ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 2 สร้อยข้อมือทองแดง

ตอนที่ 1 สัตว์ร้อยคำถามกับนกดนตรี


สายฝนเทลงมาไม่หยุดเป็นเวลากว่า 24 ชั่วโมงแล้ว เมื่ออากาศเดิมที่แสนร้อนถูกเติมเต็มด้วยความชื้นที่มาพร้อมกับฤดูร้อนแบบนี้ช่างเป็นบรรยากาศที่ทำให้ผู้คนรู้สึกหายใจลำบากจริงๆ

ในบรรยากาศร้อนชื้นนี้เอง ได้มีเด็กหนุ่มที่ดูเปราะบางผู้หนึ่งกำลังยืนก้มหน้า และในมือของเขามีโทรศัพท์มือถือที่ดูล้าสมัยอยู่เครื่องหนึ่ง เขากำลังพยายามเปิดมือถืออยู่นานก่อนที่มันจะส่งเสียงเปิดเครื่องในที่สุด

หลินหยวนถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อเห็นว่าโทรศัพท์มือถือของเขายังไม่พัง ซึ่งเขาคงไม่มีปัญญาจะซื้อเครื่องใหม่ได้ในตอนนี้เป็นแน่

หลังจากเปิดใช้งานหลินหยวนก็เข้าสู่เว็บไซต์ “ของแปลก” ที่เขาเข้ามาเป็นประจำ แล้วก็พบว่าบัญชีของเขามีการแจ้งเตือนมากกว่า 99 รายการ ในขณะที่เขาเพิ่งจะตอบกลับไปได้เพียงแค่คำถามเดียว

ซึ่งก็คือในคืนนั้นที่เขานอนไม่หลับ หลินหยวนสะดุดอยู่ที่ข้อความในหัวข้อที่มีคนถามถึงวิธีแก้ปัญหาหลังจากที่ถูกเจ้าแมงมุมผีขนเงากัด เขาจึงตอบกลับไปชิลๆว่า

“ไม่ต้องตกใจไปครับ เมื่อถูกแมงมุมผีขนเงากัดให้ดื่มน้ำร้อนผสมวอดรูท(รากจากต้น woad พืชชนิดหนึ่งทางยุโรปที่ใช้ใบนำมาสกัดสีน้ำเงินได้) จากนั้นทำความสะอาดแผล เพื่อป้องกันไม่ให้ศพของคุณมีกลิ่นเหม็น ให้หาใต้ร่มไม้เย็นๆที่อากาศถ่ายเทสะดวกแล้วนอนลงไป ถ้าหากว่าคุณพอมีเงินก็ควรปูเสื่อไม้ไผ่ไว้ข้างใต้ตัวด้วยก็จะดี”

ในขณะที่มองผ่านคำตอบแปลกๆต่างๆ หลินหยวนก็ได้ยินเสียงที่ไวต่อความรู้สึกของเขา ทันใดเองนั้นแมวขี้เถ้าดำ ก็กระโดดตะครุบขาของเขา แล้วตามมาด้วยเสียงกระพือปีก

เป็นเจ้านกที่ดูคล้ายนกกระจอกสีฟ้าสองตัว ร่อนลงบนไหล่ของหลินหยวนและส่งเสียงร้องเจื้อยแจ้ว

เขารีบวางมือถือลงแล้วถามเจ้าแมวขี้เถ้าดำที่เกาะขาเขาว่า“จีเนียส ตอนนี้ที่ร้านอุณหภูมิเท่าไหร่?”

เจ้าแมวกระโดดลงจากขาของหลินหยวนก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงที่น่ารักและอ่อนหวานว่า“อุณหภูมิห้องอยู่ที่ 34 °C ท่านหยวน ถึงเวลาที่ท่านจะต้องระบายอากาศเพื่อกระจายความร้อนแล้วล่ะ”

จากนั้นหลินหยวนก็อุ้มแมวขี้เถ้าดำด้วยท่าทางที่ชำนาญ ก่อนจะวิ่งลงไปชั้นล่างโดยมีเจ้านกสีฟ้าร้องเจื้อยแจ้วอยู่บนไหล่ของเขาไปด้วย

เมื่อแสงแดดแผ่ทั่วท้องฟ้าเริ่มสดใส หลินหยวนก็ค่อยๆเปิดหน้าต่างก่อนที่เขาจะเดินไปหน้าชั้นวางดอกไม้อย่างระมัดระวัง

ในขณะนั้นเอง เจ้าแมวขี้เถ้าดำก็พูดขึ้นอีกครั้ง “ท่านหลินหยวนอย่าลืมกินยาของท่านก่อน!”

หลินหยวนหยุดแล้วเดินไปรินน้ำแทน ในเวลาเดียวกันนั้นเจ้านกสีฟ้าก็นำเม็ดยามาให้ด้วยจะงอยปากของมัน

หลินหยวนรับยาจากนกและโยนเข้าปากก่อนที่จะกลืนมันลงไปพร้อมกับน้ำหนึ่งแก้ว

จากนั้นเจ้านกสีฟ้าก็เริ่มส่งเสียงร้องออกมา แต่หลินหยวนก็รีบเอามือปิดปากของมันอย่างรวดเร็ว

“ฉีมี่ถ้าเจ้าร้องเพลงตอนนี้ ป้าจางที่อยู่ข้างบ้านจะมาอีกเคาะประตูอีกนะ!”

แมวพูดได้ซึ่งก่อนหน้านี้อยู่บนขาของหลินหยวน และนกบนไหล่ของเขาซึ่งสามารถร้องเพลงได้ ช่างดูเหมือนอยู่ในโลกเวทย์มนต์ อย่างไรก็ตามหนึ่งศตวรรษหลังจาก พลังปราณวิญญาณได้ตื่นขึ้น แมวขี้เถ้าดำและนกสีฟ้าก็กลายเป็นสิ่งมีชีวิตธรรมดาที่พบได้ทั่วไปที่ทุกคนเขามีกัน

เจ้าแมวนี้ชื่อว่า "จีเนียส" หรืออัจฉริยะ มันเป็นสัตว์ร้ายร้อยคำถาม เป็นสารานุกรมเดินได้และยังสามารถเติมเต็มบทบาทของพ่อบ้านที่มีชีวิตเรียบง่ายได้เป็นอย่างดี มันถือว่าเป็นสัตว์เลี้ยงประจำบ้าน อย่างไรก็ตามมันแตกต่างจากสัตว์ร้อยคำถามตัวอื่น ๆ ในตลาดอยู่พอสมควร เนื่องจากแมวขี้เถ้าดำตัวนี้มีรูปร่างผอมและตัวเล็กกว่ามาก ช่างดูเหมือนว่ามันจะขาดสารอาหารจริงๆ

แมวตัวนี้อาจเกิดมาจากแม่พันธุ์สัตว์ร้อยคำถาม แต่เนื่องจากขนสีดำของมันไม่เรียบสม่ำเสมอ มันจึงดูสกปรก และด้วยเหตุนี้เองมันจึงขายไม่ออกอยู่นาน

เจ้านายที่ขายสัตว์เลี้ยงวิญญาณได้ให้ส่วนลด 50% จากราคาปกติแล้วขายให้หลินหยวน

ส่วนเจ้านกสีฟ้านี้ มันคือนกดนตรี เป็นเรื่องยากมากที่จะเห็นมันวางขายในตลาด เนื่องจากนกดนตรีส่วนใหญ่จะวิวัฒนาการมาเป็นนกร้องเพลง ซึ่งนกร้องเพลงนี้เป็นเหมือนเครื่องเล่นเพลงที่มีชีวิต ทั้งยังฉลาดจนสามารถเรียนรู้ได้มากกว่า 100 เพลง

สำหรับเจ้านกดนตรีสีฟ้าที่คล้ายนกกระจอกบนไหล่ของหลินหยวนตัวนี้ มันเป็นนกดนตรี ที่ไม่สามารถวิวัฒนาการมาเป็นนกร้องเพลงได้

ในตอนที่เจ้าของร้านขายสัตว์เห็นหลินหยวนกำลังลังเลเหมือนจะอยากได้สัตว์ร้อยคำถามเพิ่ม เขาก็ได้ให้นกดนตรีตัวนี้เป็นของขวัญแถมให้ไปเลย

หลังจากได้รับการฝึกฝนจากหลินหยวนเป็นเวลากว่าสองปี เจ้านกดนตรีก็สามารถร้องเพลงได้หนึ่งเพลงแล้ว

ฉีมี่ คือชื่อของเจ้านกดนตรีตัวนี้นี่เอง ในตอนที่มันมาถึงบ้านนี้เป็นครั้งแรก มันดูท้อแท้และห่อเหี่ยวคอตกอยู่เสมอ สิ่งมีชีวิตทั้งหมดนั้นล้วนมีจิตวิญญาณและสามารถสัมผัสถึงสิ่งต่างๆรอบตัวของมันได้โดยธรรมชาติ ดังนั้นหลินหยวนจึงมักจะกล่าวชมเจ้าฉีมี่อยู่บ่อยครั้งเพื่อค่อยๆสร้างความมั่นใจให้มัน จนเป็นผลให้ฉีมี่มีชีวิตชีวาเป็นพิเศษและสามารถร้องเพลงได้เพลงหนึ่งแล้ว

สัตว์ร้อยคำถามที่ขาดสารอาหาร นกดนตรีที่ได้รับการปฏิบัติเหมือนขยะหลังจากที่มันไม่สามารถวิวัฒนาการได้ และเด็กหนุ่มที่ดูเปราะบางขี้โรค ไม่ว่ายังไงทั้งสามก็ดูจะเป็นการเหมือนผสมผสานที่ค่อนข้างไปทาง "อ่อนแอ" อย่างไรก็ตามพวกเขากำลังดูแลจัดการร้านขายของแปลก ที่ถูกทิ้งไว้โดยพ่อแม่ของเขาไปตามระเบียบ

หลังจากกินยาเสร็จแล้วหลินหยวนก็เดินไปที่ชั้นวางดอกไม้และหยิบผ้าสีดำที่คลุมอยู่ออกอย่างระมัดระวัง

พืชที่มีลักษณะคล้ายดอกบัวห้าดอกกำลังเติบโตอยู่ในกระถาง พวกมันมีสีเขียวมรกตและกลิ่นหอมจาง ๆ ที่แทบจับกลิ่นไม่ได้

เมื่อหลินหยวนขยับเข้าไปใกล้ๆลำต้นของดอกลิลลี่มะลินี้ เขาก็อดถอนหายใจไม่ได้หลังจากเห็นก้านดอกหนึ่งของเจ้าลิลลี่มะลิเหี่ยวลง

..เมื่อไหร่หนอ อากาศร้อนอบอ้าวนี้จะผ่านไปสักที?

ลิลลี่มะลิเป็นพืชประหลาดชนิดหนึ่งซึ่งอยู่ในประเภทรักษาโรคทั่วไป

หนึ่งศตวรรษหลังจากพลังปราณวิญญาณตื่นขึ้น สิ่งมีชีวิตทั้งหมดในโลกได้รับอิทธิพลจากพลังปราณวิญญาณนี้ และมีรูปแบบวิวัฒนาการที่แตกต่างกันออกไป

ลิลลี่มะลิเคยเป็นพืชอวบน้ำธรรมดามาก่อนที่พลังปราณวิญญาณจะตื่นขึ้น และเป็นหนึ่งในพืชที่วิวัฒนาการแล้ว

หากเจ้าของเกิดอุบัติเหตุเช่นโดนมีดบาดนิ้วขณะที่ทำครัว พวกเขาก็จะวางดอกลิลลี่มะลิไว้ข้างเตียงและในวันรุ่งขึ้นบาดแผลที่นิ้วก็จะหายสนิท

แน่นอนว่ายังมีผู้เชี่ยวชาญด้านปราณวิญญาณที่เลือกลิลลี่มะลิเป็นคู่สัญญาวิเศษ อย่างไรก็ตามลิลลี่มะลิก็เป็นพืชวิเศษที่มีระดับต่ำสุดและยากมากที่จะวิวัฒนาการไปอีกขั้น

ดอกลิลลี่มะลิทั้งห้าในกระถางนี้ของร้านหลินหยวนเป็นเกรดปกติทั้งหมด ถ้าหากพวกมันสามารถผ่านระดับชั้นยอดและไปถึงประตูระดับทองสัมฤทธ์ได้ล่ะก็ เจ้าลิลลี่มะลินี้จะเทียบได้กับพืชวิเศษประเภทบำบัดที่ยอดเยี่ยม

สิ่งมีชีวิตทั้งหลายล้วนมีสถานะตามโชคชะตาของมัน สิ่งวิเศษระดับต่ำก็มักจะถูกละเลยเพราะมันยากที่จะวิวัฒนาการเป็นของดีได้

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด