ระบบใช้จ่าย ตอนที่ 96
ติดตามอ่านนิยายเพิ่มเติมของผู้แปลและนิยายทุกตอนได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay
บทที่ 96: วิกฤตของตระกูลถัง
ในตอนนี้เรื่องทั้งหมดได้รับการแก้ไขแล้ว หงต้าหลี่ก็เลยหยุดพักผ่อน "โอเค วันนี้ทุกคนไปสนุกกันเถอะ แต่ยกเว้นเด็กนั่งดริ้งนะ ฉันจะไม่จ่ายเงินให้ นอกนั้นฉันออกค่าใช้จ่ายอื่นๆให้ทั้งหมด! นอกจากนี้ ช่วยติดต่อหาผู้พัฒนาเกมด้วย ฉันจะเป็นคนควบคุมเรื่องนี้โดยตรงเอง!"
"สนุกกันให้เต็มที่ ท่านนายน้อยจะออกค่าใช้จ่ายให้เอง" นั่นเป็นข่าวที่ดีที่สุดที่พวกเขาได้ยินในวันนี้ ทุกคนอุทาน: "ขอบคุณครับ สำหรับทิปเงินของท่านนายน้อย" จากนั้นพวกเขาก็ออกจากตัวอาคารดั่งคลื่นทะเล พวกที่ต้องการดื่ม พวกเขาไปดื่ม พวกที่ต้องการจีบสาว พวกเขาก็จะไปจีบสาว พวกเขามีนายน้อยคอยหนุนหลัง พวกเขาไม่กลัวอะไรทั้งนั้น แม้ว่าท้องฟ้าจะถล่ม!
ในไม่ช้าอาคารที่เกือบจะเต็มก็ได้กลายเป็นห้องโถงว่างเปล่า เหลือเพียงแค่หงต้าหลี่และกลุ่มคนน้อยๆเท่านั้น หงต้าหลี่เอนกายพิงโซฟาและหนุนศีรษะด้วยมือของเขา เขาถอนหายใจอย่างสบายและพูดว่า "วันนี้มาเล่นไม่ได้เลยแฮะ คนเยอะเกินไป แถมฉันเกลียดสถานที่แออัดอีก"
เมื่อมีผู้คนจำนวนมาก มันก็มักมีเสียงดังและยุ่งเหยิง เหมือนกับแมลงวันนับพันที่บินรอบหูของเขา หงต้าหลี่ไม่ชอบแบบนั้นเลยสักนิด
ลี่เนียนเหว่ยเข้าใจและก็ได้ปลอบประโลมเขา "ท่านนายน้อย ทำไมเราไม่ไปเดินเล่นกับสุนัขแทนล่ะค่ะ สภาพอากาศในวันนี้ค่อนข้างดีและยังเย็นสบายด้วย การเดินเล่นก็ดีต่อร่างกายของเราด้วยนะคะ"
"ใช่ๆ" ถังมู่ซินเห็นด้วยเหมือนกัน แต่เธอก็รู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย "น่าเสียดายที่ฉันไม่ได้นำเสี่ยวเสี่ยวไบมาด้วย"
"ฉันก็ไม่ได้เอาเสี่ยวเสี่ยวมาด้วยเหมือนกันแฮะ พวกผู้ดูแลก็กำลังดูแลมันอยู่" หงต้าหลี่ยืนขึ้นและพูดว่า "งั้นก็ไปหาสุนัขตัวอื่นเถอะ แล้วพาพวกมันไปเดินเล่นแทน! ผู้ติดตาม พวกเราไปกันเถอะ!"
"รับทราบครับ/ค่ะ ท่านนายน้อย!" เพียงแค่สั่งการพวกเขาก็พร้อมน้อมรับคำสั่ง ในตอนนี้เหลือเพียงคนของหงต้าหลี่ที่ปฏิบัติคำสั่งอย่างเคร่งครัดคอยอยู่กับเขา ...
…
ในเวลาเดียวกัน ที่บ้านของถังมู่ซิน
อยู่ใกล้กับวงเวียนที่สามของเทียนจิง ทางตะวันตกใกล้กับวงเวียนที่สี่และแยกออกจากกันเพียงไม่กี่แม่น้ำ บ้านของถังมู่ซินอยู่ในเขตของชางจิงแกรนด์การ์เด้น
โดยปกติแล้วการมีลูกสาวที่ฉลาดและภรรยาที่สวยที่สุดในชีวิตของถังรุยชีก็น่าจะมีความสุขอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามบรรยากาศในตอนนี้กลับเต็มไปด้วยความมืดมน ถังรุยชีนั่งบนโซฟาหนังแท้ เขาขมวดคิ้วและสูบบุหรี่อย่างไม่หยุด
"ที่รัก ไม่ต้องห่วงนะ ถ้าคุณกังวลมากไป ร่างกายของคุณจะแย่นะคะ และมันจะทำให้เราลำบากขึ้นไปอีกนะคะ อย่างไรแล้ว บริษัทเวชกรรมวนาลัย ก็กำลังจะเปิดตัวอยู่แล้วนี้ค่ะ"
หยวนเจียะมีอายุเพียง 40 ปี เธอเป็นผู้หญิงที่มีอายุ แต่ก็มีเสน่ห์ที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเธอยังสวยมากและเธอก็มีนิสัยที่นิ่งเงียบเหมือนน้ำ อย่างไรก็ตามเธอไม่เหมือนกับผู้หญิงทั่วไป เธอมีรูปลักษณ์ที่สวยและฉลาด ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ลูกสาวของเธออย่าง ถังมู่ซินนั้นสวยมาก ส่วนใหญ่คงเป็นเพราะมู่ซินได้ยีนมาจากแม่ของเธอมาก
ถังรุยชีสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ดับก้นบุหรี่และยิ้ม ก่อนที่จะพูดว่า "เฮ้อ..ฉันก็อยากจะทำแบบนั้นนะ แต่ฉันยังไม่สามารถพักได้ ตอนนี้บริษัททั้งสองของเราจะต้องทำโครงการวิจัยให้เสร็จก่อน ถึงจะได้รับผลสำเร็จจริงๆ แต่โอกาสขาดทุนก็มีสูง เพราะความเป็นไปได้ที่จะวิจัยสำเร็จมีน้อยมาก" เมื่อพูดถึงประเด็นนี้ เขาก็ส่ายหัวแล้วพูดว่า "ตอนนี้เงินที่ฉันยืมมาจากตระกูลหงส่วนใหญ่ถูกนำมาใช้แล้ว ถ้าเราล้มเหลว ฉันแทบจะไม่มีหน้าไปพบกับหงเหว่ยกูและภรรยาของเขาได้อีกแน่นอน"
"คุณพูดถูกแล้วค่ะ ตอนนี้ไม่มีอะไรเลยที่เราจะทำได้" หยวนเจียะถอนหายใจอย่างนุ่มนวลและพูดว่า "ฉันเข้าใจแล้ว แต่ที่รัก แผนวิจัยของเรารั่วไหลตั้งแต่แรกได้อย่างไร? ไม่เพียงแต่แผนการวิจัยของเราจะรั่วไหลออกไป แม้แต่ไฟล์ก็ถูกขโมยไปด้วยเช่นกัน ถ้าเราไม่พบตัวคนร้าย แม้ว่าการวิจัยจะสำเร็จ แต่สุดท้ายเราก็จะทำอะไรได้ยากขึ้นไปอีกนะ"
"คนร้ายสินะ ฮึฮึ" ถังรุยชียิ้มอย่างขมขื่นและพูดว่า "มันซ่อนตัวอย่างดี ฉันคิดไม่ออกเลยจริงๆ ฉันไม่รู้จริงๆ ว่าใครมันกล้าทำเรื่องแบบนี้ ถ้าแผนของเราไม่รั่วไหล ทำไมเราต้องลดศักดิ์ศรีและยืมเงินจากตระกูลหงโดยขายลูกสาวของเราเพื่อเร่งกระบวนการวิจัยด้วยล่ะ? หงเหว่ยกูอาจไม่ตำหนิฉัน แต่เรื่องนี้เป็นความผิดของฉันคนเดียว ฉันรู้สึกไม่ดีจริงๆ เฮ้อ... ถ้าซินซินชอบหงต้าหลี่ก็คงไม่มีปัญหาอะไรมาก แต่ความเป็นจริงแล้วเธอไม่ชอบเขาเลย ฉันมันเป็นพ่อที่… "
"ฉันรู้ว่าคุณกังวลค่ะ แต่อย่าทำอย่างนี้เลย หากคุณป่วย มันก็จะยิ่งทำให้เรื่องแย่ลงไปอีกเท่านั้นนะคะ" หยวนเจียะถอนหายใจแล้วพูดว่า "สิ่งที่เราทำได้ในตอนนี้คือต้องระวังให้มากขึ้นค่ะ เราไม่สามารถทำพลาดได้อีก อย่างน้อยเราก็ต้องมั่นใจได้ว่าเราจะไม่แพ้ ถึงแม้ว่าเด็กคนนั้น ต้าหลี่จะชอบถลุงเงิน แต่ข้อดีของเขาก็ไม่เลว ถ้าไม่เช่นนั้นซินซินจะออกไปเล่นกับเขาบ่อย ๆ ทำไมกันละคะ อย่ากังวลเลยค่ะ ปล่อยให้ทุกอย่างไหลไปตามสายธารเถอะค่ะ หากพวกเขาเข้ากันได้จริงๆนั่นอาจไม่ใช่เรื่องเลวร้าย เพราะเงินน่ะไม่ใช่ทุกอย่างนะคะ แต่เป็นคุณธรรมที่สำคัญมากกว่า สิ่งเดียวที่ฉันกังวลตอนนี้คือร่างกายของต้าหลี่ดูเหมือนเขาจะอ่อนแอเกินไป ฉันกลัวว่าเขาจะ ... เฮ้อ ... "
"ใช่ นั่นคือสิ่งที่ฉันเป็นห่วงเช่นกัน ฉันกลัวว่าซินซินจะกลายเป็นภรรยาหม้ายในอนาคต ถ้าเขาไม่เป็นแบบนั้น ฉันคงไม่คัดค้านเรื่องที่พวกเขาอยู่ด้วยกันหรอก ใครกันจะทนดูลูกสาวของตัวเองเผชิญกับชะตากรรมแบบนี้ได้? อย่างไรก็แล้วแต่ ในตอนนี้เราควรปล่อยให้มันเป็นไปตามนั้น" ถังรุยชีหายใจเข้าช้าๆ "ใช่แล้ว อย่าบอกซินซินเกี่ยวกับเรื่องครอบครัวเราล่ะ ฉันไม่ต้องการให้ลูกกังวล"
"ได้ค่ะ ไม่ต้องห่วงเลย"
…
ซึ่งหงต้าหลี่ก็ไม่รู้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในตระกูลถังหรอก เขาจูงสุนัขพันธุ์ซามอยด์สองตัวและถังมู่ซินก็จูงสุนัขพันธุ์เชาเชาสองตัวเช่นกัน ในขณะที่คนขับรถก็ได้จูงสุนัขพันธุ์ลาบราดอร์พิเศษมา เก้าผู้ติดตามแต่ละคนก็จูงสุนัขพันธุ์ทิเบตสองตัว ในขณะที่ลี่เนียนเหว่ยและจางไกต่างก็สวมแว่นกันแดดและผ้าพันคอ และพวกเธอก็จูงสุนัขพันธุ์ฮัสกี้คนละหนึ่งตัว
กลุ่มของหงต้าหลี่กำลังเดินอยู่บนถนน พวกเขาทำให้ทั่วทั้งบริเวณใกล้เคียงที่เย่ไหลเซียง สี่แยกวงเวียนตะโกนออกมาทันทีที่เห็นพวกเขา ผู้คนมากมายเดินห่างจากพวกเขา รักษาระยะห่างอย่างน้อย 10 กว่าเมตร เพราะกลัวว่าสุนัขจะโกรธและวิ่งมากัด
แน่นอนว่าคน 100% ต่างมองมาที่กลุ่มของหงต้าหลี่
"อ่า นี่มันน่าเบื่อมากเกินไปแล้วนะ ... " แม้ว่าจะมีผู้คนมากมายที่มองกลุ่มของหงต้าหลี่ แต่เขาก็ยังรู้สึกเบื่อ ขณะที่เขาเดิน เขาก็หาว “ไม่มีอะไรน่าสนใจเลยแฮะ มีใครนึกหาที่ถลุงเงินได้บ้าง?”
"อย่า! อย่าเชียวนะ!" ถังมู่ซินส่ายหัวอย่างรุนแรง ดินเล่นกับสุนัขก็ไม่เลวนะ ฉันคิดว่านี่ก็ดีพอแล้ว ดูเชาเชาสองตัวนี้สิ น่ารักดีออก"
“อ่า…ฉันอ่านนิยายหมดแล้วและตอนนี้ก็ไม่มีรายการที่น่าสนใจทางโทรทัศน์เลยน๊าา” หงต้าหลี่รู้สึกเบื่อหน่ายมาก ตอนนี้พวกเขาเดินไปที่เนินเขาเล็ก ๆ ใกล้กับทะเลสาบเฟิงหยวนที่เขาเคยมา หงต้าหลี่มองไปที่ยอดเขา "ป้อมปราการบนภูเขายังไม่ได้เริ่มสร้างเลย ไม่มีอะไรที่ทำได้เลยโว้ยยย ... "
หงต้าหลี่รู้สึกเศร้าและก็ทำให้ถังมู่ซินหดหู่ตามเช่นกัน "ใช่ ถ้าคิดๆดูแล้ว ในตอนนี้เราแทบไม่มีอะไรำทเลย รายการทีวีก็ไม่น่าสนใจเหมือนกัน มันน่าเบื่อมาก"
"ใช่เลย" หงต้าหลี่ทำหน้ามุ่ย "อย่างน้อยมันก็ควรมีละครที่น่าสนใจหรือรายการแสดงความสามารถพิเศษบ้างสิ…เอ๊ะ? แสดงความสามารถ? เดี๋ยวก่อน ทำไมฉันถึงไม่นึกมาก่อนกันนะ นี่สิถึงจะเป็นสิ่งสุดยอดที่ควรสร้าง"
ยิ่งเขาคิดถึงมัน เขาก็ยิ่งมีกำลังใจมากขึ้น ดวงตาของเขาแวววาวจนเกือบจะทำให้ถังมู่ซินตาบอด "ต้าหลี่ นายกำลังคิดจะทำอะไร? ฉันเตือนนายแล้วนะ นายห้ามถลุงเงินอีก อย่าคิดที่จะแต่เพิ่งโชคอย่างเดียวสิ!"
“โชคน่ะมีขีดจำกัด แต่ขีดจำกัดของคนมันไม่มีหรอกนะ!” หงต้าหลี่ปรบมืออย่างรุนแรง เขาหัวเราะเสียงดังและพูดว่า "ฉันลืมเรื่องนี้ได้อย่างไร!? มาเปิดรายการอีกสักรายการกันดีกว่า! ฮ่าฮ่าฮ่า คราวนี้มาเปิดรายการโชว์ความสามารถกันเถอะ!"
"แสดงความสามารถ!?" ถังมู่ซินตะโกน "พี่เนียนเหว่ยและฉันยังไม่พอสำหรับนายหรอ? นายยังต้องการคนที่มีความสามารถอีกหรอ!?”
ลี่เนียนเหว่ยที่อยู่ข้างๆก็ยิ้มแล้วพูดว่า "พรสวรรค์ในการแสดงสินะคะ ท่านนายน้อยไม่ได้พูดถึงความงามใช่ไหมคะ? แถมนายน้อยดูเหมือนจะไม่ใช่คนแบบนั้นด้วย"
"เฮเฮ้ เนียนเหว่ยช่างรู้จักฉันดีเหลือเกิน!" ในที่สุดเขาก็มีสิ่งที่ต้องทำสักที หงต้าหลี่รู้สึกมีความสุขมาก "การแสดงความสามารถพิเศษที่ฉันพูดถึงจริงๆแล้วเป็นอะไรที่เหมือนกับการประกวดร้องเพลง! จะมีนักร้องประมาณสองสามคนร้องเพลงบนเวทีและมีผู้ชมให้คะแนนกับพวกเขา คนที่ได้คะแนนน้อยที่สุดจะตกรอบ! ชื่อของรายการ ชื่อว่า ' ฉันนี้แหละนักร้อง (I Am A Singer)'! "
ติดตามอ่านนิยายเพิ่มเติมของผู้แปลและนิยายทุกตอนได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay