ตอนที่ 214 สมาพันธ์นวดารา
หลังจากเหนือภพแยกจากบุหรง เขาก็คว้ากระเป๋าสัมภาระใบใหม่มาใส่อาหารแห้ง น้ำดื่ม ยา อุปกรณ์ช่วยเหลือ เครื่องนุ่งห่ม และอุปกรณ์ภาคสนามครบครัน ในใจเขายังเป็นกังวล แต่ในขณะที่เขาตัดสินจะออกไปนั้นชายหนุ่มก็พ่นลมหายใจออกมาอย่างลังเล ก่อนจะวางกระเป๋าแล้วเดินกลับไปยังคลังเก็บของ
เหนือภพกวาดตามองดูเล็บอีกาทองคำที่มีขนาดยาวกว่าห้าเมตร แม้มันจะถูกตัดออกมานานแล้ว แต่มันก็ยังดูสดใหม่ เลือดสีมังคุดส่องสว่างแวววาว จับผลึกปิดบาดแผลไม่ให้เลือดเหลวที่อยู่ภายในไหลออกมาเพิ่ม
ในใจเขาคิดอยากออกไปด้านนอก ทว่าความกังวลเกี่ยวกับอีกาทองนั้นยังมีมากเกินไป เหนือภพจึงคว้ามันก่อนจะกลับเข้าไปยังหอคอยเก้าสมบัติ ที่นั่นเขาได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีเช่นเคย แต่มุกดาราค่อนข้างแปลกใจ เพราะเหนือภพนั้นเพิ่งจากเธอไปไม่นานนัก แทบจะเหมือนว่าเหนือภพออกไปและก็กลับมาในทันที แต่การกลับมาในครั้งนี้ เธอได้เห็นออร่ากำลังภายในที่แตกต่าง กลิ่นอายบนตัวชายหนุ่มเข้มแข็งขึ้น แถมรูปร่างหน้าตา ก็ดูโตขึ้นไปอีก
“ครั้งนี้เจ้ามีอะไรให้ข้าช่วย บอกมาได้เลย”
ท่าทางของมุกดานั้นเป็นกันเองมากขึ้น ตั้งแต่เหนือภพยินดีนำโอสถทองห้าประสานไปประมูลในร้านของเธอ
“พอดีข้ามีเรื่องอยากจะถามท่าน”
“ท่าน เทิ่น อะไร เรียกข้าว่าพี่มุกเถอะ”
เหนือภพแปลกใจเล็กน้อย ที่จู่ ๆ เธอก็เกิดอยากจะสนิทสนมกับเขา
“ได้พี่มุก พอดีข้ามีวัตถุดิบจากสัตว์อสูร ข้าอยากรู้ว่ามันอยู่ระดับเท่าไหร่ แข็งแกร่งแค่ไหน”
เหนือภพไม่ถามเปล่า เขายังนำเล็บอีกาทองคำยื่นให้มุกดาราดู ยามมันปรากฏขึ้นตรงหน้าพวกเขา กลิ่นอายของมันก็ปะทะเข้ากับกลิ่นอายของมุกดารา จนก่อเกิดปฏิกิริยาต่อต้าน อากาศโดยรอบเริ่มจับตัวหนาแน่น ก่อเกิดพลังสองกลุ่มพุ่งปะทะกัน
คนอ่อนแออย่างเหนือภพที่ไม่ได้รับรู้ถึงสถานการณ์เลวร้าย จึงถูกหลงพลังไร้สภาพกระแทกใส่ร่างของเขาอย่างจัง เหนือภพกระเด็นออกไปกระแทกฝาผนัง มุกดาราเองก็เหลือบมองเหนือภพอย่างเป็นกังวลเพียงครู่ แต่เมื่อเห็นว่าเขาไม่ได้เป็นอะไรมาก เธอจึงเร่งเร้ากำลังภายใน ตามหลักการฝึกฝนของตัวเองออกมาต่อต้านมันอย่างสุดขีด ใช้เวลาถึงสิบชั่วลมหายใจ กลิ่นอายอันบ้าคลั่งของเล็บอีกาทองคำถึงจะคลี่คลายลงไปหลายส่วน และสุดท้ายมันก็สงบลง
“ทำไมถึงเป็นแบบนี้ได้”
เหนือภพสงสัยเพราะเขาเคยถือมันไปมาแต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทว่าพอมันมาเจอกับมุกดาราตรง ๆ กลับเกิดปฏิกิริยาต่อต้านรุนแรง
“เจ้าคิดว่าราชสีห์ที่ยิ่งใหญ่เพียงนั้น จะมาสนใจแค่มดตัวน้อยหรือ”
เหนือภพพยักหน้าเข้าใจ ที่มันไม่มีปฏิกิริยาเป็นเพราะเขาอ่อนแอเกินกว่าที่มันจะใส่ใจ ดังนั้นเมื่อราชสีห์สองตัวพบกันย่อมก่อเกิดปัญหา และมุกดาราก็คือหนึ่งในราชสีห์ตัวนั้น
“เจ้าไปได้สิ่งนี้มาจากไหน”
“ข้าบอกไม่ได้”
แม้มุกดาราจะรู้สึกสงสัย แต่เธอก็ไม่บีบคั้นและไม่ถามต่อ การทำการค้าของหอเก้าสมบัติ ของมาเงินไป ไม่ถามที่มาเพราะทุกคนล้วนมีความลับ
“ได้ ข้าเข้าใจ นิ้วนกตัวนี้พิเศษมาก แม้จะถูกตัดออกจากตัวแต่ก็ยังมีชีวิตอยู่ ข้าคิดว่าตัวจริงของมันน่าจะเป็นสัตว์อสูรระดับขอบเขตจิตวิญญาณ เทียบได้สัตว์อสูรแรงค์ SS ข้าไม่รู้ว่าเจ้าไปเจอมันที่ไหน แต่ทางที่ดีเจ้าอย่าได้ไปเจอมันซ้ำสอง ไม่งั้นมันตามล่าเจ้าแน่ มันจะทวงเอานิ้วของมันคืน”
เมื่อได้ยินเช่นนั้นเหนือภพก็ตาเหลือกเลยทีเดียว
“ร้ายแรงเพียงนั้น”
“ใช่ แม้เจ้าในตอนนี้จะแข็งแกร่งทุกครั้งที่กลับมาพบข้า แต่เจ้ายังห่างไกลที่จะเป็นคู่ต่อกรของมัน ต่อให้ยังหนีก็ยังยาก แต่ข้าไม่คิดว่าเจ้าจะเอาตัวรอดจากมันมาได้ ทั้งยังเอานิ้วของมันมาอีก ช่างเหนือความคาดหมาย”
สายตาคมกริบของมุกดาราจับจ้องชายหนุ่ม ก่อนเบนสายตากลับไปจ้องมองเล็บยาวของอีกาทองคำ
“เจ้าจะให้ข้านำไปประมูลร่วมกับโอสถของเจ้าหรือเปล่า ข้ารับรองว่ามูลค่าของมันย่อมคุ้มค่าเหนื่อยของเจ้า”
พอเหนือภพคิดถึงยอดเงินที่จะได้รับ แววตาเขาก็มีประกายแห่งความพอใจ
“ได้ เอาตามที่พี่มุกว่าเลย แล้วงานประมูลของหอจะเริ่มวันไหนหรือครับ”
“อีก 3 วัน ถ้าเจ้าสนใจมาชมดู ข้าจะเตรียมห้องรับรองให้กับเจ้า”
เหนือภพครุ่นคิด อีกสามวันงั้นหรือ ถ้าเขากลับไปยังมิติของเขาก็เท่ากับว่ามันคืออีก 3 ปี ซึ่งนานมาก จนเขาคงหลงลืมไปแล้ว
“ข้าคงต้องขอคิดดูก่อน ตอนนี้ข้าเองมีปัญหานิดหน่อย แนวทางการฝึกกำลังภายในที่ท่านพี่ให้ข้าไป ยังมีส่วนที่ข้าไม่เข้าใจหลายส่วน ข้าอยากได้คำชี้แนะจากท่าน”
“หืม” มุกดาราเผยแววตาแปลกใจ
“เจ้าพูดเช่นนั้น อยากให้ข้าเป็นอาจารย์เจ้างั้นเหรอ”
“เป็นเช่นนั้นได้ยิ่งดีครับ”
เหนือภพยิ้มกว้าง พอเขาคิดดูดี ๆ ก็รู้สึกว่า หากเขาจะก้าวไปสู่ระดับขั้นที่เหนือกว่า ก็ต้องมีอาจารย์ที่อยู่ในระดับขั้นนั้นเพื่อสั่งสอน เพื่อให้เขาสามารถก้าวเดินไปถึงเส้นทางที่ว่านั้นอย่างถูกต้องและมั่นคง เหมือนในตอนนั้นตอนที่เขายังเด็ก ตอนที่เขาเพิ่งสูญเสียกลิ่นจันทน์ เวลานั้นสายตาของเขามีแต่ความแค้นบดบังสายตาจนมืดบอด ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองจะเดินต่อไปยังไง หากไม่เป็นเพราะพระอาจารย์คอยช่วยเด็กโง่เขลาในวันนั้น เขาคงไม่มีอย่างทุกวันนี้
ชายหนุ่มเฝ้ารอคำตอบด้วยใจลุ้นระทึก เขาไม่รู้ที่มา ไม่รู้ประวัติเกี่ยวกับนาง แต่หลายครั้งที่เขามาที่นี่ นางมักดูแลเขาเป็นอย่างดีเสมอ ด้วยนิสัยใจคอของนางย่อมไว้ใจได้ อีกทั้งในดินแดนแห่งนี้เขาไม่รู้จักใครเลยนอกจากนาง ดังนั้นเหนือภพไม่เสียใจเลยที่เขาตัดสินไปแบบนั้น ขอเพียงนางยอมรับเขาก็ยินดี หากไม่ยอมรับเขาก็ไม่ได้เสียหายอะไร
มุกดารานิ่งค้าง แต่เมื่อเธอเห็นแววตาจริงใจจากเหนือภพ เธอก็พ่นลมหายใจออกมา แม้ใจอยากจะปฏิเสธ แต่พอได้เห็นสายตาคาดหวังจากหนุ่มน้อยก็ทำให้เธอใจอ่อนลง
“ได้ เจ้ารู้ใช่ไหมว่าการตัดสินใจของเจ้าอาจจะผูกมัดเจ้าไว้กับข้า”
“ผูกมัด ?” เหนือภพงุนงงเล็กน้อย
“ยังไงครับอาจารย์”
เมื่อเหนือภพรู้ว่านางยินดีรับเขาเป็นศิษย์ เขาก็รีบเปลี่ยนไปใช้สรรพนามที่ดูเป็นกันเอง และก็แฝงไปด้วยความเคารพอยู่หลายส่วน เขาต้องรีบชิงเรียกนางว่าอาจารย์ก่อนที่นางจะเปลี่ยนใจ
“เฮ้อ เจ้านะเจ้า อยู่ดี ๆ ก็มาทำให้ข้าลำบากใจ เอาล่ะข้าจะบอกให้ ข้าเป็นศิษย์สำนักการฝึกฝนดารา ลำดับที่ 9 ซึ่งเป็นลำดับสุดท้ายของสมาพันธ์นวดารา ซึ่งมีกฎเคร่งครัดและเข้มงวด เมื่อเจ้ารับข้าเป็นอาจารย์ก็เท่ากับว่าเจ้าจะไม่มีทางเข้าสำนักฝึกฝนอื่นในสมาพันธ์นวดาราได้อีก เจ้าเข้าใจเหตุผลนี้หรือไม่”
เหนือภพส่ายหน้าน้อย ๆ เพราะเขาไม่ค่อยรู้จักทวีปนี้มากนัก เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าสำนักการฝึกฝนนวดาราคืออะไร
มุกดาราจึงค่อย ๆ เล่าเรื่องเกี่ยวกับ ‘สมาพันธ์นวดารา’ ให้กับเหนือภพฟัง สมาพันธ์นวดารานั้นเป็นชื่อเรียกการรวมตัวกันของสำนักการฝึกฝนทั้งเก้าในทวีปดารา ซึ่งเป็นการรวมตัวกันเป็นขุมอำนาจใหญ่เพื่อคานอำนาจกับลัทธิดับดารา
นอกจากนี้มุกดารายังบอกให้เหนือภพรู้นี้อีกว่า นางเป็นเพียงศิษย์สายนอกของสำนักดาราที่ 9 ซึ่งเป็นสำนักที่อ่อนแอที่สุดในบรรดาสำนักทั้งเก้า ใครที่เข้าสำนักนี้ส่วนใหญ่เป็นเพียงแค่บุคคลชั้นรองของสังคม ความรู้ความสามารถจัดอยู่ในระดับกลาง ๆ ไม่ต่ำไม่สูง หรือจะบอกว่าเป็นสำนักที่ไร้อนาคตก็ว่าได้
“เจ้ามั่นใจแล้วหรือไม่ที่จะเข้าร่วมสำนักดาราที่ 9 ข้าไม่บังคับเจ้า เพราะด้วยอายุและความสามารถของเจ้า ถือว่าเจ้ายังมีโอกาสที่จะเข้าสำนักดาราที่ 8 หรือ 7 ได้ ข้าสามารถแนะนำเจ้าให้กับพวกเขา ถ้าเจ้าต้องการ”
“ไม่ครับอาจารย์ ข้าตัดสินใจแล้ว ไม่เปลี่ยนใจ”
เหนือภพไม่คิดมาก เขาขอเลือกคนที่เขารู้จักมากกว่าคนที่ไม่รู้จัก แม้จะแข็งแกร่งกว่าก็ตาม อย่างน้อย ๆ อาจารย์ที่เขาเลือกคนนี้ก็เป็นถึงหัวหน้าสาขาหอเก้าสมบัติ นางย่อมสร้างคุณประโยชน์ให้เขาอย่างมหาศาล เมื่อคิดถึงทรัพยากรที่นางมี ก็ทำให้ตาเหนือภพเป็นประกาย
มุกดารายิ้ม นางรู้สึกชอบใจในความหนักแน่นของเหนือภพ ไม่คิดว่าจากลูกค้าผู้ทรงเกียรติในวันนั้นจะกลับกลายมาเป็นศิษย์อาจารย์กัน นี่เป็นเรื่องที่เหนือความคาดหมาย
หลังจากเหนือภพได้รับการชี้แนะจากผู้เป็นอาจารย์ เขาก็รีบกลับมายังมิติบรรพกาล เมื่อมาถึงเขาก็ไม่ลืมที่จะเข้าไปตรวจดูบุหรง ซึ่งพอเขาไม่อยู่ นางไม่มีเขาคอยกระตุ้น นางก็จะนิ่งเป็นหลับขยับเป็นกิน เกราะรุ่นใหม่และอาวุธเพิ่งทำไปได้ครึ่งเดียวเท่านั้น กว่าเหนือภพจะทำให้บุหรงกลับไปทำงานอย่างเก่าได้ก็ใช้เวลาอยู่นาน
จากนั้นเขาก็กลับเข้ามายังห้องหนังสือเพื่อศึกษาความรู้เพิ่มเติม ภายในห้องสมุดมีวิชามากมาย ทว่าวิชาที่ผู้ไร้พรสวรรค์สามารถเรียนได้กลับมีน้อย เหนือภพจึงไม่ค่อยสนใจนัก ได้แต่ปล่อยมันไว้ เขาคิดไว้ว่าหากจะฟื้นฟูตระกูลของเขาให้กลับมายิ่งใหญ่ หนังสือเหล่านี้ยังจำเป็นต้องใช้ในอนาคต
เหนือภพเปิดสัมภาระที่มุกดาราให้มา ภายในมีของสามสิ่งคือยาเสริมกระดูก ยาเสริมเส้นเอ็นอย่างละสิบเม็ด และอย่างสุดท้ายคือตำราเคล็ดสามดารา ซึ่งเป็นวิชาหลักของสำนักดาราที่ 9 เป็นวิชาพื้นฐานที่ศิษย์ทุกคนต้องเรียนรู้
เขาเปิดมันเพื่อศึกษาดูคร่าว ๆ จึงพบว่ามันเป็นเคล็ดวิชาที่รวบรวมหลักการต่อสู้ 3 ประเภท ได้แก่ พลัง ป้องกัน และความเร็ว ซึ่งแต่ละหลักการมีวิชาแฝงอยู่
หลักวิชาเกี่ยวกับพลัง มี ‘วิชาหมัดดาราพิฆาต’ ที่โจมตีด้วยการรวมกำลังภายในไว้ที่กำปั้นและชกออกไป ส่วนป้องกัน มี ‘วิชาโล่ดารา’ เมื่อเขาใช้จะเรียกดวงดาวออกมาต่อต้านการโจมตีที่พุ่งเข้ามา ส่วนความเร็ว คือวิชาที่ใช้ในการเคลื่อนไหว ‘ย่างก้าวประกายดาว’ ที่ทำให้การเคลื่อนไหวรวดเร็วขึ้น ทั้งว่องไวและสง่างามอย่างยิ่ง
วิชาที่อาจารย์มอบให้เขาย่อมเป็นวิชาของผู้ไร้พรสวรรค์ เหนือภพรู้สึกสนใจมาก แต่การฝึกวิชาจำเป็นต้องค่อย ๆ เรียนรู้ ค่อย ๆ ก้าวไปทีละก้าว จะรีบร้อนไม่ได้
เหนือภพจึงนำยาเสริมกระดูกมากัดกินหนึ่งเม็ด ตอนนี้เขามุ่งให้ความสนใจกับปราณราชันย์ยักษาเป็นหลัก เพราะเขาสามารถเข้าใจได้ อีกทั้งยิ่งฝึกก็ยิ่งก้าวหน้า ยิ่งพอเขาได้รับการชี้แนะจากอาจารย์ เขาก็รู้สึกว่าเส้นทางในการฝึกฝนกำลังภายในของเขานับวันยิ่งรุ่งโรจน์
เหนือภพกลับไปหามุกดาราหลายครั้ง เมื่อเขาไม่เข้าใจหรือเผชิญกับเพดานที่เขาไม่อาจจะทะลวงผ่านไปได้ เขาก็จะกลับไปหาอาจารย์ ซึ่งในสายตาของมุกดารานั้น เธอทั้งตื่นตะลึงและตื่นเต้นเป็นอย่างมาก เพราะทุกครั้งที่เหนือภพกลับมาหาในแต่ละครั้ง ระยะเวลาจะห่างกันเพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมง เร็วสุดก็หนึ่งชั่วโมง ช้าสุดก็สามชั่วโมง และทุกครั้งที่กลับมานั้นเหนือภพจะก้าวหน้าขึ้นไปอีกขั้น
เพียงแค่สามวันที่มุกดาราได้รับเหนือภพเป็นศิษย์นั้น ระดับการฝึกฝนของเหนือภพก็มาอยู่ในระดับกายขั้นกลาง ซึ่งกว่าจะฝึกมาขั้นนี้ส่วนใหญ่ใช้เวลากันอย่างน้อยหกเดือนเป็นอย่างต่ำ ช้าสุดก็หนึ่งปี ดังนั้นการใช้เวลาฝึกเพียงแค่สามวัน จากผู้ที่ไม่เคยฝึกฝนศาสตร์กำลังภายในมาก่อน กลับข้ามขั้นจากกายขั้นต่ำมาถึงกายขั้นกลางนั้น นับว่าเหนือความคาดหมาย ถ้าไม่เรียกว่าอัจฉริยะจะเรียกว่าอะไรได้อีก
แต่มุกดาราไม่รู้ว่าสถานที่ที่เหนือภพอยู่นั้นมีห้วงเวลาแตกต่างจากโลกความเป็นจริงมาก สามวันที่เหนือภพมาพบมุกดารา แท้ที่จริงในโลกที่เหนือภพจากมาได้ผ่านไปแล้วสามปี ดังนั้นเหนือภพจึงไม่นับว่าเป็นอัจฉริยะ แต่นับว่าเป็นพวกไร้พรสวรรค์ที่ได้ว่าแย่ของแย่สุด ๆ หากไม่เป็นเพราะความพยายามและมุมานะของเขา เขาคงไม่อาจก้าวมาถึงขั้นนี้