ตอนที่แล้วตอนที่ 236 จักจั่นลอกคราบ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 238 เริ่มต้นการไล่ล่า 2

ตอนที่ 237 เริ่มต้นการไล่ล่า


“อ้ากกก! -”ลุคแผดเสียงร้องแหบแห้ง รุยรีบวิ่งมาห้องของลุคก่อนใครเพื่อน พบว่าลุคกำลังนั่งบนเตียง ใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นสีหมู

“คุณเป็น..”

“ฉันโดนเล่นแล้ว!” ลุคกำหมัดแน่น กัดฟันจนฟันแทบแตก

เขาสั่นสะท้านด้วยความโกรธ เพราะเขาใช้แกะรอยในตอนเช้าและพบว่าลมหายใจของอู่ฉีอยู่ภายในรัศมี 200 เมตรรอบเขา

และมันก็ใกล้มาก! ใกล้มาก! ใกล้จนแปลก!

ใครจะไปคิดว่าการเดินทางสู่ตะวันตกเฉียงใต้จะจบลงที่ตรงนี้

“รุย! ไปบอกเซียงเกอปิงกับเรเนให้ปิดล้อมโรงแรมนี้! พวกอู่ฉีอยู่ในโรงแรมนี้!” ลุคคำรามอย่างเกรี้ยวกราด

รุยหน้าเปลี่ยนสี เขารีบทำตามคำสั่งทันที ขณะที่ลุควิ่งออกห้อง ลงไปชั้นล่าง ทุบเคาน์เตอร์ต้อนรับบนชั้นหนึ่ง

หญิงสาววัย 20 กำลังทำงานที่เคาน์เตอร์ ลุคถลามาเหมือนคนบ้า กระชากเอาแท็บเล็ตออกมา

“คุณ...”

“หุบปากแล้วมอง! เคยเห็นเขาไหม!” ลุคนำภาพของอู่ฉีขึ้นมาให้พนักงานต้อนรับดู

พนักงานต้อนรับตกใจกับท่าทีน่ากลัวของลุค เธอเหลือบมองคนในรูปและดวงตาก็เบิกกว้าง

“ค่ะ ฉันเคยเห็น เขาเข้าพักตั้งแต่เมื่อวานซืนแล้วค่ะ”

ลุคแค่นเสียง“งั้นเขาก็อยู่ที่นี่! เรียกคนให้มาปิดล้อมโรงแรมนี้ไว้ซะ!”

พนักงานต้อนรับเม้มปากและพูด“ท่านค่ะ นี่คือโรงแรมภายใต้ชื่อท่านเจ้าเมือง ท่านต้องไม่รบกวนระเบียบของที่นี่”

“รบกวนระเบียบ?” ลุคนำบัตรประจำตัวของเขาออกจากกระเป๋าเสื้อสูท พร้อมกับชักปืนพกทรงพลังขึ้นมาจากเอว ปลดเซฟตี้ เล็งหน้าผากของพนักงานต้อนรับ“ฉันคือผู้บุกเบิกของสถาบันวิจัยกลาง เป็นมือปราบที่ส่วนกลางส่งมาจับคนร้าย! ถ้ากล้าหยุด ไม่ว่าจะเชื่อหรือไม่ก็ตาม ฉันจะระเบิดหัวเธอเดี๋ยวนี้!”

ลุคโกรธจัด ตอนนี้ อู่ฉีอยู่ในโรงแรม อยู่ภายใต้จมูกของเขา!

พนักงานต้อนรับตัวสั่น ปิดตาด้วยมือ พูดอย่างกระวนกระวาย“ค่ะ ค่ะ ฉันจะโทรเดี๋ยวนี้!”

หลังจากนั้น เธอก็โทรเข้าห้องรักษาความปลอดภัย ไม่นาน ยามก็วิ่งมาทีละคน อยากล้อมลุค แต่เนื่องจากบัตรประจำตัวสถาบันกลางในมือเขา ในที่สุดทุกคนก็ล้อมโรงแรมไว้ตามคำสั่งของหัวหน้ายาม

เซียงเกอปิง เรเน รุย ทหารและคนอื่น ๆ ลงมา

ขณะที่เซียงเกอปิงกำลังจะพูด เขาก็เห็นใบหน้าเย็บเฉียบของลุค เขารู้ดีถึงสถานการณ์และไม่กล้าพูดจาไร้สาระ

พนักงานต้อนรับพลิกหนังสืออยู่นานก่อนพูดว่า“มันเป็นชั้นสาม ห้อง 307”

หลังได้ยิน ลุคกับรุยก็วิ่งไปชั้นสามทันที เตะเปิดประตูไม้ตรง ๆ

ลุคกับรุย สองทหารวิ่งเข้าไป พวกเขาค้นห้องแต่ไม่พบใครสักคน ยังมีรอยยับย่นบนผ้าปูเตียง อากาศยังอุ่น และหน้าต่างก็เปิดอยู่

ความรู้สึกแปลกที่ลุครู้สึกได้รับการยืนยัน ถ้าเพื่อนสาวของอู่ฉีได้รับข้อมูล พวกเขาก็ควรหลบหนีไปเมื่อคืนก่อน แต่ลมหายใจของอู่ฉียังอยู่ภายใน 200 เมตร แต่คนหายไป

รุยหยิบเอาขวดแก้วสีแดงสดออกจากตู้ ส่งมันให้ลุค ลุคมองดูขวดแก้วบรรจุเลือดที่แข็งตัวแล้ว

ลมหายใจของอู่ฉีปลดปล่อยมาจากเลือดนี้ กล่าวอีกนัยหนึ่ง อู่ฉีตัวจริงได้หนีออกระยะสองร้อยเมตรไปแล้ว จุดอ่อนของ’ แกะรอย’ โดนอู่ฉีใช้ประโยชน์ หลบหนีออกไปเหมือนจักจั่น

“ทำลายมันซะ!”

อู่ฉียัดขวดเข้ามือรุย รุยถือขวดไว้ด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ และเสียงอู้อี้ก็ดังออกจากฝ่ามือเขา หลังปลดปล่อยมัน ควันจำนวนหนึ่งก็ไหลออกจากฝ่ามือ เลือดทั้งหมดโดนระเหยด้วยความร้อน

เซียงเกอปิงกับเรเนมองอยู่ด้านนอกประตู มองลุคหลับตาและลืมตา ใช้’ แกะรอย’ อีกครั้ง

“เด็กนั่น!”

ครั้งนี้ ลุคสัมผัสลมหายใจได้ถึงสามทิศทาง เห็นได้ชัดว่าอู่ฉีใช้กลอุบาย’ ขวดเลือด’ อีกแล้ว

“ไล่ตามไป! ตะวันตกเฉียงใต้ ตะวันตกเฉียงเหนือ และตะวันออกเฉียงเหนือ! อย่าปล่อยให้เขายัดขวดเลือดใส่พลเมือง! ’ ลุคสั่ง

คนในกลุ่มเรเนรีบแยกเป็นสามกลุ่ม

มันเป็นเวลากลางวันแสก ๆ มีคนมากมายในเมืองทะเลสาบฟ้า พ่อค้าบางคนตั้งแผงของพวกเขาตอนเช้า บางคนออกนอกเมืองไปทำธุระ ท้องฟ้าสดใส และแสงก็สว่างมาก

ภายใต้อากาศดีเช่นนี้ กลับมีสงครามกำลังจะแตกหัก ซึ่งกลายเป็นอันตรายซ่อนเร้นสำหรับเมืองแสนสงบสุข

เกาหยวนนอนบนหลังคาบ้านทรงสูงทางตะวันตกเฉียงใต้ของเมือง จากตำแหน่งเขา เขาสามารถเห็นโรงแรมใจกลางเมืองได้

เขานำRT-20ขึ้นมาส่อง และผ่านลำกล้อง เขาเห็นคนจำนวนมากวิ่งออกมาล้อมโรงแรมไว้

“อีกฝ่ายรู้ตัวแล้ว ขวดเลือดนี้จะช่วยซื้อเวลาได้นานแค่ไหน?” เกาหยวนพูดในใจ เขากำลังกอดขวดเลือดของอู่ฉีไว้ในอ้อมแขน

...

ที่ประตูบ้านของกู่เถี่ยตาน กู่เถี่ยตานเปิดประตูและกำลังจะไปนั่งในร้านเหล้า เขาเหลือบมองรอยต่อในหินบนกำแพงบ้าน พบเส้นสีแดงสั่น ๆ เพิ่มเข้ามาที่รอยต่อ

สีหน้าของเขาเปลี่ยนไป จากนั้นเขาก็เดินอ้อมไปหลังบ้าน พบซองจดหมายใหม่

จดหมายนี้คืออันที่เขาขอให้เพื่อนช่วยตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับพี่สาวอู่ฉี

กู่เถี่ยตานกลับบ้านเขา คนรักเขากำลังเดินลงบนชั้นหนึ่ง

“ลืมอะไรงั้นเหรอ? กลับมาทำไม?”

“เกิดเรื่องขึ้นนะ” กู่เถี่ยตานพูดเพื่อผลักไล่คนรักเขา และรีบวิ่งขึ้นไปชั้นสอง เข้าห้องทำงานเขา

ห้องทำงานเละเทะคือห้องที่กู่เถี่ยตานใช้เก็บจดหมายข้อมูลลับบางอย่าง แม้เขาจะเผาจดหมายข้อมูลส่วนใหญ่ไปหลังอ่านและเขียนลงในหัวแทน ก็ยังมีบางข้อมูลที่เขาต้องเก็บไว้

กู่เถี่ยตานแทบอดใจรอที่จะเปิดซองจดหมายไม่ไหว หลังนั่งลง เขาก็เปิดผนึกซองจดหมายด้วยเครื่องมือ คลี่กระดาษไร้ตัวอักษร พ่นด้วยสเปรย์น้ำขิงอยู่หลายครั้ง และกระดาษก็ค่อย ๆ แสดงตัวอักษรสองบรรทัด

ทันใดนั้น ดวงตาของกู่เถี่ยตานก็เบิกกว้าง รูม่านตาของเขาหดลงอย่างรุนแรง ลูกกระเดือกของเขากลิ้งขึ้นและลง!

สิ่งที่เขียนบนกระดาษสีเหลือคือ : ตัวตนจริงของคนในภาพวาดคือ’ รั่วหรง’ ! 9 ปีก่อน สถาบันทหารส่วนกลางได้ออกคำสั่งล่าระดับ SSS! เหตุผลไม่อาจทราบ! ตอนนี้ ฉันตกเป็นเป้าสายตาของหน่วยข่าวกรองแล้ว! เรื่องนี้มันร้ายแรงเกินไป!

กู่เถี่ยตานมองเครื่องหมายอัศเจรีย์ทั้งห้าด้วยแผ่นหลังเย็นเฉียบ มือที่ถือจดหมายของเขาสั่นสะท้าน และเขาก็ไม่สามารถสั่งให้พวกมันหยุดได้!

กู่เถี่ยตานหวาดกลัว : พี่สาวของอู่ฉีกลับกลายเป็นผู้ลี้ภัยระดับSSSที่ถูกตามล่าโดยสถาบันทหารส่วนกลาง! ระดับSSSคือคำสั่งล่าระดับสูงสุด และคำสั่งล่าก็แตกต่างจากหมายจับ คำสั่งล่าเป็นความลับ คนที่ส่งไปทำการจับกุมต้องเป็นเหล่านายพลของสถาบันทหารส่วนกลาง!

แต่ทว่า กู่เถี่ยตานเคยเห็นรั่วหรงในดินแดนรกร้างกว่าสองปีก่อน บ่งชี้ว่ารั่วหรงยังไม่ตายและยังไม่โดนจับกุม

“รั่วหรง เธอไปไหน? เธอก่ออาชญากรรมอะไร? น้องชายอู่ฉีเป็นใครกันแน่!” กู่เถี่ยตานรู้สึกเหมือนกำลังนั่งบนเข็มหมุด ผู้ให้ข้อมูลของเขาตกเป็นเป้า บ่งชี้ว่าเขาเองก็อาจตกอยู่ในอันตราย

นี่คือวังวนขนาดใหญ่ วินาทีที่เขาจ้องมองลึกลงไป เขาจะไม่สามารถดึงตัวเองออกมาได้

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด