สุดยอดนักสืบในโลกแห่งจินตนาการ (SDFW)-ตอนที่ 4
ตอนที่ 4 ขายาวๆ และการทะเลาะกับแฟนสาว
หลังจากนั้นไม่นานเสียงผู้หญิงที่แหลมสูงปรี้ดก็ดังขึ้นทันที “ลุค! ไม่ใช่ว่าคุณป่วยอยู่เหรอ? คุณโกหกฉันและทิ้งฉันไว้คนเดียวที่งานพรอมเนี่ยนะ ไอ้บ้านี่!”
ลุครู้สึกได้ถึงพายุทอร์นาโดที่รุนแรงที่กำลังพัดเข้ามาใส่เขาเต็มแรง
ลุคหันกลับมาและสิ่งแรกที่เขาเห็นคือขาที่ลอยขึ้นมาและกำลังจะเตะเขา
เขาจึงพุ่งไปข้างหน้าด้วยการด้วยปฎิกริยาตอบสนองอย่างรวดเร็ว และบล๊อกขาที่เตะเข้ามาด้วยไหล่ของเขา จากนั้นเขาเหยียดแขนออกด้วยท่าทางที่ถูกฝึกฝนมาอย่างดีและสุดท้ายร่างกายที่สวยงามและนุ่มนิ่มก็ถูกดึงเข้ามาในอ้อมกอดของเขา
ลุคยิ้มขึ้นและกล่าวว่า“เจมินา ฉันดีใจมากที่ได้พบคุณอีกครั้ง”
ขณะนี้หญิงสาวในอ้อมแขนของเขาอยู่ในท่าทางที่ผิดปกติ ซึ่งขาที่เตะกำลังพาดอยู่บนไหล่ของเขา จึงทำให้แทบจะมองเห็นกางเกงในสีดำที่อยู่ภายใต้ของกางเกงผ้ายีนส์ขาสั้นของเธอ
แต่ทว่าดูเหมือนเธอจะไม่ได้ใส่ใจกับท่าทางที่มันไม่ปกติที่เธอกำลังยืนอยู่ และเธอก็ตะโกนด้วยความโกรธและโมโหว่า“ไอ้บ้า! ปล่อยฉันนะ! ฉันจะฆ่านาย! นายทำลายประสบการณ์ของการเป็นนักเรียนปีสุดท้ายของฉันและยังมาทิ้งฉันไว้คนเดียวในงานรับพรอมอีก แล้วนายยังมีหน้ามาให้แคลร์โกหกว่านายเข้าโรงพยาบาล? และเมื่อฉันไปที่โรงพยาบาลหลังจากวันนั้น นายยังแกล้งทำเป็นหลับ แต่ดูตอนนี้สิ! นายดูเหมือนคนที่เพิ่งจะนอนรักษาตัวในโรงพยาบาลเมื่อเร็ว ๆ ไหม”
ลุคไม่ได้ตื่นตระนกและร้อนรน หญิงสาวยังคงอยู่ในอ้อมกอดของเขาและเขาลูบหลังเธอเบา ๆ แล้วพูดว่า“เจมินา ฉันไม่ได้โกหกนะ คุณรู้จักฉันดีนี่ ฉันไม่ชอบโกหกนะ ถ้าคุณให้เวลาฉันสอง-สามนาทีเพิ่ออธิบาย คุณจะหายโกรธผมอย่างแน่นอนเลยหล่ะ”
ในขณะนั้นเจมินาดูเหมือนจะสงบลงอย่างรวดเร็ว และในขณะที่เธอมองเขาอย่างสงสัยแล้วถามว่า "จริงเหรอ?"
ลุคตอบด้วยรอยยิ้ม“แน่นอน! หรือคุณคิดว่าคุณน่ากลัวกว่าหมูป่าตัวโตกันหล่ะ? ฉันจะไม่โกหกแม้ว่าจะเผชิญหน้ากับหมูป่าตัวนั้นก็ตาม”
“ไอ้บ้า! ฉันไม่ใช่หมูนะ!” เจมินา หัวเราะออกมาก่อนที่เธอจะพูดต่อ“ฉันจะให้เวลาคุณสองนาทีอธิบายมาซะ ... แล้วปล่อยขาของฉันได้แล้ว”
ลุคยิ้มและปล่อยขาของเธอที่ยาวและเรียวให้เลื่อนออกจากหัวไหล่ของเขากลับไปที่พื้น จากนั้นลุคใช้แขนของเขาโอบรอบตัวเธอและพวกเขานั่งลงที่หน้าอาคาร
“ฉันไม่ได้บอกให้แคลร์โกหกนะ หมอพึ่งอนุญาติให้ฉันออกจากโรงพยาบาลเมื่อเช้านี้เอง ถ้าคุณไม่เชื่อลองไปถามหมอที่นั่นแล้วคุณจะรู้เรื่องราวทั้งหมดเองแหล่ะ” ลุคอธิบายอย่างใจเย็น
“แล้วคุณมาทำอะไรอยู่ที่นี่เนี้ย ออกมาแล้วทำไมคุณไม่โทรหาฉันหล่ะ” เจมินาพูด
ลุคยักไหล่ “ฉันเพิ่งตื่นขึ้นมาเมื่อเช้านี้เองและต้องรีบกลับไปหาแคทเธอรีนเพื่อให้เธอได้สบายใจ ฉันปล่อยให้เธอกังวลอย่ได้ยังไงใช่ไหม หลังจากนั้นโรเบิร์ตก็พาฉันมาที่นี่เพื่อลงทะเบียนที่เป็นตำรวจที่แผนกแหล่ะ และฉันก็เพิ่งจะลงทะเบียนเสร็จไม่ถึงห้านาทีเลยด้วยซ้ำ ฉันจะไปทันได้โทรหาคุณได้ไง”
เจมินาตะลึง "ลงทะเบียน?"
ลุคพยักหน้า “ใช่แล้วหล่ะจริงๆ แล้วตอนนี้ ฉันเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจของที่นี่อย่างเป็นทางการแล้วนะ และก็จะเริ่มงานในอีกวัน สองวันนี่แหล่ะ”
“ฉันจำได้ว่าก่อนหน้านี้คุณเคยพูดไว้แล้วนิว่าคุณจะไปเรียนต่อที่ดัลลัสไม่ก็ฮุสตัน? ทำไมคุณถึงเปลี่ยนใจแล้วหล่ะ? เป็นเพราะแคทเธอรีนและคนอื่นๆ รึเปล่า …” เจมินาพูดอย่างขึ้นไม่เชื่อ
“ไม่นะ!” ลุคขัดจังหวะเธอก่อนจะอธิบายว่า“ฉันเพิ่งจะคิดอะไรได้บางอย่างแหล่ะ อันที่จริงโรเบิร์ตเคยพูดกับฉันเกี่ยวกับการเป็นตำรวจมาก่อนแล้วหล่ะ และฉันแค่ตัดสินใจได้หน่ะ”
เจมินา จมอยู่ในความเงียบเป็นเวลานานก่อนที่จะพูดว่า "ถ้าอย่างนั้น ... ฉันคิดว่าก็น่าจะดีสำหรับคุณ"
ลุคยิ้มและพูดว่า“อย่าเศร้าเกินไปน่า อนาคตที่สวยงามยังรอเราอยู่ ฉันก็ไม่ได้วางแผนจะเป็นตำรวจอยู่ที่นี่ตลอดไปหรอก”
เจมินาฝืนยิ้ม แต่เธอก็ยังรู้สึกเศร้าภายในใจ ความรู้สึกของเธอซับซ้อนมากในตอนนี้ เจมินาเป็นแฟนของลุคทั้งคู่เป็นนักเรียนของโรงเรียนมัธยมประจำเมือง และจบการศึกษาในปีนี้
สำหรับความสัมพันธ์ของพวกเขาเริ่มต้นด้วยเจมินานั้นเป็นคนจีบลุคก่อน เรื่องราวมันเริ่มต้นที่ ลุคพยายามทำตัวเป็นฮีโร่เพื่อช่วยเหลือสาวงาม ในช่วงที่ กลุ่มของนักเรียนมัธยมปลายตัดสินใจพากันไปตั้งแคมป์ ซึ่งนั่นคือตอนที่ทั้งสองพบเจอกันครั้งแรก แต่ทว่าในช่วงนั้นพวกเขายังไม่สนิทกันเท่าไรนัก
ในระหว่างการตั้งแคมป์เจมินาได้เจอกับหมูป่า
ในเวลานั้นเจมินารู้สึกหวาดกลัวและเริ่มตะโกนขอความช่วยเหลือ ซึ่งในตอนนั้นลุคอยู่ใกล้เธอมากที่สุดเลยมาถึงก่อน จากนั้นก็เป็นการเผชิญหน้าตัวต่อตัวกับหมูป่า หมูป่าก็ชะงักไปเช่นกัน เขายืนหยัดอยู่ข้างหน้าและเจมินาไว้ข้างหลัง แล้วพวกเขาพากันถอยออกไปช้าๆ
ในที่สุดคนอื่น ๆ ที่เดินทางมาด้วยกันก็มาถึงและมีผู้ชายมีอายุที่มาด้วยถือปืนไรเฟิลแล้วก็ยิงหมูป่าล้มลง
ความจริงแล้วหมูป่าตัวนั้นไม่ได้ตัวใหญ่อะไรมากมาย และในขณะนั้นตัวหมูป่าเองก็ตกใจเล็กน้อยกับเสียงตะโกนของ เจมินาเช่นกัน นั่นแหล่ะคือเหตุผลที่มันไม่โจมตีเธอในทันที
แต่ถ้าจะให้พูดอีกอย่างคนที่ช่วยเจมินาจริงๆแล้ว ก็คือผู้ชายที่ถือปืนไรเฟิลไม่ใช่ลุค
แต่หลังจากที่ทั้งสองได้คบกัน เจมินาได้บอกกับลุคถึงเหตุผลที่ว่าทำไมเธอถึงเลือกเขา เธอได้บอกว่าลุคปกป้องเธอไว้ข้างหลังเขาโดยไม่ลังเล และเธอเห็นว่านั่นเป็นสัญลักษณ์ของความกล้าหาญ
ซึ่งถ้าเป็นคนอื่นพวกเขาคงจะหนีไปทันทีเมื่อเห็นหมูป่า หรือพวกเขาอาจจะยืนขาแข็งและเริ่มตะโกนโหวกเหวกเช่นกัน นั่นคือสิ่งที่คนส่วนใหญ่จะทำ ในเวลานั้นลุคมีเพียงมีดสำหรับหั่นเนื้อในมือ มันเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะสามารถทำอะไรกับหมูป่าด้วยมีดเล่มนั้นได้
เมื่อได้รู้ลุคพูดไม่ออก อันที่จริงเขาควรจะบอกเธอไหมว่าเขาคุ้นเคยกับการเห็นหมูป่าในฟาร์มของปู่เขา เขาจึงรู้สึกไม่กลัว? เขาควรบอกเธอด้วยไหมว่าจริงๆ แล้วเขารู้ดีว่าหมูป่ามันจะขยับและเคลื่อนไหวอย่างไร?
อันที่จริงถ้าเขาไม่ปกป้อง เจมินา แล้วปล่อยให้เธอตะโกนต่อไปหมูป่าจะรำคาญเสียงดังของเธอมากจนมันอาจตัดสินใจโจมตีจริงๆ และหมูป่าตัวนั้นก็ไม่ใหญ่มากนัก ในขณะเดียวกันมันก็ค่อนข้างขี้อาย แต่ก็แน่นอนหล่ะว่าการจะทำอย่างนั้นได้ลุคก็ต้องใช้ความกล้าหาญ
เนื่องด้วยเหตุการณ์นั้นเจมินาก็เริ่มตามจีบลุค
เจมินามีความสวยที่มากกว่าค่าเฉลี่ยของคนทั่วไปมาก เธอมีขาเรียวยาวเอวขอดกิ้วและก้นกลมโค้ง แต่ก็แน่นอนว่าหน้าอกของเธอไม่ได้มากไซส์จนเกินไป แต่โดยรวมแล้วรูปร่างของเธอก็ยังคงโดดเด่น ควบคู่ไปกับผิวสีแทนและร่างกายที่ดูแข็งแรงซึ่งเป็นผลมาจากการออกกำลังกายอย่างต่อเนื่องเธอจึงมีความงามที่ยอดเยี่ยมในสไตล์ของนักกีฬา
ในฐานะเธอที่เป็นชาวลาติน เจมินาเป็นหญิงสาวที่ตรงไปตรงมามาก ดังนั้นเมื่อเธอเริ่มไล่จีบลุคเธอก็ทำมันอย่างเปิดเผย
ลุคเองเป็นผู้ชายธรรมดาและมีสุขภาพดี แม้ว่าเขาจะมีชีวิตถึงอายุ 30 ปีในชีวิตก่อนหน้านี้และยังมีแฟนอีกสองสามคนในช่วงเวลานั้นแต่เขาก็ไม่เคยเห็นการจีบที่จริงจังและตรงไปตรงมาจากผู้หญิง เหมือนแบบที่เจมินาทำมาก่อน
และตอนนั้นลุคอยู่เกรดสิบและยังโสด
ในชีวิตนี้นั้นลุคมีลักษณะคล้ายกับแคทเธอรีนประมาณ 60 ถึง 70 เปอร์เซ็นต์: พวกเขาอาจจะดูไม่ค่อยเหมือนกันในตอนแรก แต่ถ้าหากมองนานๆ ก็ยิ่งรู้สึกว่าพวกเขาเหมือนกันอย่างไม่น่าเชื่อ
ลุคเป็นเด็กมัธยมปลายที่หน้าตาดีหุ่นดีและนิสัยดี แต่ก็ยังโสดมาตลอด
ในสหรัฐอเมริกาผู้ชายที่อยู่ในสถานะโสดนั้นมักจะถูกเข้าใจผิดว่าเป็นคนที่มีความชอบที่แตกต่างและไม่เหมือนผู้ชายทั่วไป หรือก็คือผู้ชายที่ไม่ชอบผู้หญิง
แต่เอาเข้าจริงๆ แล้วแม้ว่าลุคจะมีอายุถึง 30 ปีในชีวิตก่อนหน้านี้ แต่เขาก็ไม่ได้มีความช่ำชองหรือความเก่งกาจในการไล่จีบใครสักคน และประกอบกับนิสัยบางอย่างที่ไม่ค่อยดีของเขาเมื่อเทียบกับนักเรียนอเมริกันทั่วไปทำให้เขายังคงเป็นโสดตลอดมา
มันก็เป็นเรื่องที่น่าตกใจอย่างมาก ที่ผู้หญิงสุดสวยเข้ามาจีบเขา เรียกได้ว่าเขาไม่สามารถต้านทานการโจมตีของสาวลาตินที่สวยงามและน่าหลงใหลได้ ฉะนั้นในไม่ช้าเขาก็ยอมรับเธอและกลายเป็นแฟนของเธอ
ด้วยเรื่องนี้เองทำให้ลุคหลุดพ้นจากข้อกล่าวหาว่าเขาเป็นเกย์ที่เคยแพร่สะพัดในโรงเรียน แต่ความจริงแล้วความสัมพันธ์ของเขาและเจมินาได้จบลงอย่างเป็นทางการหลังจากงานพรอมเมื่อวันก่อน