บทที่ 260
เปลิวไฟลุกโชนโหมกระหน่ำควันไฟพวยพุ่ง พวกหานป๋อรวบรวมพลังปราณไปที่อาวุธฟาดฟันต้นไม้โดยรอบเพื่อทำแนวป้องกัน ไฟเผาทำลายต้นไม้ปีศาจตกตายท่ามกลางกองเพลิง เสียงกรีดร้องโหยหวนดังแว่วออกมาจากกองไฟด้านหน้า หลายคนถึงกับขนลุกชูชันทั่วร่าง จ้องมองเข้าไปด้านในมองเห็นชายผู้หนึ่งกวัดแกว่งอาวุธในมือเข้าสังหารต้นไม้ปีศาจ เงาวูบวาบไปมาพร้อมกับเสียงกรีดร้องชั่วน้ำเดือดชายหนุ่มผู้นั้นก็พุ่งทะยานออกมาด้านนอก
“เจ้าเป็นอย่างไรบ้างเนี่ยฟง”
“สบายมาก ข้าเพียงแค่ทดสอบพลังนิดหน่อย เอาละในเมื่อที่นี่ไม่มีสิ่งใดแล้ว เราเดินทางกันต่อเถอะ”
“เจ้าแน่ใจนะ”
“วางใจเถอะ ข้าไม่เป็นอะไร”
เนี่ยฟงกล่าวตอบหานป๋อพร้อมกับหันไปมองจูคัง
“นำทางเถอะ เราเสียเวลาที่นี่มามากแล้ว”
จูคังพยักหน้าตอบรับพร้อมกับหันหลังพุ่งทะยานออกไป ทันใดนั้นทุกคนก็พุ่งติดตามจูคังไปอย่างรวดเร็วพร้อมกับทิ้งระยะห่างตามตำแหน่งที่วางเอาไว้ การเดินทางเป็นไปอย่างปกติสัตว์อสูรส่วนใหญ่ตกตายเพราะถูกสังหารจากกลุ่มด้านหน้า ระยะเวลาถึงสองวันกลุ่มของเนี่ยฟงก็ติดตามกลุ่มด้านหน้า เสียงปะทะดังสนั่น ทั้งหมดยังไม่เข้าไปยังจุดปะทะเนี่ยฟง จูคังและเจินอู่ทั้งสามมุ่งหน้ามาสอดแนมก่อนว่าเกิดสิ่งใดขึ้นกันแน่ ทันทีที่เข้ายังจุดปะทะทั้งสามถึงกับตื่นตกใจสภาพด้านหน้าพื้นที่ส่วนใหญ่ถูกทำลายจากการปะทะ คนจากเขตหนึ่งนับร้อยเป็นกลุ่มของหัวอิง จงอี้เซียน และฟานอวิ๋นกำลังรับมือกับกลุ่มคนเผ่าอสูรมายาเกือบยี่สิบคน กลุ่มของหัวอิงเริ่มที่จะคุ้นชินกับการจัดการอาวุธเข้าปะทะกับกลุ่มคนด้านหน้าได้เป็นอย่างดี แต่อีกสองกลุ่มยังคงไม่คุ้นชินมากนักจึงถูกจัดการโดยง่าย
ทั้งสามคนจ้องมองอยู่บนกิ่งไม้ใหญ่ยังไม่มีท่าทีแต่อย่างใด มีเพียงเนี่ยฟงเท่านั้นที่กำชับมีดสั้นเอาไว้ที่มือขวา เกือบยี่สิบลมหายใจเนี่ยฟงก็เอ่ยวาจาออกมา
“เจินอู่รีบกลับไปนำพวกหานป๋อมาที่นี่ เข้าช่วยเหลือผู้บาดเจ็บพยายามอย่าเข้าปะทะ เมื่อมาถังแล้วให้เจ้านำกำลังคนออกลาดตระเวนโดยรอบ จูคังเราลงไปสนุกด้านล่างกันดีกว่า”
จูคังหัวเราะเสียงดังลั่นพร้อมกับสะบัดมือขวาถือดาบเล่มโตไว้ในมือ หันมามองเจินอู่
“รีบไปรีบมา”
สิ้นเสียงกล่าวจูคังก็พุ่งทะยานลงจากกิ่งไม้ฟาดฟันดาบในมือ ปราณดาบพุ่งเข้าปะทะชายฉกรรจ์ชุดสีเทาผู้หนึ่งเช่นเดียวกับเนี่ยฟงที่ซัดมีดสั้นลงไปติดตาม พุ่งเสียบศีรษะชายฉกรรจ์ผู้นั้นทันที จูคังพุ่งเข้าปะทะคนต่อไปทันที เนี่ยฟงแสยะยิ้มเร่งโคจรลมปราณไปที่มือทั้งสองข้างจนมีประกายสายฟ้าพุ่งออกมาหลังจากนั้นก็ถีบเท้าพุ่งลงไปด้านล่าง ต่อยเข้าไปที่ศีรษะชายฉกรรจ์ชุดสีเทาที่กำลังพุ่งเข้าโจมตีฟานอวิ๋น เปรี้ยง ใบหน้าสะบัดกระเด็นไปทางขวา
“เจ้าพยายามควบคุมปราณไปที่คมดาบหาใช้ใบดาบ”
เมื่อกล่าวเสร็จสิ้นเนี่ยฟงก็พุ่งทะยานติดตามจูคังอย่างรวดเร็ว คมดาบกรีดไปที่ร่างกายพร้อมกับเลือดสีแดงฉานพุ่งออกมา แส้แข็งสีดำในมือสั่นสะท้านฟาดหวดไปที่ด้านหลังอย่างถนัดถนี่ เปรี้ยง คนผู้หนึ่งหลอกล่อด้านหน้า ส่วนอีกผู้หนึ่งลงมือจัดการทางด้านหลัง ถึงแม้จะมีคนกล่าวว่าไร้ยางอายแต่ทั้งสองหาได้สนใจรีบจัดการศัตรูด้านหน้าให้เร็วที่สุด เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง เสียงกระดูกแตกดังลั่น ขาทั้งสองหักงอผิดรูปลงไปนอนกับพื้น จูคังยกยิ้มจ้วงแทงดาบในมือไปที่ลำคอ เลือดสีแดงพุ่งออกมาจากบาดแผล
ชั่วน้ำเดือดทั้งสองก็พบเห็นกลุ่มของหานป๋อเข้ามาช่วยเหลือผู้บาดเจ็บบ้างแล้ว หัวอิงที่เห็นว่ากลุ่มของเนี่ยฟงมาถึงก็เริ่มที่จะล่าถอยออกมาฟื้นฟูพลังปราณด้านนอก อีกอย่างตอนนี้คนพวกนั้นก็ถูกสังหารตกตายไปเกินครึ่งแล้ว เงาดำวูบวาบสองเงาพุ่งเข้าสังหารชายฉกรรจ์ชุดสีเทาด้านหน้าอย่างรวดเร็ว เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง เกือบหนึ่งเค่อชายฉกรรจ์สวมชุดเทาก็ถูกสังหารจนหมด เสียงหอบเหนื่อยดังแว่วเป็นระยะ หลายคนรีบกลืนเม็ดยาโคจรลมปราณรักษาร่างกายและฟื้นฟูลมปราณ เนี่ยฟงและจูคังรีบเข้ามารวมกลุ่มกับพวกหานป๋อ ในระหว่างนั้นเองหัวอิงก็เดินเข้ามา
“ต้องของใจพวกเจ้าที่เข้ามาช่วยเหลือ”
“เรื่องนั้นอย่าใส่ใจ ว่าแต่เหตุใดพวกเจ้าถึงปะทะกับพวกกลุ่มนี้ แล้วพวกที่เหลืออยู่ไหนกันหมด”
“คนที่เหลือแยกกันปิดล้อมที่นี่ เมื่อวานคนของหยวนเจี้ยนออกลาดตระเวนไกลออกไปจากที่นี่ประมาณยี่สิบลี้ พบเจอหมู่บ้านขนาดใหญ่มีจำนวนคนเกือบสองร้อยคน มีทั้งเด็กและคนชรา พวกเราจึงตัดสินใจที่จะลงมือคืนนี้ ส่วนพวกที่เข้าปะทะหากข้าเดาไม่ผิดคงเป็นหน่วยลาดตระเวนของพวกมัน”
เนี่ยฟงพยักหน้าตอบรับ
“เช่นนั้นพวกเจ้ารักษาตัวที่นี่ก่อนก็แล้วกัน”
หลังจากเนี่ยฟงก็หันไปพูดคุยบางอย่างกับหานป๋อและจูคังไม่นานคนทั้งสองก็แอบออกไปด้านนอก ทันทีที่ทั้งสองแอบออกมาก็รีบมุ่งหน้าไปตามทางที่หัวอิงกล่าว ทันทีที่เข้ามาในระยะเจ็ดลี้ก็พบเจอคนแอบซุ่มอยู่หลายคนแล้วเช่นกัน ทั้งสองรีบแสดงตัว หลังจากนั้นก็ถูกพาตัวที่บริเวณที่หยวนเจี้ยนอยู่ เนี่ยฟงและจูคังรับรู้สายตาไม่เป็นมิตรทันทีที่เข้ามาในบริเวณ พบเห็นชายหนุ่มผู้หนึ่งหน้าตาหล่อเหลาสูงโปร่งนั่งอยู่บนก้อนหินใหญ่ใต้ต้นไม้จ้องมองแผ่นหนังอยู่ในมือ ส่วนรอบด้านมีชายฉกรรจ์สี่คนยืมพิงใต้ต้นไม้
“นึกว่าใครที่ไหนที่แท้ก็คุณชายเนี่ยฟงนี้เอง กลุ่มของคุณชายหายไปหลายวันข้าคิดว่าพวกท่านตกตายลงไปเสียแล้ว”
จูคังถึงกับขมวดคิ้วก้าวเดินออกมาเป็นเนี่ยฟงที่ยกมือขึ้นห้ามพร้อมกับกล่าววาจาตอบชายผู้หนึ่งผิวคล้ำมีมัดกล้าม
“เจ้าคงเป็นอันเฉินสินะ คงทำให้เจ้าผิดหวังไม่น้อยที่ข้าหาได้เป็นอันใดที่ข้ามาที่นี่ก็เพียงแค่มาสอดแนมหาได้เข้ารวมกลุ่มกับพวกเจ้าไม่ เอาละพวกข้าต้องขอตัวก่อนที่นี่ช่างเหม็นสาบนักพวกเจ้าอยู่ที่นี่กันได้อย่างไร”
สิ้นเสียงกล่าวเนี่ยฟงก็หันหลังเดินออกไปติดตามมาด้วยจูคังทิ้งให้อันเฉินหน้าตาแดงก่ำกำหมัดในมือแน่น หยวนเจี้ยนทำได้แต่ส่ายศีรษะไปมา
“เจ้าไม่เข้าร่วมกับคนพวกนั้นรึ”
“เรื่องนั้นข้าต้องตัดสินใจจากที่เห็นหมู่บ้านที่หัวอิงกล่าวก่อน”
หลังจากนั้นทั้งสองก็พุ่งทะยานขึ้นบนกิ่งไม้มุ่งหน้าไปยังหมู่บ้านที่กล่าว เมื่อเข้ามาในระยะหนึ่งลี้ก็พบเห็นกลุ่มอสูรมายาเดินมุ่งหน้าเข้ามา เนี่ยฟงสะบัดมือขวาวงอักขระศักดิ์สิทธิ์สีฟ้าปรากฏไม่ถึงสามลมหายใจก็กลายเป็นม่านพลังบดบังทั้งสองคนเอาไว้ เมื่อทั้งหมดเดินจากไปเนี่ยฟงก็หันมาเอ่ยวาจากับจูคัง
“เจ้ารออยู่ที่นี่ก็แล้วกัน ข้าจะเข้าไปเอง”
“เจ้าแน่ใจรึ”
“วางใจเถอะ”
“ระวังตัวด้วย”
เนี่ยฟงพยักหน้าตอบรับ หลังจากนั้นก็ถีบเท้าพุ่งทะยานออกไป ไม่นานก็พบเห็นหมู่บ้านขนาดใหญ่ด้านหน้า รอบด้านต้นไม้ถูกตัดมีชายฉกรรจ์จำนวนหลายสิบคนยืนอยู่บนกำแพงไม้ เขาใช้ออกด้วยทักษะอาภรณ์สายลมพร้อมกับวงอักขระศักดิ์สิทธิ์บดบังร่างกายแอบเข้าใกล้เพื่อตรวจสอบทั้งหมด เมื่อสังเกตในหมู่บ้านก็พบว่ามีทั้งเด็กและคนชราตามที่หัวอิงกล่าว เขาครุ่นคิดอยู่นานหลังจากนั้นก็อ้อมไปทางด้านหลังพบเห็นเป็นคอกแยกออกมามีหลายตนเดินเข้าออกไปมา เขารีบพุ่งทะยานไปอยู่บนกิ่งไม้สูงก็พบว่าพวกที่เข้ามากำลังกระทำบางอย่างกับกลุ่มหญิงสาวแปดคนเสียงกรีดร้องดังลั่นออกมาเป็นระยะ เขาจดจำได้ดีว่าหญิงสาวที่เห็นเป็นคนจากเขตเจ็ดการเครื่องแต่งกายที่ถูกฉีกกระชากทิ้งลงพื้น
เนี่ยฟงกัดฟันทนจ้องมองอยู่นานพร้อมกับแผ่ลมปราณตรวจสอบ ทันใดนั้นเองก็แสยะยิ้มสะบัดมือขวากำชับมีดสั้นสีดำในมือแน่นประกายสายฟ้าพุ่งออกมาจากมีดสั้นพร้อมกับซัดออกไป มีดสั้นพุ่งออกไปตัดเถาวัลย์สี่เส้นที่มัดรั้งท่อนไม้หลายสิบท่อนด้านข้าง ท่อนไม้กลิ้งลงมาชนคอกเสียงดังสนั่น โครม โครม เสียงสบถดังลั่นออกมาหลายตนรีบพุ่งออกมาจากคอกไร้ซึ่งเสื้อผ้าสวมใส่โชว์ความเป็นชายตั้งชูชัน ในจังหวะนั้นเองเนี่ยฟงได้แต่ถอนหายใจสะบัดมือขวาบังคับมีดสั้นสีดำสังหารหญิงสาวทั้งแปดคนในคอกอย่างรวดเร็ว นั้นเพราะหากตนเข้าช่วยเหลืออาจถูกจับได้อีกทั้งอาจทำให้แผนที่พวกหัวอิงวางไว้พังลง อีกอย่างหากปล่อยให้หญิงสาวทั้งแปดเอาไว้คงตกตายเพราะความเป็นชายของเผ่าอสูรมายาเป็นแน่ ทันทีที่คว้ามีดสั้นสีดำเนี่ยฟงก็หันหลังถีบเท้าพุ่งถอยออกมายังจุดที่จูคังอยู่ ในระหว่างนั้นก็ได้ยินเสียงดังสนั่นภายในหมู่บ้าน
“เป็นอย่างไรบ้างเนี่ยฟง”
“ข้าตัดสินใจแล้วว่าจะไม่เข้าร่วมกับพวกเขา แต่เราจะแอบซุ่มอยู่รอบนอกเพียงแค่นั้นเพราะจากที่ข้าสังเกตดูหมู่บ้านนี้หาได้เป็นหมู่บ้านหลัก”
จูคังถึงกับขมวดคิ้ว
“เจ้ารู้ได้อย่างไร”
“คนที่อยู่ที่นี่มีน้อยเกินไป หากข้าเดาไม่ผิดที่นี่คงเป็นหมู่บ้านรอบนอกเท่านั้น เจ้าคิดว่าเราจะเจอหมู่บ้านหลักเร็วเช่นนี้รึ เอาละเรากลับไปหาพวกหานป๋อเถอะ”