ตอนที่ 83 ผ่อนให้
ตอนที่ 83
ผ่อนให้
"และของชิ้นต่อไป…."หลังจากงานประมูลเริ่มไปได้พักใหญ่ ในที่สุดของที่เป็นเป้าหมายของกวีแต่แรกก็ถูกนำออกมาเสียที หนังสือเวทมนตร์ธาตุไม้นั่นเอง
สกิลธาตุไม้ที่หลุดออกมานั้นแทบจะไม่มีพลังโจมตีเลย ส่วนใหญ่มีผลที่การรัดตรึงเท่านั้น หากใช้เป็นเวทมนตร์เพื่อจับมอนสเตอร์คงเป็นเวทมนตร์ที่ดี แต่เพราะจอมเวทของเกมเอคโค่เน้นเรียนเวทมนตร์เพียง 2 บทเท่านั้นการมีเวทไม้ที่ใช้งานไม่ค่อยได้เข้ามาเลยไม่เป็นที่นิยมเท่าไหร่ แต่กวีที่เรียนเวทมนตร์หลายบทเพื่อปลดความต้องการของอาชีพจอมปราชญ์นั้นกลับนำมันมาสร้างประโยชน์ได้อย่างแน่นอน
"หนึ่งแสน"ทันทีที่เริ่มประมูล กวีก็ประกาศราคาออกไปทันที ปกติกวีจะปล่อยให้ราคาเพิ่มสักนิดเพื่อให้คนนำสินค้ามาประมูลได้กำไรตามที่ควรได้ แต่ครั้งนี้เป็นกวีที่เสนอราคาเป็นคนแรกทำให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่านี่คือสิ่งที่กวีต้องการ ประกอบกับที่กวีบอกคนร่วมงานไปก่อนหน้านี้ว่าตนต้องการเวทธาตุไม้ยิ่งทำให้คนอื่นๆต่างไม่กล้าประมูลแข่งกันเลย
"แสนห้า"แต่ที่ด้านข้างกวีกลับมีคนๆหนึ่งที่กำลังแข่งกับกวีโดยไม่ทราบสาเหตุ อาจจะเพราะตอนแรกคุยโตเอาไว้ว่าจะเหมาประมูลของในงานให้สาวๆดูก็ได้ แต่ท่าทางออฟเองก็ไม่ใช่คนโง่อะไร สินค้าแต่ละชิ้นควรมีราคาเท่าไหร่ตัวเขาก็คงรู้ดี ไม่อย่างนั้นคงไม่ชะงักทุกครั้งที่ราคาเกินกว่าที่ตนเองคาดหรอก
"สองแสน"กวีเห็นอีกฝ่ายสู้ก็เพิ่มราคาตามเดิม น่าเสียดายหนังสือสกิลธาตุไม้นี้กวีต้องการใช้งาน คงปล่อยให้ออฟประมูลไปเพื่ออวดสาวไม่ได้
"สามแสน"อยู่ๆออฟก็เพิ่มเงินทีละแสนขึ้นมาเสียอย่างนั้นทำเอาคนรอบๆเริ่มส่งเสียงพูดคุยกันขึ้นมา เพียงแต่ไม่ได้กำลังตกใจราคา แต่กำลังตกใจว่าเจ้าเด็กนี่มันเป็นใครกันถึงกล้าไปประมูลแข่งกับกวีแบบนั้น
"ห้าแสน"กวีพูดราคาต่อแบบไม่ต้องคิด ความจริงหนังสือสกิลราคาสูงอยู่แล้วเพราะเป็นผลลัพธ์จากเควส ถึงจะเป็นสกิลที่มีประโยชน์น้อยไปหน่อยแต่ราคาจริงๆก็ไม่น่าต่ำกว่าหกแสนแน่ๆ
"หนึ่งล้าน"อยู่ๆออฟก็เสนอราคาเหนือกว่าราคาประเมินออกมาหน้าตาเฉยทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ยังไม่กล้าเพิ่มเกินราคาจริงๆของชิ้นนั้นๆแท้ๆ แถมตอนนี้ออฟยังมองมาทางกวีด้วยท่าทีไม่พอใจอีกด้วย
"สองล้าน"กวีไม่แม้แต่จะมองไปทางออฟเสียด้วยซ้ำ แม้ราคาจะเพิ่มเกินจริงไปถึง 3 เท่าแล้วก็ตาม
"สะ….สองล้านห้า"เสียงของออฟสะดุดไปนิดหน่อยเพราะไม่คิดว่ากวีจะดีดราคาสูงขนาดนี้ หนังสือสกิลขยะแบบนี้ยังจะเสนอราคาเกินจริงไปอีก แบบนี้มันหาเรื่องกันไม่ใช่หรือไง
"ห้าล้าน"กวีพูดออกไปด้วยใบหน้านิ่งเฉยอย่างมาก กวีไม่ได้สนใจการหาเรื่องของออฟเลย แล้วก็ไม่ได้สนด้วยว่าต้องจ่ายเท่าไหร่ กวีตอนนี้มีเงินมากพอที่จะเสียไปเล่นๆห้าล้านได้สบาย แต่ท่าทางออฟจะไม่ใช่….
"เฮ้...จะโชว์รวยเกินไปแล้ว"คนที่เอ่ยปากออกมาไม่ใช่ออฟ แต่เป็นผู้ชายคนหนึ่งที่มากับออฟต่างหาก เขาลุกขึ้นมาจ้องไปทางกวีก่อนจะจับไปที่ดาบตรงเอวด้วยท่าทีไม่พอใจ ของสวมใส่บนตัวของกวียังเป็นของเลเวล 50 อยู่แม้เลเวลจะไม่ใช่แล้วก็ตาม แต่คนที่อยู่กับออฟคนนี้ท่าทางจะเลเวลเฉียด 100 ไปแล้วมั้ง
"พูดอะไรกัน ของที่อยากได้ก็ต้องซื้อมาไม่ใช่หรือไงถ้าเพื่อนคุณไม่พอใจก็เพิ่มเงินเท่านั้นเอง"กวีตอบพลางถอนหายใจออกมา ตนเองไม่ได้สนใจท่าทีของออฟแล้วแท้ๆ แต่กลับเลือกใช้วิธีแบบนี้ช่างใจร้อนจริงๆ
"แขกทุกท่านกรุณาอย่าต่อสู้กันภายในงานนะครับ"เพราะการเข้ามาหาเรื่องของผู้ติดตามของออฟทำให้การประมูลชะงักไป
"ทุกท่านครับ ไม่ทราบว่ามีเรื่องอะไรกันเหรอครับ"ทันทีที่เห็นว่ามีเรื่องวุ่นวาย ทีมรักษาความปลอดภัยที่กิลด์การค้าเจ้าของงานจ้างมาก็รีบเข้ามาดูสถานการณ์ทันที
"ไม่มีอะไรหรอก กลับไปทำงานของตัวเองซะ"คนที่ตอบคำถามของทีมรักษาความปลอดภัยไม่ใช่กวีหรือผู้ติดตามของออฟ แต่กลับเป็นตัวออฟเอง
"แต่ว่า…"ชายที่เข้ามาห้ามมองไปทางออฟก็พบว่าออฟกำลังปัดเสื้อของตนที่มีตราสัญลักษณ์กิลด์อยู่ กิลด์ของออฟเป็นหนึ่งในกิลด์การค้าใหญ่ของเกมออนไลน์โดยเป็นกิลด์การค้าที่อยู่ในเครือของสมาคม คนในกิลด์การค้าเหล่านี้ต่างเป็นคนมีเงินทั้งนั้น บางคนถึงกับเหนือกว่ากิลด์การค้าระดับกลางบางกิลด์เสียด้วยซ้ำ การไปยุ่งกับคนในกิลด์เหล่านี้เข้าไม่ใช่เรื่องดีกับกิลด์การค้าด้วยกันแน่ๆ
"ไม่มีอะไรหรอก กลับไปประจำตำแหน่งเถอะ"กวีตอบพลางพยักหน้าช้าๆ ฝ่ายรักษาความปลอดภัยแค่คนเดียวไม่กล้าตัดสินใจจะจัดการคนของสมาคมการค้าหรอก ต่อให้คนของสมาคมเป็นฝ่ายผิด แต่ก็ไม่แน่ว่าหน้าที่การงานของหน่วยรักษาความปลอดภัยตนนั้นจะเป็นยังไงถ้ามายุ่งเข้า
"ครับ…."ฝ่ายรักษาความปลอดภัยคนนั้นพยักหน้าช้าๆก่อนจะถอยออกไปอย่างช่วยไม่ได้ ในเมื่อทั้งสองฝ่ายบอกว่าไม่มีอะไร ตัวเขาก็ทำอะไรไม่ได้เหมือนกัน
"ของชิ้นนี้ให้แกไปก่อน แต่ชิ้นต่อๆไปถ้าแกเสนอหน้าประมูลอีกละก็…."ออฟว่าพลางส่งเสียง จิ ออกมาจากในปากด้วยท่าทีไม่พอใจ แต่ก็มองคาดโทษมาทางกวีว่าอย่าได้มาแข่งกับเขาอีก แม้ตัวเขาจะมีเงินไม่พอแข่งกับกวี แต่หากขอความช่วยเหลือจากสมาคมละก็…..
"งั้นหนังสือสกิลธาตุไม้เป็นของหมายเลขยี่สิบเอ็ดนะครับ"ผู้ดำเนินงานกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบากก่อนจะประกาศผลของหนังสือสกิลออกมา ฝ่ายหนึ่งก็เป็นคนของกิลด์การค้าใหญ่ อีกฝ่ายหนึ่งก่อนเริ่มงานก็มีเจ้าของงานไปทักแถมยังประมูลหนักจนน่ากลัวอีกด้วย บอกตามตรงว่าจะเข้าข้างใครก็กลัวว่าจะมีปัญหาตามมาทั้งนั้น
"งั้นของประมูลชิ้นต่อไป…."หลังจากจบความวุ่นวาย ดูเหมือนสถานการณ์จะผ่านไปด้วยดี เพราะหลังจากได้หนังสือสกิลมากวีก็ไม่ได้ประมูลของไปหลายชิ้นทำให้ออฟยิ้มออกมาด้วยท่าทีพึงพอใจ แต่….
"ชิ้นต่อไป เป็นธนูจากป่าฮาร์ดวูด เป็นธนูชั้นดีที่สร้างโดยเผ่าดาร์คเอลฟ์……"ระหว่างกำลังประมูลสินค้าไปเรื่อยๆก็เริ่มมีสินค้าที่กวีเริ่มสนใจออกมา แน่นอนว่าที่กวีไม่ได้ประมูลก่อนหน้านี้ก็เพราะของที่เอาออกมาไม่ใช่ของที่กวีสนใจอยู่แล้ว
"หกหมื่น"กวีเสนอราคาออกไปทันทีหลังจากราคามาถึงราคาที่กวีคิดว่าโอเค แต่ทันทีที่กวีเสนอราคาออกไปผู้ติดตามของออฟก็หันไปมองกวีทันที
"พูดไม่รู้เรื่องหรือไง ลูกพี่เขากำลังประมูลอย่าเสนอหน้าเข้ามา"ชายคนนั้นว่าพลางลุกขึ้นยืนเดินเอาหน้าตัวเองจ้องเข้าไปหากวีใกล้ๆ
"เฮ้อ เห็นว่าเป็นคนกันเองเลยไม่ได้ว่าอะไรแท้ๆ"กวีถอนหายใจออกมาก่อนจะเปิดหน้าต่างระบบขึ้นมาช้าๆ
"หมายความว่าไงคนกันเอง กิลด์ของแกกิลด์อะไรพวกเรายังไม่รู้ด้วยซ้ำ อย่าเอามาเทียบเลย"ชายคนนั้นว่าพลางมองไปที่หน้าอกของกวี สัญลักษณ์ของกิลด์บูรพาเป็นสัญลักษณ์ใหม่เช่นเดียวกับชื่อ คนอื่นจะไม่รู้จักก็ไม่แปลก
"หกหมื่นห้า"เห็นกวีไม่ได้ตอบคนของตนเอง ฝ่ายออฟก็เลยเสนอราคาออกไปเพื่อชิงเอาธนูมา
"แปดหมื่น"กวีเสนอราคาทับกลับไปทันทีเพราะเขาอยากจะเอาธนูอันนี้ไปให้น้ำหวานใช้พอดี
"เฮ้ย พูดไม่รู้เรื่องหรือไง"ผู้ติดตามของออฟชักดาบออกมาจากฝักก่อนจะจ่อมันมาที่หน้าของกวี
"ท่าทางคงจะต้องสอนเจ้านั่นคัดคนหน่อยแล้ว"กวีถอนหายใจออกมาช้าๆก่อนจะเปิดระบบสื่อสารออกมาพร้อมตั้งค่าให้คนอื่นสามารถได้ยินบทสนทนาของกวีและคนที่ติดต่อไปได้ด้วย
"สวัสดีครับคุณลูกค้า"เสียงของเรย์ดังเข้ามาในระบบสื่อสารทำเอาออฟที่นั่งอยู่ข้างๆสะดุ้งโหยง สมาคมการค้าที่ออฟสังกัดอยู่เป็นสมาคมการค้าของเรย์ พูดง่ายๆก็คือเขาเป็นลูกน้องของลูกน้องของเรย์อีกที
"เรย์ ในสมาคมของนายมีเจ้านี่อยู่ด้วยหรือเปล่า"กวีถามพลางเปิดระบบกล้องให้เรย์สามารถเห็นหน้าของออฟได้ และออฟเองก็จะได้เห็นหน้าของเรย์ด้วยเผื่อเจ้านี่จะจำเสียงของเรย์ไม่ได้
"ครับ...เป็นคนในกิลด์สังกัดของสมาคมครับ"เรย์ตอบพลางพยักหน้าช้าๆ แต่ฝ่ายออฟต่างหากที่นิ่งไป ใบหน้าของหัวหน้าสมาคมพ่อค้าอายุน้อยที่สร้างรายได้มหาศาลให้กับตัวเองผ่านเกมต่างๆ พ่อค้าที่หน้าเลือดถึงขนาดได้ชื่อว่าขายทุกอย่างแม้กระทั่งเพื่อนคนนี้คือเรย์ไม่ผิดแน่
"เจ้านี่….มันหาเรื่องฉัน เห็นว่าเป็นคนของนายเลยจะให้โอกาสหน่อย"กวีถอนหายใจออกมาเพราะตอนแรกที่ไม่ได้ทำอะไรเพราะออฟเป็นคนของเรย์ แต่ถึงจะเป็นคนของเรย์แต่ถ้าเกินเลยไปก็ไม่ใช่ว่ากวีจะปล่อยทิ้งได้
"หาเรื่องพี่…."เรย์มีท่าทีตกใจอย่างเห็นได้ชัดเมื่อทราบกว่าออฟไปหาเรื่องกวีเข้าถึงขนาดเผลอหลุดเรียกกวีว่าพี่ออกมาเลย แม้จะมีสถานะเป็นเพื่อนเก่าหรือพี่น้องที่สู้ด้วยกันมานาน แต่เวลาจริงจังกวีก็จัดการอะไรเด็ดขาดมาก ถ้าทำให้กวีโมโหขึ้นมาต่อให้เป็นเรย์ก็ไม่รู้จะโดนอะไรบ้าง
"พี่กวี...เจ้านี่มันไม่รู้เรื่องอะไร แถมยังเป็นแค่ลูกกิลด์ระดับล่างๆด้วย"เรย์พูดออกมาด้วยท่าทีร้อนใจไม่น้อย การมีเรื่องกับกวีไม่ใช่เรื่องล้อเล่นหรอกนะ
"แต่ก็เป็นคนของนายไม่ใช่หรือไง ฉันสอนแกเรื่องการดูแลสมาชิกกิลด์ไปแล้วไม่ใช่เหรอ"กวีถามด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยียบกว่าทุกที ทำเอาหน้าของเรย์ถึงกับซีดเผือด
"ผม….ผมจะรับผิดชอบเอง ส่วนเจ้านั่นผมจะจัดการเองด้วย พี่อย่าเพิ่งโกรธผมนะ"เรย์ได้ยินกวีพูดมาแบบนั้นก็รีบขอร้องกวีทันที แต่คนที่ตกใจที่สุดคงเป็นฝั่งออฟมากกว่า หัวหน้าที่ตัวเองไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะได้คุยกำลังโดนผู้ชายคนนี้ต่อว่าอย่างกับเป็นเด็กเสิร์ฟที่ยกอาหารมาผิดโต๊ะเสียอย่างนั้น
"ไปจัดการซะ ถ้าจัดการได้ไม่ดีไม่ต้องติดต่อมา"กวีถอนหายใจออกมาก่อนจะปิดระบบสื่อสารไป แต่ทางฝั่งออฟและผู้ติดตามกลับตัวแข็งทื่อทำอะไรไม่ถูก
"เหวอ…."อยู่ๆออฟก็สะดุ้งโหยงจนเผลอร้องเสียงหลงออกมาเสียอย่างนั้น แต่ที่ออฟเผลอร้องออกมาเพราะมีการติดต่อมาจากเรย์โดยตรงนั่นเอง
"เอาล่ะ เริ่มประมูลต่อเถอะ"หลังจากรับสายของเรย์ ออฟก็วิ่งออกไปจากงานทันที แน่นอนว่าคนอื่นๆที่ตามออฟมาต่างก็วิ่งตามไปเช่นกันไม่เหลือแม้แต่คนเดียว แต่ขาดออฟไปก็ใช่ว่างานประมูลจะจบ กวีเลยหันไปบอกให้ผู้ดำเนินงานเริ่มทำหน้าที่ต่อไปด้วยใบหน้ายิ้มแย้มราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
"คะ...ครับ"ผู้ดำเนินรายการเห็นเช่นนั้นมีหรือจะกล้าขัดคำสั่งกวี เขารีบดำเนินรายการต่อจนจบด้วยท่าทีร้อนๆหนาวๆ แต่หลังจากออฟไปก็ไม่มีเรื่องอะไรอีกทำให้การประมูลจบลงด้วยดี