ตอนที่ 289 เคลื่อนไหว
"ท่านแม่แล้วท่านจะอยู่ยังไงถ้าข้าไม่อยู่?"ชายหนุ่มมองไปที่แม่ของเขาด้วยสีหน้าเศร้าสร้อย
"แม่ไม่เป็นไร!"
หญิงชรายิ้มออกมา"ตราบใดที่ลูกชายของข้า หรานเหมิน สามารถเติบโตเป็นวีรบุรุษที่ดีได้แล้วล่ะก็แม่ก็มีความสุขแล้ว!"
คนผู้นี้แท้จริงแล้วก็คือ หรานเหมิน
ราชาสวรรค์หรานเหมิน ที่ถูกเรียกมาโดยลู่เฟิง!
หรานเหมิน มองไปที่ แม่ของเขาและพยักหน้าตอบรับ"ท่านแม่หากสุขภาพร่างกายของท่านดีขึ้นข้าจะไปหาฝ่าบาทและติดตามเขาอย่างแน่นอน"
"ดี,สมแล้วที่เป็นลูกของแม่"หญิงชรายิ้มออกมา
เธอไม่ได้ขอให้ ลูกชายไปในตอนนี้ เพราะเธอรู้ว่า ลูกของเธอเป็นห่วงสุขภาพของเธอจึงไม่สามารถตัดใจไปได้อย่างแน่นอน
...
เมืองผิงกวง คฤหาสน์ของกั๋วเจีย
หลี่ซานอี้ อยู่ที่นี่
"พี่กั๋ว ยังเหลือเวลาอีกตั้งสองวันตามที่เราตกลงกัน แต่ท่านมองหาข้าให้มาในวันนี้แสดงว่าท่านตัดสินใจได้แล้วใช่หรือไม่?"หลี่ซานอี้ มองไปที่ กั๋วเจีย ด้วยรอยยิ้ม
กั๋วเจีย ได้พยักหน้าทันที"พี่หลี่ ข้าได้ยินมาว่าพวกคนเถื่อน ยกทัพทหารม้า 1.5 ล้านนายบุกโจมตีสามมณฑลทางตอนเหนือของอาณาจักรหนานหยาน และ ตอนนี้ สามมณฑลทางตอนเหนือของอาณาจักรหนานหยานคงถูกยึดครองไปแล้ว"
"อาณาจักรหนานหยานตอนนี้ไม่มีกองกำลังทหารมากนัก การป้องกัน ศัตรูสามทิศทาง อีกทั้งยังเผชิญหน้ากับ พวกคนเถื่อนที่มีทหารม้าชั้นยอดอีก 1.5 ล้านนาย เกรงว่า อาณาจักรหนานหยานคงจะล่มสลายในอีกไม่ช้า คาดว่าไม่น่าจะเกินสามเดือนนี้"
"ข้าไม่ต้องการที่จะขุดหลุมฝังศพไปพร้อมกับอาณาจักรหนานหยาน ดังนั้น ข้าจะยอมจำนนต่ออาณาจักรหงเป่า ของท่าน และ ข้าจะช่วยท่านในการทำลายเมืองผิงกวง และ เมืองฉิวซาน เพื่อยึดครองพื้นที่ทั้งหมดของอาณาจักรหนานหยาน"
ทักษะการแสดงออกของ กั๋วเจีย นั้นดีมาก คำพูดและการกระทำของเขา ราวกับว่าเขากำลังยอมจำนนต่ออาณาจักรหงเป่าจริง ๆ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความมั่นใจจนทำให้ หลี่ซานอี้ ที่ฟังถึงกับยิ้มออกมาบนใบหน้า
เขาได้ทราบข่าวการรุกรานของคนเถื่อนทางตอนเหนือ เดิมเขาก็คิดอยู่แล้วว่า กั๋วเจีย จะต้องมองหาเขาอย่างแน่นอน แต่ไม่คิดเลยว่าจะเร็วถึงเพียงนี้
เขาได้ยิ้มและตอบกลับทันที"พี่กั๋วตัดสินใจได้ถูกแล้ว ในนามของอาณาจักรหงเป่า ข้ายินดีต้อนรับท่านเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของกองทัพภายใต้สังกัดแม่ทัพ ฟู่หลี่หยวน"
"ดี"
กั๋้วเจีย เต็มไปด้วยความตื่นเต้นเขาได้ตอบกลับทันที"ตอนนี้พวกเรามาหารือกันเถอะว่าจะทำลายเมืองผิงกวงได้อย่างไร?"
"เช่นนั้นก็ดี!"
หลี่ซานอี้ ได้ครุ่นคิดเล็กน้อยและตอบกลับ"เมืองผิงกวง เป็นที่มักคุ้นของพี่กั๋ว เช่นนั้น ท่านคงจะต้องรู้จุดบอดภายในเมืองอยู่ใช่หรือไม่?"
"ฮ่าฮ่า,พี่หลี่ พูดได้ถูกแล้ว ข้าพอมีความคิดอยู่จริง ๆ !"กั๋วเจีย ได้ยิ้มออกมา
"ยังไง?"
กั๋วเจีย ได้ยิ้มเยาะเย้ยและตอบกลับ"เมื่อเร็ว ๆ นี้ แม่ทัพเหลียนป๋อ ไม่พอใจอย่างมากกับกองทัพตันหยางที่ไม่เคยสนับสนุนเข้าร่วมการรบ"
"ดังนั้น ถ้าข้าเสนอให้ กองทัพตันหยาง ไปเฝ้าประตูเมือง เพื่อสร้างสถานการณ์ให้ความมั่นใจกับแม่ทัพเหลียนป๋อ แม่ทัพคนอื่น ๆ จะต้องเห็นด้วยอย่างแน่นอน ถึงตอนนั้น รอจนกว่ากองทัพของท่านจะบุกโจมตีเมืองข้าค่อยส่งคนไปเปิดประตูให้ท่านเข้ามาในเมืองเพื่อยึดเมืองผิงกวงดีหรือไม่?"
ดวงตาของ หลี่ซานอี้ สว่างวาบขึ้นวิธีนี้ดีมาก
ด้วยวิธีนี้ เมืองผิงกวงจะต้องถูกทำลายอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม เขามองไปที่ กั๋วเจีย และ พูดขึ้น"แต่พี่กั๋ว ข้าได้ยินมาว่า แม่ทัพที่ดูแลกองทัพตันหยางนับแสนคือ จางฮั่น ไม่ใช่ท่าน ท่านแน่ใจหรือไม่ว่าจะทำให้ทหารตันหยางหนึ่งแสนนายยอมเชื่อฟังได้?"
"เรื่องนี้ไม่ต้องกังวล"กั๋วเจีย กล่าวพูดด้วยรอยยิ้ม"ในหอนางโลมวันนั้น คนที่ถูกตีไม่ใช่มีข้าเพียงคนเดียว แม่ทัพเฒ่าเหลียนป๋อ นั่น ได้ทุบตี จางฮั่น ด้วย ทำให้เขาไม่พอใจอย่างมาก ด้วยเรื่องนี้ ข้าจะไปชักชวน จางฮั่น ให้มายอมจำนนกับข้า ตราบใดที่แผนการของข้าสำเร็จ ข้าจะจุดคบเพลิงสามอันนอกเมืองผิงกวง ทันทีที่พวกท่านเห็นสัญญาณก็เริ่มบุกโจมตีได้เลย"
หลี่ซานอี้ ได้พยักหน้าทันที"วิธีนี้ดีมาก หากเป็นไปอย่างราบรื่น เมืองผิงกวง จะต้องแตกพ่ายแน่นอน ข้ารู้สึกยินดีอย่างมากที่ได้พี่กั๋วเป็นสหายร่วมงาน!"
"ฮ่าฮ่า,ในอนาคต คงต้องรบกวนพี่หลี่แล้ว"
"ไม่มีปัญหา!"
หลี่ซานอี้ และ กั๋วเจีย ได้ทำข้อตกลงกัน พวกเขากังวลว่าจะถูกพบโดยคนอื่น ดังนั้น หลี่ซานอี้ จึงใช้เส้นทางลับเพื่อออกจากเมืองผิงกวง
"เฟิงเซียว เจ้าไม่กลัวถูกพวกเขาสงสัยงั้นหรือ?"
หลังจาก หลี่ซานอี้ จากไปแล้ว เหลียนป๋อ ก็ออกมา
กั๋วเจีย ได้ถอนหายใจออกมาทันที"แน่นอนว่าพวกเขาจะต้องสงสัยอย่างแน่นอน แต่มันช่วยไม่ได้"
เขามองไปที่ทิศทางของสามมณฑลทางตอนเหนือและพูดต่อ"กองทัพของพวกเราทางตอนเหนือนั้น ด้วยกองทัพของฝ่าบาท บวนกับ กองทัพทหารม้าหน้าใหม่ 300,000 นาย ที่ได้รับการฝึกฝนโดย เหวินโหวลิโป้ ก็มีเพียง 500,000 นาย เท่านั้น แต่พวกคนเถื่อน กลับมีทหารม้ามากกว่า 1.5 ล้านนาย ทำให้พวกฝ่าบาทตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบอย่างมาก"
"ตอนนี้อาณาจักรหนานหยานเผชิญหน้ากับศัตรูสี่ทิศ สถานการณ์ของอาณาจักรหนานหยานในปัจจุบัน ไม่สามารถต้านทานทั้งหมดพร้อมกันได้ ดังนั้นจะต้องรีบแก้ปัญหาด้านหน้าโดยเร็วที่สุด ทางด้าน เหวินเหอ เขากำลังเผชิญหน้ากับ อาณาจักรไป่หลัน อาณาจักรไป่หลัน มีกองกำลังนับล้านทั้งประสิทธิภาพการรบยังแข็งแกร่งมาก ทั้งภูมิประเทศของที่นั่น ก็ไม่เหมือนกับเมืองผิงกวง ที่มีภูมิประเทศสูงชัน"
"หากพูดกันเรื่องพลัง แม้ เหวินเหอ และ เมิ่งเถียน จะแข็งแกร่ง แต่พวกเขาก็ไม่สามารถยุติการรบได้ภายในเวลาไม่กี่เดือน ทางด้านเมือง เร้ดเมเปิ้ล ทหารที่เหลืออยู่ของอาณาจักรอู๋เซียงก็มีมากกว่า 2.6 ล้านคน ทั้งยังนำทัพโดย จิ้งซือหรง พวกมันไม่คิดจะออกจากเมืองเป็งหยวนเลยแม้แต่น้อย"
"สิ่งเดียวที่จะทำให้เราแก้ไขสถานการณ์ได้ก็คือจบการต่อสู้แนวหน้าของเราที่นี่โดยเร็วที่สุด!"
กั๋วเจีย ได้ถอนหายใจออกมา"ตราบใดที่เราสามารถแก้ปัญหากองทัพของอาณาจักรหงเป่าได้มากกว่า 3 ล้านนาย ยิ่งไม่ต้องพูดถึง เราสามารถทำลายกำลังรบของมันได้ครึ่งนึง อาณาจักรหงเป่า จะต้องถอนตัวออกไปอย่างแน่นอน ถึงตอนนั้น เราจะสามารถส่งกองทัพไปสนับสนุนทางเหนือได้ เพื่อช่วยเหลือฝ่าบาท สังหารพวกคนเถื่อน!"
"สำหรับตอนนี้..."
เมื่อครุ่นคิด กั๋วเจีย ก็ถอนหายใจออกมา"ข้าเพียงหวังว่าละครที่ข้าเพิ่งแสดงไปจะสามารถโน้มน้าว หลี่ซานอี้ ได้!"
เหลียนป๋อ ได้พยักหน้า และ ไม่ได้พูดอะไรอีก
เขาตระหนักได้ดีถึงอันตรายของอาณาจักรหนานหยานตอนนี้ การต่อสู้สี่ทิศนั้นยิ่งไม่ต้องพูดถึงการสูยเสียกำลังคน แม้แต่ เสบียงกองทัพก็ยังเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมาก
โชคดีที่ เสนาบดีฝ่ายขวาอย่างซุนฮก มีความสามารถพิเศษและสามารถจัดการกับสิ่งเหล่านี้ได้ดี หากเปลี่ยนเป็นคนอื่น การจัดการเสบียงกองทัพสำหรับการต่อสู้สี่ทิศนั้นคงกลายเป็นอัมพาตทันที
"เช่นนั้นคงได้แต่พึ่งโชคชะตาแล้ว!"
"พวกเราทำทุกอย่างที่ทำได้ไปแล้ว มาดูกันว่าพระเจ้าจะเลือกอยู่ข้างไหนกันแน่!"
เหลียนป๋อ ถอนหายใจออกมายาว ๆ เขารู้สึกทำอะไรไม่ถูก
ภายใต้การชี้นำของฝ่าบาท ในที่สุด อาณาจักรหนานหยานก็สามารถหลุดพ้นเงามืดมาได้ แต่ตอนนี้ กลับต้องมาเผชิญหน้ากับวิกฤติเป็นตายดังกล่าว
พระเจ้าช่างไม่ยุติธรรมดา!
แต่ทว่า หากพวกเขาสามารถรอดพ้นวิกฤตินี้ไปได้อาณาจักรหนานหยาน จะถือกำเนิดใหม่จากกองขี้เถ้าและกลายเป็นอาณาจักรที่ใหญ่ที่สุดทางตะวันตกเฉียงใต้ของหยูโจว