ตอนที่ 266 (ตอนฟรี ส่งท้ายปีเก่า) ชายชราผู้ทรงพลัง?
ตอนที่ 266 (ตอนฟรี ส่งท้ายปีเก่า) ชายชราผู้ทรงพลัง?
.
คลื่นนนน!
ออร่าที่แข็งแกร่งก่อตัวขึ้นมาในบริเวณโดยรอบ
สนามพลังอันน่ากลัวอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ จนทำให้คนในกลุ่มของหวังเสียน ร่างกายสั่นสะท้าน
ใบหน้าของหวังเสียน เคร่งเครียดขึ้นมาในทันที เมื่อเขาสัมผัสได้ถึงพลังอันแข็งแกร่งสายนี้ เขารีบเดินเข้าไปในวิลล่าอย่างรวดเร็ว
โม่ชิงหลง, โม่หยวน และคนในกลุ่มเดินตามหวังเสียนเข้าไปอย่างระมัดระวัง
หวังเซียนขมวดคิ้วเล็กน้อยและต้องตกใจกับสิ่งที่เขาเห็น
ในขณะนี้พื้นที่ทั้งหมดต่อหน้าเขาดูเหมือนว่าราวกับอยู่ในเตาเผาขนาดใหญ่ ความร้อนแรงที่แผดเผาออกมานั้นสามารถรู้สึกได้อย่างชัดเจน
"ออร่าและแรงกดดันในระดับนี้!..ต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญในระดับอาณาจักรเม็ดยาเซียนอย่างแน่นอน!"
โม่ชิงหลงตกตะลึงเป็นอย่างมากเมื่อเขาจ้องมองไปที่คนตรงหน้า
"เป็นยังไงบ้างเจ้าคิดได้แล้วหรือยัง? เจ้ารู้ไหมว่าตอนนี้ข้ามีพลังมากแค่ไหน เฮ้! สาวน้อยถ้าเจ้าแต่งงานกับตระกูลซุยของข้า ข้าจะไม่เพียงแต่มอบอำนาจอันยิ่งใหญ่ให้กับเจ้าเท่านั้น แต่ข้าจะฝึกสอนและมอบทักษะวิชาที่ทรงพลังให้แก่เจ้าด้วย เจ้าลองคิดพิจารณาดูให้ดีๆนะ!"
เสียงของชายชราดังขึ้นอีกครั้ง จากน้ำเสียงของเขา สามารถบอกได้ถึงความเย่อหยิ่งและความทะนงตนของเขาได้เป็นอย่างดี
หวังเสียนยืนอยู่ข้างนอกได้ยินเสียงนั้นอย่างชัดเจน เขาค่อยๆเดินเข้าไปในวิลล่าอย่างช้าๆ
เมื่อเขาเดินมาจนถึงสวนหลังบ้าน เขาเห็นชายชราในชุดคลุมสีเหลืองยืนอยู่ที่กลางสวน
เสี่ยวหยู, กวนชูชิงและผู้อาวุโสฟางกำลังขมวดคิ้วและมีสีหน้าที่เอือมระอาใจ
ชายชราจ้องมองไปที่ กวนชูชิง อย่างจริงจังและเห็นได้ชัดว่าคำพูดในก่อนหน้านี้ของเขา คือคำพูดที่พูดกับเธอ
"เสี่ยวเสียน!"
เมื่อเห็น หวังเสียน เดินเข้ามา กวนชูชิง ก็รีบวิ่งกระโจนเข้าไปกอดเขาด้วยความดีใจ
"ห๊ะ!"
ชายชราขมวดคิ้วเมื่อเห็นว่า กวนชูชิง มีปฏิกิริยาอย่างไรกับชายหนุ่มที่พึ่งเดินเข้ามา เขาจ้องมองไปทางหวังเสียน อย่างพิจารณาทันที
"มีอะไรอย่างนั้นเหรอ? ตาเฒ่าหัวหงอกคนนี้เป็นใคร?"
หวังเสียนเหลือบมองไปที่ชายชราในชุดคลุมสีเหลืองด้วยสีหน้าที่ไร้อารมณ์ ก่อนที่จะหันหน้าไปถามกวนชูชิง
กวนชูชิง แลบลิ้นออกมาเล็กน้อยอย่างน่ารักก่อนที่จะตอบว่า "ผู้อาวุโสคนนี้เป็นผู้มีพระคุณของพวกเราน่ะ!"
"ผู้มีพระคุณ?" หวังเสียน ขมวดคิ้วและรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย
"ฉันไม่ได้บอกคุณเกี่ยวกับเรื่องนี้ตอนที่คุณโทรมาเมื่อเช้า เพราะฉันกลัวว่าคุณจะเป็นห่วง เดี๋ยวฉันจะเล่ารายละเอียดเรื่องทั้งหมดให้คุณฟัง!" กวนชูชิง พูดกับหวังเสียนเบาๆ
"เฮ้! เจ้าหนุ่มข้าคิดว่าเจ้าควรจะพูดจาให้มันดีๆหน่อยนะ!"
ชายชราเหลือบมองไปที่หวังเสียน และรู้สึกไม่พอใจที่หวังเสียนเรียกเขาว่า 'ตาเฒ่าหัวหงอก' เขามองไปที่กวนชูชิง และพูดต่ออีกว่า "สาวน้อยเขาเป็นแฟนของเจ้าอย่างนั้นหรือ? ช่างเป็นคนหนุ่มที่เจ้าสำอางและดูอ่อนแอเสียจริงๆ ถึงแม้หน้าตาจะดูดี แต่ก็ไม่มีอะไรโดดเด่นเลยแม้แต่น้อย ลูกหลานในตระกูลซุยของข้า แม้แต่คนที่ด้อยที่สุดก็ยังดูดีกว่าเจ้าหนุ่มคนนี้มากนัก ข้าจะโทรเรียกพวกเขาให้มาที่นี่อีกไม่เกินสองวันก็น่าจะมาถึงกันแล้วล่ะ!"
"ผู้อาวุโสฉันและเสี่ยวเสียนเป็นคู่รักกัน และตัวฉันก็รักเขามากจนไม่คิดจะมองคนอื่นอีกเลยแม้แต่น้อย อย่าพยายามจะจับคู่ให้ฉันอีก ไม่อย่างนั้นฉันจะโกรธคุณจริงๆด้วย!" เมื่อได้ยินชายชราพูดไม่ดีกับหวังเสียน กวนชูชิง ก็พูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด
"สาวน้อยข้าทำทั้งหมดนี้ก็เพื่อตัวเจ้าทั้งนั้น มันจะเป็นผลดีกับตัวเจ้าในอนาคต เจ้าและเจ้าหนุ่มหน้าอ่อนคนนี้ไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกัน หรือถ้าพูดให้ถูกต้องก็คืออยู่กันคนละโลกนั่นเอง ข้าสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนว่าเจ้าหนุ่มคนนี้ไม่มีแรงแม้แต่จะฆ่าไก่ได้ด้วยซ้ำ!" ชายชรากล่าวเตือน กวนชูชิง ทันที
"ฮึ! ตาเฒ่าหัวหงอก ถ้าเจ้าโทรหาลูกหลานของเจ้าในตระกูลซุยให้พวกเขามาที่นี่ ข้าจะฝังพวกเขาทั้งหมดเอาไว้ที่เมืองเจียงเฉิงแห่งนี้ตลอดไป!" หวังเสียน หันไปมองชายชราด้วยสายตาเย็นชา ก่อนจะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ไร้อารมณ์
ถ้าไม่ใช่เพราะว่า กวนชูชิง อธิบายให้เขาฟังว่าตาเฒ่าหัวหงอกคนนี้เป็นผู้ที่มีพระคุณของพวกเธอ หวังเสียน คงจะจัดการกับตาเฒ่าหัวหงอกคนนี้ให้ไปพบกับยมบาลไปนานแล้ว
"ฮึ่มม!"
ชายชรารู้สึกไม่พอใจกับคำพูดของหวังเสียน รอยยิ้มของเขาหายไปอย่างช้าๆในขณะที่เขาจ้องมองไปยังหวังเสียน
ออร่าที่ร้อนแรงและน่ากลัวแผดเผาจนคล้ายกับเตาหลอมที่รวมตัวกันโอบล้อมปกคลุมอยู่เหนือหัวของหวังเสียน ด้วยความคิดเดียวของชายชราเขาสามารถปลดปล่อยพลังให้มันโจมตีไปที่หวังเสียน ได้ในทันที
หากเป็นคนธรรมดาทั่วไปก็คงจะต้องเป็นลมล้มไปกองกับพื้นแล้วอย่างแน่นอน เนื่องจากความร้อนที่แผดเผาออกมาอย่างรุนแรงเช่นนี้
แต่ถึงแม้ว่าจะเป็นตัวหวังเสียนเองในตอนนี้ก็รู้สึกเหมือนว่ามีดวงอาทิตย์ขนาดย่อมๆ อยู่บนหัวของเขา ความกดดันอันทรงพลังเช่นนี้ คงน่าจะพอๆกับสัตว์อสูรในระดับที่ 13 เลยก็ว่าได้
เขาขมวดคิ้วเล็กน้อยและจ้องไปที่ชายชราอย่างเย็นชา เขาปลดปล่อยออร่าแห่งราชันย์มังกรจนทะลุผ่านกระแสพลังแห่งเตาหลอมที่อยู่เหนือหัวของเขาและส่งพลังอันรุนแรงของเขากลับไปยังชายชราทันที
"ดูเหมือนว่าตาเฒ่าคนนี้อยากจะตายมากนักสินะ!"
โม่ชิงหลง, โม่หยวน, ซุนหลิงซิ่วและหมอโลหิต ต่างเดินมาล้อมรอบที่ชายชราพร้อมกับปลดปล่อยพลังของพวกเขาออกมากันอย่างเต็มที่
"นี่มันอะไรกัน!"
ชายชราตกใจมาก เขามองไปที่หวังเสียน อย่างไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง หลังจากนั้นเขาก็หันไปมองยัง ซุนหลิงซิ่ว โม่ชิงหลง และคนอื่นๆ
ใบหน้าของเขานั้นเปลี่ยนเป็นซับซ้อนขึ้นมาในทันที
ออร่าและแรงกดดันอันทรงพลังที่ออกมาจากชายหนุ่มตรงหน้าของเขานั้น เขารู้สึกได้ว่าเหมือนเขานั้นได้เจอกับจอมราชาแห่งสัตว์อสูรที่ร้ายกาจมากตัวนึงเลยทีเดียว สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกค่อนข้างที่จะหวาดกลัวขึ้นมาในทันที
หากต้องปะทะกันกับชายหนุ่มตรงหน้าคนนี้ตัวต่อตัว เขาไม่มั่นใจเลยแม้แต่น้อยว่าจะสามารถเอาชนะชายหนุ่มคนนี้ได้ หรือหากเขาสามารถชนะได้จริง ตัวเขานั้นก็ต้องบาดเจ็บสาหัสมากอย่างแน่นอน
และที่สำคัญในตอนนี้คนอื่นๆในกลุ่มของพวกเขาก็ไม่ได้อ่อนแอเลยแม้แต่คนเดียว
นี่เป็นเพียงแค่เมืองเล็กๆเมืองหนึ่งเท่านั้นเองไม่ใช่หรอกหรือ? เมืองเล็กๆอย่างเมืองเจียงเฉิงแห่งนี้ จะมีผู้ที่แข็งแกร่งมากมายเช่นนี้ได้อย่างไร!
ชายชรากำลังครุ่นคิดด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียด หลังจากผ่านไปหลายสิบวินาทีปากของเขาก็กระตุกเล็กน้อย และรอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าของเขาอีกครั้ง "ฮ่าๆๆ! ข้าไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าเมืองเจียงเฉิงเล็กๆแห่งนี้ จะซ่อนผู้เชี่ยวชาญที่มีความสามารถระดับสูงไว้อย่างมากมายเช่นนี้ ข้าจักรพรรดิซุย ต้องขอโทษด้วยจริงๆสำหรับการบุกรุกเข้ามาโดยไม่ได้รับอนุญาต แต่นี่ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีทีเดียว เพราะมันเป็นโชคชะตาที่ทำให้พวกเรานั้นได้มาพบกัน!"
ชายชราพูดด้วยรอยยิ้มและน้ำเสียงที่เบาสบายออร่าอันแข็งแกร่งของเขาที่ปลดปล่อยออกมาในก่อนหน้านี้ก็สลายหายไปในทันที
ราวกับว่าบรรยากาศที่รุนแรงจนเกือบจะเกิดการต่อสู้กันในก่อนหน้านี้นั้นไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
หวังเสียน มองไปที่ชายชราอย่างไร้อารมณ์เขาดึงกลิ่นอายและแรงกดดันของเขากลับคืนมาเช่นเดียวกัน
"ฮ่าๆๆ! เจ้าเป็นคนหนุ่มที่มีความสามารถมาก จนข้าเคารพและเลื่อมใสมากจริงๆ แม้แต่แม่สาวน้อยที่เป็นคู่รักของเจ้าก็มีความสามารถมากเช่นเดียวกัน พวกเจ้าสองคนเหมาะสมกันดังกิ่งทองใบหยก ชายชราเช่นข้าก็ขออวยพรให้พวกเจ้าเป็นคู่อยู่ด้วยกันไปจนตลอดชีวิตด้วยนะ ฮ่าๆๆ!"
ชายชราหัวเราะและมีรอยยิ้มที่จริงใจ "แต่อย่างไรก็ตามพรสวรรค์ของแม่สาวน้อยคนนี้นั้นดีมากเลยจริงๆ ข้าหวังว่าอย่างน้อยข้าจะสามารถรับเจ้าเป็นลูกศิษย์ของข้าได้!"
กวนชูชิง สะดุ้งตกใจขึ้นมาอีกครั้งเมื่อเห็นว่าท่าทางของชายชรานั้นเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว
หวังเสียน มองไปที่ชายชราแล้วส่ายหัวช้าๆ ก่อนที่เขาจะหันไปพูดกับ กวนชูชิง "ไปกันเถอะ เข้าไปข้างในบ้านกัน!"
"เอ่อ!…."
ชายชรายืนอยู่ที่สวนทางด้านหลังของวิลล่า ด้วยท่าทางที่เขินอาย เมื่อเขาเห็นทุกคนเดินเข้าไปในวิลล่าแล้วมุมปากของเขาก็กระตุกขึ้นเล็กน้อย
'เชี่ยเอ้ยยย! เมืองเจียงเฉิงเล็กๆแห่งนี้ จะมีกลุ่มกองกำลังที่น่าหวาดกลัวระดับนี้อยู่ได้อย่างไร นอกจากนี้เจ้าหนุ่มคนนั้นยังเด็กมากอีกด้วย ระดับพลังของเขานั้นไม่ได้อ่อนแอกว่าข้าเลยแม้แต่น้อย หรือว่าตัวข้านั้นใช้ชีวิตมาเป็นร้อยปีอย่างสูญเปล่ากันแน่!'
คิ้วของชายชรากระตุกอย่างต่อเนื่อง เมื่อเขาคิดอยู่ในใจของเขาอย่างเงียบๆ
'ข้าเคยคิดจะให้เด็กสาวคนนั้นแต่งงานเข้ามาอยู่ในตระกูลซุยของข้า ด้วยความสัมพันธ์ทางสายเลือดและความสัมพันธ์ในครอบครัวคงจะสามารถผูกมัดให้เธออยู่ช่วยดูแลตระกูลซุยของข้าได้ดีกว่า แต่ในตอนนี้ข้าสามารถเลือกทางเลือกที่ดีที่สุดโดยให้เธอมาเป็นศิษย์สายตรงของข้าได้เพียงเท่านั้นเอง!'
ในตอนนี้แววตาของชายชราแสดงออกมาถึงความมุ่งมั่น ครู่ต่อมาเขายิ้มออกมาด้วยความภาคภูมิใจก่อนจะเดินตามกลุ่มของหวังเสียน เข้าไปในวิลล่าอย่างไม่ได้รับเชิญ
"เมื่อวานนี้เกิดอะไรขึ้นกันแน่? เกิดเหตุร้ายขึ้นกับพวกคุณกันอย่างนั้นหรือ?" หวังเสียน ถาม กวนชูชิง, เสี่ยวหยู และผู้อาวุโสฟางด้วยความห่วงใย
"ผู้เชี่ยวชาญในระดับครึ่งขั้นก่อกำเนิดลมปราณ ได้ซุ่มโจมตีพวกเราจนทำให้เจ้าสำนักถังแห่งสำนักกระบี่พฤกษาขจีได้รับบาดเจ็บ จากการวิเคราะห์ของพวกเราคนพวกนี้น่าจะมาจากสำนักวังเปลวไฟอย่างแน่นอน!" ผู้อาวุโสฟางตอบ
"คนพวกนี้ฝึกฝนวิชายุทธแห่งธาตุไฟและมีระดับครึ่งขั้นก่อกำเนิดลมปราณมาด้วยกันหลายคน!"
ในขณะนั้นเองเสียงของชายชราก็ดังขึ้นอีกครั้ง เขามองไปที่หวังเสียน พร้อมกับพูดด้วยรอยยิ้มว่า "น้องชายเจ้าอาจจะไม่รู้ก็ได้ว่าสถานการณ์ในวันนั้นมันอันตรายมากจริงๆ!"
"ผู้เชี่ยวชาญในระดับครึ่งขั้นก่อกำเนิดลมปราณ สี่ถึงห้าคนได้เปิดการโจมตีอย่างเต็มกำลัง เจ้าสำนักถังที่เป็นเจ้าสำนักเล็กๆอย่างสำนักกระบี่พฤกษาขจีนั้นไม่สามารถจะต้านทานผู้เชี่ยวชาญครึ่งขั้นก่อกำเนิดลมปราณได้แม้แต่คนเดียว พวกเขาทั้งหมดกำลังจะถูกรุมสังหาร ก็พอดีที่ตัวข้านั้นบังเอิญอยู่ใกล้ๆ ข้าจึงเข้าไปช่วยไว้ได้ในทันที ถ้าไม่เช่นนั้นคงจะเกิดเหตุที่น่าเศร้าสลดอย่างแน่นอน!"
ผู้อาวุโสฟาง พยักหน้ารับคำของชายชรา เหตุการณ์ในวันนั้นก็เป็นอย่างที่ชายชราได้พูดออกมาจริงๆ
"สำนักวังเปลวไฟ?"
หวังเสียน ขมวดคิ้วเล็กน้อยและมองไปที่ชายชราพร้อมกับโค้งตัวลงเพื่อทำการขอบคุณ "ถ้าอย่างนั้นข้าก็ต้องขอบคุณผู้อาวุโสมากที่ได้ช่วยชีวิตคนของข้าเอาไว้!"
"ฮ่าๆๆๆ! น้องชายอย่าได้เกรงใจไป แต่หากว่าเจ้านั้นอยากจะขอบคุณข้าจริงๆก็อนุญาตให้สาวน้อยคนนี้นั้นมาเป็นลูกศิษย์ของข้าเสียสิ ข้าจะยกให้เธอนั้นเป็นลูกศิษย์หลักสายตรงของข้าเลยทีเดียว วิชาความรู้ทั้งหมดที่ข้ามีนั้นข้าจะถ่ายทอดให้เธอทั้งหมด และภายในเวลาสามปีข้าสามารถรับประกันได้ว่าเธอจะก้าวไปถึงผู้เชี่ยวชาญระดับก่อกำเนิดลมปราณได้อย่างแน่นอน!"
ชายชราคนนี้พยายามจะขอสิ่งตอบแทนจากการช่วยเหลือในก่อนหน้านี้อย่างนั้นหรือ?
……….
จบบท
ส่งท้ายปีเก่าปีนี้ขออำนาจแห่งคุณพระศรีรัตนตรัย พระเสื้อเมือง พระทรงเมือง เทวาอารักษ์และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากลโลก ได้โปรดจงบันดาลให้ท่านผู้อ่านทุกๆท่านจงมีแต่ความสุขความเจริญสวัสดีมีชัยแคล้วคลาดปลอดภัยไร้โรคาพญาธิ อยู่ดีมีสุขเจริญรุ่งเรืองทั้งเรื่องครอบครัวและหน้าที่การงาน ร่ำรวยทั้งทรัพย์สมบัติและรูปสมบัติ(หล่อ,สวย) กันทุกๆท่านนะครับ สาธุๆๆ เจอกันอีกทีปีหน้านะครับ [ ใส่แมส เว้นระยะห่าง ล้างมือ กันด้วยเด้อ ]