ตอนที่แล้วตอนที่ 222 จดหมาย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 224 ตระกูลเหนือ รู้จักหรือไม่ ?

ตอนที่ 223 ไออสูร


ณ วิทยาลัยอาชีวะปัญญา บนหลังอาคารหอพักบ้านบุษราคัม

“นี่เจ้าจะกลับเมืองหลวงจริงหรือ ?”

บุหรงถามชายหนุ่มที่มีสีหน้าไม่สบายใจอยู่ข้างกาย

“อืม ข้าคิดไว้แบบนั้น อีกอย่างวิชาที่ข้าลงเรียนที่นี่ ข้าก็เรียนมาจากท่านหมดแล้ว ไม่จำเป็นต้องเสียเงินเสียเวลาเรียนที่นี่อีก เรื่องเร่งด่วนตอนนี้ ข้าต้องตามหาภรรยาข้า ไม่รู้ตอนนี้นางเป็นยังไงบ้าง ข้ารู้สึกไม่ค่อยสบายใจเลย”

“คิดมาก แล้วเจ้าจะไปเมื่อไหร่”

“พรุ่งนี้”

“รอข้าอีกสองวันได้หรือไม่ ข้าจะไปกลับเจ้าด้วย ข้าเองก็อยากจะกลับบ้าน”

เหนือภพมองสีหน้าไร้ความสุขของรุ่นพี่ยามพูดถึงบ้าน ชายหนุ่มพอจะรู้เรื่องเกี่ยวกับนาง และก็รู้สึกเห็นใจเป็นอย่างมาก มันจะรู้สึกแย่เพียงใด มีบ้านแต่กลับไม่ได้ มีครอบครัวแต่กลับไม่เป็นที่ต้อนรับ

“เอาน่าอย่าคิดมาก” เหนือภพตบบ่าปลอบใจหญิงสาวข้างกาย

เหนือภพพอได้เห็นท่าทางของบุหรงแบบนี้แล้ว มันทำให้เขาคิดถึงเรื่องที่เขาเคยคุยกับบุหรงในอดีต  เรื่องที่เขาอาจจะมีสายเลือดครุฑ เขาชักอยากรู้แล้วว่ามันจริงแท้แค่ไหน สงสัยกลับไปเมืองหลวงคราวนี้คงต้องสืบดูให้แน่ชัด ไม่ใช่เพื่อเขา แต่เพื่อแม่ เขาไม่รู้ว่าแม่รู้เรื่องนี้ไหม เพราะแม่ไม่เคยพูดถึงอดีตหรือความเป็นมาของตัวเอง ยามที่พูดถึงชาติกำเนิดมีสิ่งเดียวที่แม่มักพูดออกมา ‘แม่เป็นเด็กกำพร้า’

หากเรื่องนี้เป็นจริงเขาจะทวงความเป็นธรรมให้แม่

เหนือภพจ้องมองรุ่นพี่อีกครั้ง หากแม่รู้ว่าตัวเองเป็นใครและถูกขับไล่ออกมาแบบบุหรง แม่คงเจ็บปวดและสิ้นหวังมากแน่ เพียงแค่เห็นมันจากรุ่นพี่ ชายหนุ่มก็อดสะท้อนใจไม่ได้

“ได้ ท่านจัดการเรื่องของท่านให้เสร็จ ช่วงสองวันนี้ข้าจะไปอยู่กับอาจารย์ข้าก่อน มีอะไรไปพบข้าที่ร้านเก้าสมบัติละกัน”

“ตามนั้น” หญิงสาวพยักหน้าตกลง

ก่อนทั้งสองจะพากันกระโดดลงจากหลังคาสูงบนตึกห้าชั้น ตกลงสู่พื้นอย่างนิ่มนวลแล้วก็เคลื่อนตัวหายไปด้วยความเร็ว ท่ามกลางสีหน้าตกตะลึงของนักศึกษาบ้านบุษราคัมที่อ้าปากค้าง หลังจากกลับมาทั้งสองก็สมกับชื่อเรียก 'สัตว์ประหลาด' ทั้งลึกลับและแปลกขึ้นทุกที

ณ โรงฝึกการต่อสู้เก่า วิทยาลัยอาชีวะปัญญาตอนกลางคืน

ภารโรงพันกรยังคงทำหน้าที่ได้ไม่ขาดตกบกพร่อง เขาเดินตรวจตราดูความเรียบร้อยเพื่อไม่ให้นักศึกษาเข้ามายุ่มยามใกล้ ๆ โรงฝึกเก่า โรงฝึกเก่ามีอาถรรพ์ประหลาด มักเกิดอันตรายกับนักศึกษาที่เข้าใกล้เสมอ แต่ไม่รู้เพราะอะไรยิ่งห้าม เด็กเหล่านั้นก็ยิ่งสนใจสถานที่ต้องสาป

ตูม !!!

เสียงระเบิดดังขึ้น ภารโรงพันกรที่อยู่ใกล้กับรัศมีระเบิด ถูกแรงอัดกระแทกจนร่างกายกระเด็น แต่ด้วยความแข็งแกร่งทางกายภาพ แรงระเบิดกลับไม่ได้ทำให้ภารโรงผู้นี้เป็นอะไรมาก แต่สิ่งที่ตามมาหลังจากการระเบิดนั้นต่างหาก ที่ทำให้ภารโรงพันกรอ้าปากค้าง ควันสีแดงชาดทะลักพุ่งเข้าโถมทับชายวัยกลางคน ไม่ต่างจากคลื่นน้ำโถมซัดใส่ชายฝั่ง

“ไม่ ~”

เสียงร้องโหยหวนปนเจ็บปวดดังลั่น ก่อนเสียงนั้นจะหยุดลงและแหบแห้งไป แต่นั่นกลับไม่ใช่จุดสิ้นสุด ควันแดงชาดทะลักออกมาจากโรงฝึกเก่ากระจายออกไปทั่วทิศ กลืนกินสรรพชีวิตที่ไม่ทันระวังเข้าไป ต้นไม้สีเขียวขจีพลันเหี่ยวแห้งตาย เกิดเสียงร้องโหยหวนดังขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่

วันรุ่งขึ้น

ก๊อก ๆ

“เหนือภพ ตื่นเร็วเข้า”

เสียงร้องของบุหรงดังลั่นไปทั้งร้านเก้าสมบัติ ก่อนจะถีบประตูดังปัง ! พร้อมพุ่งเข้าไปในห้องของเหนือภพทันที การกระทำของนางนั้น ทำเอาพนักงานภายในหอเก้าสมบัติเบิกตากว้าง แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร ถึงแม้จะเพิ่งทำลายประตูประดับแร่มีสีสุดล้ำค่าไปก็ตาม

ชายหนุ่มนอนแช่อยู่ในอาบน้ำ ก่อนจะเบิกตากว้าง เมื่อเห็นร่างสาวอวบพุ่งเข้ามายังห้องอาบน้ำที่อยู่ภายในห้องของเขา

บุหรงนั้นเคยเห็นร่างกายล่อนจ้อนของเหนือภพมาแล้ว แม้จะไม่ทั้งหมด แต่เธอก็ไม่ได้อายมากนัก ขณะเข้ามาดึงมือชายหนุ่มที่อยู่ในอ่างน้ำให้ลุกขึ้นติดตามนางไป

“ไปเร็วเข้า เกิดเรื่องที่วิทยาลัย”

ชายหนุ่มสะบัดมือออก

“เดี๋ยวก่อนสิ ให้ข้าใส่เสื้อผ้าก่อนได้หรือไม่”

บุหรงนั้นร้อนใจ เธอรีบเอาเสื้อผ้าใหม่ที่ถูกจัดเตรียมไว้บนราวแขวน แล้วโยนให้กับชายหนุ่มทันที

“เร็วเข้าข้าจะรออยู่ข้างนอก”

จากนั้นเธอจึงรีบออกจากห้องไป ซึ่งการกระทำของบุหรงนั้นดูตื่นตระหนกเกินกว่า ที่ผู้มีพลังอยู่ในระดับกายเหนือมนุษย์ควรจะเป็น เพราะด้วยพลังระดับนี้หากกวาดตาทั่วแคว้นอมตะ ก็ไม่น่าจะมีใครเป็นศัตรูกับนางได้ ต่อให้มีก็คงเป็นคนจากทวีปอื่น ซึ่งก็ไม่น่าจะมาสนใจเมืองเล็ก ๆ อย่างเมืองปัญญา

ดังนั้นมุกดาราจึงออกมาจากห้อง ถึงอย่างไรเรื่องที่ควรทำเธอก็จัดการหมดแล้ว ในเมื่อเธอมาถึงที่นี่แล้วก็คิดว่าควรจะเที่ยวเล่นกันสักหน่อย

เหนือภพเดินออกจากหอเก้าสมบัติด้วยสีหน้าเต็มไปด้วยคำถาม เมื่อเห็นอาจารย์ของเขาพูดคุยกับบุหรงเกี่ยวกับสถานการณ์บางอย่าง ซึ่งนั่นก็ทำให้มุกดาราดูสนใจเป็นพิเศษ

“สรุปว่าเกิดอะไรขึ้น”

ชายหนุ่มเข้าใจดี หากไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตาย บุหรงคงไม่พังประตูห้องเข้าไปแบบนั้น

“ไปดูเองแล้วเจ้าจะเข้าใจ ข้าเองก็บอกไม่ได้ว่ามันคืออะไร” บุหรงบอก

ก่อนจะพากันไปยังวิทยาลัยอาชีวะปัญญา ทั้งสามหยุดยืนบนหลังคาอาคารสูงแห่งหนึ่ง ที่อยู่ห่างจากโรงฝึกเก่าของวิทยาลัยไม่ถึงห้าร้อยเมตร ซึ่งบัดนี้บริเวณโรงฝึกเก่าและรอบ ๆ มันไปอีกสามร้อยเมตร ถูกปกคลุมไปด้วยหมอกแดงชาดหนาแน่น ที่กำลังเคลื่อนไหวราวกับว่ามันมีชีวิต

มุกดารานิ่วหน้าคิ้วขมวด ก่อนจะพึมพำออกมาว่า

“ไออสูร”

“อาจารย์รู้จักมันหรือครับ”

อาจารย์สาวพยักหน้าน้อย ๆ ก่อนอธิบายต่อไปว่า “เรื่องนี้เกรงว่าจะไม่ปกติแล้ว หากไออสูรปรากฏตัวที่นี่ ก็แปลว่าลัทธิดับดาราได้เริ่มทำการทดลองอีกครั้ง”

“ทดลอง ?”

“อาจารย์เองก็ไม่รู้ว่าเกี่ยวกับอะไร แต่ว่าไออสูรที่เจ้าเห็นมันเป็นเพียงไออสูรเทียมที่ลัทธิดาราสร้างขึ้น  น่าเสียดายที่ไออสูรจริง ๆ หายไปพร้อมกับตระกูลเหนือที่ถูกทำลายไปแล้ว ไออสูรเทียมพวกนี้แม้จะเป็นของปลอม แต่ปราณอสูรของมันค่อนข้างเข้มข้นกว่าที่ข้าเคยพบ ได้รับเพียงนิด ก็ทำให้คนผู้นั้นมีระดับทะยานไปสู่ระดับเดียวกับเจ้า...”

พอมุกดาราพูดมาถึงตรงนี้ ก็ชี้ไปยังบุหรง “...หรืออาจจะเหนือกว่านาง”

เหนือภพเบิกตากว้างตกใจ ไม่คิดว่าจะมีทางลัดเช่นนี้

“แต่มันมีผลเสียใช่หรือไม่” บุหรงแทรกขึ้น

เธอเห็นกับตาว่ามีคนถูกควันนี้ปกคลุม ไม่นานพวกเขาก็เกิดบ้าคลั่งเข้าโจมตีผู้อื่น ก่อนจะค่อย ๆ มีเลือดไหลทะลักออกมาจากทวารทั้ง 9 แล้วตายไป

มุกดาราพยักหน้า

“ใช่ ใช่ว่าใครก็จะรับปราณอสูรพวกนี้ได้ ต่อให้เป็นเพียงแค่ปราณอสูรเทียมที่ลดประสิทธิภาพลงก็ตาม   เท่าที่ข้ามั่นใจ พวกมันน่าจะใช้ไออสูรเทียมเหล่านี้ เพิ่มพลังให้กับผู้ไร้พรสวรรค์ที่มีสายเลือดผสม ซึ่งจะเพิ่มพูนความแข็งแกร่งขึ้นเป็นอย่างมาก และวิธีการไร้ศีลธรรมพวกนี้ คงมีแต่ลัทธิดับดาราที่ทำได้ แต่ที่ข้าคิดไม่ถึงก็คือ เพียงเพื่อช่วยคนไร้พรสวรรค์ของแคว้นเจ้าเอาชนะสงคราม ลัทธิดับดาราจะเล่นใหญ่เพียงนี้”

เมื่อเหนือภพได้ยินเช่นนั้นก็คิดย้อนกลับไปถึงเหตุการณ์ที่หมู่บ้านโอปะ ผลผลิตจากการทดลองในอดีตก่อเกิดมนุษย์ครึ่งอสูรอย่าง จิต ทองและคนอื่นอีกหลายคน ดูท่าไออสูรเทียมพวกนี้ก็คงถูกสร้างขึ้นมาเพื่อยกระดับความสามารถของมนุษย์ครึ่งอสูร เพื่อใช้เป็นอาวุธ

เขาเริ่มเข้าใจแล้วว่าอะไรที่ทำให้กลุ่มภราดามั่นใจว่าจะชนะสงคราม ที่แท้พวกมันก็มีอาวุธมีชีวิตที่แสนร้ายกาจ

สีหน้าของมุกดาราค่อนข้างเป็นกังวล เธอเคยพบเห็นเหตุการณ์ไออสูรเทียมลุกลามที่ทวีปดารามาก่อน ขนาดที่ทวีปดาราไออสูรเทียมเพียงหยิบมือยังคงทำให้เมืองใหญ่ ที่ใหญ่กว่าเมืองปัญญาร้อยเท่าล่มสลายมาแล้ว ไออสูรมากมายและใหญ่โตเพียงนี้เกรงว่าทวีปสุริยะคงได้หายไปจากโลกใบนี้อย่างถาวร ไม่แคล้วเป็นอย่างทวีปจันทรา

“เราต้องกำจัดมัน หากปล่อยไว้มันคงไม่เป็นผลดีแน่”  บุหรงเอ่ย ทว่ามุกดาราส่ายหน้า

“มันไม่ง่ายเพียงนั้น นอกเสียจากต้องให้คนตระกูลเห…”

เมื่อมุกดาราพูดมาถึงตรงนี้ก็หยุดทันที เธอเหลือบมองศิษย์หนุ่มของตัวเอง ขณะพยายามปิดปากเงียบ ก่อนจะเปลี่ยนคำพูดเสียใหม่

“มีเพียงให้สำนักดาราทั้งเก้าส่งคนมาจัดการ มันเป็นวิธีที่ดีที่สุด”

กรี๊ดดดด !!!

ทันใดนั้นเสียงร้องแหลมเล็กของค้างคาวก็ดังขัดขึ้นมา ราวกับเสียงกรีดร้องของผู้หญิง

ทั้งสามคนพลันรู้สึกตื่นตัว ขณะที่ฝูงค้างคาวต่างส่งเสียงร้องออกมา ด้วยโทนเสียงต่าง ๆ นานา แต่ที่น่าแปลกคือทุกเสียงนั้นเหมือนกับมนุษย์ ยามส่งเสียงด้วยความหวาดกลัว ซึ่งมีทั้งเสียงชายและหญิงผสมปนเปกันไป

เหนือภพเลิกคิ้วอย่างประหลาดใจ เพราะเขาจดจำได้ในทันที ค้างคาวตัวใหญ่กว่าร้อยเมตรนั่นคือค้างคาวจักรพรรดิ ตัวที่รอดจากการโจมตีของเขาในถ้ำเหมือง มันกำลังบินไปทางไออสูรพร้อมกับพาลูก ๆ ค้างคาวคร่ำครวญ ที่ใหญ่พอ ๆ กับแม่วัว จำนวนนับพันที่บินตามกันมาจนมืดฟ้ามัวดิน

“เร็วเข้า รีบสกัดมันไว้ อย่าให้มันเข้าไปในไออสูรได้เด็ดขาด ไม่งั้นพวกมันจะมีพลังเพิ่มขึ้น”

มุกดาราตื่นตัวเป็นคนแรก ก่อนจะเริ่มเร่งเร้าพลังปราณแสงสีเหลืองนวลอบอวล จนเหนือภพที่อยู่ใกล้ที่สุดต้องรีบเคลื่อนตัวไปอีกทิศทาง เพื่อหนีออกจากแรงกดดันปราณที่แสนอันตรายของอาจารย์

จากนั้นเหนือภพก็เริ่มใช้วิชาโจมตี ‘พลังรวมศูนย์’ รวบรวมกำลังภายในร่าง แล้วชกออกไปจนก่อเกิดคลื่นแหวกอากาศบดลูกค้างคาวนับสิบ จนแหลกสลายด้วยพลังหมัดปราณ

บุหรงเองก็เคลื่อนที่ไปอีกทิศทาง พลางเร่งเร้าปราณปีศาจสีเปลือกมังคุด สร้างสายลมปีศาจพุ่งเข้าจู่โจมกัดกร่อนฝูงค้างคาวไปทีละกลุ่มอย่างต่อเนื่อง ช้า ๆ แต่ขยายวงกว้างราวกับโรคระบาด พวกมันไม่ทันรู้ตัวว่ากำลังสัมผัสพลังอะไรอยู่ รู้ตัวอีกทีก็พากันร่วงลงมาตายกันหมดแล้ว

อานุภาพวิชาของนางทำให้เหนือภพนิ่วหน้า สมแล้วที่จัดอยู่ในวิถีนอกรีต ดูชั่วร้ายและอันตราย หากใช้ในศึกสงคราม ใครเล่าจะหาญกล้าต่อต้านนาง แค่คิดเขาก็สยองแล้ว

ขณะที่มุกดารากำลังจะโจมตีนั้น ร่างกายเธอก็สั่นสะท้านขณะสัมผัสได้ถึงคลื่นพลังขอบเขตจิตวิญญาณ ที่กำลังพุ่งตรงเข้ามาด้วยความเร็ว

แกว๊ก !

อีกาทองคำโผล่ออกมาจากชั้นเมฆ เหนือวิทยาลัยอาชีวะปัญญา และมันกำลังทิ้งดิ่งตัวเองลงมาจากฟากฟ้า

สีหน้าเหนือภพบิดเบี้ยว นี่มันวันนรกแตกอะไรเนี่ย

เสียงร้องคำรามของอีกาทองคำก่อเกิดคลื่นความถี่สูง จนแม้แต่ฝูงค้างคาวครวญที่ได้ยินเข้า ต่างก็ร่วงกราวตกลงสู่เบื้องล่าง บ้างก็ตกลงไปยังหมอกสีแดงชาด แม้แต่ค้างคาวจักรพรรดิก็ไม่มีข้อยกเว้น เพราะระดับของมันหากเทียบกับอีกาทองคำแล้ว ยังนับว่าต่ำต้อย

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด