ตอนที่ 285 ความคิดของจ้าวหยุน
ตู้ม!
ไม่ค้ำของชายชราฟาดไปยังหอกในมือของ จ้าวหยุน
พลังมหาศาลทำให้ จ้าวหยุน ต้องรีบโคจรพลังปราณในร่างกายตั้งรับทันที
ถัวปาหง ได้ใช้โอกาสนี้ หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว
จ้าวหยุน ไม่ได้คิดไล่ตาม ถัวปาหง เขาได้จ้องมองไปที่ชายชราตรงหน้าด้วยสายตาจริงจัง
ความแข็งแกร่งที่ชายชราผู้นี้ปลดปล่อยออกมาแข็งแกร่งอย่างยิ่งมันเทียบเท่ากับระดับ 7 ขั้นปรมาจารย์!
เทียบกับสถานะปัจจุบันของเขา
แต่ความแข็งแกร่งของ ชายชราผู้นี้ไม่ได้ แสดงพลังพิเศษออกมาเพื่อยกระดับ เขาได้มาถึงระดับ 7 ขั้นปรมาจารย์ด้วยตัวเอง
ดังนั้น แม้ว่า ตอนนี้ จ้าวหยุน จะแข็งแกร่ง แต่เขายังคงต้องให้ความสนใจกับชายชราคนนี้
"เจ้ามาจากนิกายประตูฉางเหมิน!"
จ้าวหยุน มองไปที่ ชายชราตรงหน้าและกล่าวถามอย่างเย็นชา
ชายชรายิ้มและพยักหน้า"ข้ามาจากนิกายประตูฉางเหมินจริง ๆ ! ดูเหมือนว่าแม่ทัพหนุ่มผู้นี้หูตากว้างไกลเพียงพริบตาก็มองตัวตนของข้าออกในพริบตา!"
จ้าวหยุน ไม่ได้พูดเรื่องไร้สาระ เขาได้ชี้หอกไปที่ชายชราและกล่าวพูดอย่างเย็นชา"จะเข้าก็เข้ามา!"
"ทำไมถึงอยากจะสู้นักเล่า?"
ชายชรายิ้มออกมา"เจ้าและข้าต่างก็เป็นนักรบระดับ 7 ขั้นปรมาจารย์ หากเจ้าต้องการจะวัดพลังกับข้า เกรงว่าคงไม่อาจบอกได้ถึงความแตกต่างภายในวันสองวันเป็นแน่ ดังนั้นข้าไม่สนใจที่จะเล่นกับเจ้า ไว้มีโอกาสเราค่อยพบกันใหม่!"
หลังจากพูดจบแล้ว ร่างของชายชราก็หายไปทันที
จ้าวหยุน รู้สึกได้ถึงทิศทางที่ชายชราหนีไป เขาไม่ได้ไล่ตาม
เพราะเขารู้ดีว่า แม้จะเป็นเขาตอนนี้ก็คงไม่สามารถจัดการกับชายชราคนนั้นได้ ยิ่งไปกว่านั้น ความแข็งแกร่งของเขา ถูกเพิ่มขึ้นด้วยพลังพิเศษ มันมีระยะเวลากำหนด ตอนนี้ มันใกล้จะถึงขีดจำกัดของเขาแล้ว หลังจากผ่านไปช่วงเวลานึงความแข็งแกร่งของเขาจะกลับสู่ค่าดังเดิม และ เขาจะตกอยู่ในช่วงเวลาที่อ่อนแอ
เขาได้ควบม้า และ หันกลับไปยังสนามรบภูเขาเหยียนซาน
อย่างไรก็ตาม เมื่อ จ้าวหยุน มาถึงภูเขาเหยียนซาน เกาชุน ก็ได้นำทหารกองพันทหารค่ายไล่ฆ่าทหารม้านับหมื่นเหล่านี้ทั้งหมด
จะพูดให้ละเอียดก็คือ เกาชุน ได้สังหารทหารม้านับหมื่นเหล่านี้ทั้งหมด
เมื่อ จ้าวหยุน กำลังไล่ล่าฆ่า ถัวปาหง และ สังหารแม่ทัพเหล่านั้น ทำให้ คนเถื่อนสูญเสียผู้บัญชาการและไม่สามารถรวบรวมกองทัพได้
เกาชุน ได้ใช้พลังปราณฟื้นฟูร่างกายและระเบิดพลังออกมาในระยะเวลาอันสั้นเพื่อสังหารคนเถื่อนเหล่านี้
"แม่ทัพเกา ท่านสังหารพวกคนเถื่อนพวกนี้ได้รวดเร็วจริง ๆ !"จ้าวหยุน มองไปที่ ศพรอบ ๆ เขาแอบยกนิ้วให้กับเกาชุน
เกาชุน รู้สึกอายเล็กน้อยและตอบกลับ"ต้องขอบคุณพี่จ้าวที่ช่วยเหลือหากท่านไม่ฆ่าแม่ทัพพวกคนเถื่อนและทำลายรูปแบบกองทัพ มีหรือข้าที่ถูกปราบปรามโดยรูปแบบกองทัพจะสามารถระเบิดพลังปราณแท้จริงออกมาฆ่าคนเหล่านี้ได้?"
หลังจาก หยุดชั่วครู่ เกาชุน ก็พูดต่อ"พี่จ้าว ถ้าท่านไม่ว่าอะไร ช่วยรอข้าเก็บกู้ร่างพี่น้องของข้าก่อนได้หรือไม่?"
จ้าวหยุน ไม่ได้พูดอะไร เขาได้ติดตาม เกาชุน ไปยังสถานที่ที่พวกเขาทำการต่อสู้
เกาชุน นำทหารกองพันทหารค่ายที่เหลือไม่ถึงพันคน และ มองไปที่ ศพอดีตพี่น้องที่ตกตายในภูเขาเหยียนซาน
คนเหล่านี้ เป็นพี่น้องของพวกเขา ทั้งกลางวันและกลางคืน พวกเขาได้ฝึกฝนด้วยกัน ไว้ใจซึ่งกันและกัน ร่วมมือกันเพื่อสังหารศัตรู
พวกเขาเป็นพี่น้องที่ร่วมอยู่ร่วมตายไปด้วยกัน!
แม้แต่ดวงตาของเกาชุน ก็ยังเป็นสีแดงเวลานี้
ทหารทุกคนในกองพันทหารค่ายล้วนเป็นคนที่ได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี วันนี้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 6,000 คนในภูเขาเหยียนซาน
มันช่างเจ็บปวด!
เจ็บปวดยิ่งนัก!
แต่นี่คือสงคราม สงคราม ย่อมมีการเสียสละ และ เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้คนในอาณาจักรของคุณถูกเหยียบย่ำ พวกเขาจะต้องลุกขึ้นมาต่อต้าน
เขาได้สูดลมหายใจเข้าลึกและกล่าวพูดเสียงดัง"หาศพพี่น้องของเราทุกคนมากองรวมกันร่วมส่งพวกเขาไปสู่สุขคติ!"
"ขอรับ!"ทหารที่มีไม่ถึงพันคนในค่ายพูดออกมาด้วยน้ำตา
ศพของทหารกองพันทหารค่ายในสนามรบทั้งหมด หลังจากเสียชีวิต พวกเขาไม่สนใจที่จะนำศพเหล่านี้ไปฝังไว้ที่สุสานวีรชน
นี่คือกฏของกองพันทหารค่าย ทหารทุกคนต้องเชื่อฟังกฏ
หลังจากพบศพของทหารทั้งหมดที่เสียชีวิตแล้ว เกาชุน ก็จุดไฟยืนตรงหน้าและกล่าวพูดเสียงดัง"เหล่าพี่น้องที่แสนดีของข้า ขอให้วิญญาณของพวกเจ้าไปสู่ตำหนักจงอี้"
"ไปสู่ตำหนักจงอี้"
ทหารที่เหลือต่างพากันตะโกน
ตำหนักจงอี้ เป็นตำหนักที่สร้างขึ้นมาสำหรับแม่ทัพและทหารที่เสียชีวิตในสนามรบ
ทหารคนใด ที่ได้รับการฝังร่างในตำหนักจงอี้ จะเป็นทหารที่พลชีพเพื่ออาณาจักรวิญญาณของวีรชนผู้กล้าทุกคนจะสถิตอยู่ที่นั่น
จ้าวหยุน มองดูฉากนี้ด้วยความโศกเศร้า
เขาสัมผัสได้ถึง ความรู้สึกของ เกาชุน และ กองพันทหารค่าย ที่ไม่เพียงแต่ความรู้สึกของแม่ทัพที่มีต่อผู้ใต้บังคับบัญชาเท่านั้น ยังรวมไปถึงความรู้สึกของพี่น้องด้วย
นี่ไม่ใช่การแสดง มันเป็นความรู้สึกจริง ๆ
หลังจากศพเหล่านี้ถูกเผากองรวมกัน และ ไหม้จนหมด เกาชุน ก็ได้กำขี้เถ้าขึ้นมากำมือนึงเพื่อที่จะนำกลับไปที่ตำหนักจงอี้
ขี้เถ้าในมือกำนี้ เป็นหลักฐานว่าพี่น้องของพวกเขาทุกคนพลีชีพอย่างเสียสละในสนามรบ!
"พี่จ้าว ท่านไม่เป็นอะไรนะ?"เกาชุน หันมา กล่าวถาม จ้าวหยุน
จ้าวหยุน ได้สั่นศีรษะ"ข้าสบายดี"
ผลข้างเคียงจากการใช้พลังพิเศษเริ่มแสดงผล แต่มันก็ไม่ได้มีผลมากนัก
"ดีแล้ว"
เกาชุน ไม่ได้ลังเลอีกต่อไป เขามองไปที่ จ้าวหยุน และ พูดขึ้น"พี่จ้าว เหตุผลที่ข้ารั้งท่านไว้ กล่าวตามตรง ข้าต้องการให้ท่านช่วยเหลือข้า มารับใช้ฝ่าบาทด้วยกัน ด้วยความสามารถของท่าน ย่อมประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน!"
หลังจาก จ้าวหยุน ได้ยิน เขาก็ครุ่นคิดและตอบกลับ"แม่ทัพเกา ข้าเองก็ได้ยินชื่อเสียงเรียงนามความฉลาดขององค์จักรพรรดิ มาก่อน แต่ข้า จ้าวหยุน หาได้ต้องการรับใช้ฝ่าบาทในตอนนี้"
"หรือว่า พี่จ้าว มีคนในใจอยู่แล้ว?"เกาชุน ได้กล่าวถามอย่างกังวล
จ้าวหยุน ได้สั่นศีรษะ"ข้าหาได้มีคนในใจ แต่เป็นเพราะมีสัญญากับสหายที่ตายไปเมื่อหลายปีก่อนว่าจะดูแลครอบครัวของเขาให้ดี ครั้งนี้ ข้ากลับไปที่ มณฑลเฮยเสียน เพื่อค้นหาครอบครัวของสหายคนนี้"
"มณฑลเฮยเสียน ล่มสลายไปแล้ว เป็นไปได้หรือไม่ว่าคนที่ท่านกำลังมองหาอยู่จะ..."
เกาชุน ไม่ได้พูดจบ แต่ จ้าวหยุน รู้ความหมายดี
เขาได้สั่นศีรษะ"ไม่อย่างแน่นอน ตอนนั้นข้าไปถึงบ้านของสหายคนนั้นก่อนที่พวกคนเถื่อนจะบุกเข้ามากลับพบว่าไม่มีใครอยู่ในบ้าน คนข้างบ้านได้บอกว่าครอบครัวของพวกเขาได้ออกจากมณฑลเฮยเสียนไปเมื่อสามปีก่อน ข้าได้ให้สัญญากับสหายคนนี้เอาไว้ว่าจะปกป้องครอบครัวของเขาให้ดี ดังนั้น ข้าจะไม่ทำไม่ได้!"
"ข้าจ้าวหยุน จะยังไม่มอบความภักดีกับใครจนกว่าข้าจะพบกับครอบครัวสหายของข้า!"
"นี่..."
เกาชุน ได้คร่ำครวญเล็กน้อยและตอบกลับ"เช่นนั้น ทำไมท่านไม่ไปพบกับฝ่าบาทเล่า พระองค์กำลังเดินทางมาที่สามมณฑลทางตอนเหนือ แห่งนี้ ภายใต้พระหัตถ์ของพระองค์มีหน่วยจินยี่เหว่ยที่เฉลียดฉลาดสอดส่องข้อมูลเก่ง ขอเพียงฝ่าบาทสั่งการ หน่วยจินยี่เหว่ย ย่อมช่วยพี่จ้าวหาครอบครัวสหายผู้นั้นได้อย่างแน่นอน"
จ้าวหยุน ได้สั่นศีรษะ"ข้ามีสถานที่ในใจอยู่แล้ว แต่เพราะก่อนจะไปที่นั่นได้พบเจอกกับการรุกรานของพวกคนเถื่อนเสียก่อน พอเห็นความโหดร้ายของพวกมัน ข้าจึงไม่อาจนิ่งดูดายดาย นี่เป็นเหตุผลที่ทำให้ข้าอยู่ที่นี่ในวันนี้ สำหรับสถานที่ที่ข้าจะไป อยู่ทางใต้ มณฑลฉู่ ถ้าตามที่แม่ทัพเกากล่าว ฝ่าบาท คงใกล้จะมาถึงในไม่ช้า ข้าเชื่อว่าสามมณฑลทางตอนเหนือคงไม่มีปัญหาอีกต่อไป ดังนั้น ข้าคงต้องออกตามหาครอบครัวของสหายต่อ"