ตอนที่แล้วบทที่ 6 สำนักดาบบูรพา
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 8 มังกรทะยานขึ้นจากก้นเหว

บทที่ 7 3 ปี


เสินเกาเหยียนก้มหัวลงต่อหน้าเสี่ยวเฉิน หลังได้เห็นภาพนี้ ทั้งคนตระกูลหม่าและตระกูลเฉินต่างรู้สึกมึนงง เฉินมู่ซือถึงขั้นล้มลงไปกับพื้น เธอไม่เข้าใจว่าทำไมผู้เฒ่าแห่งนิกายภูเขาหยก เสินเกาเหยียนถึงได้ก้มหัวให้เสี่ยวเฉิน พร้อมยังแสดงท่าทางสุดนอบน้อมออกมา

เสี่ยวเฉินหันไปพูดกับเสินเกาเหยียนอย่างไม่สนใจท่าทางของตระกูลเฉินและตระกูลหม่า “ไม่ต้องมาขอโทษอะไรกันหรอก ข้าแค่หวังว่าวันข้างหน้าไปนิกายภูเขาหยกจะไม่มากวนใจตระกูลเสี่ยวเราอีก...”

“เรื่องนั้นแน่นอน ถ้าวันข้างหน้าใครคิดจะลบหลู่ตระกูลเสี่ยว นิกายภูเขาหยกเรานี่แหละจะตัดคอมันทิ้งเสียก่อน” เสินเกาเหยียนสัญญาต่อหน้าเสี่ยวเฉิน

เท่านี้นิกายภูเขาหยกก็คงไม่คิดที่จะมารบกวนตระกูลเสี่ยวอีกต่อไปแล้ว จากนั้นเสินเกาเหยียนก็นำศิษย์นิกายภูเขาหยกกลับไปพร้อมร่างของเสินหมิง เสี่ยวเฉินจึงหันไปมองเหล่าตัวแทนตระกูลเฉินและตระกูลหม่า “ต้องให้ข้าไล่เหรอ?”

ได้ยินแบบนั้นจากปากเสี่ยวเฉินแล้ว ทั้งตระกูลเฉินและตระกูลหม่าจะทำอะไรได้? ถึงพวกเขาจะไม่รู้จักความน่าเกรงขามของสำนักดาบบูรพา แต่พวกเขาก็ต่างเห็นกับตาว่าเสินเกาเหยียนกลัวชื่อนั้นแค่ไหน พวกเขาจึงค่อย ๆ กลับออกไป จากนี้พวกเขาคงไม่กล้าคิดจะทำอะไรอีกแล้ว หลังเสี่ยวเฉินพูดจบตระกูลทั้งสองก็หายไปอย่างรวดเร็ว

ไม่นานนัก บ้านตระกูลเสี่ยวที่วุ่นวายมานานก็เริ่มสงบลง คนของนิกายภูเขาหยกกลับไป ตระกูลเฉินและตระกูลหม่าเองก็กลับไป จางเฉียงเองก็กลับหลังได้รับการอนุญาตจากโม่เจี่ย แต่ก่อนที่เขาจะออกไป จางเฉียงก็ได้สารภาพผิดต่อเสี่ยวชิงเพื่อให้เสี่ยวชิงยอมยกโทษให้

วิกฤตที่เดิมทีน่าจะทำลายตระกูลเสี่ยวลงได้ผ่านไปเพียงเพราะการปรากฏตัวของเสี่ยวเฉิน

เพื่อปล่อยให้โม่เจี่ยและคนอื่น ๆ ได้พัก เสี่ยวเฉินและเสี่ยวชิงจึงมาที่เรือนพักของแม่เสี่ยวเฉิน

แม่ของเสี่ยวเฉินมีนามว่าไป่รู่เหย่ ตอนที่นางได้เห็นหน้าเสี่ยวเฉิน ไป่รู่เหย่ก็เข้ามาสวมกอดลูกชายด้วยความดีใจ การได้เจอลูกชายที่หายตัวไปถึง 3 ปีนั้นมันทำให้ไป่รู่เหย่ดีใจจนบอกไม่ถูก

แม่ลูกสวมกอดกันอย่างแนบแน่น เสี่ยวชิงเองก็มองดูทั้งคู่ด้วยรอยยิ้ม หลังจากกอดกันอยู่นาน ไป่รู่เหย่ก็ปล่อยเสี่ยวเฉินและครอบครัวทั้งสามคนมานั่งที่ม้านั่งหินในสวน หน้าตาของเสี่ยวเฉิน หลังจากผ่านไป 3 ปี เขาได้เปลี่ยนจากหนุ่มน้อยกลายเป็นหนุ่มตัวแล้ว

“เฉิน 3 ปีแล้วนะตั้งแต่ที่เจ้าหายไป ระหว่างนั้นเจ้าไม่แม้แต่จะส่งจดหมายกลับมา รู้ไหมว่าแม่เป็นห่วงแค่ไหน...”

3 ปีที่ผ่านมานั้นไร้ซึ่งข่าวคราวของเสี่ยวเฉิน ไป่รู่เหย่จึงพูดออกมาด้วยความเจ็บใจ หลังได้ยินคำของแม่ เสี่ยวเฉินจึงได้แต่ยิ้มแห้ง ๆ และกล่าวว่า “ท่านแม่ ข้ากลับมาแล้ว กฎของสำนักดาบบูรพานั้นเข้มงวดมาก ศิษย์ธรรมดาไม่สามารถติดต่อกับโลกภายนอกได้ ที่ข้ากลับมาได้นี้ก็เพราะข้าได้กลายเป็นศิษย์ชั้นนอกแล้ว ข้าจึงออกมาได้”

เรื่องทั้งหมดไม่ใช่เพราะว่าเสี่ยวเฉินไม่อยากติดต่อครอบครัว แต่เป็นเพราะว่าเขาติดต่อไม่ได้ ต่อหน้าพ่อแม่นั้นเสี่ยวเฉินไม่คิดจะปกปิดอะไร เขาเล่าเรื่องราวที่เขาได้พบเจอมาตลอด 3 ปีรวมไปถึงเรื่องของสำนักดาบบูรพา ระหว่างที่เสี่ยวเฉินเล่าไป ทั้งเสี่ยวชิงและภรรยาก็ตั้งใจฟังมันอย่างใจจดใจจ่อ

หลังออกจากมณฑลหลิงซานไปเมื่อ 3 ปีก่อน เสี่ยวเฉินได้ไปที่เมืองหลวงของรัฐหลิงเฟิง และบังเอิญไปเจอเข้ากับองค์ชายโม่เจี่ย จากนั้นทั้งคู่ก็เดินทางไปที่สำนักดาบบูรพาด้วยกันและได้ฝากตัวเข้าเป็นศิษย์ของสำนัก

ในสำนักดาบบูรพานั้นมีกฎที่แสนเข้มงวดอยู่ พวกเขาแบ่งระดับศิษย์ออกเป็น ศิษย์หลัก ศิษย์ชั้นใน ศิษย์ชั้นนอก และศิษย์ธรรมดา

ไม่ว่าจะมีพรสวรรค์ที่มากมายแค่ไหน ไม่ว่าจะมาจากตระกูลใด เมื่อเข้าสำนักดาบบูรพามา ก็จะต้องเริ่มที่การเป็นศิษย์ธรรมดา จากนั้นจึงใช้ความพยายามของตัวเองไต่เต้าขึ้นไปทีละขั้น ๆ ให้ถึงจุดที่สูงกว่า

แน่นอนว่าเมื่อยิ่งขึ้นระดับสูง ก็จะยิ่งได้พลังปราณมาก และมีชื่อเสียงขึ้นด้วย แต่ในตอนที่ยังเป็นศิษย์ธรรมดาอยู่ พวกเขาจะไม่อนุญาตให้ศิษย์ออกไปไหนหรือติดต่อกับใคร ศิษย์ต้องขึ้นสู่ระดับศิษย์ชั้นนอกก่อนถึงจะกลับมาบ้านและไปเยี่ยมญาติ ๆ ได้

เพราะแบบนั้นเสี่ยวเฉินจึงไม่ได้ติดต่อครบครัวเลยตลอด 3 ปีที่ผ่านมา

แต่กฎนี้มันก็ไม่ได้เป็นเรื่องที่เลวร้ายอะไร เพราะการทำแบบนั้นมันจะช่วยให้ศิษย์หน้าใหม่มีสมาธิในการฝึกพลังลมปราณมากขึ้น

อย่างที่ใครหลาย ๆ คนรู้ หลังเข้าสำนักหรือนิกายใด ๆ ไป มันจะต้องมีช่วงฝึกพื้นฐาน และหลังจากผ่านจุดนั้นไปถึงจะเข้าระดับระดับเปิดชีพจร และไปสู่ระดับทอง และนี่แหละคือสิ่งสำคัญที่แท้จริง ยิ่งเราสามารถเปิดลมปราณสู่ระดับทองได้เร็วเพียงใด มันก็จะยิ่งส่งผลต่อพลังปราณโดยรวมในอนาคต เช่นว่ามีคนอายุ 18 กับอายุ 28 เปิดลมปราณระดับทองได้ ซึ่งมันอาจจะดูเหมือนกัน แต่ในอนาคต คนที่เปิดลมปราณระดับทองได้ตั้งแต่อายุ 18 จะมีความได้เปรียบกว่า

หลังจากเสี่ยวเฉินเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาให้พ่อแม่ฟังจนหมด เสี่ยวชิงและภรรยาก็ได้รู้ว่า 3 ปีที่ผ่านมานี้ลูกชายได้ไปเจอเรื่องราวมากมาย

พวกเขามองดูที่ลูกด้วยความภาคภูมิใจ เด็กน้อยในวันนั้นได้โตขึ้นแล้ว แถมยังไม่ได้แค่เป็นศิษย์ชั้นนอกของสำนักดาบบูรพา แต่ยังสามารถเปิดลมปราณระดับทองได้ตั้งแต่อายุ 18 ลูกชายคนนี้คือความภาคภูมิใจของพวกเขาทั้งคู่จริง ๆ

หลังจากพูดเรื่องของตัวเองไป เสี่ยวเฉินก็ถามเสี่ยวชิงขึ้นมา “ท่านพ่อ ท่านคิดจะไปจากมณฑลหลิงซานนี้หรือไม่? ศิษย์พี่โม่นั้นบอกว่าหากท่านพ่อต้องการ เขาสามารถจัดเตรียมให้ได้”

เสี่ยวเฉินถามว่าเสี่ยวชิงคิดจะออกจากมณฑลหลิงซานหรือเปล่า หลังได้ยินแบบนั้นเสี่ยวชิงก็นิ่งเงียบไปพักหนึ่งก่อนที่จะส่ายหัวออกมาด้วยรอยยิ้ม “เฉิน เราไม่ต้องไปอยู่ที่เมืองหลวงหรอก พ่อและแม่ของเจ้าต่างคุ้นชินกับที่นี่ดี มณฑลหลิงซานก็คือมณฑลหลิงซาน ที่เมืองหลวงนั้นมันมีเรื่องผิดถูกแย่งชิงอำนาจต่าง ๆ มากมาย ต่อให้ได้รับความช่วยเหลือจากองค์ชาย พ่อก็ไม่อยากต้องไปตกอยู่ในวงจรการแย่งอำนาจของใคร ตราบเท่าที่เจ้ายังอยู่ดี เรื่องอื่นมันก็ไม่สำคัญกับพ่อแล้ว พ่อไม่ได้เป็นคนที่คิดการใหญ่อะไรแบบนั้น...”

เสี่ยวชิงนั้นไม่คิดจะนำตระกูลเสี่ยวออกไปจากมณฑลหลิงซาน และแน่นอนว่าเสี่ยวเฉินก็ไม่คิดที่จะบังคับพ่อที่ไม่อยากไป เพราะยังไงเสียตอนนี้คงไม่มีใครในมณฑลหลิงซานที่กล้าแตะต้องตระกูลเสี่ยวอีกแล้ว เท่านี้เสี่ยวเฉินก็ไม่ต้องห่วงอะไร และสามารถตั้งหน้าตั้งตาฝึกยุทธ์ที่สำนักดาบบูรพาได้อย่างหมดห่วง

ทุกอย่างจบลงด้วยดี หลายวันต่อมาเสี่ยวเฉินก็ได้พักอยู่กับพ่อแม่ต่อ หลังจากขาดการติดต่อกันไปถึง 3 ปี ในที่สุดครอบครัวนี้ก็ได้กลับมาพร้อมหน้า

ครอบครัวกลับมาอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข ระหว่างนั้นเสี่ยวเฉินก็ได้พบเจอกับคนรับใช้เก่าแก่ภายใต้การนำตระกูลของเสี่ยวชิง และบางครั้งเขาก็จะไปแนะนำการฝึกยุทธ์ให้กับเด็ก ๆ รุ่นใหม่ของตระกูลเสี่ยวด้วย

ขณะเดียวกัน ฝั่งนิกายภูเขาหยกเองก็ไม่ผิดคำสัญญา หลังจากวันนั้นนิกายภูเขาหยกได้มาขอโทษตระกูลเสี่ยวถึงที่และบอกด้วยว่าจากนี้ไปนิกายภูเขาหยกจะเป็นพันธมิตรกับตระกูลเสี่ยว นอกจากนั้นพวกเขายังให้สิทธิในการเข้าฝึกกับตระกูลเสี่ยวถึงปีละ 10 ที่ด้วย ตราบเท่าที่เป็นคนที่ตระกูลเสี่ยวส่งมา พวกเขาก็จะรับเข้าไปฝึกฝนอย่างไม่มีเงื่อนไข และได้รับการปฏิบัติเหมือนเป็นศิษย์ของนิกายคนหนึ่ง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด