ตอนที่ 2 : การตื่นขึ้น!
ตอนที่ 2 : การตื่นขึ้น!
ไม่แน่ใจนักว่าเวลาผ่านไปเท่าไรแล้ว โจวฉวนจีค่อย ๆ ฟื้นสติกลับมา เมื่อเขาลืมตาขึ้น ความทรงจำมากมายก็ไหลท่วมท้นเข้ามาในจิตใจเขาราวกับคลื่นน้ำจนทำให้เขาปวดหัวเป็นอย่างมาก
เขายันร่างเล็ก ๆ ของเขาขึ้นมาก่อนจะพบว่าตนนั่งอยู่บนเตียงไม้โดยมีกองเสื้อผ้าอยู่ข้างเตียง
จากลักษณะแล้วที่นี่เป็นกระท่อมไม้หลังหนึ่งที่ขนาดพื้นที่เพียงพอแค่สำหรับเตียงไม้และโต๊ะไม้เท่านั้น
และบนโต๊ะไม้มีเพียงแค่เหยือกน้ำและจานกระเบื้องที่บิ่น 2 ใบเท่านั้น
รอบ ๆ กระท่อมนั้นเต็มไปด้วยต้นไม้เขียวขจี และเมื่อมองออกไปก็พบกับภูเขาและป่าที่ทอดยาวออกไป
โจวฉวนจีส่ายหัวก่อนจะถามภายในใจว่า “ระบบยอดดาบในตำนานหรอ?”
เขายังคงจำได้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนที่เขาจะหมดสติไป หรือนี่อาจจะเป็นโปรแกรมโกงที่สวรรค์ได้มอบให้เขานะ?
ในชีวิตก่อนหน้านั้น เขาได้อ่านนิยายมามากมาย จึงทำให้เขาเข้าใจได้ว่าระบบที่ว่านั้นหมายถึงอะไร
มันก็เหมือนกับเกมที่ต้องเล่นคนเดียว
ขณะเดียวกัน เขาก็รู้สึกคุ้นเคยกับอะไรบางอย่างที่เรียกว่า “ยอดดาบในตำนาน”
ราวกับว่าเขาเคยได้ยินมาจากที่ไหนมาก่อน
“นายท่าน คำสั่งของท่านคืออะไร?”
เสียงหุ่นยนต์ดังขึ้นภายในจิตใจเขา
“ไอระบบยอดดาบในตำนานนี่มาได้ยังไง? แล้วมันทำอะไรได้บ้าง?” เขาเริ่มถามอย่างต่อเนื่อง ใบหน้าของเขาเริ่มแสดงออกถึงความคาดหวังอย่างควบคุมไม่ได้
“ระบบยอดดาบในตำนานนั้นคือ ลิขิตสวรรค์ ตั้งแต่โลกได้ถือกำเนิดขึ้นมา กฎ 3000 ข้อก็ได้ถูกบัญญัติขึ้น และกฎ 3000 ข้อนั้นจะนำไปสู่วิถีสวรรค์ แต่ที่เหนือยิ่งกว่ากฎเหล่านั้น ก็คือความไม่แน่นอนที่เรียกว่า ลิขิตสวรรค์”
“และในตอนนี้ ลิขิตสวรรค์ตั้งแต่ถือกำเนิดโลกนั้นก็ได้หลอมรวมเข้ากับร่างกายของเจ้าของดาบ ซึ่งมันได้ไปกระตุ้นโปรแกรมยอดดาบในตำนานที่คุณได้สร้างเอาไว้ในชีวิตก่อนหน้า ดังนั้นแล้วโปรดเรียกผมว่า จิตวิญญาณแห่งดาบ”
“ผมนั้นไม่มีเจตจำนงเป็นของตนเอง ผมเป็นเพียงโปรแกรมสนับสนุนที่ถูกคุณสร้างขึ้นมา โดยมีจุดประสงค์เพื่อดูแลเจ้าของดาบเท่านั้น” เสียงหุ่นยนต์ได้ตอบกลับ โจวฉวนจีรู้สึกตกใจในสิ่งที่ได้ยิน
อะไรนะ?!
เพราะงี้นี่เอง!
โจวฉวนจีเริ่มรู้สึกตัวและตื่นเต้นเป็นอย่างมาก
ในชีวิตก่อนเขานั้นเคยเป็นโปรแกรมเมอร์ ในตอนที่เขากำลังเล่นเกมแฟนตาซีกำลังภายในที่ต้องเล่นคนเดียวอยู่นั้น เขาก็รู้สึกว่าการที่จะเพิ่มเลเวลและเก่งขึ้นได้นั้นมันยากเกินไป ดังนั้นแล้วเขาถึงได้สร้างโปรแกรมยอดดาบในตำนานขึ้นมา
ใช่แล้ว
มันคือโปรแกรมโกงยังไงล่ะ!
โปรแกรมนี้ทำให้เขาสามารถสุ่มดาบอะไรก็ได้ในเกมขึ้นมาได้ เพราะตัวละครที่เขาเล่นคือจอมกระบี่นั่นเอง
ไม่เพียงแค่นั้น เขายังสามารถใช้วิชาดาบใด ๆ ก็ได้ และสามารถปั้มเลเวลไปได้จนถึงระดับสูงสุด ตราบเท่าที่เขายังคงฝึกฝนทุก ๆ กระบวนท่าของดาบอย่างต่อเนื่อง ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเข้าถึงในระดับที่ลึกหรือใช้ของวิเศษอะไร
และตอนนี้โปรแกรมยอดดาบในตำนานก็กลายมาเป็นของจริงและกลายมาเป็นระบบของเขาไปแล้ว ไม่ใช่ว่านี่หมายความว่าเขาจะสามารถกลายเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดได้อย่างงั้นหรือ?
และจู่ ๆ ก็มีข้อความจำนวนหนึ่งที่มีแต่เขาคนเดียวที่เห็นปรากฎขึ้นต่อหน้า
เจ้าของดาบ : โจวฉวนจี
สายเลือด : สายเลือดแห่งจักรวรรดิโจวที่ยิ่งใหญ่
ระดับจอมยุทธ ไม่มี
วิชาลมปราณ : ไม่มี
วิชาดาบ : ไม่มี
ทักษะพิเศษ : ไม่มี
ดาบ [ ระดับเงิน ] ดาบมังกรสีชาด
…
นี่คือข้อมูลทั้งหมดของฉันงั้นหรอ?
เดี๋ยวก่อนนะ!
แล้วไอระดับเงินที่อยู่ข้างหน้าดาบมังกรสีชาดนี่มันหมายถึงอะไรน่ะ?
เขาหรี่ตามองด้วยความสับสน
“แม้ว่าระบบยอดดาบในตำนานนั้นจะเกิดมาจากโปรแกรมยอดดาบในตำนานที่คุณได้สร้างขึ้น แต่มันก็ได้สร้างดาบในตำนานจำนวนนับไม่ถ้วนขึ้นมาด้วยตัวของมันเองและได้แบ่งประเภทของดาบในระดับต่าง ๆ ไว้ ซึ่งปัจจุบันสามารถมอบระดับของดาบให้ได้เพียงแค่ระดับแร่ธรรมดา ระดับเหล็ก ระดับสัมฤทธิ์ ระดับเงิน ระดับทอง ระดับอเมทิสต์ และระดับทองรุ่งโรจน์ โดยระดับที่เหนือกว่านั้นยังไม่สามารถมอบให้ได้ เนื่องจากเจ้าของดาบยังอ่อนแอเกินไป” จิตวิญญาณแห่งดาบอธิบาย
โจวฉวนจีกลืนน้ำลายเมื่อได้ยิน
นี่มันเจ๋งไปเลย!
ดาบมังกรสีชาดที่มีระดับเงินเนี่ยมันจะเป็นอุปกรณ์แบบไหนกันนะ?
เดี๋ยวก่อนสิ!
แล้วดาบมังกรสีชาดของฉันอยู่ไหนล่ะ?
ทันทีที่เขาคิด ดาบก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าเขาก่อนจะลอยมาอยู่บนเตียง
นี่มันดาบมังกรสีชาด!
ความยาวของดาบมังกรสีชาดนั้นสูงถึง 4 ฟุต หรือยาวประมาณ 1.3-1.4 เมตรเลยทีเดียว ทั้งตัวของดาบนั้นเป็นสีแดงเข้ม และกลางใบดาบมีลวดลายมังกรถูกแกะสลักไว้อยู่ นอกจากนี้ที่ด้ามจับดาบยังดูเหมือนกับเขี้ยวมังกรที่ดุร้าย
ดวงตาของเขาเปร่งประกายเมื่อได้เห็นดาบที่ปรากฏขึ้น โครตเจ๋ง!
และข้อความที่มีแต่เขาคนเดียวที่เห็นได้ก็ได้ปรากฎขึ้น
ชื่อดาบ : ดาบมังกรสีชาด
ระดับ : เงิน
คำอธิบาย : ดาบระดับเงินในตำนานซึ่งมีจิตวิญญาณมังกรสีชาดสถิตอยู่ เมื่อถูกใช้งาน พลังของมันจะเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล
…
เขาจำไม่ได้ว่ามีสุดยอดดาบในตำนานในโปรแกรมยอดดาบในตำนานที่เขาเคยสร้างไว้ในชีวิตก่อนหน้านี้หรือไม่เพราะข้อมูลในเกมนั้นมีมากจนเกินไป
แต่ตอนนี้เขาค้นพบว่าตนเองสามารถควบคุมดาบมังกรสีชาดได้ราวกับควบคุมแขนตนเอง ดาบจะลอยไปมาตามที่เขาต้องการ มันช่างน่าอัศจรรย์จริง ๆ
“แล้วฉันจะซ่อนมันยังไง?” โจวฉวนจีสงสัย เพราะเด็กอายุ 2 ขวบคงไม่สามารถเก็บดาบแบบนี้ไว้ได้
แต่ทันทีที่เขาพูดจบ ดาบมังกรสีชาดก็หายไป
“ระบบนี้ประกอบไปด้วยสุดยอดช่องเก็บของซึ่งสามารถเก็บสิ่งใดก็ได้นอกจากสิ่งมีชีวิต ลักษณะของมันจะคล้ายกับกระเป๋าเก็บของที่สามารถซ่อนสิ่งของไว้ได้ในพื้นที่อิสระ” จิตวิญญาณแห่งดาบตอบกลับ
เขารู้สึกทึ่ง มันช่างสะดวกสบายซะจริง
“แล้วท่านจะรับวิชาดาบกระเรียนขาวหรือไม่?”
“มันแน่อยู่แล้ว!”
เขาตอบทันทีอย่างไม่ลังเล เขาจะต้องแข็งแกร่งพอที่จะแก้แค้นให้ได้
ในฐานะเจ้าชายแห่งจักรวรรดิ์โจว โจวฉวนจีก็พอจะเคยได้ยินเกี่ยวกับแต่ละระดับของจอมยุทธมาบ้าง
เรียงลำดับจากต่ำสุดไปสูงสุด ระดับรักษาปราณ ระดับสร้างรากฐาน ระดับบรรลุญาณ ระดับบัวภายใน ระดับผุดวิญญาณ ระดับราศีกำเนิด ระดับราศีคาดการณ์ ระดับขัดเกลาวิญญาณ เเละระดับนิพพาน
และแต่ละขั้นจะมีทั้งหมดสิบระดับ ซึ่งพ่อของเขา จักรพรรดิ์เหยียนแห่งโจว ได้บรรลุจนถึงระดับนิพพาน นั่นจึงทำให้เขาสามารถมีความสุขกับชีวิตได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุดและกล่าวได้ว่าเป็นเซียนเทพ
ดินแดนที่เขาเคยอยู่นั้นมีชื่อเรียกว่า เขตรกร้างเเดนเหนือ มีบ้านและอาณาจักรมากมายกระจายอยู่ทั่วพื้นที่ และเหนืออาณาจักรเหล่านั้นนั่นคือ จักรวรรดิ์ ในเขตแดนทางตะวันออกนั้นมีจักรวรรดิ์ของมนุษย์อยู่ทั้งหมด 7 แห่ง โดยมหาจักรวรรดิ์โจวนั้นเป็นจักรวรรดิ์อันดับต้น ๆ ที่ครั้งหนึ่งในอดีตเคยเป็นอันดับหนึ่งในช่วงยุคทอง
ถ้าโจวฉวนจีไม่มีระบบยอดดาบในตำนาน นอกเสียจากเค้าจะบังเอิญโชคดีจริง ๆ ที่สามารถท้าทายอำนาจสวรรค์ได้ มันก็แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะต่อกรกับจักรพรรดิ์เหยียนแห่งโจว ไม่แม้กระทั่งจะสามารถเข้าถึงตัวได้ด้วยซ้ำ
และไม่ใช่ว่าใครก็สามารถเข้าเฝ้าองค์จักรพรรดิ์ได้ จักพรรดิ์นั้นเปรียบดั่งเทพสวรรค์ที่อาศัยอยู่บนโลกมนุษย์ คนธรรมดา ๆ ทั่วไปก็ทำได้แค่มองจากที่ไกล ๆ เท่านั้น
ทันใดนั้น ความทรงจำก็ถามโถมเข้ามาในจิตใจเขาจนทำให้เขาต้องหลับตาลง
ภายในจิตใจนั้น เขาเห็นเงาที่กำลังฝึกฝนดาบอยู่ ร่างกายของเขานั้นเหมือนกับกระเรียนขาว ทั้งพลิ้วไหวและสง่างาม
และไม่นานเขาก็เข้าใจได้ว่าความทรงจำนี้คืออะไร
มันคือ กระบวนท่าดาบกระเรียนขาว 3 รูปแบบ
รูปแบบที่หนึ่ง กระบวนท่ากระเกรียน
รูปแบบที่สอง กระเรียนสยายปีก
รูปแบบที่สาม กระเรียนวาดสวรรค์
เขาได้จดจำในทุก ๆ รูปแบบ
ในโลกแห่งนี้นั้น จอมกระบี่มีสถานะทางสังคมที่สูง เพราะดาบนั้นเปรียบเสมือนราชาท่ามกลางศาสตราวุธทั้งหมด!
อย่างไรก็ตาม วิชาดาบนั้นฝึกฝนได้ยากยิ่งนัก ในแต่ละระดับของวิชาดาบต้องใช้ความเข้าใจอย่างถ่องแท้ แม้จะเป็นวิชาเดียวกัน แต่พลังทำลายล้างก็จะแตกต่างกันไปตามแต่ความเข้าใจในวิชาของจอมกระบี่คนนั้น ๆ
อย่างไรก็ตาม!
โจวฉวนจีนั้นมีระบบยอดดาบในตำนานอยู่!
เมื่อตอนที่เขาได้ออกแบบยอดดาบในตำนาน เขาได้สร้างทางลัดในการเรียนรู้วิชาดาบไว้ด้วย
เขาเพียงแค่ต้องฝึกฝนการเคลื่อนไหวของวิชาดาบกระเรียนขาวจำนวน 10 ครั้ง เขาก็จะสามารถเชียวชาญในรูปแบบแรกได้ และรูปแบบที่สองต้องทำทั้งหมด 50 ครั้ง ในขณะที่รูปแบบที่สามนั้นต้องใช้ทั้งหมด 1000 ครั้ง!
แค่วันเดียวเหลือเฟือแล้ว!
โจวฉวนจีครุ่นคิดเกี่ยวกับมันและรู้สึกดีใจ แต่เมื่อนึกถึงแม่นางจาวฉวนเขาก็เริ่มรู้สึกแย่อีกครั้ง
เขาไม่รู้ว่าแม่นางจาวฉวนจะเป็นหรือตาย และต่อให้เธอจะยังมีชีวิตอยู่ แต่เขาจะตามหานางเจอท่ามกลางโลกอันแสนกว้างใหญ่นี้ได้อย่างไรกัน
“คุณย่าของข้าไม่อยู่แถวนี้ เข้ามาก่อนเลยค่ะ”
เสียงอันแสนอ่อนโยนของหญิงสาวลอยดังเข้ามาจากนอกกระท่อมไม้ เขาสั่นด้วยความตกใจ จากนั้นหน้าต่างข้อมูลก็หาย
“อย่าบอกนะว่าย่าเจ้าจะเบี้ยวหนี้น่ะ บอกนางซะนะว่านางต้องจ่ายหนี้ภายใน 3 เดือน เข้าใจมั้ย?”
“ถ้านางไม่ยอมจ่ายหนี้ล่ะก็ ข้าจะเอาเจ้าไปขายให้ซ่องราคาถูกในเมืองซะ!”
พอได้ยินเสียงแหลมของผู้หญิงดังเข้ามา โจวฉวนจีก็จินตนาการออกได้เลยถึงหน้าตาแก่ ๆ หงำเหงือกของนาง
เขากลับมานอนลงทันที ตอนนี้เขาทั้งรู้สึกสงสัยเกี่ยวกับคนที่ช่วยชีวิตเขาไว้ แต่ก็รู้สึกขอบคุณในเวลาเดียวกัน
คงจะเป็นเรื่องน่าเศร้าหากเขาถูกทิ้งไว้ในที่ทุรกันดารและถูกปีศาจจับกิน
เผ่าพันธุ์มนุษย์ไม่ใช่เพียงเผ่าพันธุ์เดียวที่อาศัยอยู่ในดินแดนตะวันออก เผ่าปีศาจเองก็มีอิทธิพลอย่างมากต่อเขตนี้เช่นกัน พวกมันเข้าเเทรกเเซงเข้าไปในเเต่ละพื้นที่ของเผ่ามนุษย์
หลังจากนั้นไม่นาน หญิงสาวก็เข้ามาในกระท่อม
เธอก้มหน้าเช็ดน้ำตาและร้องไห้สะอึกสะอื้นไม่หยุด เห็นได้ชัดว่าเธอตกใจกลัวกับสิ่งที่พึ่งเผชิญมา
เธอเดินไปยังม้านั่งโดยไม่สนใจเขาก่อนจะทรุดตัวลงบนโต๊ะและเริ่มร้องไห้เสียงดัง
โจวฉวนจีแกล้งทำเป็นหลับ คอยฟังเธอร้องไห้และได้แต่คิดสงสารเธอ เขาพลิกตัวกลับมาก่อนจะมองไปทางเธอและพูดอย่างดูดีว่า “พี่สาว ข้าหิวน้ำ”