าแบบเดียวกันคือ?" ถังมู่ซินพึมพำ และจู่ ๆ เธอก็ตาโตขึ้น "ถ้าอย่างนั้น แสดงว่ามีบริษัทอื่นที่เพิ่งเริ่มทำการวิจัย ทั้งยังไม่ได้เริ่มในเวลาเดียวกันกับบริษัทพ่อของฉัน ดังนั้นหมายความว่าผลการวิจัยบริษัทของพ่อฉันรั่วไหลออกไป? มีสายลับในบริษัทและขโมยข้อมูลไปอย่างนั้นหรอ? แถมอีกฝ่ายเพิ่งขโมยผลวิจัยและตัวอย่างไปเนี่ยนะ?! มันก็เลยทำให้พ่อของฉันไปหาครอบครัวของนายเพื่อกู้ยืมเงินและเร่งทำการวิจัยโดยหวังว่าจะเสร็จก่อนบริษัทอื่น ๆ"
หงต้าหลี่: "ใช่แล้ว! ฉันรับประกันได้เลยว่านี่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้น"
"ด้วยเหตุผลนี้ พ่อของฉันเลยผิดหวังอย่างมาก ความก้าวหน้าในการวิจัยของบริษัทของเขาไม่สามารถพัฒนาเร็วกว่าบริษัทอื่นได้" ถังมู่ซินขยำกระดาษเช็ดหน้าที่เป็นตัวแทนของบริษัทคู่แข่งและพูดด้วยความโกรธว่า "น่ารังเกียจมาก พวกเขาใช้วิธีการสกปรก เพื่อขโมยวัตถุดิบในการวิจัยของคนอื่น!"
"ไม่ ฉันไม่คิดว่านั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้ลุงถังโกรธหรอก" หงต้าหลี่ส่ายหัวช้าๆ "ซินซิน ขอให้ฉันถามก่อนได้ไหม เธอคิดว่าบุคลิกของพ่อเธอเป็นอย่างไร?"
"จำเป็นที่จะต้องถามด้วยหรอ? เขาเป็นเหมือนกับไอดอลของฉันตั้งแต่ฉันยังเป็นเด็ก เขาเป็นคนดี! ฉันมั่นใจ!" ถังมู่ซินพูดอย่างเฉียบขาด
"ลองคิดดูนะ ถ้าคนที่มีคุณธรรมต้องการเปิดตัวยาใหม่ สิ่งแรกที่เขาจะทำคืออะไร?" หงต้าหลี่ถาม
"สิ่งแรกที่เขาจะทำ?" ถังมู่ซินใช้นิ้วมือแตะริมฝีปากสีแดงอมชมพูในขณะคิด "สิ่งแรกที่เขาควรทำคือไม่ควรเรียกการแถลงข่าว แต่ต้องทดสอบก่อนเพื่อให้แน่ใจว่าปลอดภัยที่จะใช้"
"ถูกต้อง ฮิฮิ" หงต้าหลี่พูดต่อ "ดังนั้นถ้าเราคิดต่อ.. เราสามารถสรุปได้ว่าสาเหตุที่ลุงถังผิดหวังมากในตอนนี้ คือ เขากลัวว่าบริษัทอื่นจะปล่อยยาก่อนที่บริษัทของเขาจะทำเสร็จ ในฐานะที่เป็นคนดี ลุงถังจะปล่อยยานี้ได้ก็ต่อเมื่อปลอดภัยแล้วเท่านั้น อย่างไรก็ตามคู่แข่งของเขาอาจไม่เหมือนกัน คู่แข่งใช้วิธีการสกปรกโดยการที่เขาใช้สายลับแบบนี้ แน่นอนว่าบริษัทพวกเขาส่วนใหญ่ไม่ใช่คนดี ดังนั้นลุงถังคงเพียงแค่รู้สึกหงุดหงิดกับการที่ฝ่ายตรงข้ามของพวกเขาจะปล่อยตัวยา เพราะบริษัทยังอยู่ในช่วงทดลองอยู่"
เมื่อพูดถึงตรงนี่ ดวงตาทั้งสองของพวกเขาก็สบกันและพวกเขาก็เปล่งเสียงด้วยกัน: "แสดงว่าปัญหาหลักคือยังไม่พบสายลับขององค์กร!"
หลังจากการระดมสมองร่วมกันเป็นเวลานานและยากลำบาก ในที่สุดพวกเขาก็พบกุญแจสู่ปัญหา
หากไม่พบสายลับ บริษัทอาจมีเพียงสองทางเลือกเท่านั้น ทางแรกคือ ต้องรีบค้นคว้าวิจัยให้ไวกว่าบริษัทอื่น
ทางที่สอง อาจจะเป็นบริษัทของลุงถังเองที่จะปล่อยออกมาขายก่อน อย่างไรก็ตามหากมีผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายใด ๆ ชื่อเสียงของบริษัทจะลดลงทันที
นี่คือเหตุผลว่าทำไมถังรุยชีจึงรู้สึกแย่ ถ้ามีใครที่ก้าวไปข้างหน้าก่อน มักจะมีหมาป่ารอเขาอยู่ อย่างไรก็ตามหากเขาเลือกที่จะเดินถอยหลัง เขาจะต้องเผชิญหน้ากับเสือ ไม่ว่าทางเลือกใดก็มักมีปัญหารออยู่ นี้จึงทำให้เป็นการตัดสินใจที่ยากลำบากสำหรับพ่อของเธอมาก