ตอนที่ 262 (ตอนฟรี) ความมุ่งมั่นของสองพี่น้อง
ตอนที่ 262 (ตอนฟรี) ความมุ่งมั่นของสองพี่น้อง
.
เช้าวันใหม่ในเมืองเปลวไฟถูกปกคลุมไปด้วยหมอกจาง ๆ ทำให้เมืองเล็ก ๆ แห่งนี้ดูเหมือนกับดินแดนอมตะแห่งสรวงสวรรค์
หวังเสียน เปิดหน้าต่างห้องพักของเขาจากบนชั้น 6 ในโรงแรม หลังจากที่เขาโทรศัพท์ไปพูดคุยกับเสี่ยวหยูและกวนชูชิง เพื่อความสบายใจของทั้งคู่
หืมม?
หวังเสียน รู้สึกตกใจขึ้นมาทันทีเมื่อเขามองไปยังด้านล่างของทางเข้าโรงแรม
เด็กทั้งสองคนยังนั่งคุกเข่าอยู่ที่ปากทางเข้าของโรงแรมโดยที่ไม่ขยับตัวแม้แต่น้อย ใบหน้าของเด็กชายและเด็กหญิงดูค่อนข้างซีดเซียว และดูเหมือนว่าพวกเขานั้นจะเป็นลมล้มพับลงไปได้ทุกเมื่อ
"เด็กพวกนี้ดื้อมากเลยจริงๆ!"
หวังเสียนมองไปที่เด็กชายและเด็กหญิง เด็กชายน่าจะมีอายุไม่เกิน 15 ปีในขณะที่เด็กหญิงน่าจะมีอายุเพียง 12 หรือ 13 ปี
เมื่อเขามองไปยังเด็กทั้งสองคนภาพเงาของทั้งคู่ก็เข้ามาซ้อนทับกับตัวเขาและเสี่ยวหยู
แต่อย่างไรก็ตามโดยทั่วไปแล้วตัวเขาและเสี่ยวหยูนั้นโชคดีกว่าเด็กทั้งสองคนมาก เพราะว่าตัวเขาและน้องสาวของเขานั้นไม่ได้ถูกตามไล่ล่าสังหาร และไม่ต้องออกระเหเร่ร่อนเช่นเดียวกันกับเด็กทั้งสองคนนี้
"เฮ้อ!..พวกเขาทั้งคู่คงคุกเข่าตั้งแต่เมื่อคืนและคงไม่ได้ขยับไปไหนกันเลยสินะ!"
หวังเสียน สูดลมหายใจเข้าลึกๆ ในตอนนี้ความตั้งใจเดิมของเขาเริ่มสั่นคลอนและเริ่มลังเลใจขึ้นมาบ้างแล้ว
แต่แรกตัวเขานั้นไม่เคยคิดว่าตัวเขานั้นจะสามารถแนะนำและสั่งสอนคนอื่นในด้านวิชายุทธได้ ฉะนั้นการรับลูกศิษย์สำหรับเขานั้นจึงตัดทิ้งไปได้เลย
ในตอนนี้เวลา 7 โมงเช้าแล้ว เด็กชายและเด็กหญิงที่คุกเข่าที่ปากทางเข้าของโรงแรมนั้นได้ดึงดูดความสนใจจากผู้คนเป็นจำนวนมาก แขกที่เข้ามาพักที่โรงแรมต่างก็จ้องมองไปที่พวกเขาด้วยความงุนงง
"เด็กขอทานสองคนนี้ ทำไมพวกเขามานั่งขอทานที่หน้าโรงแรมตั้งแต่เช้าอย่างนี้ พวกเราคงต้องโชคร้ายอย่างมากแน่ๆเลย ที่ต้องตื่นมาเจอกับคนอับโชคพวกนี้!"
"พวกเขาทั้งคู่ยังดูเด็กมากเลย แต่กลับยึดอาชีพขอทานฉันสงสัยจริงๆว่าสมาชิกในครอบครัวของพวกเขาคิดอะไรอยู่กันแน่ ถึงได้ให้ลูกหลานมาเที่ยวขอทานอย่างหน้าไม่อายเช่นนี้!"
เมื่อแขกที่ออกจากโรงแรมเดินมาเห็นเด็กชายและเด็กหญิงที่ใส่เสื้อผ้าเก่าขาดมอซอ พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วและวิพากษ์วิจารณ์
"เด็กทั้งสองคนนี้ช่างน่าสงสารจริงๆ!"
มีเพียงพนักงานทำความสะอาดถนนที่เป็นหญิงสูงวัยเพียงเท่านั้นที่เดินเข้าไปหาเด็กทั้งสองคนจากนั้นเธอก็หยิบธนบัตร 10 หยวนที่ยับยู่ยี่ออกมาพร้อมกับพูดว่า "พวกเธอทั้งสองคนไปหาอาหารเช้าดีๆกินกันเสียสิ!"
เด็กชายมองไปที่หญิงสูงวัยพร้อมกับส่ายหัวช้าๆ
"อ้าวเป็นใบ้ด้วยหรอกเหรอเนี่ย! แต่เอาเถอะฉันจะวางเงินไว้ตรงนี้ก็แล้วกัน ฉันยังมีงานอีกเยอะ พวกเธอคงสามารถหาซื้ออะไรกินกันเองได้นะ!"
หญิงสูงวัยวางเงิน 10 หยวนลงบนที่พื้นตรงหน้าเด็กทั้งสองคนพร้อมกับยิ้มให้ ก่อนที่เธอจะเดินไปทำความสะอาดถนนของเธอต่อ
เด็กชายและเด็กหญิงไม่ได้พูดอะไรออกมาแม้เพียงครึ่งคำ พวกเขายังคงคุกเข่าอยู่ตรงนั้น ท่าทางของทั้งคู่ดูเหนื่อยล้าจนเห็นได้อย่างชัดเจน แต่แววตาของพวกเขานั้นยังคงแจ่มใสและมองตรงไปที่ทางเข้าของโรงแรมด้วยความมุ่งมั่น
"โอ้ว!...อาจารย์ดูนั่นสิ! มีเด็กขอทานสองคนอยู่ที่นั่น!"
หลังจากที่เสียงพูดจบลงมีกลุ่มคน 7-8 คนเดินออกมาจากโรงแรม ในหมู่พวกเขาเด็กชายเสื้อขาวคนหนึ่งชี้ไปที่เด็กชายและเด็กหญิงที่คุกเข่าอยู่ทางเข้าโรงแรมขณะที่เขาตะโกนพูดออกมา
เขาวิ่งไปหาเด็กชายและเด็กหญิงอย่างตื่นเต้นพร้อมกับวิ่งไปเดินวนดูรอบๆสองพี่น้องที่กำลังคุกเข่าลงอยู่ที่หน้าประตูทางเข้าของโรงแรมอย่างใกล้ชิด
"ผู้รับใช้ของข้า พวกเจ้าจงลุกขึ้นเถอะ!"
เด็กชายเสื้อขาวอายุประมาณ 13-14 ปี ยืนต่อหน้าสองพี่น้องและตะโกนพูดออกมาเลียนแบบละครโบราณที่เขาเคยดูผ่านทีวี
"ข้าบอกให้พวกเจ้าลุกขึ้น! ทำไมยังคุกเข่าอยู่อีกล่ะ พวกเจ้าไม่เชื่อฟังข้าแล้วหรือ?"
เด็กชายเอามือไขว้หลังเอาไว้ แล้ววางมาดเหมือนกับคุณชายในละครพร้อมกับพูดออกมาว่า "นายน้อยของเจ้าสั่งให้พวกเจ้าลุกยืนขึ้น! พวกเจ้าไม่ได้ยินหรือ!"
"ฮ่าๆๆ!"
เด็กชายหัวเราะเบา ๆ ขณะพูด เขามองไปที่เด็กหญิงข้างๆและยื่นมือไปเพื่อจะหยิกแก้มของเธอ
"ไปให้พ้น!"
เมื่อเห็นว่าเด็กชายเสื้อขาวเอื้อมมือไปที่น้องสาวของเขาเด็กชายที่กำลังคุกเข่าอยู่ก็ผลักเขาโซเซถอยหลังออกไปจนเกือบจะล้ม
"แกกล้าผลักข้าได้ยังไงไอ้เด็กขอทาน! ข้าจะซ้อมแกให้น่วมเลย!"
เด็กชายเสื้อขาวโกรธมากที่ถูกผลักจนเกือบจะล้ม เขาจึงพุ่งเข้าไปเพื่อเตะเด็กชายที่นั่งคุกเข่าอยู่อย่างเต็มแรง
แม้ว่าเด็กชายเสื้อขาวจะยังดูเด็กมาก แต่เขาก็มีความแข็งแกร่งและความรวดเร็วมากทีเดียว จากท่าทางการเตะของเขานั้นสามารถบอกได้เลยว่าเขาต้องผ่านการฝึกฝนวิชาการต่อสู้มาแล้วอย่างแน่นอน
เด็กชายที่กำลังนั่งคุกเข่าอยู่บนพื้นขมวดคิ้วและเริ่มรู้สึกโกรธขึ้นมา เขาจึงยกมือผลักเด็กชายเสื้อขาวออกไปอีกครั้ง
เด็กชายเสื้อขาวมีความแข็งแกร่งเพียงแค่ระดับนักรบขั้นที่ 2 และเขายังคงห่างไกลจากเด็กชายที่นั่งคุกเข่าอยู่มาก
โอ๊ยยย!
เด็กชายเสื้อขาวคนนั้นล้มลงไปกับพื้นและส่งเสียงร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
"เสี่ยวชิว!" ชายวัยกลางคนเดินออกมาจากกลุ่มของพวกเขาพร้อมกับตะโกนออกมาด้วยความเป็นห่วง
"ท่านอาจารย์! ไอ้เด็กขอทานคนนี้มันตีข้า!"
เด็กชายเสื้อขาวตะโกนฟ้องอาจารย์ของเขาในทันทีเมื่อเห็นว่าอาจารย์ของเขาเดินเข้ามา
"ไม่เป็นไรเสี่ยวชิว อาจารย์จะให้เจ้าจัดการมันจนกว่าเจ้าจะพอใจอย่างแน่นอน!"
ชายวัยกลางคนลูบหัวเด็กชายเสื้อขาวอย่างรักใคร่ เขาหันไปมองเด็กชายและเด็กหญิงที่นั่งคุกเขาอยู่บนพื้นด้วยสายตาที่เย็นชา
"ไอ้เด็กสกปรกพวกแกเป็นแค่เด็กขอทานตัวเหม็น แต่ยังอวดดีกล้าทำร้ายผู้อื่นอีกอย่างนั้นหรือ? พวกแกนี่มันช่างอวดดีเสียจริงๆ!"
ชายวัยกลางคนจ้องมองไปที่เด็กชายพร้อมตะโกนออกมาอย่างเกรี้ยวกราดก่อนที่เขาจะหันไปหาลูกศิษย์ของเขาและพูดว่า "เสี่ยวชิว ตีมันแบบเดียวกับที่มันตีเจ้า ถ้ามันกล้าตอบโต้อาจารย์จะสอนบทเรียนให้กับมันเอง!"
"ครับท่านอาจารย์!"
เด็กชายเสื้อขาวจ้องมองไปยังเด็กชายที่นั่งคุกเข่าอยู่บนพื้นพร้อมกับพูดขึ้นมาว่า "อาจารย์ของข้าอยู่ที่นี่แล้ว ดูซิว่าแกจะกล้าตอบโต้ข้าอีกไหม?" เด็กชายเสื้อขาวกำหมัดแน่นและชกออกไปยังเด็กชายที่นั่งคุกเข่าอยู่บนพื้นทันที
เด็กชายที่นั่งคุกเข่าอยู่บนพื้นสามารถสัมผัสได้ถึงเจตนาร้ายของชายวัยกลางคนที่ยืนมองดูเขาอยู่ เขาจึงไม่กล้าตอบโต้ได้แต่ใช้มือปกป้องตัวเองในขณะที่เด็กชายเสื้อขาวนั้นโจมตีเขาอย่างต่อเนื่องและเมามัน!
"หืม? แกก็พอมีความสามารถอยู่บ้างเหมือนกันนี่ไอ้เด็กขอทาน!"
เมื่อชายวัยกลางคนเห็นว่าการโจมตีของลูกศิษย์ของเขาถูกปิดกั้นโดยเด็กขอทาน เขาก็รู้สึกค่อนข้างจะประหลาดใจ
"ไอ้เด็กขอทานไม่มีพ่อแม่! ข้าจะตีเจ้าให้ตาย!" เด็กชายเสื้อขาวยังคงโจมตีใส่เด็กใช้ที่นั่งคุกเข่าอยู่บนพื้นอย่างต่อเนื่อง
"อย่าตีพี่ชายข้านะ! เจ้าคนเลว!"
เด็กหญิงที่นั่งคุกเข่าอยู่ข้างๆพี่ชายของเธอ ตะโกนออกมาเสียงดังพร้อมกับใช้เล็บข่วนไปที่เด็กชายเสื้อขาวด้วยความโมโห
"นังเด็กสกปรกแกกล้าข่วนข้าอย่างนั้นรึ? แกอยากเจ็บตัวมากนักใช่ไหม?"
เมื่อเห็นว่าเด็กหญิงทิ้งรอยขีดข่วนไว้ที่แขนของเขา เด็กชายเสื้อขาวจึงหันไปชกที่เด็กหญิงอย่างรุนแรงด้วยความโกรธ
"อย่าทำร้ายน้องสาวข้านะ!"
เด็กชายที่นั่งคุกเข่ากระโจนเข้าหาเด็กชายเสื้อขาวอย่างรวดเร็ว
"แกกล้าตอบโต้อย่างนั้นหรือไอ้เด็กขอทาน!"
ชายวัยกลางคนเตะไปที่เด็กชายในทันทีเมื่อเขาเห็นว่าเด็กชายคนนั้นกำลังจะเข้าโจมตีลูกศิษย์ของเขา
ตู้มมมม!
แรงเตะของชายวัยกลางคนส่งผลให้เด็กชายกระเด็นออกไปไกลและนอนดิ้นอยู่บนพื้นด้วยความเจ็บปวด
"พี่ชาย!"
เสียงของเด็กหญิงตะโกนออกมาเรียกพี่ของเธอด้วยความห่วงกังวล
ภายในโรงแรมหวังเสียน ได้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดประกายตาของเขาสว่างวาบออกมาพร้อมกับรังสีฆ่าฟันที่รุนแรง แต่เขายังคงลังเลใจอยู่เล็กน้อย
เพียงครู่เดียวเท่านั้นเขาหายไปจากจุดที่ยืนอยู่บนชั้น 6 ของโรงแรมเหมือนกับภูตผี
"สมควรแล้วไอ้เด็กขอทาน! ท่านอาจารย์ครับตีพวกมันให้ตายไปเลยครับ!"
เสียงเด็กชายเสื้อขาวตะโกนออกมาอย่างเย่อหยิ่งเมื่อเห็นว่าอาจารย์ของเขานั้นตีเด็กขอทานคนนั้นจนบาดเจ็บ
"เอาล่ะพอแล้วเสี่ยวซิ่ว อาจารย์ไม่อยากจะลดตัวลงไปสังหารไอ้เด็กขอทานพวกนี้ให้มันเปื้อนมือของอาจารย์หรอก!" ชายวัยกลางคนหันไปพูดและยิ้มให้กับลูกศิษย์ของเขา
หวังเสียน ค่อยๆเดินเข้ามาอย่างช้าๆเขามองไปที่ชายวัยกลางคนและกลุ่มของพวกเขาด้วยสายตาเย็นชา
"พี่ชาย! เจ็บมากไหม? พี่เป็นอะไรมากหรือเปล่า?"
"ไม่!...พี่ไม่เป็นอะไรมากหรอกเจ้าไม่ต้องเป็นห่วง!"
เด็กชายส่ายหัวเบาๆ และหันไปยิ้มให้น้องสาวของเขาด้วยท่าทางที่น่าสงสาร
"เป็นผู้ใหญ่ที่น่าชื่นชมเสียจริงๆ!"
ในขณะนั้นเองมีเสียงพูดที่ประชดประชันและเย็นชาดังขึ้นมา เด็กชายและเด็กหญิงหันกลับไปมองพวกเขารู้สึกดีใจกันขึ้นมาในทันที
เด็กชายและเด็กหญิงสองพี่น้องมองไปที่หวังเสียน ด้วยความตื้นตันก่อนที่พวกเขาจะสูดหายใจเข้าลึกๆ มีความตื่นเต้นและดีใจอยู่บนใบหน้าของพวกเขาทั้งคู่
……….
จบบท