ระบบใช้จ่าย ตอนที่ 98
ติดตามอ่านนิยายเพิ่มเติมของผู้แปลและนิยายทุกตอนได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay
บทที่ 98: ท่านมู่
"พ่อคะ แม่คะ หนูกลับมาแล้ว!" ถังมู่ซินได้รับการต้อนรับทันทีเมื่อเธอกลับมาถึงประตูหน้าบ้านของเธอ หลังจากที่เธอนั่งรถโซแองเจิ้ลของหงต้าหลี่กลับมา จากนั้นเธอก็ถอดรองเท้าบูทหนังของเธอและเดินเข้าบ้าน เธอกอดคอพ่อของเธอถังรุยชีจากด้านหลังและถามอย่างแผ่วเบาว่า "พ่อค่ะ วันนี้ทำงานเป็นยังไงบ้าง เหนื่อยไหมคะ? ต้องการให้หนูช่วยนวดไหล่ให้ไหม?"
ที่บ้านแห่งนี้นั้น ถังรุยชีเป็นเสาหลักของครอบครัวและเขาก็มีความสามารถที่ยอดเยี่ยมพอสมควร เขาเป็นไอดอลของถังมู่ซินตั้งแต่เธอยังเด็ก เมื่อเธอกลับถึงบ้าน สิ่งแรกที่เธอนึกถึงก็คือการช่วยพ่อของเธอผ่อนคลายจากความเหนื่อยล้า ด้วยการนวด
"ฮ่าฮ่า พ่อไม่เหนื่อยหรอก ไปพักผ่อนเถอะซินซิน" ถังรุยชียังคงสวมเสื้อกั๊กสีเทาเขียวและถือท่อยาสูบทองแดง เขาก็ได้ยิ้มและถามว่า "ซินซิน วันนี้เป็นอย่างไรบ้าง? หนูโอเคใช่ไหม?"
"หนูสบายดีค่ะ แต่ต้าหลี่น่ะ เขาก็ยังใช้จ่ายฟุ่มเฟือยเหมือนเดิม" ถังมู่ซินอุ้มสุนัขพันธุ์เทอเรียร์ เสี่ยวเสี่ยวไบที่เดินมาหาเธอ เธอกำลังจะลูบขนสั้นสีขาวของมัน แต่จู่ ๆเธอก็ต้องขมวดคิ้วและมองไปที่ถังรุยชี จากนั้นเธอก็ถามว่า "พ่อ ดูเหมือนว่าวันนี้พ่อจะอารมณ์ไม่ดีนะคะ ทำไมดวงตาของพ่อแดงก่ำแบบนั่นล่ะ? มีปัญหาอะไรที่บริษัทรึเปล่าคะ?"
"อ๊ะ ไม่ไม่มีไรหรอก" ถังรุยชีหยุดครู่หนึ่งแล้วรีบพูดว่า "ที่บริษัทจะมีอะไรได้ยังไง? ไม่ต้องห่วงนะ อ่า.. ก่อนหน้านี้พ่อมีอะไรจะถามหนูด้วย ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาการเรียนเป็นอย่างไรบ้าง? หลิวหมิงเฉิงยังตามราวีลูกอยู่ไหม?"
"ถ้าดูๆแล้ว เขาก็ไม่แกล้งหนูแล้วค่ะ เขาแพ้ต้าหลี่ด้วยนะคะ" ถังมู่ซินตอบอย่างว้าวุ่นใจ จากนั้นเธอก็ลุกลี้ลุกลนอุ้มเสี่ยวเสี่ยวไบแล้ววิ่งเข้าไปในห้องของเธอ เธอพูดต่อว่า "พ่อค่ะ หนูจะเข้านอนแล้วนะ พรุ่งนี้เช้าหนูต้องไปโรงเรียน"
"ไปพักผ่อนเถอะแม่ตัวน้อย ฮ่าฮ่า" ถังรุยชียิ้มแล้วตอบมู่ซิน ก่อนที่จะสูบบุหรี่ต่อ
ถังมู่ซินจับเสี่ยวเสี่ยวไบมาและพามันนอนบนเตียงของเธอ ใบหน้าของเธอตอนนี้รู้สึกไม่สบายใจอย่างเห็นได้ชัด "ดวงตาคุณพ่อแดงก่ำมาก ต้องมีปัญหาอะไรที่บริษัทแน่ๆ ถ้าเขาไม่บอกฉัน นั่นแปลว่าเขากลัวฉันจะกังวล แต่คิดว่าฉันจะไม่สังเกตอย่างนั้นหรือไง?" เมื่อคิดอย่างนั้น ถังมู่ซินก็ถอนหายใจและคิด "แล้วปัญหาที่บริษัทของพ่อคืออะไรกันล่ะ? ฉันไม่มีทางรู้ได้เลย แต่ถึงฉันรู้ ฉันก็ช่วยอะไรไม่ได้อยู่ดี ฉันควรทำอย่างไรดี? ฉันจะทำยังไงดี"
เธอนอนอย่างกระสับกระส่ายจนหลับไป แต่แล้วจู่ ๆ เธอก็นึกถึงหงต้าหลี่และหน้าของเธอก็ได้แดงมาก "แปลกจัง ทำไมฉันถึงได้นึกถึงคนอย่างต้าหลี่นะ แต่… แต่……" เธอคิดอยู่พักหนึ่งแล้วก็ "แต่โชคของต้าหลี่นั้นยอดเยี่ยมมาก บางทีเขาอาจมีทางออกก็ได้นะ" แต่พอคิดสักพักหนึ่ง เธอก็ได้ส่ายหัวแล้วพูดต่อ "ฉันบ้าไปแล้วหรือไงเนี่ย เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าบริษัทของพ่อฉันกำลังเผชิญปัญหาอะไร เขาจะรู้ได้อย่างไรว่าจะต้องทำยังไงต่อไป? แต่ซีรี่ย์ต้าหลี่ปาฏิหาริย์อันไม่คาดฝันก็มีความเกี่ยวข้องกับบริษัทพ่อฉันด้วยนี้! หรือเราจะทำได้เพียงภาวนากันนะ?"
อยู่ๆ ถังมู่ซินก็กุมมือตัวเองในขณะที่นอนอยู่บนเตียงและสวดอ้อนวอน "พระเจ้า ได้โปรดอวยพรให้ซีรี่ย์เรื่องต้าหลี่สร้างปาฏิหาริย์อย่างไม่คาดคิด! ให้ได้รับความนิยมด้วยเถิด บางทีอาจช่วยกระตุ้นยอดขายเวชภัณฑ์ของบริษัทพ่อฉันด้วย ได้โปรดเถอะ ... "
ไม่นานหลังจากนั้นเธอก็ผลอยหลับไป
…
ทิศใต้ เมืองเซี่ยงไฮ้เทียนไห่
ภายในคลับเฮ้าส์ส่วนตัว บนถนนกลัน
คลับเฮ้าส์ส่วนตัวนี้ดูไม่หรูหรา แต่มันเป็นการสร้างแบบสถาปัตยกรรมสไตล์ฮุย มีพื้นที่ขนาดใหญ่เป็นกระจกบนชั้นดาดฟ้า มีส่วนกลางเป็นห้องโถงขนาดใหญ่ที่มีสระน้ำสีน้ำเงินเข้ม มีต้นไผ่ขนาดใหญ่อยู่ข้างสระว่ายน้ำ ในสระมีปลาคาร์ปสีแดงนับสิบว่ายน้ำอย่างสบาย
ท่ามกลางกำแพงทั้งสี่นั้นเต็มไปด้วยชาหลงจิ่งชนิดต่าง ๆ ซึ่งรอบๆก็เต็มไปด้วยของสะสมโบราณชิ้นเลิศและเต็มไปด้วยหนังสือ และที่เหลือก็เป็นภาพวาดฝาผนังของจิตรกรรมขั้นเทพจากเมืองตุนหวง
และในเวลานี้ ภายในอาคารแห่งนี้ ไม่มีความวุ่นวายและเสียงรบกวนใด ๆ มีเพียงคนสองคนนั่งดื่มชากันอยู่
หนึ่งในนั้นเป็นชายวัยกลางคนที่มีอายุประมาณ 40 ปี เป็นคนหัวล้าน เขาหัวล้านบางส่วน และคนที่นั่งฝั่งตรงข้ามเขาเป็นชายหนุ่มอายุประมาณ 25 หรือ 26 ปี เขาสวมสูท ถึงจะไม่รู้ว่าแบรนด์อะไรเพราะสังเกตเห็นไม่ชัด แต่ก็ไม่ได้ดูราคาถูกอย่างแน่นอน เขามีคิ้วที่สวยหรู ริมฝีปากบาง ดวงตาสีแดงฟีนิกซ์และสิ่งที่น่าประทับใจที่สุดคือหน้าผากของเขา เขามีไฝสีแดงตรงกลางหน้าผากเหมือนตาของเออลังเชนที่ 1 ในตำนาน
แม้ว่าชายทั้งสองกำลังดื่มน้ำชากัน แต่บรรยากาศที่เห็นกลับเหมือนสงคราม
แม้ว่าชายวัยกลางคนที่หัวล้านกำลังนั่งอยู่ แต่ตัวเขากลับมีเหงื่อออกตามใบหน้าและเขาไม่กล้าขยับนิ้วเลย ในทางกลับกันชายหนุ่มผู้นั้นกำลังนั่งตามอำเภอใจและหยิบถั่วลิสงหยิบขึ้นมาโยนเข้าปากของเขา
"ผู้อำนวยการจ้าว การนัดหมายครั้งนี้แค่จะให้ผมมาดูคุณตัวสั่นใช่ไหม?" ชายทั้งสองนั่งอยู่พักหนึ่งและชายหนุ่มก็หยิบถั่วลิสงหนึ่งกำมือโยนเข้าไปในปากของเขาอีกครั้ง เขาพูดไปโดยไม่สนใจอะไรนักและก็ได้จิบน้ำชา ก่อนที่จะพูดต่อว่า "คุณมีอะไรให้ผมช่วยเหรอ? ความอดทนของผมมีขีดจำกัดนะ"
“ครับ…ครับ…” ผู้อำนวยการจ้าวดึงผ้าเช็ดหน้าสีขาวจากกระเป๋าเสื้อของเขาเพื่อเช็ดเหงื่อเย็นบนหน้าผากและพูดต่อ “ท่านมู่ครับ ผมมาที่นี่เพื่อพูดคุยกับท่านเกี่ยวกับลี่เนียนเหว่ย…”
"โอ้?" จู่ ๆ ท่านมู่ก็เริ่มโห่ร้องและหัวเราะ "คุณกำลังพูดถึงนักร้องหญิงที่โด่งดังในวงการบันเทิงในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาหรอ? เทพธิดาลี่เนียนเหว่ยคนนั้นสินะ?"
"ใช่ ใช่ครับ" ผู้อำนวยการจ้าวก็ได้พูดต่อ "เธอเคยอยู่ในบริษัทของเรามาก่อน แต่เธอก็ได้ถูกหลอกหลวงโดยหงต้าหลี่จากตระกูลหงในเมืองหลวงครับ เกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้นนี้ ผมไม่สามารถนอนหลับได้เลยครับ ดังนั้นผมต้องการขอความช่วยเหลือจากท่านครับ แม้ว่าบริษัทของเราจะไม่มีเธอ แต่ก็ไม่ควรให้เธอไปอยู่บริษัทอื่น!"
"หื้อ!" ท่านมู่มึนงงและพูดต่อ "นี้พยายามจะใช้ฉันเหรอ? ฉันไม่กลัวตระกูลหงหรอกนะ แต่คุณคิดว่าผมจะไปสร้างศัตรูที่ยิ่งใหญ่เพราะเรื่องแค่นี้เหรอ? ผมน่ะชื่นชอบผู้หญิง แต่ผมไม่ได้บ้าแบบคุณหรอกนะ!" เขาเย้ยหยันอีกครั้งและพูดต่อไปว่า "ฟังๆดูแล้ว ดูน่าสมเพชนะว่าไหม? ไม่ใช่เพราะว่าคุณหรอกเหรอที่ต้องการร่างกายของลี่เนียนเหว่ย แต่ท้ายที่สุดคุณก็ยังไม่ได้จัดการเธอ ดังนั้นคุณก็เลยตัดสินใจปล่อยเธอไป คุณคิดว่าผมโง่หรือไง? ด้วยความสามารถของมิสเนียนเหว่ย ถ้าคุณไม่ได้ปรารถนาสิ่งที่เธอมี ไม่เห็นแก่ตัว มันก็ไม่เป็นเรื่องใหญ่แบบนี้หรอก ตอนนี้คุณเสียใจสินะ คุณรู้ตัวใช่ไหมว่าคุณมันโง่แค่ไหน?"
“ใช่ครับ…ผมมันโง่” ผู้อำนวยการจ้าวให้ชายหนุ่มตบสองครั้งและพูดต่อ ว่า "ผมไม่สามารถทนได้เลย ทุกครั้งที่ผมเห็นเธอประสบความสำเร็จ หัวใจของผมก็รู้สึกเจ็บ! มูลค่าเงินหลายสิบล้านได้หายไปในพริบตา!"
"อย่าโทษคนอื่น มันเป็นเพราะความโง่ของคุณเอง" ท่านมู่ก็ได้พูดต่ออีกว่า "ถ้าคุณไม่ได้ให้ข้าวกับพ่อของผมในวันนั้นในตอนที่คุณยังเป็นเด็ก ผมคงจะสั่งให้คนมาทุบตีคุณจนน้ำมันในกระเพาะแตกซะ! อย่ากลัวศัตรู แต่จงเป็นพันธมิตรที่โง่เขลา จำคำพูดของผมไว้เถอะ!"
"ท่านมู่ ผม…ผม…" ผู้อำนวยการจ้าวกำลังจะพูดอะไรบางอย่างเมื่อท่านมู่พูดพล่ามและถูกขัดจังหวะ "พ่อของผมเป็นหนี้บุญคุณและผมจะชดใช้ให้เขาเอง ไปซะ!ไปให้พ้นสายตาของผม หลังจากนี้สองสามวัน ถ้าผมว่าง ผมจะลงไปที่เมืองหลวงเพื่อตรวจสอบเอง"
"ครับ รับทราบครับ ถ้างั้นผมขอตัวลา!"
หลังจากออกจากคลับเฮ้าส์ ริมฝีปากของผู้อำนวยการจ้าวก็แสยะยิ้มและพูดอย่างตัวร้ายในละคร "ไม่มีใครจะได้สิ่งที่ฉันไม่มี!"
ในขณะเดียวกันท่านมู่ซึ่งยังคงอยู่ในคลับเฮ้าส์ ได้ทำลายเก้าอี้ไม้เล็ก ๆ แตกออกเป็นสองท่อน ในขณะที่เขายิ้มและพูดว่า "หงต้าหลี่ เพื่อที่การถลุงเงินของแกจะได้เพิ่มขึ้นไปอีก ฉันจะช่วยให้ดาวเด่นอย่าเนียนเหว่ยดังและมีชื่อเสียงขึ้นไปอีก แถมตอนนี้ฉันว่างมากด้วยสิ ฉันอยากเห็นจริงๆว่าแกจะมีความสามารถแค่ไหน!"
ติดตามอ่านนิยายเพิ่มเติมของผู้แปลและนิยายทุกตอนได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay