สุดยอดนักสืบในโลกแห่งจินตนาการ (SDFW)-ตอนที่ 5
ตอนที่ 5 ปาร์ตี้ ความคิดทะลึ่ง และ ภารกิจอีกครั้งหนึ่ง
งานพรอมเป็นงานเลี้ยงครั้งสุดท้ายและสำคัญของนักเรียนเกรด12 ส่วนใหญ่และหลังจากเรียนจบแล้วพวกเขาสามารถเริ่มใช้ชีวิตได้ในแบบที่พวกเขาต้องการ บางคนออกไปเที่ยว บางคนเดินออกทางไปรอบโลก บางคนเตรียมศึกษาต่อ หรือบางคนเริ่มหางานทำ ซึ่งพวกเขาส่วนใหญ่จะเริ่มทำและวางแผนทุกอย่างหลังจากงานพรอม
แม้ว่าพวกเขาบางคนยังจะใช้ชีวิตอยู่ในบ้านเกิด แต่ลุคและเจมินาก็ได้เตรียมแผนและพอจะทราบแผนของพวกเขาทั้งคู่มานานแล้ว
แต่ถึงจะอย่างนั้นเกรดของพวกเขาค่อนข้างที่จะแตกต่างกันมาก เกรดของลุคนั้นสูงกว่าค่าเฉลี่ยของคนทั่วไป และเนื่องจากเขาวางแผนและสะสมเงินมาตั้งแต่เนิ่นๆ จึงทำให้เขาสามารถเข้ามหาวิทยาลัยของรัฐได้เลย
สำหรับ เจมินาเธอแทบจะไม่สามารถสะสมเครดิตได้เพียงพอก่อนที่จะสำเร็จการศึกษา อย่างไรก็ตามเธอยังคงวางแผนที่จะเข้าวิทยาลัยและศึกษาต่อในเมือง เธอนั้นอยากจะใช้ชีวิตในเมืองใหญ่
ดูเหมือนว่าทั้งสองจะไม่ได้มีโชคชะตาที่ร่วมกัน และความสัมพันธ์ยังอยู่ในช่วงที่มีปัญหากันด้วย
แต่พวกเขาไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้กันอย่างจริงจังเลย แต่เอาเข้าจริงๆ แล้วเรื่องความสัมพันธ์ในวัยเรียนมักจะไม่สมหวังเสมอไปและมีแค่ไม่กี่คู่รักเท่านั้นจริงไปถึงตลอดรอดฝั่ง
แต่ตอนนี้ลุคกลับมาบอกเธอว่าเขาจะอยู่ที่นี่เพื่อเป็นตำรวจซึ่งมันเปลี่ยนไปจากแผนเดิมของเขา แต่ถึงอย่างนั้นเหตุผลนี้ก็ไม่สามารถเปลี่ยนความจริงที่ว่าความสัมพันธ์ของพวกเขาจบลงหลังจากงานพรอม
เจมินา จะไม่กลับมาอีกหลังจากเรียนจบ
เธอเข้าไปใช้ชีวิตอยู่ในเมืองที่เต็มไปผู้คนและสังคมใหญ่และจะไม่มีวันอยู่ในเมืองเล็ก ๆ เช่นนี้อีก
หลังจากนั้นไม่นานเธอก็พูดว่า“แต่คืนนี้นายต้องไปงานเลี้ยงของมาร์ธา”
ลุคพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม "แน่นอน. คุณต้องการให้ฉันแต่งตัวในชุดที่ฉันเตรียมไว้เมื่อเดือนที่แล้วไหมหล่ะ”
เจมินาหัวเราะและตีเขาอย่างขี้เล่นก่อนที่จะพูดว่า“ถ้านายมีความหน้าด้านมากพอที่จะใส่ก็ใส่เลย แต่ฉันไม่มีทางใส่เหมือนแน่นอน เอาเถอะอย่าลืมเวลาหล่ะ คืนนี้หนึ่งทุ่ม แล้วถ้านายมาช้าอีกนะ ฉันจะบีบไข่ของนายแน่”
งานเลี้ยงคืนนี้เป็นงานส่วนตัวไม่ใช่งานโรงเรียน ดังนั้นทุกคนสามารถสวมใส่อะไรก็ได้ที่ต้องการหรือจะเลือกใส่ชุดวันเกิดก็ได้ แต่คงไม่มีใครจะใส่ชุดสูทที่ดูเป็นทางการและชุดที่สวมใส่ในงานพรอมมาในงานแน่ๆ
ลุคพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม
เจมินาก้าวไปข้างหน้าของลุคและส่งจูบแบบฝรั่งเศส ก่อนจะพูดว่า“เอาล่ะเจอกันคืนนี้ ฉันไปหล่ะ มาร์ธารอฉันอยู่ที่ซูเปอร์มาร์เก็ต”
ลุคพยักหน้าด้วยรอยยิ้มแบบเดียวกันบนใบหน้า "เจอกันคืนนี้."
เมื่อ เจมินา เห็นการแสดงออกของเขาเธอก็อดไม่ได้ที่จะก้าวไปกัดเบา ๆ ที่หูของเขาก่อนที่จะกระซิบพูดข้างหูลุค “คุณนี่ไม่มีความคิดที่แสดงความกล้าบ้างเลยหรอ (ความคิดทะลึ่งๆ)... ฮิฮิอย่าลืมไปเปิดดูตู้ข้างเตียงของโรเบิร์ตด้วยหล่ะ”
ลุคพยักหน้าอย่างเคร่งขรึม “โอเค ฉันสัญญา.”
สิ่งที่เขาสามารถหาได้ในตู้ข้างเตียงของโรเบิร์ตมันไม่ใช่ปืนอย่างแน่นอน (หา condom)
เมื่อมองไปที่เจมินาที่กำลังจะจากไปลุคก็ลูบคางของเขาแล้วพึมพำ“ว่าแต่..ในคืนนี้ฉันต้องเอาไปทั้งหมดเลยดีไหมเนี้ย?”
ในขณะที่ลุคยุ่งอยู่กับการคิดเรื่องกล่องในตู้ข้างเตียงของโรเบิร์ต เสียงของโรเบิร์ตก็ดังขึ้นข้างหลังเขา “ฉันเห็นไอ้เด็กเปี๊ยกกำลังจะโตแล้ว และตอนนี้มันกำลังจีบสาวอยู่ที่หน้ากรมตำรวจด้วย”
ลุคยิ้มก่อนจะหันไป “เออใช่สิ โรเบิร์ตคืนนี้ผมมีปาร์ตี้นะ แต่ก่อนจะไปปาร์ตี้ผมจะแวะที่ห้องคุณสักหน่อย”
โรเบิร์ตขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนเลิกคิ้ว “เหอเหอ ได้ดิ จะทำไรก็ทำ แต่ฉันมีเจลหล่อลื่นด้วยนะ เอาไหม?”
ลุคตอบว่า“ไม่อะ ขอบคุณ ผมว่าเรื่องน่าจะเชี่ยวชาญกว่าคุณมาก”
โรเบิร์ตเดือดดาล“...ไอ้นี่!”
ลุคกล่าวว่า“ไปกินอาหารกลางวันก่อนดีกว่า หิวข้าวอีกแล้ว”
หลังจากนั้นไม่นานโรเบิร์ตก็ไล่ลุคออกจากกรมตำรวจหลังจากที่ลุคถือถุงกระดาษใบใหญ่
ลุคมองไปที่โรเบิร์ตที่เดินกลับเข้าไปในอาคารอีกครั้งก่อนที่เขาจะนั่งลงที่หน้าอาคารและเริ่มกินอาหารกลางวันอย่างช้าๆ
เขาไม่ได้สนใจเกี่ยวกับเรื่องงานเลี้ยงมากนักหรอก แม้ว่าเจมินาจะพูดเปรยเรื่องอย่างว่ากับเขา เขาก็ยังไม่ได้ตื่นเต้นอะไรเป็นพิเศษ
ทั้งสองคบกันเป็นเวลาสองปี พวกเขาพากันไปไกลแล้ว อะไรที่ถึงเวลาและควรทำพวกเขาก็ผ่านมันมาแล้ว ถึงแม้ว่าเขามีร่างกายอายุ 18 ปี แต่วิญญาณของเขาอายุ 30 ปีแล้ว
เขายังคงสำรวจระบบในใจของเขาในขณะที่เขากินอาหารกลางวัน หลังจากทานอาหารกลางวันเสร็จแล้วเขาก็มุ่งหน้ากลับบ้านอย่างสบาย ๆ
หลังจากเดินไปสองสามร้อยเมตรเขาก็พบกับเพื่อนบ้านของเขา สมิธ ดังนั้นเขาจึงขอติดรถกลับบ้านด้วย
เมื่อถึงเวลาหกโมงเย็นลุคก็ออกจากบ้านไปหลังจากที่เขาเตรียมตัวเสร็จ
นอกเหนือจากการอาบน้ำ ใส่เสื้อผ้าที่สะอาดและดูดีหน่อย เขาไม่จำเป็นต้องแต่งตัวหรูหรามากอะไรสำหรับงานปาร์ตี้
และเขาไม่จำเป็นต้องขับรถ บ้านของมาร์ธาอยู่ในเมืองเดียวกับที่เขาอยู่ ซึ่งใช้เวลาขี่จักรยานเพียง 10 นาทีจากบ้านของเขา
เขาขี่จักรยานไปตามถนนอย่างสบาย ๆ และเมื่อหยุดระหว่างรอสัญญาณไฟจราจรแห่งหนึ่งเขาก็ได้ยินเสียงตะโกนอยู่ไม่ไกล “มานี่มิกกี้กลับบ้านกันเถอะ ลงมาจากต้นไม้ คืนนี้มีปลากระป๋องแกชอบด้วยนะ!”
ลุคหันกลับมาและยิ้มให้กับสิ่งที่เขาเห็น
เขาลงจากรถจักรยานและวางมันพิงกับราวกั้นริมถนนก่อนที่จะเดินไปที่ต้นเสียงแล้วพูดว่า“ลูซี่ ... มิกกี้ซนอีกแล้วเหรอ”
ลูซี่คือ คุณยายอายุประมาณ 60 ปี เธอผู้หญิงตัวเล็กและผมสีขาวของเธอเก็บอย่างเรียบร้อยด้วยกิ๊บติดผมสองสามอัน ใบหน้าของเธอนั่นเต็มไปด้วยริ้วรอยตามวัยของเธอ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังเห็นได้ว่าเธอเมื่อตอนที่เธอยังสาวๆ เธอน่าจะคนสวยมากมาก
เธอหันกลับมาและเมื่อเธอเห็นลุคเธอก็รู้สึกโล่งใจอย่างมาก “อ้าวว่าไง พ่อหนุ่มสกายวอล์กเกอร์ใช้พลังของคุณและจัดการกับเจ้ตัวแสบนี้ให้ฉันหน่อย”
ลุคให้การคำนับตำรวจและพูดว่า "ได้ครับ"
“โอ้ ตอนนี้ฉันกลายเป็นโอบีวันแล้วหรอเนี้ย” ยายลูซี่ยิ้ม
ลุคตอบด้วยรอยยิ้มว่า“ใช่สิครับ ไม่อย่างนั้นคุณจะออกคำสั่งผมได้อย่างไร” ในขณะที่เขาพูดเขาเหยียบช่องเล็ก ๆ ในกำแพงเพื่อดันตัวเองขึ้นก่อนที่จะคว้าที่ชายคาด้วยมือทั้งสองข้าง
เขาพบว่าเขาอยู่ในท่าที่มั่นคงแล้วและพูดอีกครั้ง “มานี่มามิกกี้ ตามยายกลับมาและทานอาหารเย็นของแกได้แล้ว”
แมวพันธุ์อเมริกันขนสั้นนั่งมองเขาพร้อมกับเอียงศีรษะ แมวไม่ได้วิ่งหนีและลุคสามารถคว้ามันได้อย่างง่ายดายด้วยมือเดียวก่อนที่จะกระโดดลงจากกำแพง
หลังจากที่เขาส่งเจ้ามิกกี้ให้กับยายลูซี่ทั้งสองก็บอกลาและแยกทางกัน
คุณยายลูซี่เป็นหนึ่งในเพื่อนบ้านของเขาและบ้านของคุณยายอยู่ห่างจากเขาเพียงแค่ 3หลัง มิกกี้ชอบที่จะเดินไปที่บ้านของลุคบ้างเป็นบางครั้ง ดังนั้นมิกกี้จึงค่อนข้างคุ้นเคยกับเขา นั่นคือสาเหตุที่ทำให้ลุคจับมิกกี้ได้อย่างง่ายดาย
ขณะที่ลูซี่ใช้เวลาอันแสนหวานขับรถกลับบ้านพร้อมกับแมวของเธอ ลุคก็ได้พบกับบางสิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจ
เขาได้รับการตอบสนองจากระบบอีกครั้ง!
ภารกิจ: ช่วยชาวเมืองช่วยชีวิตแมว ภารกิจเสร็จสมบูรณ์. รางวัล คะแนนประสบการณ์และเครดิตสอง 2 แต้ม
แต่สิ่งที่ทำให้ลุคประหลาดใจไม่ใช่ประสบการณ์หรือเครดิต
มันเป็นเพียงสองจุดซึ่งแทบจะเล็กน้อย
แต่สิ่งที่ทำให้ลุคประหลาดใจยิ่งกว่าคือความจริงที่ว่าหนึ่งในการคาดเดาของเขาได้รับการยืนยันอีกครั้ง
ระบบได้เปิดใช้งานอย่างเป็นทางการแล้ว ครั้งนี้มีการใช้งานอย่างแท้จริงซึ่งแตกต่างจากการเปิดใช้งานและการซิงโครไนซ์ก่อนหน้านี้และยังแตกต่างจากภารกิจแรกที่เขาทำในการเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ
จากข้อเท็จจริงที่ว่าภารกิจของเขาเสร็จสิ้นแล้วหลังจากที่เขาลงนามในเอกสารฉบับสุดท้ายและยืนยันตัวตนอย่างเป็นทางการในฐานะเจ้าหน้าที่ตำรวจ ถึงแม้ว่าเขาจะยังไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะเจ้าหน้าที่ตำรวจจริงๆ
และตอนนี้ภารกิจช่วยเหลือแมวนี้ก็เป็นสิ่งที่เขาทำก่อนที่เขาจะเริ่มงานเสียด้วยซ้ำ
สิ่งนี้ทำให้เห็นว่าประสบการณ์และเครดิตที่ได้รับจากระบบไม่ได้จำกัด แค่เฉพาะงานหรือชั่วโมงการทำงานของเขา
แต่ตราบใดที่เขากลายเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างเป็นทางการแล้วการกระทำและพฤติกรรมของเขาจะทำให้เขาได้รับประสบการณ์และเครดิต