ตอนที่แล้วสุดยอดนักสืบในโลกแห่งจินตนาการ (SDFW)-ตอนที่ 8
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปสุดยอดนักสืบในโลกแห่งจินตนาการ (SDFW)-ตอนที่ 10

สุดยอดนักสืบในโลกแห่งจินตนาการ (SDFW)-ตอนที่ 9


ตอนที่ 9 ประโยคเด็ดสำหรับมือใหม่ กับลูกแท้ๆ?

ลุคขยับมืออย่างรวดเร็ว ในขณะที่เขาทำแซนวิชหน้าเนยถั่ว โดยเข้าทาเนยถั่วเต็มหน้าขนมปัง

ซึ่งวันนี้คงจะเป็นวันที่วุ่นวายมากๆ แน่ ดังนั้นเขาจึงกินอาหารเช้ามากกว่าปกติ เพราะเขากังวลว่าพลังงานของเขาคงหมดแน่ๆ ในตอนเที่ยง

แต่ถึงแม้ว่าเขาจะรีบแต่เขายังไม่วายจะหันมาทะเลาะกับโรเบิร์ต “นี่ คุณหมายความว่าถ้าวันหลัง ผมสามมารถไปสายได้หรอ?”

โรเบิร์ตแทบจะคายแซนวิชกำลังเคี้ยวอยู่ในปากออกมา ซึ่งคำพูดของลุคนั้นทำให้เขาสำลักและหลังจากสำลักก็รีบดื่มนมอย่างรวดเร็วในที่สุดเขาก็สามารถกลืนแซนวิชที่ติดคออยู่ได้

อันที่จริงแล้วเวลาที่โรเบิร์ตกับลุคต่อปากต่อคำกันโรเบิร์ตไม่ค่อยเถียงชนะลุคเลยเพราะโรเบิร์ตตามความเกรียนของลุคไม่ทัน

พวกเขาเถียงกันไม่มากนักลาะเพราะวันนี้พวกเขายังคงมีเรื่องต้องทำอีกมาก

หลังจากโรเบิร์ตกินแซนวิชและนมเสร็จแล้วเขาก็ลุกขึ้นยืนและเริ่มกดดันลุค ลุครีบดื่มนมลงคออย่างไวแล้วลุกขึ้นยืนแม้ว่าเขายังกินแซนวิชไม่เสร็จเพื่อเป็นสัญญาณว่าพร้อมแล้ว

แคทเธอรีนรีบเดินออกไปหาพวกเขาและถามว่า“คุณจะกลับมาทานอาหารกลางวันไหม?”

โรเบิร์ตตอบว่า“ไม่ เราจะไปหาอะไรกินกันข้างนอก”

แต่ทว่าลุคเขายิ้มและรีบไปหยิบถุงกระดาษมาจากแคทเธอรีนก่อนที่จะใช้ปากของเขาที่กำลังเลอะไปด้วยขนมปัง จูบที่หน้าผากของเธอแล้วพูดว่า "โอ้ดีจริงๆที่ได้ยินอย่างนั้น ขอบคุณนะแคทเธอรีนที่เตรียมนี่ให้ผมคนเดียว”

ใบหน้าของโรเบิร์ตซีดลงทันทีเมื่อได้ยินเช่นนั้น

อันที่จริงแคทเธอรีนนั้นทำอาหารมากขึ้นกว่าปกติ เพราะต้องการให้พวกเขานำอาหารไปด้วยเพื่อที่พวกเขาจะได้ไม่ได้เสียเวลาไปหาอาหารกลางวันเมื่อพวกเขาหิว

เมื่อแคทเธอรีนมองไปที่ชายทั้งสองคน คนหนึ่งหน้าตาบูดเบี้ยวด้วยความโกรธและอีกคนยิ้มกว้างเข้าไปในรถ แคทเธอรีนก็ยิ้มอย่างมีความสุข และเมื่อทั้งสองยังทำงานร่วมกันอีก เธอจึงรู้สึกสบายใจมากๆ

อันที่จริงเธอนั้นเป็นห่วงทั้งสองคนอย่างมาก และในตอนนี้ทั้งสองคนทำงานด้วยกันจะได้ช่วยระวังหลังให้กันงานของพวกเขาก็น่าจะอันตรายน้อยลงเช่นกัน

และแน่นอนว่าตอนนี้โรเบิร์ตยังคงเป็นคนดูแลลุค แต่จากความเฉลียวฉลาดที่ลุคนั้นฉายแววออกมาตั้งแต่ยังเด็กเขา เขาคงใช้เวลาไม่นานนักที่จะอยู่ในระดับเดียวกับโรเบิร์ต และเมื่อถึงเวลานั้นทั้งสองก็เริ่มระวังหลังให้กันและกัน

แคทเธอรีนมั่นใจในสิ่งนั้นจะเกิดขึ้นแน่ รถตำรวจพุ่งออกไปยังน็อกซ์ซิตี้ อันที่จริงแล้วเมืองเล็ก ๆ ของพวกเขาไม่ได้มีแผนกนิติเวช ดังนั้นพวกเขาจึงต้องขอความช่วยเหลือจากบางคนในน็อกซ์ซิตี้ เพื่อช่วยเกี่ยวกับผลการชันสูตรพลิกศพ

อย่างไรก็ตามแม้ น็อกซ์ซิตี้ จะไม่ได้มีความก้าวหน้าเป็นพิเศษในด้านนิติเวช ถ้าจนตรอกจริงๆ พวกเบาก็ต้องขอความช่วยเหลือจากแผนกนิติเวชอื่นที่ดีกว่า เช่นแผนกที่ฮูสตัน

สหรัฐอเมริกาแตกต่างจากจีน

การแบ่งเขตการปกครองของสหรัฐอเมริกาถูกจัดเรียงตามลำดับจากมากไปหาน้อย: รัฐ, เขต, เขตปกครองท้องถิ่น และศูนย์ประชากรที่เล็กกว่า

สำหรับระบบการบังคับใช้กฎหมายนั้นก็ทำงานแตกต่างกัน

คดีที่ไม่อยู่ในเขตอำนาจของเมืองท้องถิ่นหรือกองกำลังตำรวจของเมือง จะตกอยู่ภายใต้เขตอำนาจของหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายระดับเขตและกรณีที่ไม่อยู่ภายใต้เขตอำนาจศาล ของหน่วยงานเหล่านี้ คดีจะตกอยู่ภายใต้เขตอำนาจศาลของหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายระดับรัฐ

ยิ่งไปกว่านั้นกรมตำรวจในเมืองของพวกเขาไม่ได้อยู่ภายใต้กรมตำรวจของเขตและไม่ได้อยู่ภายใต้กรมตำรวจระดับรัฐ อันที่จริงแล้วกรมตำรวจของพวกเขาและแผนกนายอำเภอของพวกเขาขึ้นตรงกับอาณาประชาราษฎร์ในพื้นที่ ทั้งนี้เงินเดือนของพนักงานในแผนกของนายอำเภอได้รับจากงบประมาณการบริหารของเมืองของพวกเขาเอง เนื่องจากการบริหารงานที่แยกกันดงกล่าว มันจึงมีความเป็นไปได้ที่หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายนอกพื้นที่เกิดเหตุหรือที่อื่นๆ จะแย่งกันทำคดีซึ่งนี่ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรในสหรัฐ

เพราะสุดท้ายแล้วหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายต่างๆทั่วประเทศเป็นหน่วยงานอิสระที่ไม่ได้อยู่ใต้บังคับบัญชาซึ่งกันและกันในบางเคส แม้ว่าเจ้าหน้าที่เอฟบีไอจะมาช่วยดำเนินการสืบสวน แต่กรมตำรวจในพื้นที่ก็มักจะรู้สึกอคติกับพวกเขาและรู้สึกราวกับว่าพวกเอฟบีไอพยายามแทรกแซงการดำเนินงานในคดีของพวกเขา

เนื่องจากกรมตำรวจท้องที่รับผิดชอบดูแลเรื่องต่างๆ และการบังคับใช้กฏหมายในเมืองพวกเขา ฉะนั้นพวกเขาจึงต้องการคลี่คลายคดีด้วยกำลังของตนเอง พวกเขาจะไม่ส่งคดีไปยังหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายอื่น ไม่ว่าจะเป็นเอฟบีไอ หรือกรมตำรวจอื่น ๆ ก็ตาม เว้นแต่พวกเขาจะไม่สามารถไขคดีได้หรือหากคดีใหญ่เกินกว่าจะจัดการได้

นั่นจึงเป็นเหตุผลที่โรเบิร์ตรีบไปดูรายงานการชันสูตรพลิกศพในเมืองน็อกซ์ซิตี้เพื่อให้เขาสามารถระบุลักษณะของคดีนี้ได้อย่างรวดเร็ว

หากหญิงสาวจมน้ำตายเนื่องจากเหตุสุดวิสัย กรมตำรวจของพวกเขาก็จะสามารถปิดคดีได้

แต่ถ้าหากว่าสาเหตุการตายมาจากการฆาตกรรมจริงเขาจะต้องคลี่คลายคดีนี้โดยเร็วที่สุด

อันที่จริงแล้วก็ผ่านมานานหลายปีแล้วที่มีคดีฆาตกรรมเกิดขึ้นในเมืองของพวกเขา และเหตุการณ์คราวนี้ผู้ตายเป็นลูกสาวของคนในพื้นที่ ดังนั้นพวกเขาจึงต้องใช้ความจริงจังอย่างมากในการจัดการคดีนี้ ซึ่งการคลี่คลายคดีนี้ได้เร็วเท่านั้น ที่จะแสดงให้เห็นถึงความจริงจังและความสามารถของพวกเขาได้ เพราะถึงอย่างไรพวกเขาก็ไม่ได้โบนัสใด ๆ สำหรับการคลี่คลายคดีได้เร็ว

พวกเขาเดินทางด้วยความเร็วประมาณหนึ่งและในเวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงพวกเขาก็มาถึงกรมตำรวจของ Knox City

แผนกนิติเวชไม่ได้อยู่ในแผนก แต่ตั้งอยู่ในอาคารสี่ชั้นถัดจากแผนก ซึงสาเหตุที่ว่าทำไมไม่ตั้งแผนกนี้ในอาคารเดียวกันอาจจะเป็นเพราะกองกำลังตำรวจไม่ต้องการให้มีศพอยู่ร่วมอาคารเดียวกับพวกเขา หรือเพราะเหตุผลใดก็ไม่มีใครรู้

หลังจากลงจากรถโรเบิร์ตไม่ได้เข้าไปในทันที เขามองไปที่ลุค “แกรู้ไหม ว่าแกต้องใส่ใจอะไรบ้างในฐานะที่เป็นเจ้าหน้าที่ใหม่”

ลุคจมอยู่ในความคิดชั่วขณะก่อนจะพูดว่า“ตาดู หูฟัง ปากเงียบ และที่สำคัญอย่าแตะต้องอะไรเลย ใช่ไหม”

โรเบิร์ตตอบว่า“…แกไปได้ยินเรื่องนี้มาจากที่ไหนเนี้ย? ใช่ ถูกต้อง! ง่ายๆ และไม่ยาก! จำไว้ว่าอย่าพูดคำเหล่านั้นไปพูดกับใครหล่ะ ฉันเก็บมันไว้ใช้ฝึกอบรมผู้ใต้บังคับบัญชาของฉันในอนาคต”

Luke: … ฉันบอกคุณได้ไหมว่านั่นเป็นคำพูดที่ใช้บ่อยที่สุดในละครทีวีที่ฉันดูในชีวิตที่แล้ว

หลังจากเซ็นชื่อและยืนยันตำแหน่งในการเข้าพื้นที่แล้ว พนักงานต้อนรับก็พาโรเบิร์ตและลุค ไปที่ห้องหมายเลขสาม

ห้องที่เรียกว่าหมายเลขสามเป็นห้องเก็บศพที่สาม

ดูเหมือนโรเบิร์ตจะคุ้นเคยกับสถานที่แห่งนี้พอสมควรเลยเพราะเขาเคาะประตูก่อนพร้อมกับเดินเข้าไปในห้องโดยทันที

ชายวัยกลางคนอายุประมาณ 40 ปีพยักหน้าเมื่อเห็นโรเบิร์ตเข้ามา "อ้าวมาถึงกันแล้ว. โปรดรอสักครู่. ให้ฉันชงกาแฟให้เสร็จก่อน”

โรเบิร์ต: -_-!

ลุค: (0_0?)

ลุคสับสนไปหมด นี่สคริปต์มันผิดคิวหรือมาผิดที่ รึเปล่า? พวกเขามาที่ร้านกาแฟแทนหรือเนี้ย?

ในทางกลับกันโรเบิร์ตมีสีหน้าไม่สบอารมณ์เท่าไร แต่เขาก็ไม่ได้วู่วาม แต่เขาพูดเสียงต่ำว่า“นี่เป็นสิ่งที่ปกติสำหรับเขา ทุกเช้าก่อนทำงานเขาจะต้องมีกาแฟร้อนๆ หนึ่งแก้ว เขาอ้างว่าถ้าในตอนเช้าไม่มีกาแฟถ้วยนี้เขาจะรู้สึกอ่อนแอไปตลอดทั้งวัน”

ลุคตอบด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลยิ่งขึ้น“คุณแน่ใจนะ ว่าเขาหมายถึงกาแฟ”

ใบหน้าของโรเบิร์ตกระตุกขณะที่เขาตอบว่า“เขาไม่ได้เสพยา ขนาดกัญชา เขายังไม่แตะต้องพวกมันเลย ฉันคิดว่ากาแฟก็คงคล้ายๆกัญชาในเวอร์ชั่นของเขา เขานั้นติดคาเฟอีนอย่างแท้จริงเลยหล่ะ”

นั่นทำให้ลุคพูดไม่ออก

แต่นั่นไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจเพียงอย่างเดียวในเช้าวันนั้น

ในขณะที่เขาชงกาแฟเสร็จชายวัยกลางคนก็เปิดลำโพงในห้อง แม้ว่ามันไม่ดังเกินไป แต่ก็ยังดังมากสำหรับในห้องเก็บศพที่เงียบสนิทนี้

เท่าที่ฟังดูมันเป็นเสียงของไวโอลิน ถึงแม้ว่าเขาไม่ค่อยได้สนใจดนตรีมากนัก แต่ความรู้ด้สนดนตรีก็ไม่ได้แย่นัก แต่ลุคคิดไม่ออกว่าเพลงนี้คือเพลงอะไร

หลังจากผ่านไป 30 นาทีในที่สุดชายวัยกลางคนก็ดื่มกาแฟของเขาจนหมด เขาแทบจะไม่ได้ให้ความสนใจอะไรกับพวกเขาเลยด้วยซ้ำ

โรเบิร์ตสงบนิ่งอย่างสมบูรณ์แบบ เขารู้จักคนนี้ดี ชายคนนี้คือคนที่ใช้เวลาอันแสนหวานของตัวเองกับทุกสิ่ง

และไม่มีใครทำอะไรเขาได้ เขาเป็นแพทย์นิติเวชที่เก่งมากๆ คนหนึ่ง แต่ถ้าจะพูดให้ชัด ๆ เขาเป็นแพทย์นิติเวชเพียงคนเดียวใน Knox City

หลังจากที่ชายวัยกลางคนจัดการกับอุปกรณ์ชงกาแฟของเขาแล้วเขาก็หันมามองลุคและถามว่า "นี่คนใหม่เหรอ"

โรเบิร์ตตอบว่า“นี่ลูกชายของฉัน ลุค และเขายังเป็นเจ้าหน้าที่ วันนี้เริ่มงานวันแรกแหล่ะ มาร์ส คุณช่วยรีบหน่อยได้ไหม”

ชายวัยกลางคนเดาะลิ้นพลางพูดขึ้นว่า "หึหึ นี่คุณพาเขามาที่นี่ในวันแรกหรือ? แน่ใจนะว่าเขาเป็นลูกชายแท้ๆของคุณ”

ลุคยิ้ม แต่ไม่พูดอะไร และเขาก็กำลังปฏิบัติตามคำสั่งให้พูดน้อยลง เพราะถึงยังไงโรเบิร์ตอยู่ที่นั่นเพื่อพูดคุยทั้งหมด

แน่นอนว่าพอได้ยินคำถามโรเบิร์ตก็หน้าเสียและพูดขึ้นว่า“มาร์สอย่าล้อเล่นเรื่องครอบครัวของฉัน”

ชายวัยกลางคนที่เรียกว่ามาร์สยิ้มเล็กน้อยก่อนที่เขาจะยิ้มอย่างขอโทษและพูดว่า“ขอโทษนะฉันเคยนั่งคุยเรื่อยเปื่อยกับคนในแผนกคุณ ก็แฮงค์แหล่ะที่เล่าให้ฟัง…โอ้เราไม่พูดถึงเรื่องนี้กันก็ได้”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด