ตอนที่ 54 เหมาเยซื่อไม่เคยออกเดทมาก่อน?
“ฉัน...ฉันไม่ได้ใช้น้ำหอมค่ะ” เมื่อถูกเขากอดไว้แบบนี้ เธอรู้สึกเขินอายหน้าแดงระเรื่อ
“เหมาเยซื่อคะ ปล่อยฉันได้แล้ว” เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเล็กน้อย
สาวใช้หลายคนยืนตะลึงนิ่งอยู่ภายในห้องอาหาร พวกเขาทั้งตกตะลึงปนอิจฉากับฉากที่เห็นตรงหน้า
หญิงสาวที่ดูเหมือนจะยังเด็ก ยังเป็นเพียงนักศึกษาอยู่เลย กลับได้รับความสนใจจากเจ้านายหนุ่มของพวกเขาอย่างมาก
เหมาเยซื่อไม่เพียงแค่โอบกอดเธอ เขายังจับที่คางของเธอพร้อมกับลูบมันไปมาอย่างเบามือ เสียงทุ้มของเขาพูดขึ้น
“เมื่อคืนคุณยังกอดผมทั้งคืนเลย ทำไมตอนนี้ผมจะกอดคุณบ้างไม่ได้”
ดวงตาของเฉียวเมียนเมียนเบิกกว้าง “ฉัน...เมื่อคืน...”
“ใช่น่ะสิ” เหมาเยซื่อลูบไล้แก้มของเธอด้วยปลายนิ้ว แล้วกระซิบเบา ๆ
“คุณยังกับปลาหมึกยักษ์เลย กอดผมไม่ยอมปล่อย ทำให้ผมไม่ได้นอนทั้งคืน”
เฉียวเมียนเมียนหน้าแดงมากยิ่งขึ้น
เมื่อคืนเธอเหนื่อยจนเผลอหลับในรถของเขา และหลังจากนั้นก็จำอะไรไม่ได้เลย
ความคิดเรื่องที่เขาและเธอนอนอยู่บนเตียงเดียวกันแว๊บขึ้นมา ทำให้อัตราการเต้นของหัวใจเธอเร็วขึ้น
เธอรู้สึกว่าโชคดีเหลือเกินที่เมื่อคืนนี้เธอหลับไป เธอจึงไม่ต้องเผชิญกับความยากลำบากใจที่จะต้องนอนร่วมเตียงเดียวกับเขา
“เสื้อผ้าพวกนี้ล่ะคะ...”
“แน่นอนว่าผมเป็นคนเปลี่ยนให้คุณเอง คุณเป็นผู้หญิงของผมนะ มีเพียงผมเท่านั้นที่สามารถเห็นเรือนร่างคุณได้”
“คุณ...คุณเปลี่ยนชุดให้ฉันเหรอ?” ดวงตาของเฉียวเมียนเมียนเบิกกว้าง ใบหน้าของเธอร้อนดูเหมือนจะไหม้และแดงระเรื่อทั่วทั้งใบหน้า
“คุณอายอีกแล้วเหรอ?” เหมาเยซื่อบีบคางของเธอ พร้อมกับมองไปที่ท่าทางที่แสนจะยั่วยวนของเธอ เขาอดไม่ได้ที่จะยิ้มเยาะและหัวเราะออกมาเบา ๆ “ทำไมคุณเขินได้ง่ายจัง? ที่รัก ผมเป็นสามีของคุณนะ เป็นเรื่องปกติที่ผมจะเปลี่ยนเสื้อผ้าให้คุณไม่ใช่เหรอ?”
“เหมาเยซื่อ หยุดพูดก่อน...”
ขณะที่เขาพูดประโยคเหล่านั้น ทำให้ใบหน้าเธอแดงทั้งหน้า และหัวใจเต้นรัวไม่เป็นจังหวะ เฉียวเมียนเมียนรู้สึกว่าใบหน้าของตนร้อนเหมือนจะไหม้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขาเรียกเธอว่า ‘ที่รัก’ เธอรู้สึกราวกับถูกสะกดจิต แม้กระทั่งความรู้สึกยังอ่อนไหวไปเสียหมด
ตอนนี้...
เฉียวเมียนเมียนสงสัยจริง ๆ กับคำพูดของลุงหลี่ที่เธอกับเขาคนนี้จะเป็นความจริงหรือไม่
เหมาเยซื่อไม่เคยเดทมาก่อนน่ะจริงหรือ?
แล้วเขาทำเจ้าชู้ขนาดนี้ได้อย่างไรกัน?
ผู้หญิงที่เคยมีความรักมาก่อน ยังถูกเขาสะกดได้ถึงเพียงนี้ เธอไม่สามารถห้ามหัวใจของตนเองให้ไม่เต้นเร็วขึ้นได้เลย
“ที่รัก คุณรู้ไหมว่าผมต้องการทำอะไรตอนนี้” เหมาเยซื่อขยับเข้าใกล้เธอมากขึ้น ลมหายใจอุ่น ๆ ของเขาปะทะใบหูของเธอ ก่อนจะลดเสียงลงพูดกับเธอว่า “ผมต้องการ...”
คำพูดที่มีแค่เขาสองคนเท่านั้นที่ได้ยิน
เฉียวเมียนเมียนรู้สึกตุ้ม ๆ ต่อม ๆ เหมือนหัวใจจะระเบิด เธอเงยหน้าขึ้น น้ำตาเอ่อล้น
“เหมาเยซื่อคะ ฉันหิวแล้ว ฉันอยากจะทานข้าวแล้วค่ะ”
ในเวลานั้น คนรับใช้นำอาหารเช้าของเฉียวเมียนเมียนเข้ามาให้ มีทั้งอาหารจีน อาหารตะวันตก และผลไม้ ในเซตดั่งอาหารของโรงแรมห้าดาว
เหมาเยซื่อจำใจที่จะต้องปล่อยเธอจากอ้อมแขน